|
แค่มีพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นเรื่อง " สองพี่น้องผู้เก่งกาจปราดเปรื่อง ถึง 5 ภาษา อังกฤษ สเปน อิตาลี เยอรมัน ฝรั่งเศส กับคุณพ่อบ้าดีเดือด "
ยอดคุณพ่อคือ คุณมาสุโอะ นางาตะ ซึ่งยอมลาออกจากการเป็นครูมาอยู่บ้านสอนลูกอย่างเต็มที่ ลูกชายคนโตของคุณนางาตะตอนนั้น 2 ขวบครึ่งและลูกสาวอีกคนอายุเพียง 3 เดือน ตอนนั้นผู้คนพากันวิพากษ์วิจารณ์คุณนางาตะว่าเป็นคุณพ่อบ้าดีเดือด น่าสงสารเด็กเล็กๆที่ถูกคุณพ่อยัดเยียดอะไรต่ออะไรให้จนหนักเกินไป ต่อไปคงจะเป็นเด็กขี้กังวลและให้ผลลบต่อเด็ก
แต่ปรากฏว่าคำวิพากษ์วิจารณ์นั้นผิดพลาดมาก เพราะในปัจจุบันครอบครัวคุณนางาตะมีชีวิตกันอย่างราบรื่นและสงบสุข เราจะไม่พูดถึงเรื่องที่ว่าการที่คุณพ่อออกจากงานมาอยู่บ้านเพื่อเลี้ยงลูก และให้การศึกษาแก่ลูกของเขาเองนั้นถูกหรือผิดนะครับ แต่วิธีการสอนลูกของคุณนางาตะช่วยแสดงให้พวกเราตระหนักถึงศักยภาพของเด็กเล็ก ผมอยากจะให้คุณนางาตะเล่าให้ท่านผู้อ่านฟังถึงการสอนเด็กเล็กตามแบบฉบับของเขาด้วยคำพูดของเขาเอง
ภาษาอังกฤษ สนทนาภาษาอังกฤษ ภาษาอิตาลี ภาษาเยอรมัน ภาษาฝรั่งเศส ผมเริ่มสอนเกือบพร้อมกันหมด พอฟังรายการสอนภาษาทางวิทยุนะครับ เวลาสอนภาษาฝรั่งเศส บางครั้งก็อธิบายด้วยภาษาอังกฤษ ถ้าอย่างนั้นเราก็เรียนมันพร้อมกันซะทีเดียวเลย จะได้รู้ความสัมพันธ์ของทั้งสองภาษา ...ผมคิดยังงั้นพอดี ตอนนั้นกำลังเล่นเปียโน โน๊ตเพลงเขียนไว้ด้วยภาษาอิตาลี คำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมันและภาษาฝรั่งเศส ถ้าไม่เข้าใจคำอธิบายก็ไม่สามารถก็ไม่สามารถจับความรู้สึกของเพลงได้ นี่ก็เป็นเหตุผลนึงครับที่ทำให้ผมอยากสอนภาษาเร็วๆ
" ผมถูกถามบ่อยๆว่าสอนทีเดียวทั้ง 5 ภาษา เด็กไม่งงแย่หรือ แต่แกก็แยกได้ถูกต้องนี่ครับ การเรียนภาษาต่างประเทศ ผมอาศัยวิทยุเป็นเครื่องมือ รายการสอนภาษานี่เขาจัดได้ดีมีเมตตามากนะครับ การออกเสียงอะไร เขาพูดช้าๆชัดถ้อยชัดคำ พวกเด็กๆก็อ้าปาก หัดออกเสียงตามนั้นเลยละครับ "
รู้สึกว่าเด็กอายุก่อน 3 ขวบจะมีพลังสมองในการรับรู้สิ่งต่างๆมหาศาลกว่าสมองของผู้ใหญ่อย่างเราเสียอีกนะครับ เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องกลัวว่าเราจะ " ยัดเยียดให้มากเกินไป " สมองของเด็กเล็กสามารถดูดซับทุกสิ่งได้เหมือนฟองน้ำ และเมื่ออิ่มตัวก็จะหยุดดูดเข้าไปเอง สิ่งที่พวกเราควรเป็นห่วงในตอนนี้ไม่ใช่เรื่อง " ให้มากเกินไป " แต่เป็นเรื่อง " ให้น้อยเกินไปต่างหาก คุณนางาตะพิสูจน์ให้พวกเราทราบด้วยประสบการณ์ที่เป็นจริง
| |