เรื่องบังเอิญที่นักลงทุนไม่อยากเจอ

.




การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 30 ณ กรุงลอนดอนปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์โดยประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าเหรียญทองแซงโค้งสุดท้ายเอาชนะประเทศจีนไปได้อย่างงดงาม นักกีฬาไทย 37 คนประสบความสำเร็จด้วยการนำ 2 เหรียญเงินและ 1 เหรียญทองแดงกลับมาให้ชาวไทยชื่นชมและมีความสุขกันทั้งประเทศ สำหรับกีฬามวยสมัครเล่นรุ่นไลท์ฟลายเวทนั้น แม้ “แก้ว พงษ์ประยูร” ชกได้อย่างยอดเยี่ยมและสมศักดิ์ศรี แต่ผู้ตัดสินบนเวทีและกรรมการให้คะแนน “บังเอิญ” ให้ โจว ซื่อหมิง นักมวยชาวจีนเอาชนะคะแนนแก้วของไทยไป 13-10 ชนิดค้านสายตาและขัดความรู้สึกของผู้ติดตามชมทั่วโลก แม้จะเป็น “เรื่องบังเอิญ” แต่ผู้สนับสนุนเกือบทุกรายก็ยินดีที่มอบ “เงินรางวัล” เป็นขวัญกำลังใจให้ “แก้ว” ราวกับได้เหรียญทองกันเลยทีเดียว


เส้นทางการลงทุนไม่ได้ “โรยด้วยกลีบกุหลาบ” เสมอไป บ่อยครั้งที่นักลงทุนต้องทำหน้าที่เสมือนเป็น “กรรมการ” พิจารณาให้คะแนนบริษัทจดทะเบียนก่อนตัดสินใจลงทุน ดังนั้น นักลงทุนแต่ละคนจึงมีโอกาสที่จะ “บังเอิญ” ตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัทที่มีลักษณะดังต่อไปนี้


หุ้นตะวันตกดิน เป็นหุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมตกต่ำหรือตัวกิจการเองมีศักยภาพในการแข่งขันลดลง สินค้าเดิมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทไม่สามารถขยายตลาดและเติบโตต่ำกว่าอุตสาหกรรมเฉลี่ยและคู่แข่งโดยรวม สูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาด รายได้คงที่หรือเติบโตน้อยในช่วงที่ผ่านมาและในอนาคต กิจการในอุตสาหกรรมเดียวกันเริ่มสู่ภาวะถดถอยหรือย้ายฐานการผลิตเนื่องจากต้นทุนธุรกิจและค่าแรงที่ไม่สามารถแข่งขันได้ มีสินค้าทดแทนจากแหล่งอื่น ส่งผลกระทบด้านลบต่ออัตราการทำกำไร กำไรสุทธิ ฐานะทางการเงิน การจ่ายเงินปันผล หุ้นเหล่านี้แม้จะซื้อขายในราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่ก็ไม่มีแรงจูงใจที่มากระตุ้นให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้ ผู้ถือหุ้นควรมีคุณสมบัติพิเศษคือ ใจเย็น อดทน รอได้ และไม่หวังผลตอบแทนที่สูงนัก


หุ้นสภาพคล่องต่ำ คือหุ้นที่มีการซื้อขายต่อวันในปริมาณน้อย แม้กิจการมีการเติบโตทั้งยอดขายและกำไรดีแต่ก็เป็นหุ้นที่เรียบง่าย และไม่โดดเด่นมากนัก จึงถูกมองข้ามหรือไม่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนพอร์ตใหญ่ ราคาหุ้นในอดีตจึงมีส่วนต่างความปลอดภัย (Margin of Safety) สูง การซื้อหุ้นเหล่านี้แม้ในปริมาณไม่มากราคาหุ้นอาจปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หากต้องการซื้อในปริมาณมาก นักลงทุนต้องไม่ลืมว่า ต้องใช้เวลาในการขายนานกว่าปกติและอาจต้องยอมขายต่ำกว่าราคาตลาดด้วย ทั้งนี้ก็เพราะอำนาจต่อรองในการทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นกลุ่มนี้จะอยู่ตรงข้ามกับผู้ซื้อหรือผู้ขายเสมอ ดังนั้น นักลงทุนต้องคำนึงถึงส่วนต่างความปลอดภัยที่มากพอก่อนที่จะตัดสินใจเข้าลงทุนหุ้นกลุ่มนี้


