Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
6 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
ตลาดน้ำตลิ่งชัน กลิ่นอายชีวิตชนบท กลางเมืองกรุง/เรื่องเล่านศ.



     “ตลาดน้ำตลิ่งชัน กลิ่นอายชีวิตชนบท กลางเมืองกรุง” เป็นบความแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว จากฝีมือลายมือการเล่าเรื่องราวของ “เบญจมาพร ขันทอง” นักศึกษาชั้นปี 4 คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในผู้เขียนคอลัมภ์ “เอกเขนก” ถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัย ปีที่ 51 ฉบับที่ 3 ..ลองมาสัมผัสบรรยากาศสบายๆ ต้อนรับฤดูเศรษฐกิจน้ำมัน ด้วยลีลาการเล่าเรื่องของเบญจมาพร กันเลยดีกว่า

     สายลม ผสมละอองน้ำ จากคลองชักพระ พัดมาปะทะใบหน้า พาให้เส้นผมปลิวสยายไปตามแรงลม เสียงเรือยนต์ขนาดใหญ่ ผ่อนเร่งเป็นจังหวะ สอดรับกับเสียงไกด์สาวท้ายเรืออย่างลงตัว ฉันนั่งอยู่กลางลำเรือ สอดส่ายสายตาไปสอดส่องวิถีชีวิตของผู้คนริมสองฝั่งคลองที่ครั้งหนึ่งเคยถูกขนานนามว่า “เวนิสตะวันออก” ในขณะที่หูก็ตั้งอก ตั้งใจสดับฟังความรู้ใหม่เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้จากพี่ฟ้า ไกด์ประจำเรือ ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวมากมายให้นักท่องเที่ยวฟังไปเรื่อยตลอดเส้นทาง แต่มีประโยคหนึ่ง ซึ่งสะดุดหูและสะดุดใจเข้าอย่างจัง

“ทุกท่านที่มานั่งเรือกับเราวันนี้ อาจรู้สึกว่าไม่มีอะไร แต่เราอยากให้ท่านได้ซึมซับชีวิตกลิ่นอายชนบท ในเขตกรุงเทพมหานครที่หาดูได้ยากเต็มที ท่ามกลางสภาพสังคมในปัจจุบัน”

สิ่งนี้ทำให้ฉันดั้นด้นมาหาคำตอบถึงที่นี้ “ตลาดน้ำตลิ่งชัน”


     รถ ปอ.สาย 79 ที่วิ่งผ่านย่านศิวิไลซ์ ใจกลางเมือง จากมาบุญครอง สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ พาฉันวิ่งผ่านเลยมายังสถานที่ ซึ่งน้อยคนนักจะคิดฝันว่า ยังหลงเหลือให้เห็นในเมืองกรุง ครั้งแรกที่ฉันได้ยินจากปากต่อปากว่า ในกรุงเทพฯ ก็มีตลาดน้ำกับเขาเหมือนกัน ชื่อว่า “ตลาดน้ำตลิ่งชัน” ตอนนั้นฉันคิดว่าคงเป็นตลาดน้ำเล็กๆ ไม่ค่อยมีผู้คนมากมาย แต่เมื่อได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ที่นี่กลับมีอะไรมากกว่าที่คิดไว้

     เริ่มจากทางเข้า เป็นตลาดต้นไม้เต็มไปด้วยร้านขายต้นไม้ผล ไม้ดอก ไม้ประดับ กอปรกับอุปกรณ์ตกแต่ง และดูแลต้นไม้ที่มีให้เลือกมากมายจนลานตา เชื่อว่า ถ้าใครเป็นนักปลูกต้นไม้ หรือหลงใหลในสีเขียวชอุ่มของพันธ์พืช คงเดินชมพลางช็อปกันเพลินจนลืมกลับบ้านเลยทีเดียว

     ถัดจากโซนต้นไม้เข้าไปอีกหน่อย ก็ถึงโซนของตลาดน้ำที่นี่มีพ่อค้าแม่ค้า พายเรือมาเทียบท่า พร้อมด้วยอาหารนานาชนิด รอให้บริการนักชิมมาลิ้มรส ผัดไท หอยทอด หมูสะเต๊ะกับน้ำจิ้มรสเด็ด ก๋วยเตี๋ยวเรือ ปลาย่างเกลือ หอยแครง หอยแมลงภู่ ปูสดๆ ย่างพร้อมเสิรฟ์ด้วยน้ำจิ้มซีฟู๊ด ส้มตำสุดแซบ ตบท้ายด้วยขนมหวานอย่างซ่าหริ่ม ทับทิมกรอบ ลอดช่อง แตงไทยน้ำกะทิ แค่นึกถึงก็น้ำลายสอแล้ว

     หากใครที่ซื้อไปรับประทานที่บ้านก็จะดูไม่ได้บรรยากาศ ที่นั่นจึงมีโป๊ะแพขนาดยาว พร้อมตั้งโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆ เรียงรายไว้อย่างเป็นระเบียบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวนำอาหารที่ซื้อมานั่งรับประทานที่ริมคลองกันอย่างสบายอารมณ์ สังเกตได้ว่า ที่นี้มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมากไม่ใช่เพียงแค่ตลาดน้ำเล็กๆ อย่างที่คิดไว้เสียแล้ว

