ชมและอุดหนุนอาหารของคนไทย จ้ะ
สวัสดี เพื่อน ๆ ชาวบล็อกและท่านผู้ที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้ ค่ะ เมื่อวาน ฉันมีโอกาสไป ตลาดอาหาร น่าจะจัดโดยโครงการไทยเที่ยวไทย) โดยการเชิญชวนของลูกศิษย์ซึ่งได้ข่าวมาจากสื่อทางเฟส ฉันว่างพอดี ก็เลยนัดเจอกันที่ เซ็นทรัลเวิร์ลอันเป็นสถานที่จัดงาน เจอกันประมาณ เที่ยง เพราะงานของเขาเริ่มตั้งแต่ เที่ยงถึง 21.00น โดยวางเป้าหมายไว้ว่า เราจะหาข้าวเที่ยงทานก่อนออกไปเดินชมงาน จ้ะ
เลือกร้านสเต๊ก หมู ชื่อร้าน ซานตาเฟ่ กองทัพเดินด้วยท้อง จ้ะ
ก่อนจะทานอาหารที่สั่งมา ก็ถ่ายรูปอาหารและคนทานมาให้ชมเสียหน่อย นะจ๊ะ หลังจากทานอาหาร นั่งแอร์ในห้องอาหารเย็นฉ่ำแล้ว ประมาณ บ่ายเศษ ๆ ก็ไปชมตลาดกัน อากาศที่ตลาดนัดอาหาร ช่างแตกต่างกับที่ห้องอาหารราวฟ้ากับดินทีเดียว ร้อนอบอ้าว ตับแตกเลย ผู้คนก็พากันหลั่งไหลมาเดินตลาดนัดอาหารกันมากมาย นั่งโต๊ะทานอาหารที่สั่งจากร้านค้าก็มีมาก เดินชมตลาดนัดอาหารก็ขวักไขว่ เดินแทบจะเบียดกันก็มี ก็แถวร้านอาหารที่คิดว่า คงจะมีชื่อเสียง จ้ะ รูปแบบของงาน คิดว่า คงจำลองสถานที่ที่สำคัญต่าง ๆ มาไว้ที่นี่เป็นโซน ๆ ไป รวมถึงตลาดน้ำที่ต่าง ๆ สินค้าโอท้อปของแต่ละจังหวัด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของกินแทบทั้งหมด มีผลไม้ น้ำดื่มดูเหมือนจะขายดีมากว่าเพื่อน เพราะอากาศมันร้อน ขอแนะนำมาช่วงบ่ายสามบ่ายสี่จะดีกว่า อากาศ จะไม่ร้อนมากนัก มาชมร้านอาหาร ที่ฉันถ่ายรูปมาฝากค่ะ
โซนนี้ เป็นโซนปากคลองตลาดค่ะ มีประวัติติดไว้ให้อ่านด้วย
อาหารประเภทผัด ๆ หน้าตาน่าทานมาก ๆ จ้ะ
ประเภทขนมจีน น้ำยา ลูกชิ้นปิ้งเสียบเป็นไม้ มีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งทานกันได้อย่างสบาย
มีรูปแบบร้านค้า เป็นรูปเรือ ขายขนมไทย ๆ ด้วย จ้ะ
หมูฝอย หมูหวาน ทั้งบรรจุกล่องและชั่งขายตามใจผู้ซื้อ จ้ะ
ถั่วตัด งาตัด ขนมตุ้บตั่บ เจ้านี้ ขายดีมากจ้ะ ถุงละมี 5 อัน ราคา 35 บาท ถ้าซื้อ3 ถุง 100 บาท ฉันก็เอาด้วย 3 ถุง 100 บาท แบ่งให้พรไป 1ถุง ช่วยกันกิน เฉลี่ยความอ้วนกัน ห้าห้า
พวกนี้ เป็นหุ่นปั้น ขึ้นมา แสดงวิถีชีวิตประจำวันของคนไทย
สับปะรด ภูแล อันมีชื่อของจังหวัดเชียงราย ของแพง แถม ตัวหนังสือก็เขียนผิด เลยไม่ได้อุดหนุน อิอิ
พวกหมูกรอบ กระดูดหมูทอดกระเทียม หน้าตาน่ากิน น่าเพิ่มไขมันในเส้นเลือกสูงทั้งนั้นเลย จ้ะ ห้าห้า
ขนมเบื้องสูตรโบราณ หน้าตาก็น่าหม่ำมากเหมือนกัน นะเนี่ย
ไข่ปลาหมึกทอด จ้ะ หน้าตาก็น่ากิน มีน้ำจิ้มแซ่บ ๆ ด้วย เพิ่ม ไขมันในเส้นเลือดสูงเช่นกัน
ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยเป็นก๋วยเตี๋ยวมีชื่อของจังหวัดสุโขทัย จ้ะ เคยไปทานที่ ร.พ.ศรีธัญญา อร่อยมาก อิอิ
สารพัดน้ำยา ดูเหมือนจะเป็นน้ำยาทางใต้ รสชาติคงเผ็ดเนอะ
เจ้านี้ ดูดเงินเราสองคนไป คนละ 40 บาท มะนาวใส่น้ำผึ้ง อากาศร้อน น้ำขายดีมากทีเดียว
ของทอดเจ้านี้ หน้าตาก็ดูน่ากิน มีน่องไก่ทอด เครื่องในไก่ทอดด้วย กระดูกหมูทอดก็มี จ้ะ
ของหมักของดองเช่น ระกำ มะกอก กระท้อนทรงเครื่อง ของโปรดของฉันทั้งนั้น หน้าตาน่าทานทั้งนั้น อิอิิ น้ำฝรั่ง คั้นสด ๆ แช่เย็น น่าดื่มมาก มีประโยชน์ด้วย แต่ควรทานทั้งลูกดีกว่า เพราะมีกาก ทำให้ท้องไม่ผูก จ้ะ
กุ้ยช่าย แห่งตลาดพู เขามีชื่อเสียงมานานมาก ฉันได้ยินชื่อเสียงของกุ้ยช่ายมานานมาก จ้ะ
