Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
25 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ไปรษณียบัตรรัชกาลที่ 5 เทิดพระเกียรติพระปิยมหาราช


เป็นข่าวเก่า แต่เนื่องจากมีเนื้อหาที่น่าสนใจ และเป็นความรู้อย่างมาก "สนามหลวงแก็งค์"จึงนำมาเผยแพร่เพื่อให้ได้ศึกษาต่อไป

โดย ทีมข่าวเฉพาะกิจ"มติชน"

*23 ตุลาคมของทุกปีเป็น "วันปิยมหาราช" วันสำคัญของชาวไทยที่จะร่วมกันน้อมดวงใจรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อชาวไทยและประเทศไทย ด้วยเป็นผู้วางรากฐานระบบต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าด้านการศึกษา การคมนาคม การค้าขาย ราชการงานเมืองต่างๆ และที่ยิ่งใหญ่สำคัญที่สุดก็คือ "การประกาศเลิกทาส"

จึงทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่คงอยู่ในใจราษฎรไทยตราบถึงทุกวันนี้

เพราะพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีอย่างยิ่งใหญ่เหลือคณานี่เอง ทุกปีหน่วยราชการต่างๆ พสกนิกรทั่วหล้าจึงพากันไปถวายบังคม ณ พระบรมรูปทรงม้าบริเวณลานพระบรมรูป ข้างหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม มิเคยขาด อีกทั้งยังจัดงานต่างๆ เป็นการเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงทุกปี

เรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รับการเล่าขานผ่านกาลเวลาด้วยการบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ทั้งในรูปหนังสือ บทพระราชนิพนธ์ การช่าง การเสด็จประพาสต้น พระบรมฉายาลักษณ์ และแม้กระทั่งตำราประกอบอาหาร เรามักจะเห็นทั้งพระบรมฉายาลักษณ์และพระบรมสาทิสลักษณ์ ที่ทรงกำลังปรุงอาหาร ติดอยู่ตามร้านขายอาหารภัตตาคารต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคล ทำให้ทำมาค้าขึ้น

เรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ถือเป็นของสำคัญยิ่งเทียบเท่ากับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชาติไทย ก็คือ "ไปรษณียบัตร" รัชกาลที่ 5 ที่มีขึ้นอย่างแพร่หลายในสมัยของพระองค์ และเป็น "ของสะสม" ที่นักสะสมของเก่าควานหานำมาเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัว

เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นการเทิดพระเกียรติของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 ซึ่งได้ชื่อว่าทรงเป็นพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย สำนักพิมพ์มติชน ได้จัดพิมพ์หนังสือประมวลภาพชื่อ "ประมวลภาพ ไปรษณียบัตร รัชกาลที่ 5" ฝีมือการรวบรวมและเรียบเรียงโดย "ไกรฤกษ์ นานา" ที่จัดการรวบรวมเรียบเรียงออกมาเป็นเรื่องน่าอ่าน และน่าสะสมเป็นความรู้ และเป็นสมบัติให้รุ่นลูกรุ่นหลาน

ขณะนี้กำลังวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือติดต่อสอบถามจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ฝ่ายจัดจำหน่าย บริษัท งานดี จำกัด โทร.0-2580-0021 ต่อ 3324 และ 3327

การที่ไกรฤกษ์ นานา ได้รวบรวมและจัดทำภาพไปรษณียบัตร รัชกาลที่ 5 เจ้าตัวบอกกล่าวไว้ว่าเป็นเพราะไปรษณียบัตร หรือโปสการ์ดเก่าของสยาม ถือเป็นสิ่งพิมพ์โบราณประเภทหนึ่งที่มีคนพูดถึงน้อยที่สุดในบรรดาสิ่งตี พิมพ์จากอดีต นอกจากจะผลิตจำนวนน้อยแล้ว ยังแพร่หลายอยู่เฉพาะอภิสิทธิ์ชนบางกลุ่มที่ต้องติดต่อกับญาติมิตรในต่างประเทศเท่านั้น


