ทวาทศมาสประจำปี 2561 ตอนที่ 3
วันเวลาผ่านไปเร็วจังนะคะ ฉันได้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปี 61 ผ่านไปแล้ว 2 เดือน บล็อกนี้ ก็เป็นเดือนที่ 3 แล้วค่ะ
เดือน มีนาคม ก็มีเรื่องราวต่าง ๆ น่าจดจำหลาย ๆ เรื่อง ดังนี้ ค่ะ
วันที่ 5 แดงมารับฉันเพื่อไปรับพาสปอร์ตที่ทำใหม่ เตรียมจะไปเที่ยว เซจู ประเทศเกาหลี แดงเป็นคนชวนเพราะอยากไปเที่ยว
วันที่ 6 อุ้ยจะไปเสียค่าประกันที่การไฟฟ้า และจะแวะกินอาหารกัน ที่ห้างเซ็นทรัล ซึ่งอุ้ยบอกว่าอร่อย เขาเคยไปกินแล้ว เลยแวะมารับฉันไปกินด้วยกัน ค่ะ น่ารักเหมือนเดิม อิอิ
หน้าตาของอาหารที่พวกเราสั่งค่ะ น่าทาน สมราคา ค่ะ
ยกนิ้ว ชมว่า อร่อย ใช้ได้ ญาติผู้น้องของอุ้ยทำงานแถวนั้น มาร่วมแจมด้วย ค่ะ
นอกจากพาไปกินแล้ว ยังทำกับข้าวมาฝากด้วย ค่ะ
ตามด้วยผลไม้ ผลผลิตจากบ้านอุ้ย ค่ะ
วันที่ 7 เย็นนี้ มีนัดกินเย็นตาโฟ นายอ้วน เขาว่าอร่อย โอ๋บอก เลย ชวนเมี่ยง ทิพย์ ไปกินกันแถวอ่อนนุช โดยฉันขึ้นรถไฟฟ้าไปลงโลตัส แล้วโอ๋มารับฉันก่อน เพราะกว่าเมี่ยง และทิพย์จะเลิกสอน เดินมาหาที่ร้านก็อีกเป็นชั่วโมง โอ๋เลยพาไปเดินเที่ยวที่ห้าง เซ็นจูรี่ซึ่งอยู่เยื้องตรงข้ามกับโลตัส เป็น ห้างเปิดใหม่ เมื่อไม่นานนี้เอง เราเดินเล่นอยู่ห้างนี้ สักพักใหญ่ ๆ แล้วจึงเดินไปรอเมี่ยงและทิพย์ที่ปากทางที่จะเดินไปที่ ร้านเย็นตาโฟ นายอ้วน ค่ะ
โอ๋ ซื้อขนมมาฝากฉันด้วย ค่ะ พักใหญ่ เมี่ยงกับทิพย์ก็มาตามนัดครบทีมแล้วก็เดินเข้าซอยอีกนิดเดียว ก็ถึงร้านเย็นตาโฟ นายอ้วน เป็นตึกคูหาเดียว ราคาก็ไม่ถูกนะ ชามละ น่าจะ 69 หรือ 79 บาท จำไม่แม่นแล้ว พูดถึง รสชาติก็ธรรมดา ฉันว่าเค็มไปนิดด้วย
สั่งกันคนละชาม มีพิเศษ คือ เกี๊ยวทอดกับ น่าจะแฮกี้น มั้ง
ออกจากร้านนี้แล้ว ก็ย้ายร้านไปกินของหวาน คือ ไอศกรีม ที่ร้าน เซเวนเซ่น ทานบิงซูกัน ค่ะ กินไปรออ๊อดไปด้วย พักใหญ่ ๆ อ๊อดก็มาถึง ได้ร่วมวงกิน บิงซูกันค่ะ
อ๊อดมาทันได้กินบิงซูกัน
คุยกันพอหอมปากหอมคอ ก็ต้องแยกย้ายกันกลับแล้ว เพราะพรุ่งนี้ ทุกคนต้องทำงาน ยกเว้นฉัน ห้าห้า อ๊อดขับรถมาส่งฉันที่บ้าน แล้วจึงกลับบ้านไป ก็ต้องขอขอบใจพวกเขา ที่ระลึกถึงฉันเสมอมา ทำให้ฉันไม่เหงาเลย
