Literature is a luxury. Fiction is a necessity.
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
15 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
แหวนปริศนา (มงกุฎจันทราตอนพิเศษ) Court&Crown Duel One shot

แหวนปริศนา (มงกุฎจันทราตอนพิเศษ) Court&Crown Duel One shot
สืบด้วยงานแปลเก่าแก่ของจขบ. (ซึ่งลงไปเลหลังขายในกองสามเล่มร้อยแร้วว) มีตอนพิเศษที่เคยโพสท์ไว้ในเว็บของสนพ.

มาบัดนี้เว็บล่มไปแล้ว แต่ก็ได้รับอีเมลถามถึงจากนักอ่าน จึงนำมาลงไว้ในบล็อกตามคำเรียกร้อง

ทั้งหมดมีสามเรื่องนะคะ เป็นฉากสั้นๆ สองฉาก กับเรื่องสั้นเต็มเรื่องอีกหนึ่ง

เริ่มกันที่ฉากสั้นก่อน ฉากนี้เกิดขึ้นในมงกุฎจันทราเล่มสอง (Court Duel) ค่ะ ตอนที่เหลือจะทยอยตามกันมา


แหวนปริศนา

ดยุคแห่งซาโวน่าต้องเบือนหน้าหนีเพื่อนซ่อนหัวเราะเมื่อเมเลียร่ายื่นมือออกมาแล้วร้องว่า “ดูแหวนข้าสิ!”

แต่อารมณ์ขบขันดังกล่าวก็จางหายไปทันทีเมื่อเขาเห็นแววตระหนกในดวงตาของเมเลียร่าเมื่อนางเหลือบมองทามาร่า

รุสซาฟรีบหันไปมองทามาร่า ใบหน้านั้นแต้มด้วยรอยยิ้มอาบยาพิษที่เขาเกลียดนักเกลียดหนามาตั้งแต่ครั้งที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กต่อปากต่อคำกัน เขารู้ว่านางซึมซับยาพิษนั้นมาจากมารดาผู้ร้ายกาจ (การฆาตกรรมรายเดียวที่กัลดรานกระทำลงไปโดยไม่มีใครนึกเสียใจอย่างจริงจัง แม้กระทั่งครอบครัวของนางเองก็ตาม) เขาพยายามกลั่นแกล้ง ยั่วเย้า และจูบเพื่อลบรอยยิ้มเช่นนั้นออกไปแต่ก็ไร้ผล บางครั้งเขาก็หวั่นใจเหลือเกินว่านางไม่ได้เพียงแต่ซึมซับมันมา ทว่าได้รับถ่ายทอดมาทางสายเลือด

ระหว่างนั้นทุกคนต่างก็หัวเราะขบขันความผิดพลาดเรื่องการวางตัวของเคานท์เตส บ้างฉายแววเยาะหยัน บ้างเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนาน ทริชผู้ซึ่งเป็นนักไกล่เกลี่ยมาแต่ไหนแต่ไรทำเสียงชื่นชมราวกับว่าการประกาศเช่นนี้เกิดขึ้นทุกวัน แล้วถามว่า “ที่ไหน ใครให้”

“เมื่อวาน” เมเลียร่าตอบ คิ้วของนางขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเมื่อส่งสายตามาทางรุสซาฟอย่างตื่นๆ

เขายิ้มตอบเพื่อให้นางอุ่นใจ ทามาร่าเจ้าของดวงตาสีฟ้าจ้องเขม็งมาทางเขาและถามขึ้นด้วยน้ำเสียงยุแหย่ว่า “นิ้วไหน”

ซาโวน่าเบือนหน้าหนี เจ้าไม่มีสิทธิ์แสดงความไม่พอใจหรอกรู้ไหม เขาคิด เจ้ากำลังเกี้ยวกษัตริย์อยู่นะ ลืมไปแล้วรึ

