.......When the blazing sun is gone..... .....When the nothing shines upon,
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
14 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
หอมคำ .....










ตอนเด็กๆ ที่โรงเรียน
เคยร้องเพลงเอื้อน แบบนี้ พร้อมเพรียงกัน
เป็นเพลง ประจำโรงเรียน ...เอื้อนไป ก็ เบื่อไป
รู้สึกว่า
เพลงไทยเดิมแบบนี้ ทำไม เอื้อนเสียงยากแสนยาก
ร้องที แทบจะหลับเสียให้ได้ ...ในห้องประชุม
หารู้ไม่ว่า
ใน วันหนึ่ง อย่างเช่นวันนี้
จะกลับรู้สึกผูกพันเป็นพิเศษ กับ เพลงไทยเดิม
ทำนองเสนาะ
ไพเราะละมุนละไม แบบนี้ จนทุกวันนี้
ได้ฟังทีไร มันซาบซึ้งไปถึง หัวใจค่ะ

เหมือนกับ การเรียนรำละคร นุ่งโจงกระเบนสีแดง
ต้องหัดจีบ ตั้งวง ตั้งมือ ให้ สวย ถูกคุณครูสอนรำ
ดัดนิ้วมืออยู่นั่นแล้ว มาวันนี้ มือก็ไม่สวยขึ้นมาได้ค่ะ
พี่ ชมเชย ว่า มือผู้หญิงคนนี้ เหมาะไปโบกปูนเสีย
มากกว่า แบบ เหมาะกับงานแบกหาม ประมาณนั้นค่ะ



แต่ไม่เป็นไร พี่จ๋า
ถึงมือ หนูไม่สวย แต่ ใจรักค่ะ
ตอนเด็กๆ ไม่ว่างานไหน แม่ต้องจับไป รำแม่บท
เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน
หรือไม่ก็ รำศรีนวล ชวนชื่น แบบนั้นค่ะ


งาน กลอน บทนี้ งดงามทั้งภาษา และ ความหมาย
ลอง ดื่มด่ำ ไปด้วยกัน นะคะ

๏ หอมหวนยวนใจสมัยหอม
แย้มยอมพร้อมให้ความใฝ่ฝัน
แค่ค่าอาทรอาวรณ์กัน
ผูกพันหอมไว้ได้ยั่งยืน ฯ

๏ หวานหวามความหลังยังหวามหวาน
กำซาบทรวงนานช่างหวานชื่น
ละมุนละไมในวันคืน
กลมกลืนกับกาลที่ผ่านไป ฯ

๏ บานแบ่งแต่งเติมเพิ่มชีวิต
ทีละนิดทีละน้อยค่อยแบ่งให้
ด้วยความมุ่งมั่นแบ่งปันใจ
โยงใยไว้เยื่อทุกเมื่อมา ฯ

๏ จะสู้ลมฝนทนแดดร้อน
อาจไหม้ไฟฟอนบั่นทอนค่า
อย่าหมายว่าจะพรำหยาดน้ำตา
ศรัทธาฤาจะไหม้กลางไฟรุม ฯ

๏ แก้วยังรินกลิ่นกล้าประสาแก้ว
ร่วงแล้วลาลับกลับแตกพุ่ม
กลางกระแสที่บังเอิญเกินควบคุม
มิอาจกุมใจแก้วให้กลับกลาย ฯ

๏ ดอกแล้วดอกเล่ายังเร้าดอก
ในระลอกสังคมล่มสลาย
แม้เหลือดอกเดียวไม่เปลี่ยวดาย
จะทวงถามความหมายที่หายไป ฯ

๏ ดวงดอกแก้วจะบานหวานหอม
จะห่มห้อมผู้คนที่หม่นไหม้
เหมือนกับจะตายทั้งหายใจ
แต่ยังรินกลิ่นไว้ให้แผ่นดิน ๚ะ๛

แรคำ ประโดยคำ












เพลงนี้ เป็นเพลงโปรดค่ะ
เป็นเพลงเดียว ที่เล่นได้
ไม่ผิดแล้วผิดอีกจนครูต้องเอาไม้เล็กๆ เคาะมือลูกศิษย์



ลาวคำหอม (ดวงพร พงศ์ผาสุข)

ยามเมื่อลมพัดหวน
ลมก็อวล แต่กลิ่นมณฑาทอง
ไม้เอยไม้สุดสูง อย่าสู้ปอง
ไผเอย บ่ได้ต้อง แต่ยินนามดวงเอย