วันที่ 10 ไปเป็นเพื่อน ฝน เพื่อไปที่คลินิกประสานมิตรหาหมอชาติชาย ฉันแนะนำให้ฝนมาทำที่นี่เพราะจะได้เบิกค่ารักษาได้ หลังจากที่เสร็จจากการทำฟันแล้ว ก็ใกล้เที่ยง ฝนชวนไปกินอาหารมื้อ กลางวัน เราไปกินที่เกทเวย์ ร้าน ทาคัดสึ เป็นอาหารญี่ปุ่น ค่ะ
ข้าวกับหมูทอด มีน้ำแกงให้ซดด้วย รสชาติก็ดีพอควร
วันที่ 12-15 มีนา ฉันกับแดงไปเที่ยวเกาะเซจู ซึ่งทริปนี้ แดงเป็นคน มาชวนฉันไปเที่ยว ฉันก็รับปาก เพราะยังไม่เคยไป เย็นวันที่ 12 สามีของแดงขับรถมารับฉันไปส่งที่ สถานีรถไฟฟ้า รามคำแหง เป็นรถไฟฟ้าที่จะไปสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เรียกว่า แอร์พอตลิ้งค์ ซึ่งฉันก็เคยนั่งเป็นครั้งแรก เราสองคนไปถึงสุวรรณภูมิก่อนเวลานัดหมายหลายชั่วโมง เขานัดกัน เวลา 5 ทุ่มครึ่ง เราไปถึง ยังไม่ 3 ทุ่มเลย คนที่สนามบินก็เดินกันขวักไขว่มากมาย เก้าอี้ไม่มีที่นั่งเลย ก็เลยต้อง นั่งกับพื้น นั่งคุยกันไป รอเวลา จนถึงเวลานัด ทริปนี้เราไปกับบริส ทริป ทัวร์ ของ เจ ในราคา 7999 บาท เป็นทริป เหมาลำไปเกาหลี ไม่มีหัวหน้าทัวร์พาไป เป็นทัวร์ของบริษัทเล็ก รวบรวมให้บริษัทใหญ่เป็นผู้รวบรวมลูกทัวร์ ไป บริษัทเล็กก็มาอธิบายให้ลูกทัวร์ที่ตนเองขาย ว่า ไปถึงเกาหลี จะมีไกด์มารับเราชื่ออะไร ขึ้นรถคันที่เท่าไหร่ หมาย เลขไวไฟ ของไกด์ คืออะไร เป็นต้น ทริปนี้ ฉันเขียนเล่าไว้ในบล็อกแก๊งเป็น สอง ตอนค่ะ ใครที่สนใจสามารถไป เปิดอ่านตามลิ้งค์นี้ได้ค่ะ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=16-04-2018&group=2&gblog=90
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=suvimol&month=04-2018&date=23&group=2&gblog=91
ต่อไปฉันได้นำรูปที่ไปเที่ยวเกาะเซจูมาเป็นน้ำจิ้มด้วย ค่ะ
คงได้ชมรูป เที่ยวเกาะเซจู พอหอมปากหอมคอแล้วนะคะ
วันที่ 17 นทีมาเยี่ยมที่บ้าน เพื่อปรึกษาการจัดกิจกรรมแข่งขันฟุตบอล เพื่อที่จะหาทุนให้กับสมาคมนักเรียนเก่าฯ ในฐานะที่รุ่นเขาตอนนี้มีงานมีการทำแล้ว ก็ต้องการตอบแทนบุญคุณ โรงเรียนบ้าง เขาถามฉันว่า สมาคมฯสนใจไหม ฉันบอกว่า ความคิดของพวกเขา เป็นความคิดที่สร้างสรรค์ การรู้จัก บุญคุณ รู้จักกตัญญู และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อคนที่ลำบาก กว่าเขา ถือเป็นการกระทำที่ดี ทำไมฉันจะไม่สนับสนุนล่ะ ในใจฉันก็ แอบปลื้มที่ลูกศิษย์ประจำชั้นที่เราสอน เราอบรม มา