ทว่าลูกศรของทามาร่าแล่นเลยเป้าหมายไป อาการประหลาดใจอย่างไร้เดียงสาบนใบหน้าของเมเลียร่านั้นฉายชัดเจนเสียจนกระทั่งทามาร่าเองก็ไม่อาจคิดได้ว่าเคานท์เตสแห่งทลานธ์จะไร้การอบรมจนถึงขั้นที่จะประกาศตัวคู่รักคนใหม่ของตนโดยการนำของขวัญที่คนผู้นั้นมอบให้มาอวด และคำตอบของเมเลียร่าก็ยืนยันสิ่งที่เขาคิด “ก็นิ้วที่ใส่ได้พอดีที่สุดน่ะสิ” จากนั้นปากของเมเลียร่าก็อ้าออก/ห่อกลมอย่างตกใจ เห็นได้ชัดว่านางเพิ่งตระหนักถึงความหมายที่อาจซ่อนเร้นอยู่ ทว่าสายไปเสียแล้ว

พร้อมกันนั้น ทริชนิ่วหน้าอย่างครุ่นคิดแล้วก้มลงพิจารณามือของเมเลียร่า “ข้าเคยเห็นแหวนวงนี้มาก่อน” นางว่า “ต้องเคยเห็นแน่ๆ...” นางพูดเรื่องแหวนต่อ รุสซาฟผู้ซึ่งรู้ดีว่าแหวนวงนี้มาจากที่ใด และนึกหงุดหงิดตัวเองที่ลืมไปว่าทริชเคยศึกษาเรื่องรูปแบบเครื่องประดับโบราณเมื่อครั้งเยาว์วัย ก็รีบเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องแหวนมาที่ตัวเอง

“ใครให้เจ้าหรือ” เขาพยายามทำเสียงเหมือนคนหัวใจสลาย

ริมฝีปากของทามาร่าเม้มเข้าหากันจนบางเฉียบ “แน่ล่ะ นางบอกเราไม่ได้หรอก” นางพูดขึ้น พยายามกล่าวเป็นนัยถึงเรื่องคนรักลึกลับจนเกินงาม “ทว่า... พอบอกใบ้ได้ไหม เคาน์เตส”

ทริชและนีทำหน้าไม่พอใจ ส่วนซาโวน่าที่ชักจะรำคาญทามาร่าว่าเหตุใดนางจึงต้องท้าประลองกับมือใหม่ผู้ไม่เคยประคารมตอบ ก็พยายามคิดหาคำพูดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจอีกครั้ง

แต่คราวนี้เมเลียร่าเอ่ยขึ้นก่อนเขา

“ไม่ได้หรอก เพราะ มันเป็นความลับสำหรับข้าเช่นกัน” นางตอบก่อนจะเสริมว่า “แต่เป็นความลับที่ดีที่สุดเลย เพราะข้าได้แหวนวงนี้มา แล้วก็ไม่ต้องทำอะไรเลย!”

ประโยคนั้นเรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคนยกเว้นทามาร่า ซาโวน่าเหลือบมองสีหน้าที่เขาเกลียดนักกับดวงตาของนางที่หรี่ลงเพียงแวบเดียวแล้วคิดว่า ที่รักของข้า หว่านพืชไว้เช่นไรก็จงรับผลเช่นนั้นเถิด (เพราะเขามิได้ลืมว่านางยังคงงดงามดุจเดิมแม้ในเวลาที่นางทำตัวน่ารังเกียจเช่นนี้ก็ตาม) พร้อมกับยื่นแขนให้เมเลียร่าจับ และเริ่มพร่ำพรรณนาเรื่องการเกี้ยวพาราสีและคนรักจนเห็นว่าเมเลียร่าเริ่มผ่อนคลาย เขาได้รับรางวัลตอบแทนเมื่อนางหัวเราะอย่างเต็มที่และจริงใจ ไร้ซึ่งแววของเสียงหัวเราะคิกคักที่ควบคุมอย่างดีชาววัง เป็นเพราะเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน สีหน้าที่สดใสไปตามอารมณ์ และรอยยิ้มที่ไม่ได้ค้างอยู่เพียงบนริมฝีปากทว่าปรากฏอยู่ในดวงตาของนางเช่นกัน ไม่ใช่การฉีกยิ้มตามมารยาท หากแต่เป็นรอยยิ้มอันจริงใจที่ปริ่มเสียงหัวเราะอันจริงใจนี่เองที่สะกดญาติผู้เคร่งขรึมของเขาแต่ทีแรก ญาติผู้ซึ่งเดินตามมาอย่างใจลอยในตอนนี้ แดนริกผู้น่าสงสาร คงกำลังคิดอยู่ว่าจะระดมเงินจากที่ใดมาเคลื่อนกองทัพขึ้นเหนือไปยังชายแดนอีก ซึ่งเป็นบริเวณที่เริ่มจะมีข่าวไม่น่าไว้วางใจออกมา...