โอ้เจ้าดวง เจ้าดวงดอกโกมล
กลิ่นหอม เพิ่งผุดพ้น พุ่มในสวนดุสิตา
แข่งแข อยู่แต่นภา ฝูงภุมรา
สุดปัญญา เรียมเอย

* โอ้อกคิดถึง คิดถึง คนึงนอนวัน
นอนไห้ใฝ่ฝัน เห็นจันทร์แจ่มฟ้า (ซ้ำ *)

** ทรงกลด สวยสดโสภา
แสงทองส่องหล้า ขวัญตาเรียมเอย (ซ้ำ **)
















Create Date : 14 มิถุนายน 2550
Last Update : 14 มิถุนายน 2550 13:57:54 น. 21 comments
Counter : 875 Pageviews.

 
นอนไม่หลับแวะมาทักคุณพิมดีกว่า
และมาฟังเพลงไทยเดิมเพราะๆ ค่ะ ชอบด้วยค่ะ

มีความสุขมากๆ นะคะ


โดย: the Vicky วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:5:52:11 น.  

 
เข้ามาย้อนยุคค่ะสาวน้อย..

รำแม่บทนี้..เราได้คะแนนเต็มค่ะที่เต็มนะไม่ใช่รำสวยค่ะมือเราเหมาะโบรกปูนสร้างตึกเช่นกันค่ะ
แต่เต็มเพราะจำท่ารำแม่นค่ะ..
ท่ารำแข็งทื่อมากค่ะ
เราชอบเสียง ขิม..ตะเข้..มากค่ะเสียงเพราะค่ะ..
อยากเรียนมากไปฝึก..5555ไปไม่ถึงดวงดาวค่ะ
ได้แค่ซ้ออู้ค่ะ..แต่เราชอบเสียงซ้อด้วงค่ะ.แหลมกว่า
ว้าวววพาน้องสาวย้อนยุคเลยเนอะ
สรุป..รู้งี้ไปเรียนศิลปดีกว่า????

เมื่อวานมีความสุขค่ะ
ได้ทำสิ่งตั้งใจสำเร็จค่ะ
นำเทียนไปถวายวัดที่ตั้งใจอยากถวาย
นำเลือดที่ตั้งใจ..บริจาค..ได้บริจาค
แต่ทุกสิ่งที่ทำ..ระลึกถึงน้องสาวและเพื่อนทุกคนค่ะ

วันนี้วันพระค่ะ
วันนี้ขอนำบุญที่ตั้งใจทำได้สำเร็จ
มาฝากน้องสาวที่รักและเพื่อนๆๆค่ะ
อนุโมทนาค่ะ



โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:6:52:42 น.  

 
อ๊า ชอบดอกแก้วมากค่ะ เหมือนหลงยุคเข้ามาเลย แต่ชอบค่ะ ดีใจที่ได้เข้ามาค่า


โดย: karnlaka วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:8:21:37 น.  

 


โดย: หากผมรักคุณจะผิดมากไหม วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:8:24:00 น.  

 
น้องดาวทำให้พี่คิดถึงสมัยเด็ก
พี่ก็เคยนุ่งโจงกระเบนสีแดงเรียนรำ
เริ่มด้วยรำแม่บท เหมือนกันเลยจ้ะ
แม้ท่ารำจะไม่สวยเพราะแข็งทื่อ แต่เรียนด้วยใจรักจ้ะ
ภาพข้างบนงามมากจ้ะน้องดาว


โดย: Petit Patty วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:9:05:21 น.  

 
ขอบคุณสำหรับ บทกวี
ที่เอามาให้อ่านกัน


โดย: แม่จิตร IP: 61.90.165.248 วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:13:46:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ

วันนี้แม่ได้กลับบ้านแล้ว

มาขอบคุณสำหรับความห่วงใยและกำลังใจที่มีให้กันนะคะ


โดย: เพียงแค่เหงา วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:17:45:25 น.  

 
นึกถึงวิชาขับร้อง และนาฏศิลป์ที่สมัยเด็กๆได้เรียนมานะค่ะ

เพลงนีเพราะชอบมากค่ะ ประกอบละครสี่แผ่นดินนะค่ะตอนกลับเชียงใหม่ได้ดูทุกวันเลยค่ะ


โดย: erina วันที่: 14 มิถุนายน 2550 เวลา:21:36:01 น.  

