Literature is a luxury. Fiction is a necessity.
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
Elephant : Slawomir Mrozek

แหะ แหะ หลังจากห่างหายไปนาน กลับมาอัพงานแปลในอดีตอีกแล้วค่า
คราวนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ตีพิมพ์ล่ะ (แต่ยังอยู่ในแนวเสียดสีสังคมเหมือนเดิม)

เกี่ยวกับผู้เขียน

Slawomir Mrozek (1930 - ) เป็นนักเขียนบทละครแนวเสียดสีชั้นแนวหน้าของโปแลนด์ บทละครชื่อ Tango และ Police ของเขาได้รับการแปลไปเป็นภาษาต่างๆมากมาย แต่งานเรื่องสั้นแนวเสียดสีของเขายิ่งมีชื่อเสียงยิ่งกว่า Mzorek ย้ายออกจากโปแลนด์มาสู่โลกตะวันตกเมื่องานเขียนของเขาถูกแบนในปี 1968 บทละครของ Mzorek ได้รับอนุญาตให้เล่นต่อหน้าสาธารณชนอีกครั้งในช่วงทศวรรษที่ 1970 ซึ่งการปฏิวัติทางการเมืองทำให้ประชาชนได้รับเสรีภาพมากขึ้น แม้ว่าเขาจะได้รับอนุญาตให้กลับสู่โปแลนด์ได้แล้ว Mzorek ก็ยังเลือกที่จะอาศัยอยู่ในปารีสต่อไป



Create Date : 18 สิงหาคม 2550
Last Update : 18 สิงหาคม 2550 23:23:30 น. 3 comments
Counter : 687 Pageviews.

 
ช้าง

ผู้อำนวยการสวนสัตว์เป็นนักไต่เต้าผู้เห็นว่าสัตว์ที่มีอยู่นั้นเป็นเพียงแค่บันไดไปสู่ความก้าวหน้าทางราชการเท่านั้น เขาไม่เห็นความสำคัญทางการศึกษาของสถานที่ที่ตัวเองรับผิดชอบแม้แต่น้อย ยีราฟในสวนสัตว์ของเขาคอสั้น ส่วนแบดเจอร์ก็ไม่มีรับให้ขุด และเหล่านกที่เบื่อโลกก็แทบไม่ยอมขับขาน หรือจะร้องบ้างก็อย่างเหนื่อยหน่ายเท่านั้น มันเป็นข้อผิดพลาดที่ยอมรับไม่ได้ ยิ่งเมื่อมีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษาที่สวนสัตว์นี้เป็นประจำด้วยแล้ว

สวนสัตว์แห่งนี้อยู่ในเมืองเล็กๆและขาดแคลนสัตว์ที่สำคัญส่วนใหญ่ รวมถึงช้าง กระต่ายสามพันตัวนั้นไม่อาจทดแทนเจ้ายักษ์ที่งามสง่าได้เลย แต่เมื่อประเทศของเราพัฒนาขึ้น ช่องว่างเหล่านั้นก็ถูกปิดลงด้วยแผนการที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี

ในวันที่ 22 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันครบรอบการประกาศอิสรภาพ ทางสวนสัตว์ก็ได้รับแจ้งว่าช้างจะมาถึงในที่สุด เหล่าพนักงานซึ่งรักงานนี้เป็นอันมากต่างพากันยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องประหลาดใจยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าผู้อำนวยการส่งจดหมายปฏิเสธไปยังกรุงวอร์ซอว์และประกาศว่าจะหาช้างมาด้วยวิธีการที่ประหยัดกว่า

“ผมและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด” เขาเขียน “ต่างรู้ดีว่าชาวเหมืองและช่างเหล็กของประเทศโปแลนด์เราต้องแบกภาระอันหนักอึ้งเพื่อในการจัดหาและเลี้ยงดูช้างตัวนี้ ผมจึงใคร่ขอเสนอให้เราลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้โดยการแทนที่ช้างซึ่งท่านได้เอ่ยมาด้วยช้างที่เราทำขึ้นเอง

เราสามารถเย็บแผ่นยางให้เป็นรูปช้างขนาดเท่าตัวจริง จากนั้นจึงสูบลมให้พองแล้วผูกมันไว้หลังรั้วกั้น เราจะทาสีให้สมจริงที่สุดจนกระทั่งผู้เข้าชมอย่างใกล้ชิดก็ยังไม่สามารถแยกออกว่ามันเป็นช้างจริงหรือไม่ เนื่องจากทุกคนต่างรู้ดีว่าช้างนี้เป็นสัตว์ที่เฉื่อยชา และไม่วิ่งหรือกระโดดไปมาอยู่แล้ว