เขามีความคิดสร้างสรรค์เช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่ตอนเรียน ก็ค่อนข้างเกเร ไม่ ค่อยสนใจเรียนเท่าที่ควร ต้องคอยดุ คอยตักเตือน ปากเปียกปากแฉะไม่น้อย สำหรับห้องนี้น่ะนะ พอเขาบอกฉันเรื่อง การจัดกิจรรมนี้ ฉันก็ยินดีสนับสนุน โดยเขาขอให้ ฉันช่วยหาทีมฟุตบอลจากรุ่นพี่ รุ่นน้องที่ฉันสอนด้วย เพราะการจัดการ แข่งขันต้องได้ไม่น้อยกว่า 10 ทีม จึงจะได้กำไร เป็นเงินเข้าสมาคมฯได้ เขาสัญญาว่า อย่างไร เขาจะบริหารจัดการให้ เหลือเงินไม่ต่ำกว่าสองหมื่นเข้าสมาคมอย่างแน่นอน ฉันเริ่มหาเป้าหมายที่พอจะมีสมรรถภาพในการให้ซื้อทีมเพื่อเข้าแข่งขัน ครั้งนี้ เป้าหมายแรก โทรหาคุณสุเทพ นายกสมาคมนักเรียนเก่าฯ บอกถึงจุดมุ่งหมายของศิษย์เก่าที่จัดงาน แข่งขันฟุตบอลเพื่อหารายได้เข้าสมาคมฯ นายกฯสุเทพ ใจดี ให้มาสองทีมเลย โทรหา อุปนายกสมาคมฯ คือ นายกิตติพันธ์ ก็บอกว่าจะหาให้สองทีม แต่พอใกล้เวลาต้องจ่ายค่าทีม แกหาไม่ได้ จึงลดเหลือ 1 ทีม และโทร หาศักดา รุ่น 20 ก็ได้มาอีก 1 ทีม รวมที่ ฉันหาให้นทีเป็น 4 ทีม ที่เหลืออีก 6ทีม พวกรุ่นของนทีไปช่วยกัน หาให้ได้ครบ 10 ทีมจนได้ในที่สุด ค่ะ หลังจากปรึกษาแล้ว พวกเขาก็เริ่มไปบริหารจัดการเอง โดยโทรมา ปรึกษาฉันตลอดเวลา รายงานความก้าวหน้าของงาน ซึ่งกำหนดไว้ว่า จะทำการแข่งขันในวันที่ 2 มิถุนายน วันนี้นอกจากนที แล้ว ยังมีเพื่อน ๆ เขามาอีกหลายคน ดูรูปเลย ค่ะ
นอกจากมาปรึกษางานแล้ว พวกเขาถือโอกาสมาเยี่ยมฉันด้วยค่ะ
วันที่ 18 มีนาคม วันนี้เป็นอีกวันหนึ่ง ที่กลุ่ม สานรักธาตุทองได้จัด งานมุทิตาจิต ครูอาจารย์ ซึ่งจัดต่อเนื่องมา เป็นปีที่ 4 แล้ว ปีนี้ มีการติดต่อฉัน มาเชิญฉันไปร่วมงานด้วย ฉันก็รับ ปาก และขอบใจพวกเขาที่ยังระลึกถึงฉัน งานของธาตุทองสานรัก ถือเป็นกิจกรรมที่ดีมากกิจกรรมหนึ่งของเด็ก ธาตุทองของเรา ที่ได้แสดงออกถึงความสำนึกที่ดี ที่มีความกตัญญุต่อครูอาจารย์ที่เคยสอนพวกเขามา เมื่อพวกเขา ประสบความสำเร็จในชีวิต ก็ยังไม่ลืมครู อาจารย์ ไม่ลืมสถาบันการศึกษาของพวกเขา หาทุนการศึกษามาให้น้อง ๆ รุ่น ปัจจุบัน ถือเป็นความคิดสร้างสรรค์และมีพลกำลัง ในการบริหารจัดการในกลุ่มของเขา แสดงให้เห็นถึงความรัก ความ สามัคคีของรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี ขอชมเชย และฉันเมื่อไปร่วมงานของพวกเขาแล้ว ก็ได้นำเรื่องราวดี ๆของพวกเขา ไปเผยแพร่ไว้ในบล็อกแก๊งด้วยค่ะ ใครที่ยังไม่เคยอ่าน สามารถไปหาอ่านได้ตามลิ้งค์ ต่อไปนี้ค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=suvimol&month=28-03-2018&group=5&gblog=65