 
หวัดดีคับคุณครูพิม ดูคุณพิมใช้ชีวิตช่วงเรียนเป็นครูอาสาน่าสนุกและมีความสุขมั่กนะคับ เด็กมักสร้างรอยยิ้มและทำให้ผู้ใฆญ่อย่างเราได้มีความสุขในมุมที่คาดไม่ถึงเสมอ สมัยเรียนผมอยู่ชมรมอาสาฯและศิลปการแสดง ก้อพอจะนึกประสบการณ์ตรงนั้นออก มีความสุขสุดสัปดาห์นะคับครูพิม



(ปล. มันอาจจะพิลึกกึกกือและดูตลกกับคนที่ไม่มีประสบการณ์ตรงหน่ะคับ หากแต่กับคนที่มีประสบการณ์เดียวกับเพลง มันก้ออาจ get hurt และอินกับมันก้อได้นะคับ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเราอย่าได้เหมือนเช่นนั้นเลยจะดีกว่า 555555+)


โดย: หากผมรักคุณจะผิดมากไหม วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:9:55:12 น.  

 
หวัดดียามอากาศเริ่มจะร้อนแล้วสิ..

มาบล๊อกนี้แล้วเหมือนหลงมาวิมานเลยแฮะ..
แต่เอ๋ยยยย..นางฟ้าแสนงามไปซุกซนแถวไหนนะนิ
โอ๊ะโอโอ๊ะ..ไปเป็นนางรำอยู่หน้าบล๊อกนี้เอง

งามจริงๆๆเลยนะเจ้าแสนงาม
ทั้งวาจาท่าทางและจริต
สมเป็นหญิงเพรียบพร้อมดั่งใจคิด
ขอนิมิต..ทุกสิ่งในตัวตน....
เจ้าเคียงใจข้าเสมอนะคนดี


ทานข้าวแยอะๆๆนะค่ะ..จะได้แข็งแรง
แล้วเราก็ลุยงานพร้อมๆๆกันค่ะ
บอบบางมากเดี๋ยวหมดแรงนะ
สาวมั่น..



โดย: catt.&.cattleya IP: 58.9.66.42 วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:12:56:33 น.  

 
นึกถึงสมัยเด็กๆที่ต้องเรียนรำไทย
ทำได้ไม่ค่อยดีเลยค่ะ แขนขายาวเก้งก้างเกะกะ ไม่ได้ให้ความรู้สึกอ่อนช้อยชวนชมเลย ม.ต้นอยู่โรงเรียนหญิงล้วน ค่ะ เลยต้องเล่นเป็นตัวพระตลอด
แต่ก็ชอบดนตรีไทยค่ะ อยู่ชมรมดนตรีไทย หน้าที่เป่าขลุ่ยกะตีฉิ่ง


โดย: Sirinut วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:13:48:30 น.  

 
ขอขอบคุณคุณประกายดาวมากค่ะ ที่ชื่นชมงานกวีนิพนธ์ "อิตถีหทัย" จะทุ่มเทหัวใจและจิตวิญญาณเพื่องานเขียนต่อไป


โดย: เพ็ญ ภัคตะ IP: 203.150.101.140 วันที่: 15 มิถุนายน 2550 เวลา:19:41:48 น.  

 
เมื่อคืนท้องฟ้ามืดมิด
เหมือนดังความคิดที่เคยรู้สึก
ว่าความสดใสจะต้องมาเยื่ยน
หลังความมืดมนต์..ที่เข้าปกปิด
จริงดังใจคิด..เช้านี้ท้องฟ้าบรรยากาศสดชื่น

ขอมอบความสุขที่ได้รับในเช้านี้
มอบให้จิตใจที่ตื่นขึ้นมาของประกายดาวดวงนี้
พร้อมความสดใสที่มอบจากใจ
แด่น้องสาวเราอันเป็นที่รัก..
พบแต่ความสุขในเมื่อเชื่อวัน



ปล..วันนี้มีความสุขค่ะน้องสาวที่รัก
สามารถทำจิตใจหนึ่งให้พ้นทุกข์ค่ะ
เรารู้สึกมีสุขเสมอเมื่อทำให้คนทุกข์พบความสุข
ขอบคุณมากค่ะคำอวยพรที่รู้ว่ามากค่าเสมอจากน้องสาวคนดี


พี่สาวเกิดมา..ยอมรับว่าไม่เคยคิดที่อยากจะทำอะไรเพื่อตัวเองค่ะ
ทุกข์ใจไหม..มีบ้างแต่ความสบายใจที่ได้ทำ
กลบความคิดนี้ได้มากกว่าค่ะ..
รู้ด้วยใจเช่นกันนะ..ว่าเราคิดเช่นไร
กับพี่สาวผู้อาภัพ..คนนี้

ซึ้งๆๆๆอิๆๆๆๆๆ
รักเราเช่นกันค่ะ


โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:7:29:24 น.  