เรายังสามารถติดป้ายระบุว่าช้างตัวนี้เฉื่อยชาเป็นพิเศษไว้ที่รั้วกั้นได้อีกด้วย เงินที่ประหยัดไปได้นี้สามารถนำไปใช้ในการซื้อเครื่องบินเจ็ตลำใหม่หรืออนุรักษ์โบราณสถานได้อีกมาก

“โปรดพิจารณาด้วยว่าข้อเสนอแนะและแผนการนี้คือความพยายามเล็กๆน้อยๆของผมในการปฎิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด”

“ผมชื่อ ฯลฯ”

จดหมายนี้ไปถึงมือเจ้าหน้าที่ไร้หัวใจซึ่งดีแต่ทำงานตามนโยบายและไม่สนใจที่จะไตร่ตรองให้ละเอียดแต่กลับยอมรับแผนการของผู้อำนวยการด้วยสนใจเพียงแต่จะลดค่าใช้จ่ายของรัฐตามที่ได้รับคำสั่งมาเท่านั้น ทันทีที่ได้รับคำตอบรับจากส่วนกลาง ผู้อำนวยการก็สั่งให้เริ่มงานเย็บช้างยางขึ้นในทันที


โดย: ทินา วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:23:13:40 น.  

 
เจ้าหน้าที่ประจำสวนสัตว์สองคนจะเป็นผู้เป่าลมเข้าสู่ซากนั้นจากด้านหัวและด้านท้าย งานทั้งหมดดำเนินไปในเวลากลางคืนเพื่อไม่ให้ประชาชนซึ่งได้ข่าวเรื่องช้างและตื่นเต้นกันยกใหญ่รู้ความลับนี้ ผู้อำนวยการเร่งทุกคนให้ทำงานด่วนจี๋เพราะหวังว่าจะได้โบนัสหากความคิดนี้ได้ผล

เจ้าหน้าที่สองคนขังตัวเองไว้ในโรงเก็บเครื่องมือและลงมือเป่า หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง พวกเขาก็พบว่าหนังช้างยางนั้นพองขึ้นเพียงไม่กี่นิ้วและดูไม่คล้ายช้างแม้แต่น้อย

กลางคืนผ่านไป เสียงคนภายนอกเงียบลงเหลือเพียงเสียงการ้องตัดความเงียบมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ทั้งสองหยุดเป่าด้วยความเหนื่อยอ่อนและตรวจดูให้แน่ใจว่าลมที่เป่าเข้าไปแล้วจะไม่รั่วออกมา ทั้งคู่ไม่ใช่คนหนุ่มแล้วและไม่เคยทำงานเช่นนี้มาก่อน

“ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไป” คนหนึ่งเอ่ยขึ้น “ต้องไม่มีทางเสร็จทันพรุ่งนี้เช้าแน่ แล้วข้าจะบอกเมียว่ายังไงล่ะ
หล่อนไม่มีทางเชื่อแน่หากข้าบอกว่านั่งเป่าช้างอยู่ทั้งคืน”

“แกพูดถูก” เจ้าหน้าที่คนที่สองเห็นด้วย “การเป่าช้างเป็นงานประจำของเราเสียที่ไหน ทำไมต้องมายุ่งยามขนาดนี้แค่เพราะผู้อำนวยการเป็นพวกเอียงซ้ายด้วยนะ”

ทั้งสองออกแรงเป่าต่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้อีกครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็เหนื่อยจนเป่าต่อไปไม่ได้แล้ว ขยุ้มยางที่กองอยู่บนพื้นนั้นใหญ่ขึ้นบ้าง แต่ก็ยังไม่คล้ายช้างแม้แต่นิดเดียว

“มันยากขึ้นทุกทีๆ” เจ้าหน้าที่คนแรกบ่น

“อย่างกับเข็นครกขึ้นภูเขาแน่ะ” เจ้าหน้าที่คนที่สองเห็นด้วย “มาพักกันหน่อยดีกว่า”

ระหว่างที่นั่งพักอยู่นั้น เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็เหลือบไปเห็นท่อแก๊สเข้า “เราอัดแก๊สใส่เจ้าช้างนี่ได้ไหม” เขาหันไปถามเพื่อน