ค่ำวันนั้น เขาพบแดนริกง่วนอยู่กับงานในหอจดหมายเหตุ

“มาเถอะ เจ้าพลาดมื้อค่ำอีกแล้วนะ” ซาโวน่าว่า “ถ้าเจ้าไม่วางปากไก่ลงแล้วตามมาเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปฟ้องแม่เจ้า”

แดนริกยิ้มตอบอย่างแกนๆ “บอกข้าหน่อยสิว่า” เขาพูดแล้วโยนกระดาษแผ่นหนึ่งให้ “เจ้าคิดว่าอย่างไร”

ซาโวน่าก้มลงอ่าน เขาเห็นถ้อยคำที่เขียนด้วยลายมือวิจิตรบรรจงซึ่งมีใจความว่า ของขวัญนั้นงามนัก และข้าขอขอบคุณ ทว่ามันมีหมายความอย่างไรกัน

ท้ายข้อความนั้นมีชื่อ เมเลียร่า แอสเทียร์ แห่งทลานธ์ เขียนไว้ชัดเจน

“บอกนางไปสิ” ซาโวน่าตอบพร้อมทิ้งจดหมายลงบนโต๊ะตามเดิม

“ข้าบอกไม่ได้” แดนริกตอบแล้วทิ้งตัวกลับลงไปนั่ง “ตอนนั้นการมอบแหวนวงนั้นให้นางดูเป็นความคิดที่ดี แต่ข้าลืมไปว่าอาจมีใครในราชสำนักจำแหวนวงนั้นได้จากภาพวาดของท่านทวดข้าในวังหลวง”

ซาโวน่าย้อนถามว่า“แล้วถ้าพวกเขาจำได้ล่ะ” ทั้งคู่ยังคงไม่เอ่ยชื่อของทามาร่า เหตุผลบางอย่างทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องการให้เกียรติกันและกัน แม้ทั้งคู่จะไม่คิดว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่ทั้งคู่ยังเป็นเพียงเด็ก ทั้งสองรู้ดีว่าเหตุใดทามาร่าจึงไล่ตามแดนริก และทั้งสองก็รู้ว่ารุสซาฟรู้สึกเช่นใดกับนางในตอนนี้และตลอดมา แต่จนกว่านางจะล้มเลิกความพยายาม ทั้งสองก็มิอาจพูดคุยเรื่องนี้กันได้

แดนริกส่ายหน้า “ข้าไม่ได้กังวลเรื่องพวกเรา” คำว่า ‘พวกเรา’ ที่ถูกเน้นหนักเล็กน้อยนั้นหมายถึงสหายเก่าของทั้งสองที่เติบโตขึ้นมาใต้เงื้อมมือของกัลดรานด้วยกัน “ข้ากังวลเรื่องพวกเมรินดาร์ หากพวกนั้นระแคะระคายว่าข้าสนใจนางแม้เพียงน้อยนิดละก็ นางต้องถูกรุมขย้ำแน่”

“จริงสิ ข้าลืมไปเสียสนิท” รุสซาฟผิวปากเป็นเพลงสวนสนามแล้วพูดว่า “มื้อค่ำรอเจ้าอยู่นะ ข้าแนะนำให้เจ้าส่งกุหลาบขาวกลับไปให้นาง เพราะเจ้าเองก็บริสุทธิ์ใจจริงๆ และก็ปล่อยไว้แค่นั้น”

“ข้าจะทำตาม” แดนริกตอบและดูโล่งอกขึ้นเมื่อตัดสินใจได้ในที่สุด “ส่วนเรื่องมื้อค่ำที่ว่า...”






