กลอนเพื่อครู 2561
ในอดีตสามทับแปด ยังเป็นเด็ก ตัวเล็กเล็กนั่งเรียนเขียนหนังสือ
มีครูให้ความรู้ฝึกฝีมือ คอยฝึกปรือเพื่อให้เราเป็นคนดี
มีโดดบ้างเกเรบ้าง ประสาเด็ก ทั้งเรียนเลข เรียนวิทย์ไม่หลีกหนี
ล้อครูบ้าง โกรธครูบ้างล้วนเปรมปรีดิ์ ควงนารี ไม่ใส่ใจไม่สนครู
เคยร้องไห้ เพราะครูตีที่ทำผิด น้ำตาศิษย์ พรั่งพรู รู้ต่อสู้
ครูสอนไป ตีไป เพื่อให้รู้ เฝ้าเชิดชู ย้อนย้ำ ให้ทำดี
ในตอนนี้ศิษย์ได้ออกสู่โลกกว้าง บนเส้นทาง ของชีวิต ตามวิถี
ได้สังวร คำสอนครูชั่วชีวี ได้เป็นศักดิ์เป็นศรีตามอบรม
ถึงใครเห็น ครูเป็น เช่นเรือจ้าง แต่ครูสร้าง ทางชีวิต อย่างเหมาะสม
นานหลายปี พลัดพรากมานานนม ศิษย์ชื่นชม ยังคำนึงคิดถึงครู
กว่าจะมา ยืนอยู่ได้ ตรงจุดนี้ ก็เพราะมี ครูชี้แนะไม่อดสู
ทั้งอบรม แนะนำ ให้ใคร่รู้ ไม่หดหู่ดูดีเป็นศรีชาติ
ในวันนี้ สามทับแปดมากราบครู พร้อมเชิดชูคุณครูผู้เก่งกาจ
มาลัยน้อยมอบครูที่เปรื่องปราด ขออำนาจพระไตรรัตน์ดลครูให้สุขเอย
ฉันได้ฟังบทกลอนเล่าความหลังของพวกเขาและความในใจของพวกเขา
แล้ว ก็รู้สึกตื้นตันใจ ปลื้มใจ
ที่เห็นพวกเขา เป็นคนดี มีความกตัญญูรู้คุณต่อครู อาจารย์ ถึงจะจบ
ไปแล้วอย่างยาวนาน เมื่อพวกเขาได้ดี
มีความเจริญรุ่งเรือง พวกเขาก็ไม่ลืมครู อาจารย์ที่เคยสอนพวกเขามา
ในสมัยเด็ก ๆ นี่เป็นสิ่งน่าชมเชยและยกย่อง
เมื่ออ่านบทกลอนของพวกเขาจบแล้ว ก็มีการจัดคนเป็นชุด ๆ ชุดละ
6 คน ตามจำนวนครูที่มาในวันนี้
ทุกคนจะมีมาลัยในมือครบ ที่จะนำมาไหว้ครู โดยเข้ามากราบครู ด้วย
ใบหน้ายิ้มแย้ม พวกครูก็ยิ้มแย้ม ดีใจ ปลื้มใจ
ที่ได้เห็นพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีครอบครัว มีหน้าที่การงานที่ดีทำ
นี่เป็นสิ่งที่ครูทุกคนปรารถนาที่จะเห็น ค่ะ
เรามาชมบรรยากาศของพิธีไหว้ครูของพวกเรา ค่ะ ระหว่างไหว้ครู ก็มี
การเปิดเพลงไหว้ครูของ ศุ บุญเลี้ยงคลอไปด้วย
ทำให้บรรยากาศการไหว้ครู ดูขลังและซาบซึ้งมากยิ่งขึ้น ค่ะ น่าเสียดาย
ฉันไม่เก่งเรื่องการนำเพลงนี้มาลงในบล็อกได้
หลังพิธีมอบมาลัยและของขวัญแก่ครูแล้ว ก็มีการแสดงความรักต่อครู
ต่อเพื่อนด้วยการสวมกอดกันด้วยความรักที่มีต่อกัน
อ้อยเป็นตัวแทนกล่าวขอบใจเด็ก ๆ และอวยพรเด็ก ๆ
จากนั้น มีการร้องเพลงโดยจับมือกันเป็นวงกลม ทั้งครูและลูกศิษย์