ต่อไปก็มาชมรูปในงานเป็นน้ำจิ้มก่อนไปอ่านเรื่องราวของพวกเขา ค่ะ
ครูอาจารย์ที่มาร่วมงาน สานรักธาตุทอง ครั้งที่ 4 ค่ะ พิธีแสดงมุทิตาจิต ครู อาจารย์ ค่ะ
ร่วมถ่ายรูปกับลูกศิษย์ก่อนกลับ ค่ะ
ชู และ อ๊อด (จาก ธาตุทอง 2 ส ) ก็มาร่วมงานด้วย ค่ะ
วันที่ 25 วันนี้ ฉันไปเยี่ยมพ่อ เยี่ยมแม่ และพี่สาว ที่สุสาน หัวกุญแจ ซึ่งพวกเราจะไปเยี่ยมท่านที่สุสานทุกปี ค่ะ
น้องสะใภ้ หลานสะใภ้ หลาน เหลน และโหลน ด้วย ค่ะ
สุสานของพ่อกับแม่ของฉัน ค่ะ
หลังจากไหว้แม่ พ่อ แล้ว ก็ไปไหว้สุสานของพี่สาวซึ่งฝังอยู่ไม่ไกล จากสุสานของพ่อและแม่ หลังจากนั้น พวกเราลาพ่อ ลาแม่ ลาพี่สาว แล้วเก็บอาหารที่ไหว้ขึ้รถ มาที่ลานโถงกว้างเพื่อกินข้าวก่อนกลับบ้าน
ก่อนกลับบ้านหลังจากที่เรามาเยี่ยมพ่อเยี่ยมแม่ ฉันต้องให้เหลนฉันพา ฉันไปเยี่ยมอาจารย์สุภัทร อาจารย์ที่สอนฉัน ตอนฉันมาเรียนอยู่ที่ วิทยาลัยวิชาการศึกษา บางแสน ท่านเป็นทั้ง อาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์และเป็นทั้งแม่หอ คอยดูแลสารทุกข์สุกดิบของเหล่านิสิตหญิงประจำหอ 1 มาตลอด 4 ปีที่เรียนอยู่ที่นี่ ความรัก เคารพ จึงค่อนข้างผูกพันกัน ทุกปี ฉันต้องไปเยี่ยม หาซื้้อของบำรุงให้ท่าน และท่านก็จะถาม จะรอ ว่า ฉันจะไปเซ็งเม้งพ่อแม่ฉันเมื่อไหร่ เฮ้อ ! ไม่นึกเลยว่า ปีนี้ ฉันจะได้เยี่ยมแกเป็นปีสุดท้าย เหมือนมีลาง สังหรณ์ ก่อนอำลาจากกัน ท่านกอดฉันแน่น ไม่อยากจะปล่อย ให้ฉันกลับบ้านเลย กลับจากเยี่ยมท่าน ไม่กี่เดือน ท่านก็จากฉันไปด้วยวัย 86 ปี ค่ะ
อาจารย์สุภัทร อาจารย์ที่ฉันรักและเคารพเสมอมา ค่ะ
วันที่ 27 หลังจากที่ประชุมการจัดงานกตัญญุตาแล้ว ฉันชวน นายก สุเทพ ไปเยี่ยมน้องแมวที่ป่วยอยู ร.พ. จุฬา สุเทพ ใจดี เป็นโชเฟ่อร์ขับรถพาพวกเราไปเยี่ยมน้องแมว ซึ่งป่วยเป็น มะเร็งขั้นสุดท้าย (เคยเป็นแล้วหายแต่กลับมาเป็นอีกรอบ) เห็นแล้วเราก็สะเทือนใจเนาะ ก็ได้แต่ปลอบใจให้น้องแมวสบายใจ พยายามคุยกับแกให้คลายเครียด แต่ดูแล้ว แกคงทำใจได้ สีหน้ายังยิ้มและใจก็สู้ นะ เฮ้อ !