 
สบายดีวันหยุดครับ...ทักทายแบบคนลาวซะเลย


โดย: pu_chiangdao วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:15:08:44 น.  

 
สมัยเรียนรำไทย ไม่ตั้งใจเรียนค่ะ
มันทรมานกายน่าดู ตอนนี้นึกเสียใจก็สายเสียแล้ว

ขิมก็เคยเรียนค่ะ ตอนเป็นนักเรียนออกงานหลายครั้ง แต่มาเดี๋ยวนี้นั่งพับเพียบไม่ลงเสียแล้วค่ะ โน้ตเพลงก็คือครูหมดแล้วเช่นกัน แต่ยังมีขิมเสียงเพี้ยนๆ เครื่องหนึ่งเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ปล. พรุ่งนี้เช้าจะตามเพื่อนไปฟังเทศน์ที่ศาลาลุงชินค่ะ


โดย: rebel วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:23:12:57 น.  

 
เป็นจิต ใคร ปล่อยไหว ให้รู้สึก
บัว ...คง นึก โอ บัว หรือ คือคำถาม
หรือจิต คน เฝ้า อ่อนไหว หัวใจตาม
บัวสงสาร คนลืม มองใจของตัว


เป็น วันแรก ที่ได้รู้จัก บ้านนี้ ค่ะ
ขอมาเป็นแขกประจำนะคะ ค่อยๆ อ่านไป
สาธุ ค่ะ

อ่านกลอนของคุณประกายดาวแล้ว รู้สึกหน้าชา ๆ ผมยังงมงงคิดว่า คงไม่มีใครมาย้อนผมคืนได้อีกแล้ว ในเมื่อคิดว่าได้ป้องปกตนเองไว้แล้ว แตเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือศรีปราชญ์ยังมีพระสนม(แต่ผมไม่ถึงขั้นศรีปราชญ์ เลยโดนตอกกลับจนต้องมาเยี่ยมเจ้าของบทกวี

แต่... ของผมมันแค่กลอนนะครับ ยังไม่ถึงขั้นบทกวี และผมเองก็ไม่เคยคิดว่าผมเป็นนักกวี ส่วนนักกลอนแถมเป็นกลอนตลาดนะใช่

เอ้อ ผมชอบการโพสต์ข้อความที่อ่านแล้วคันนิด ๆ ในหัวใจ อย่างคุณนะครับ

ขอบคุณที่ให้เกียรติไปเยี่ยมคนปลูกบ้านใหม่

วันนี้ยังไม่มีเวลาสำรวจทั่วบ้านนะครับ พอดียังยุ่ง ๆ อยู่ ว่าง ๆ จะเข้าใหม่ คราวนี้ผมจะมาคุยเป็นภาษากลอน


โดย: lungboon IP: 125.27.232.79 วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:13:05:23 น.  

 
แวะมาฟังเพลงย้อนยุคครับ
เพราะดีเหมือนกันแหละนะ
แต่ฟังนานๆ ชักจะง่วงนอน อิอิ


โดย: สะเทื้อน วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:13:56:20 น.  

 
กลับมารายงานตัวค่ะ
ถ้ามีโอกาส คราวหน้าคงจะพยายามพาแม่ไปด้วยกันค่ะ


โดย: rebel วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:14:03:32 น.  

 
จะมาราตรีสวัสดิ์..แล้วสิสาวน้อย
วันนี้ยุ่งทั้งวันเลยค่ะ..
ตื่นเช้าค่ะวันนี้ อิๆๆ ตี 5 ค่ะ

ต้องห่อบะจ่างไหว้ค่ะ..
อิๆๆๆมายอยากคุยเลย..มือหนึ่งในการห่อค่ะ
อร่อยนะฝีมือเรานะ..มาทานที่บ้านเราไหมค่ะ
บรรยากาศดีนะ..แถมชาร้อนๆๆๆตบท้าย
กินก่อนไหว้เจ้าเลยนะนิ...