ร้องเพลงที่แสดงถึงความรัก ความผูกพันที่มีต่อกัน
ระหว่างครูกับลูกศิษย์ ระหว่างเพื่อนกับเพื่อน ชื่อเพลงว่า
"เกินกว่ารัก มากกว่าผูกพัน" ของ หั่ง ค่ะ มาชมภาพกัน ค่ะ
มีการเปิดงานการไหว้ครูของปีก่อน ๆ มาให้ทุกคนได้ชม หลังจากเสร็จ
พิธีไหว้ครู และมีการถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก
รูปหมู่ของครูและลูกศิษย์ ค่ะ
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว มีการรื่นเริง คือร้องเพลง และอาหารมื้อดึก
อีก 1 มื้อ ด้วยค่ะ
เจ้าอ๋อง สนุกสนานกับการร้องเพลง ไม่หยุดเลย
คุณครูหลายคน ก็ร่วมสนุกในการร้องเพลงกับลูกศิษย์ด้วย
ทุกคนหน้าตาชื่นบาน สนุกสนานในการร้องเพลง ค่ะ
อาหารมื้อดึกอีกมื้อหนึ่งค่ะ
หลังจากที่อยู่กับพวกลูกศิษย์สนุกสนานด้วยการ ร้องเพลง และทาน
อาหารมื้อดึกแล้ว น่าจะประมาณ สี่ทุ่มกว่า
พวกเราก็กลับไปที่พักเพื่ออาบน้ำ พักผ่อน ห้องน้ำ มีเพียงห้องเดียวต่อ
5 คน ต้องเข้ากันเพื่ออาบน้ำเร็วหน่อย
อาบเสร็จ ก็มานั่งคุยกันอีกสักพัก ตุ้ยไม่สบาย เป็นไข้หวัด เลยขอไป
อาบเอาตอนเช้าเลย นอนหลับเมื่อทานยาแก้หวัดแล้ว
รุ่งเช้า พวกเราตื่นไม่เช้านัก น่าจะเกือบโมงเช้า เด็ก ๆ บอกให้พวกเรา
ใส่เสื้อที่พวกเขาแจกให้ครูและเพื่อน ๆ ใส่
เพราะว่าจะมีการถ่ายรูปหมู่ที่ป้ายเขื่อนกระจานด้วย นั่นเอง
พวกเราจัดกระเป๋ากันเรียบร้อยแล้ว จึงออกมาจากห้องพัก เด็ก ๆ กำลัง
ทำอาหารเช้ากัน มีการแกะทุเรียน
ทำข้าวเหนียวกระทิทุเรียน มีการตำส้มตำไข่เค็ม ฝีมือศิษย์สะใภ้ ทุกคน
ชมว่า ส้มตำอร่อยมาก ๆ
อาหารตอนเช้า เป็นข้าวต้มทะเล มีกุ้ง มีหมึก เครื่องปรุงพร้อม ยังมี
กาแฟ โอวัลติน ขนมปัง ฯลฯ แล้วแต่ชอบค่ะ
โฉมหน้าของศิษย์สะใภ้ ที่ตำส้มตำอร่อยมาก ทุกคนชมเปราะ แกะ
ทุเรียนก็เก่งด้วย ทำข้าวเหนียว กะทิทุเรียนก็อร่อยมาก
อาหารมื้อเช้า ข้าวต้ม ทะเล กุ้ง หมึก พร้อมเครื่องปรุง
ฝีมือแกะทุเรียนของศิษย์สะใภ้ งามทุกพูเลย ค่ะ
หลังอาหารมื้อเช้า อิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็มีรายการเล่นน้ำ ที่จริง
หลานศิษย์ที่มางานด้วยได้ลงไปเล่น
ตั้งแต่เมื่อบ่ายของเมื่อวานแล้ว วันนี้ มีลูกศิษย์ลงเล่นน้ำ เล่นบันจี้จั๊ม
ตุ้ย ก็ลงเล่นกับเขาด้วย
มาชมภาพสวย ๆ เหล่านี้กันค่ะ
เก็บบรรยากาศ มาฝาก ค่ะ
ขอถ่ายรูปหมู่กันหน่อยนะเพื่อน อิอิ