พวกเขาตัดสินใจจะลองดู ทั้งสองช่วยกันเสียบท่อแก๊สเข้ากับช้างยางและดีใจกันยกใหญ่เมื่อเห็นสัตว์ยักษ์เป็นรูปร่างขึ้นในโรงเก็บเครื่องมือในเวลาเพียงไม่กี่นาที มันดูเหมือนจริงมาก ทั้งลำตัวอันมหึมา ขาที่ดูราวกับท่อนซุง ใบหูขนาดยักษ์ และงวงอันเป็นเอกลักษณ์ ความทะเยอทะยานของผู้อำนวยการทำให้ช้างที่สวนสัตว์ได้มานี้ตัวเบ้อเริ่มทีเดียว

“เยี่ยมไปเลย” เจ้าของความคิดอัดแก๊สเอ่ยขึ้น “ทีนี้ก็กลับบ้านกันได้แล้ว”


โดย: ทินา วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:23:15:39 น.  

 
เมื่อยามเช้ามาถึง ช้างก็ถูกย้ายไปยังเวทีพิเศษกลางสวนสัตว์ ใกล้กับกรงลิง มันดูดุร้ายและยิ่งใหญ่มากเมื่อยืนอยู่หน้าก้อนหินของจริงขนาดยักษ์ ป้ายขนาดใหญ่เขียนไว้ว่า “เชื่องช้าเป็นพิเศษ แทบจะไม่ขยับตัวเลย”

นักเรียนจากโรงเรียนในท้องถิ่นเป็นหนึ่งในผู้มาเยือนชุดแรกๆ และคุณครูที่พาเด็กๆมาก็ใช้ช้างเป็นหัวข้อในการสอน เขาหยุดอยู่หน้าเจ้าสัตว์ยักษ์แล้วเริ่มอธิบาย

“ช้างเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินพืชเป็นอาหาร มันใช้งวงดึงต้นไม้อ่อนๆขึ้นมาและกินใบไม้ที่ติดอยู่”

เด็กๆพากันมองช้างอย่างชื่นชม ทุกคนเฝ้ารอให้มันดึงต้นไม้อ่อนๆขึ้นมา แต่มันกลับยืนนิ่งอยู่หลังรั้วกั้น

“... ช้างสืบสายพันธุ์มาจากแมมม็อธซึ่งสูญพันธ์ไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องประหลาดใจเลยว่ามันเป็นสัตว์บกขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่”

กลุ่มเด็กขยันพากันจดบันทึก

“...มีเพียงปลาวาฬเท่านั้นที่มีน้ำหนักมากกว่าช้าง แต่มันก็เป็นสัตว์น้ำ เราจึงสามารถสรุปได้ว่าช้างเป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนแผ่นดิน”

สายลมเบาๆโชยมาต้องกิ่งไม้ในสวนสัตว์

“...ช้างโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักอยู่ระหว่าง เก้าพันถึงหนึ่งหมื่นสามพันปอนด์”

ณ วินาทีนั้นเอง เจ้าช้างก็ขยับตัวและลอยขึ้นไปในอากาศ มันโยกตัวอยู่เหนือพื้นดินครู่หนึ่งก่อนที่ลมจะหอบมันลอยขึ้นฟ้าไปจนกระทั่งกลายเป็นเงาทึบใหญ่บดบังท้องฟ้าไว้ คนเบื้องล่างมองเห็นวงกลมๆของเท้ามัน พุงที่ป่องย้อยและงวงนั้นอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่นานนักแรงลมก็พามันลอยข้ามรั้วลับทิวไม้ไป ลิงในกรงข้างๆยังคงจ้องมองท้องฟ้าอย่างประหลาดใจในสิ่งที่เห็น

ช้างนั้นลอยไปตกอยู่ที่สวนพฤกษศาสตร์ใกล้ๆ พุ่มกระบองเพชรเบื้องล่างเจาะเอาลมออกจากผิวหนังที่ทำจากยางจนหมดสิ้น

หลังจากนั้นไม่นาน เหล่านักเรียนที่เห็นเหตุการณ์ในสวนสัตว์ก็เลิกสนใจการเรียนและกลายเป็นอันธพาลกันหมด พวกเขาพากันดื่มเหล้าและขว้างปาหน้าต่างบ้านเรือน และแน่นอนว่า ไม่มีใครเชื่อในช้างอีกต่อไป


โดย: ทินา วันที่: 18 สิงหาคม 2550 เวลา:23:22:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทินา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




หลังไมค์เชิญทางนี้จ้า
Friends' blogs
[Add ทินา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.