ไปเยี่ยมน้องแมว น้องหมวดภาษาไทยด้วยกัน ค่ะ
วันที่ 31 เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ที่ชมรมครูเก่า ฯ ได้ร่วมมือกับหน่วย งานอีก 7 หน่วยงาน จัดงาน วัน กตัญญุตา ให้ศิษย์เก่าและครูเก่า มีโอกาสได้มาพบปะสังสรรค์และให้ศิษย์เก่าได้ ทำการเคารพแสดงความกตัญญูต่อ ครูอาจารย์ ค่ะ มาชมภาพในงาน กตัญญุตาครั้งที่ 1 ค่ะ
ผอ.วรรณา และ น้องวรรณา (ชื่อใหม่ น้องธัญญวรรณ) รุ่น 6/9 เด็กประจำชั้น ก็มาร่วมงานด้วย
ลูกหมี ก็มาร่วมงาน ค่ะ
นิสา นำตะกร้าสาน มามอบให้ครูอาจารย์ที่มางาน ค่ะ ฉันก็ได้รับตะกร้าด้วย ค่ะ ใบใหญ่ใส่ของได้เยอะ อิอิ ถ่ายหมู่ ค่ะ
ลูกส้ม ลูกฉาย ขอถ่ายรูปด้วย อิอิ
มีการเลี้ยงพระอุทิศส่วนกุศลแก่ครูและบุคลากรในโรงเรียนที่ล่วงลับค่ะ
เตรียมพร้อมทำพิธีมุทิตาจิต ค่ะ
มอบมาลัยแด่ ครูอาวุโส มุทิตาจิต ค่ะ
งานกตัญญุตา ครั้งที่ 1 ก็ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ถึงแม้ว่า งานจะขลุกขลัก ไปบ้าง เนื่องจากเป็นการจัดงานครั้งแรก ศิษย์เก่ามาน้อยเกินความคาดหมาย ซึ่งสาเหตุมาจาก เวลาในการจัด งาน มีการเตรียมตัวน้อยไป และจัดงาน ในวันเสาร์ ซึ่งศิษย์เก่าบางส่วนยังต้องทำงานอยู่ แต่โดยส่วนรวม พวกเราชมรมครูเก่าและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำงานครั้งนี้ ก็ภูมิใจและมีการประเมินผลการจัด งาน เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไปค่ะ
บันทึกทวาทศมาสประจำเดือน มีนาคม ก็มีเรื่องราวเพียงเท่านี้ค่ะ โปรด ติดตามในเดือนเมษายนต่อไป นะคะ
Create Date : 26 มกราคม 2562 |
Last Update : 27 มกราคม 2562 18:27:55 น. |
|
27 comments
|
Counter : 1313 Pageviews. |
|
|