เล่นน้ำจากเขื่อนอย่างสนุกสนานก่อนอำลาจากกันกลับบ้าน
พงษ์ไปเช่าเรือให้พวกครูและเพื่อนไปล่องเรือยางเล่น แต่ฉัน พี่มาก
สุรพงษ์ ไม่ได้ไปด้วย เพราะฉันกำลังจะไปเที่ยว
ตุรกี ไม่อยากเสี่ยง กลัวลื่นล้ม เหมือนคราวที่กำลังจะไปเที่ยวที่ประเทศ
ไอซแลนด์ อิอิ เลยไม่อยากไปด้วย
อาหารมื้อเที่ยง เด็ก ๆ เตรียมปลาเผาให้ทานอีก ยังเหลือแกงไก่ด้วย
มีส้มตำ มีข้าวเหนียวทุเรียน เงาะ ลิ้นจี่
อ้อย กับ ตุ้ย ช่วยกันแกะปลา ทานอาหารมื้อเที่ยงก่อนกลับบ้าน
หลังจากอาหารเที่ยงแล้ว พวกเราก็นำกระเป๋าขึ้นรถกลับ ทุกคนใส่เสื้อ
3/8 สีเทา เท่ มีคำคมด้านหลังด้วยคำที่ซึ้ง ๆ ว่า
"เพื่อน ..สุข ทุกข์ ...ไม่ทอดทิ้งกัน"
ข้อความนี้ มีรูปมาเป็นพยานประกอบ ค่ะ
อ๋องเสียขาไปข้างหนึ่งด้วยอุบัติเหตุ เพื่อนฝูงช่วยเหลืออ๋องเป็นอย่างดี
อ๋องมีความสุข ร้องเพลงตลอดเวลา ค่ะ
ก่อนกลับ มีการช่วยกันเก็บสัมภาระ หม้อ ไห กระทะ เขียง มีด ตลอดจน
ของที่เหลือ เช่นผัก ของกิน ผลไม้
แจกจ่ายกันกลับบ้านไปด้วย จากนั้น นุชก็เรียกประชุม เพื่อแถลงรายรับ
รายจ่าย ของงานในครั้งนี้ ซึ่งเก็บเงินกันคนละ 1,000 บาท
ทานกันอย่างอิ่มหมีพีมันหลายมื้อ แล้วก็ยังมีรายการแจกเสื้อ น่าจะเป็น
เสื้อจากสปอนเซอร์ ให้ครูแต่ละคนก่อน
ที่เหลือจึงแจกเพื่อน ๆ พงษ์เป็นคนจัดการ น่าจะไม่ครบทุกคน เพราะ
มีจำนวนจำกัด ของฉันให้อ๋องไป
เพราะตัวใหญ่มาก เนื่องจากเป็นฟรีไซด์ นั่นเอง
เมื่อเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เคลื่อนขบวนกันไปเพื่อไปถ่ายรูปกับป้าย
เขื่อน อุทยาน เขื่อนแก่งกระจานเก็บไว้เป็นที่ระลึก
เป็นภาพหมู่รูปสุดท้ายที่พวกเราถ่ายร่วมกันก่อนอำลาจากกัน ค่ะ
เมื่อร่วมกันถ่ายรูปหมู่นี้แล้ว ลูกศิษย์ก็ไหว้อำลาครู เพื่อนกับเพื่อนก็กอด
คอกันอำลาจากกัน เพื่อพบกันใหม่ในโอกาสต่อไป
ส่วนฉัน อ๋อง แป๊ะและ สุรพงษ์ ก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ มาถึงแถวคลองเตย อ๋องและแป๊ะ ชวนทาน
ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเจ้าอร่อยแถวนี้ เป็นอาหารมื้อเย็น สุรพงษ์กว่าจะถึงบ้าน
คงเย็นมาก เนื่องจากบ้านไกลกว่าเพื่อน
แป๊ะ จะไปส่งถึงบ้าน แต่สุรพงษ์เกรงใจเพราะอยู่ถึงทางฝั่งธน ไปรถ
ไฟฟ้าสะดวกและรวดเร็วกว่าเยอะ
สุรพงษ์คงหิวมาก สั่งทานสองชามเลย น้ำชาม แห้งชาม ส่วนฉันจะ