มาโซน บางลำพู ของกินก็มากมายเหมือนกัน
ตลาด ขวัญ เรียม เป็นตลาดน้ำอีกแห่งที่คนชอบไปเดิน ก็มาจัดร้านขายด้วย ฉันยังไม่ได้ไปเดินที่ตลาดแห่งนี้ ไว้ว่าง ๆ ต้องชวนลูกศิษย์ไปเดินชมตลาดสักครั้ง อิอิ
หมีกปิ้ง กุ้งปิ้ง ตัวใหญ่มาก น่าเพิ่มไขมันในเส้นเลือดทั้งนั้น ห้าห้า กินก่อน แล้วตามด้วยยาลดไขมัน
ปิ่นโตในสมัยโบราณ สีสันสวยงามเนอะ น่าอนุรักษ์นำมาใช้แทนถุงพลาสติคในปัจจุบัน นะ
ปากหม้อของเวียดนาม จะเหมือนของไทยไหมเนี่ย ไม่ได้ซื้อชิม
ราชาแห่งผลไม้ ทุเรียน ที่แกะเสร็จแพ็ตใช่โฟม พร้อมทาน แพงเหลือหลาย พูเดียว เกือบ 200 บาท อิอิ
ราชินีแห่งผลไม้ มังคุด แพงไม่แพ้ราชาแห่งผลไม้เลยนะจ๊ะ กิโลกรัมละ 150 บาท มายก๊อด เคยไป เที่ยวสวนผลไม้เพื่อนของลูกศิษย์ กิโลละ 20 บาท (แต่ไม่ได้คัดลูกใหญ่ ๆ เท่านี้ละ ราคาต่างกันยังกับฟ้ากับดิน)
ข้าวมธุปายาส ถือเป็นอาหารที่วิเศษมากอย่างหนึ่ง เล่ากันว่า นางสุชาดา ได้ทำมาถวาย พระพุทธเจ้า ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะตรัสรู้ ได้ยินมาว่า เป็นอาหารที่มีความหวานหอม อร่อยมาก จ้ะ เพื่อเพิ่มพูนความรู้เรื่องข้าวมธุปายาส จึงขอคัดลอกบทความในกูเกิลมาประกอบ นะจ๊ะ
ตำนานข้าวมธุปายาส มีตำนานเล่าว่า นางสุชาดา ธิดาเศรษฐี ณ หมู่บ้านเสนานี้ ใกล้ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ปรุงข้าวมธุปายาส ขึ้นเป็นอาหารไปแก้บน เพราะสม ปรารถนาได้บุตรชายในครรภ์แรก ได้เห็นพระพุทธเจ้า เมื่อเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ประทับใต้ต้นนิโครธ (ต้นไทร) ก็เข้าใจพระองค์เป็นเทพยดาเพราะมีลักษณะงาม นางจึงน้อมข้าวมธุปายาสนั้นเข้าไปถวาย ครั้นพระโพธิสัตว์ได้บอกความจริงแก่นางแล้วนางก็ยิ่งมีใจศรัทธา จึงได้ถวายข้าวนั้นทั้งถาด พระโพธิสัตว์ได้นำข้าวมธุปายาสมาแบ่งเป็น ๔๙ ก้อน แล้วฉันจนหมด จากนั้นจึงนำถาดไปอธิษฐานแล้วลอยไปในแม่น้ำ เนรัญชรา เพื่อเสี่ยงทายเรื่องที่จะสามารถตรัสรู้ได้หรือไม่ ข้าวมธุปายาสของนางสุชาดาจึงนับว่าเป็นอาหารมื้อสุดท้ายก่อนที่พระโพธิสัตว์จะได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้า ดังคำกล่าวที่ว่า นับหกปีที่พระสิทธัตถะ ฝึกตบะเพียรภาวนามั่น จวบวิสาขะรุ่งอรุณพลันนางสุชาดานั้นเฝ้าพระองค์ ถวายข้าวปายาสด้วยศรัทธา เสวยแล้วโมทนาดังประสงค์ ลอยถาดทวนสายชลจนจมลง เสด็จตรงแนวป่าพนาลัย จึงมีความเชื่อกันว่า ข้าวมธุปายาส เป็นอาหารวิเศษ ผู้ใดมีวาสนาได้กินแล้วจะมีร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัย อุดมด้วยสติปัญญา และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ฉันหวังว่า งานเขียนชิ้นนี้ คงให้ความบันเทิงเริงรมย์แก่ท่านผู้อ่านและเพื่อนชาวบล็อกได้บ้างพอสมควร จ้ะ ใครที่สนใจเรื่องอาหารการกิน ก็ไปเดินเที่ยวได้นะจ๊ะ งานนี้จะมีถึงวันที่ 31 ก.ค. จ้ะ
Create Date : 18 กรกฎาคม 2559 |
Last Update : 18 กรกฎาคม 2559 16:50:23 น. |
|
21 comments
|
Counter : 2959 Pageviews. |
|
|
เมื่อวานก็ไปมาค่ะ ของกินเพียบเลย
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
Raizin Heart Movie Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Pet Blog ดู Blog
The Kop Civil Sports Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Food Blog ดู Blog