หุ้นผู้บริหารรวย ผู้ถือหุ้นจน บริษัทต้องเปิดเผยค่าตอบแทนของกลุ่มผู้บริหารระดับสูงในรายงานประจำปีหรือแบบรายงาน 56-1 ในบางกรณีเราจะพบค่าตอบแทนของผู้บริหารอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเปรียบเทียบขนาด ยอดขาย กำไร อัตราการเติบโต ความรับผิดชอบ และเมื่อเทียบกับเงินปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้น บางบริษัทนอกจากไม่จ่ายเงินปันผลแล้วยังประกาศ “เพิ่มทุน” จากผู้ถือหุ้นเดิมเนื่องจากสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่และเป็นวิธีระดมเงินทุนเดียวที่เหลืออยู่ บริษัทบางแห่งแม้สถานะการเงินไม่ดีนักแต่ก็ยังใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวังแต่เพื่อภาพพจน์ของบริษัทและผู้บริหารก่อนคำนึงถึงประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น หุ้นเหล่านี้จึงเหมาะกับนักลงทุนใจบุญที่ชอบลงทุนแต่ไม่หวังผลตอบแทน และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนเงินเพิ่มทุนหากบริษัทต้องการ


หุ้นข่าวลือ คือการซื้อขาย “ตาม” นักลงทุนอื่นโดยไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานของกิจการ หลักการลงทุนก็คือการคอยฟังคำแนะนำจากผู้หวังดีรอบตัวว่า หุ้นตัวนั้นจะมีผลประกอบการที่ดี กำลังจะมีแผนงานชิ้นโบว์แดง หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ราคาจะต้องปรับตัวสูงขึ้นไปที่ราคาเป้าหมายแน่นอน เมื่อข่าวแพร่ขยายวงกว้างมากขึ้นก็จะมีนักลงทุนสนใจเข้ามาซื้อขายและราคาหุ้นก็จะตอบสนองในเวลาต่อมา


ข้อเสียของการซื้อหุ้นเหล่านี้คือ หากข่าวลือไม่ใช่เรื่องจริง ราคาหุ้นจะตกลงมาอย่างรวดเร็วโดยไม่สนราคาเป้าหมาย นักลงทุนจะขาดทุนอย่างมากและรวดเร็ว แต่หากข่าวลือคือเรื่องจริง บริษัทนั้นก็ดูเหมือนว่าไม่มีธรรมาภิบาลที่ดี ไม่ปฏิบัติและเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน การลงทุนหุ้นชนิดนี้ต้องติดตามราคาและข่าวอย่างใกล้ชิดเพื่อให้แน่ใจว่า ตนเองได้รับข้อมูลล่าสุดอยู่เสมอ อาจเรียกหุ้นชนิดนี้ว่า “หุ้นหลับไม่สนิท” หรือ “หุ้นค่ายมือถือชอบ” นั่นเอง


หุ้นผู้บริหารเล่นหุ้น ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนจำเป็นต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ (แบบ 59-2) หากซื้อขายหุ้นของบริษัทตน อย่างไรก็ตาม มีผู้บริหารบางท่านรายงานการซื้อขายบ่อยครั้งจนรู้สึกได้ว่า มีความสนใจลงทุนหุ้นโดยอาจจะไม่ได้ทุ่มเททำหน้าที่ของตนอย่างเพียงพอ นอกจากนี้อาจมีผู้บริหารอีกจำนวนหนึ่งที่ใช้ “นอมินี”ในการซื้อขายหุ้นของตนหรือบริษัทอื่นเพื่อไม่ต้องรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ นักลงทุนจึงต้องพิจารณาเลือกลงทุนในกิจการที่ผู้บริหารทุ่มเทเวลาให้กับบริษัทเพื่อความเติบโตอย่างยั่งยืน


แม้จะเคยได้ผลตอบแทนที่ดีจากหุ้นที่กล่าวมาข้างต้น นักลงทุนต้องมั่นใจว่าเป็นแนวทางที่สร้างผลตอบแทนต่อเนื่องยาวนาน ในฐานะ Value Investor ที่ดี ต้องหมั่นเรียนรู้และพัฒนาแนวทางการลงทุนของตนเอง กล่าวกันว่า กิจกรรม “การเรียนรู้ ความเข้าใจและการนำไปใช้” มีระดับความลึกซึ้งมากน้อยแตกต่างกัน กล่าวคือ การฟังบรรยาย 5% อ่านหนังสือ 10% ใช้สื่อช่วย 20% ดูการสาธิต 30% ถกเถียงอภิปราย 50% ได้ทดลองทำ 75% และท้ายที่สุดคือการนำมาสอนผู้อื่น 90% คงต้องขึ้นอยู่กับนักลงทุนแต่ละคนว่าต้องการมีระดับมีความลึกซึ้งในการลงทุนมากน้อยเพียงใด


ธันวา เลาหศิริวงศ์
ประชาชาติธุรกิจ

Create Date : 25 สิงหาคม 2555		0 comments
Last Update : 25 สิงหาคม 2555 6:14:18 น.
Counter : 1866 Pageviews.
Share Tweet