ซื้อเฉพาะลูกชิ้นเจ้านี้กลับบ้านด้วยเงินของฉันเอง
แต่แป๊ะไม่ยอมให้ออกเงิน เขาว่า นาน ๆ จะได้เลี้ยงครู อาจารย์ที ขอให้
เขาเป็นเจ้ามือเถอะ ต้องขอบใจเขา อิอิ
เราไปส่งสุรพงษ์ที่สถานีรถไฟฟ้า ทองหล่อ ก่อนจะเลี้ยงเข้าซอยบ้าน
ของฉันและแถวบ้านของอ๋องและแป๊ะ
ขณะนั้นน่าจะ 6 โมงเย็นแล้ว ก่อนลงจากรถ แป๊ะเอาสับปะรดที่เพื่อน
อ๋องฝากให้เขา คงฝากเขาหลายลูก เขาแบ่งให้
สุรพงษ์และฉันคนละ 2 ลูก ฉันปอกไม่เก่ง ค่อนข้างเละ เลยเอาไปเชื่อม
เป็นสับปะรดเชื่อมทานกับน้ำแข็ง ก็ชื่นใจดี
ภาพบนเป็นถุงผ้า หน้าตาน่ารัก ส่วนเสื้อสีส้ม ใหญ่มาก เลยให้ อ๋องไป
ของฝากของพวกเขายังมี ผ้าเช็ดตัวและแก้วน้ำร้อน-เย็นอีกใบ
นี่เป็นมาลัยที่เด็ก ๆ นำมาไหว้ครู ฉันหอบกลับบ้านมาเพื่อบูชาพระที่บ้าน
พร้อมอธิษฐานให้พวกเขามีความสุขความเจริญในชีวิต
ถึงแม้มาถึงบ้านมันจะหมองไปบ้าง ก็อยากหอบกลับบ้าน ค่ะ มาไหว้พระ
ขอพรให้พวกเขา ค่ะ
งานสังสรรค์และงานแสดงความกตัญญุตาของลูกศิษย์กลุ่ม ม.3/8 ซึ่ง
ฉันไปร่วมงานตามคำเชิญเป็นครั้งแรก
ก็ได้จบลงไปด้วยความสมบูรณ์ น่าประทับใจ มีหลายอย่างที่แปลกใหม่
จากลูกศิษย์กลุ่มอื่น ๆ ที่ฉันเคยไปอยู่บ้าง
เช่น การเปิดเพลงประกอบเวลาไหว้ครู การร้องเพลงร่วมกันโดยจับมือ
กันเป็นวงกลมร่วมกันทั้งครูและลูกศิษย์
มีเพลงที่ร้องคลอกันไป เป็นเพลงที่ให้ความหมายดีมากเพลงหนึ่ง คือ
เพลง "เกินกว่ารัก มากกว่าผูกพัน"
แค่ชื่อ ก็ก่อให้เกิดความ ซาบซึ้งแล้ว น่ะนะ
สุดท้ายของงานเขียนชิ้นนี้ ครูก็ขอบอกว่า ครูขอบใจ ชื่นใจ ปลื้มใจ ที่
ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ ได้มาเห็น
กิจกรรม ดี ๆ ของพวกเธอ ที่แสดงออกถึงความรัก ความกตัญญูต่อครู
อาจารย์ ความรัก ความผูกพันของเพื่อน ๆ ด้วยกัน
ครูก็ไม่มีอะไรจะตอบแทน นอกจากคำขอบใจและคำอวยพรให้พวกเธอ
มีความสุข ความเจริญในชีวิตทุกคน ตลอดไป จ้ะ
งานนี้ของกินเยอะอีกแล้ว ทุกคนต่างร่วมใจช่วยกันทำอาหารอย่างมีความสุข
เห็นทุเรียนแล้วน้ำลายไหลเลยค่ะ อิอิ
ชอบครูเก็บภาพได้ละเอียดมากเลย ชมเพลิน
ภาพคุณอ๋องกับเพื่อน น่าประทับใจมากค่ะ
สมกับประโยคที่ว่า "เพื่อน ..สุข ทุกข์ ...ไม่ทอดทิ้งกัน" จริงๆ
คนเราจะเห็นใจกันและรู้ว่าใครรักเราจริงก็ยามนี้แหละนะคะ
ลูกศิษย์ครูน่ารักมากๆค่ะ น่าชื่นใจ
ไว้หนูแวะมาใหม่ค่ะ