การบ่น..ถ้าคนรำคาญ..ถือว่ามอบทุกข์ให้เกิด..บาปนะน้องสาว..
อิๆๆแต่พี่สาวชอบทำให้เกิดสุข..
อิๆๆได้บุญค่ะน้องสาว
ยิ่งมีลูกอ้อนตามมา..
ขอบอกได้เลยค่ะ..สุดชอบค่ะ..ก็คนทั้งสวย..น่ารักมาออดอ้อนสาวๆๆยังทนไม่ได้
แล้วนิ..หนุ่มๆจะทนได้ไหมนิ????
อิๆๆไปนอนแล้วนะค่ะ
หลับฝันดีค่ะ..พรุ่งนี้ยุ่งนะเลยแวะหาก่อน
ด้วยความคิดถงค่ะ





โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:23:22:15 น.  

 
Image Hosted by ImageShack.us


โดย: สุคนธ์ IP: 125.24.148.116 วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:12:02:55 น.  

 
ชอบมากครับ คุณดวงพรเสียงเพราะมาก ๆ เพราะจริง ๆ ดนตรีก็เพราะ ยิ่งถ้าใครดูสี่แผ่นดินตลอดเรื่องฟังเพลงนี้ทีไรน้ำตาซึม ๆ ทุกทีครับ


โดย: ธิปไตย บูรณวิจิตรสกุล IP: 58.64.89.73 วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:19:07:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ประกายดาว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






รั ต ติ ก า ล


The Moonlight it was dancing

On the waves , out on the sea

The Stars of heaven hovered

In a shimmering galaxy

A Voice from down the ages

So huanting in its song

These ancient stones will tell us

Out love must make us strong..."




"
ไม่มีโลกสมมุติ ที่นี่
ตัวตนทั้งหมดต่างสะท้อน มุมมอง
ของการดำรงอยู่ อย่างสิ่งมีชีวิต
ในจักรวาลอันไพศาล ..........
มองจาก ดวงดาวไกลโพ้น สุดขอบฟ้า
หรือมองผ่านพระจันทร์เสี้ยว ใกล้คืนแรม
เจตจำนงหนึ่งในชีวิตก็คือ การพาปัญญา
ประดับตน ไปพบอีกมิติหนึ่ง อันไม่มีในทุกสิ่ง
ละเสียได้ ซึ่ง " ตัวตน " ไว้บนแผ่นดินนี้
ข้าม มหานที ไปสู่ อีกฝั่ง ....
ปล่อยวาง ได้อย่างละซึ่ง ทุกหน้าที่
ทุกบทบาท ไม่เหลือ แม้ทุกสรรพสิ่ง


สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539

หาก ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือ
นำส่วนหนึ่งส่วนใดของที่นี่ไปใช้
โดยไม่ได้รับอนุญาติเป็นลายลักษณ์อักษร
จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด


กราบพระพุทธ ณ กลางใจ
พระธรรม ใส เป็น ดวงตา
ก้าวย่าง ด้วยปัญญา
พบ มรรคา ณ ใจ ตน




ตั้งนโมสามจบอย่างนบนอบ
บุญประกอบวางลงตรงเบื้องหน้า
ศรัทธามั่นเพียรทำน้อมนำมา
เดินช้า ช้าก้าวย่าง..อย่างตั้งใจ



"ดาวแววดาววาบน้อย.....ดาวราย
ดาวดาษคาดฟ้าพราย.....พร่างแพร้ว
ดาวดวงเด่นประกาย.......ดารดาษ
.ดึกดื่นคงไม่แคล้ว........ จะอาจเอื้อม ครองดาว


เพราะมิใช่สกุณาท่องฟ้ากว้าง
ในเวิงว้างระหว่างม่านการค้นหา
กลืนน้ำตาทิ้งหัวใจไว้สักครา
แล้วมุ่งหน้า...ก้าวย่าง...แม้ทางไกล

แผ้วทางใหม่ โดดเดี่ยว ฝ่าเชี่ยวกราก
หมดเวลา ซ้ำซาก ใจอ่อนไหว
เรื่องอ่อนล้า ใช่ถึงตาย ช่างปะไร
ฟ้าวันใหม่ มิหวนคืน ฝืนชะตา






"

Friends' blogs
[Add ประกายดาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.