     ทริปนี้ นอกจากจะได้สัมผัสกับตลาดน้ำริมคลอง โดยไม่ต้องไปไกลถึงอัมพวา หรือดำเนินสะดวกแล้ว ฉันจึงตัดสินใจเลือกนั่งเรือท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ทัวร์คลองในเขตตลิ่งชันที่เขาจัดไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว ทัวร์นี้พาล่องเรือไปตามคลองชักพระ คลองบางน้อย และคลองลัดมะยม สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ วิถีชีวิตริมคลองตลอดเส้นทาง โดยมีสองไกด์สาว อย่าง พี่ออฟ และพี่ฟ้า ทำหน้าที่เล่าเรื่องราวประวัติศาตร์ของพื้นที่ต่างๆ ที่เรือแล่นผ่านเป็นระยะ บางครั้งก็ชี้ชวนให้ชมบ้านทรงไทยโบราณ บ้านทรงไทยล้านนาที่หาดูยากในสมัยนี้แต่ยังมีให้เห็นที่ตลิ่งชัน

     เราได้เห็นพันธุ์ไม้แปลกตาริมสองฝั่งคลองตามคำบอกเล่าของไกด์ ไมว่าจะเป็น กล้วยพัด ต้นกล้วยขนาดใหญ่ สูงประมาณต้นมะพร้าว แต่ใบคลีมีขนาดคล้ายพัด ซึ่งเขาปลูกไว้ตกแต่งบ้าน กล้วยร้อยหวีที่ในต้นหนึ่งมีหวีเป็นร้อยสมชื่อ กล้วยนาค กล้วยที่มีสีออกน้ำตาลแดง ผิดธรรมชาติ ต้นสาเกที่มีผลคล้ายขนุน แต่เล็กกว่า สามารถนำลูกมารับประทานได้ ที่นิยมมากที่สุดคือการนำไปเชื่อม รสชาติคล้ายเป็นมันเชื่อม นอกจากนี้ยังมีต้นลำพู อันเลื่องชื่อที่เป็นบ้านของเจ้าหิ่งห้อยแสนสวย

ล่องเรือมาได้สักพักก็ถึงจุดหมาย ทัวร์พาเราแวะวัด เข้าสักการะหลวงปู่ดำ อันศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพของชาวบ้านในละแวกนี้ เรียบร้อยแล้วก็พานั่งเรือต่อไปอีกนิด เพื่อหยุดซื้อข้าวหลามซึ่งเป็นของฝากขึ้นชื่อของที่นี้

     ต่อจากนั้นเรือก็พาเราเข้าสู่ท่าน้ำหน้า “วัดปากน้ำฝั่งใต้” เพื่อให้อาหารปลา ปลาที่นี้มีมากมาย สมกับเป็นเขตอภัยทาน ส่วนอาหารที่ไว้ให้บริการจะเป็นขนมปังปอนด์ ที่ทางวัดจำทำขึ้นมาเอง ซึ่งรายทั้งหมดทางวัดจะนำไปบูรณะปฏิสังขรณ์ส่วนต่างๆ ที่ทรุดโทรม

จากนั้นมาชมสถานที่สุดท้าย นั่นคือ สวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่ ที่มีกล้วยไม้สวยๆ นานาชนิด เดินชมจนรอบสวน โดยมีคุณลุงใจดี เจ้าของสวนนำชม คอยบอกว่ามีพันธุ์อะไรบ้าง ทั้งยังอธิบายถึงวิธีการเลี้ยงกล้วยไม้ให้ออกดอกสะพรั่งอย่างสวยงามและสมบูรณ์ ขากลับใครสนใจอยากได้กล้วยไม้ไปปลูกที่บ้าน ที่นี้จำหน่ายในราคาส่งอีกด้วย

     เวลาล่วงเลยมา 2 ชั่วโมงเต็ม แต่ฉันกลับรู้สึกว่า เพิ่งออกจากท่าเมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง ราคาตั๋วเที่ยวนี้ 90 บาท คุ้มค่าเกินบรรยาย นั่งเรือขากลับสาวไกด์บอกว่า เดี๋ยวนี้หาสวนให้นักท่องเที่ยวชมยากเต็มที เพราะนายทุนต่างชาติเข้ามากว้านซื้อที่ไปสร้างบ้านจัดสรรกันหมด ฟังแล้วสะท้อนใจ เสียดายธรรมชาติ เสียดายชีวิตอันเรียบง่ายที่กำลังโดนสังคมเมืองกล้ำกราย เพราะฉะนั้นถ้าหากใคร อยากสัมผัสบรรยากาศเก่าๆ ที่หลงเหลืออยู่ในเมืองกรุง แนะว่าให้รีบไปเที่ยว ก่อนที่จะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป ก่อนกลับ ฉันไม่ลืมที่จะล่ำลาเพื่อนใหม่

“รักษาตัวให้ดีนะ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่ ตลาดน้ำตลิ่งชัน”


ขอขอบคุณ
ที่มา :
ผู้จัดการออนไลน์ 1 สิงหาคม 2551

H O M E



Create Date : 06 สิงหาคม 2551
Last Update : 6 สิงหาคม 2551 15:50:56 น. 0 comments
Counter : 1142 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.