Create Date : 15 เมษายน 2553
Last Update : 24 เมษายน 2553 15:34:14 น. 7 comments
Counter : 1112 Pageviews.

 
ขอบคุณค่า ^^


โดย: จีน IP: 58.8.5.29 วันที่: 17 เมษายน 2553 เวลา:3:49:04 น.  

 
ชอบอ่านค่ะในหนังสือไม่มีตอนเหล่านี้ ต้องไปหาอ่านที่ไหนอีกค่ะ


โดย: กมลพร IP: 124.120.27.175 วันที่: 3 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:36:41 น.  

 
คุณกมลพร: ตอนนี้ก็เหลือแต่ที่บล็อกนี้น่ะค่ะ จะรวบรวมมาลงไว้ด้วยกัน (ยังขาดเรื่องสั้นอีก 1)


โดย: ทินา วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:17:40:12 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ ตัดสินใจซื้อมาสะสมก็เมื่อผ่านมาหลายปีให้หลังแล้ว(อ่านครั้งแรกยืมมาจากร้านเช่าหนังสือ)เมื่อมาอ่านอีกครั้งก็ยิ่งรู้สึกหลงใหลมากกว่าเดิม ฮ่าๆๆ ไม่แปลกใจเลยว่านิยายเรื่องนี้ทำไมยังค้างอยู่ในใจเสมอมา สนุกมากจริงๆ ค่ะ ติดตามในเว็บจึงรู้ว่ามีตอนพวกนี้ให้อ่านกันด้วย กำลังใจหายเลยเพราะไม่ว่าจะลิ้งไหนก็ลิ้งก็ใช้ไม่ได้ ดีใจที่สุดที่มาเจอบล็อกของคุณเข้า ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ


โดย: whoever IP: 118.174.114.2 วันที่: 16 เมษายน 2554 เวลา:1:53:55 น.  

 
เพิ่งซื้อและอ่านเรื่องมงกุฎจันทราจบในปีนี้เอง (เล่มละ 99 บาท) ชอบมากๆ คิดจะติดตามตอนพิเศษที่ในหนังสือบอกว่ามี แต่ความอ่อนด้อยทางด้านภาษาอังกฤษทำให้ไม่ได้ติดตามอย่างจริงจังสักที ดีใจจังค่ะที่คุณลมตะวันมาแปลและแบ่งให้อ่านในบล็อคด้วย น่ารักมากๆ ขอบคุณมากนะคะ^^


โดย: พนาศิลป์ IP: 125.26.118.69 วันที่: 13 ตุลาคม 2554 เวลา:10:55:08 น.  

 
ลมตะวันมีเพจ fb แล้วนะคะ เสิร์ชหาด้วยคำว่า "ลมตะวัน" ได้เลย หวังว่าจะได้ต้อนรับที่โน่นนะคะ ^^


โดย: ทินา IP: 58.8.216.22 วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:22:07:23 น.  

 
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ พึ่งจะมารู้ว่ามีตอนพิเศษหลังจากผ่านมาหกปี ดีใจมากที่วันนี้หยิบหนังสือเรื่องนี้มาอ่านอีกรอบ ขอบคุณ คุณลมตะวันมากๆเลยค่ะ ที่ทำให้หนังสือเรื่องนี้เป็นหนังสือที่จะอยู่ในใจของใครหลายคนไปตลอดกาล ^ ^


โดย: In IP: 171.7.239.37 วันที่: 14 พฤษภาคม 2555 เวลา:22:40:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทินา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




หลังไมค์เชิญทางนี้จ้า
Friends' blogs
[Add ทินา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.