*" และการที่คนไทยไม่ใช่นักอ่าน นักเขียน ทำให้สื่อประเภทนี้แทบจะสูญหายไปอย่างรวดเร็ว ขาดการดูแลเอาใจใส่อย่างต่อเนื่องจนไม่มีใครสนใจที่จะเก็บเป็นอนุสรณ์สำหรับคนรุ่นหลังเลย ในฐานะที่เป็นนักเดินทางโดยอาชีพ จึงมักพบสิ่งพิมพ์ประเภทนี้ตกค้างอยู่ในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ภาพเมืองไทยในมุมมองแปลกๆ ที่คนไทยไม่เคยเห็น แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวต่างประเทศหลงใหล และอยากมาชม คนตะวันตกที่มีภาพเก่าของเมืองไทยอยู่ในมือจึงนิยมเก็บสะสมไว้อย่างหวงแหน"

ถึงวันนี้โปสการ์ดเก่าเมืองไทยได้วิวัฒนาการเป็นของสะสมประเภทหนึ่งที่คนไทย เอื้อมไปไม่ถึง ที่พบอยู่บ้างก็มักจะหมุนเวียนอยู่ในวงแคบๆ เช่น ได้มาโดยบังเอิญ เพราะติดมากับแสตมป์ที่สะสม เป็นต้น

ผู้ประมวลภาพเล่าว่า ในจำนวนไปรษณียบัตรสยามที่เผยแพร่ภาพเมืองไทยยุคแรกๆ ประกอบด้วยภาพวิจิตรตระการตาของพระบรมมหาราชวัง วัดวาอาราม แม่น้ำลำคลอง และผู้คนสมัยรัชกาลที่ 5

สำหรับไปรษณียบัตรในเมืองไทย เริ่มพิมพ์จำหน่ายตั้งแต่ปี พ.ศ.2426 หลังจากสยามหรือประเทศไทยสมัครเข้าเป็นสมาชิกขององค์การไปรษณีย์สากลแล้ว

นอกจากภาพวิวแล้วยังมีภาพอีกแนวหนึ่งที่ประชาสัมพันธ์พระราชวงศ์จักรีสอดแทรกอยู่ด้วย ภาพแบบหลังนี้มีทั้งที่พิมพ์ขึ้นในสยามประเทศ และจากต่างประเทศ บ่งบอกถึงเรื่องราวในราชสำนัก และพระราชกรณียกิจต่างๆ ของรัชกาลที่ 5 ภาพพิเศษหมวดนี้เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของไปรษณียบัตรกรุงสยามที่คนในปัจจุบัน เสาะแสวงหากันมาก เพราะผลิตจำนวนน้อยมาก

การรวบรวมไปรษณียบัตรมาเรียบเรียงเป็นเรื่องราวให้คนรุ่นหลังได้เห็นของ ไกรฤกษ์ นานา จึงถือเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราช องค์ผู้ริเริ่มการเขียนไปรษณียบัตรและการจัดส่งไปรษณียบัตร ทางไปรษณีย์ของประเทศไทย

และยังถือเป็นการรำลึกถึงการเก็บสะสมโปสการ์ดอย่างเป็นทางการครบ 100 ปี ระหว่างการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 ในปี 2450 รวมทั้งเป็นการรำลึก 100 ปีของการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2 และหนึ่งศตวรรษของกำเนิดพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5


*ตำนานของ "ไปรษณียบัตร" หรือ "โปสการ์ด" ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย แต่เกิดในยุโรป ส่วนไปรษณียบัตรในไทยเริ่มมีให้เห็นเมื่อประมาณปี 2426 ในปีเดียวกับที่แสตมป์ไทยชุดแรกออกวางจำหน่ายนำออกมาใช้พอดี หลักฐานเก่าสุดที่ค้นพบปรากฏอยู่ในหนังสือพิมพ์สยามไสมย ของหมอสมิธ เล่ม 2 แผ่นที่ 7 ฉบับวันพุธขึ้น 1 ค่ำ เดือน 12 ปีมะแม จ.ศ.1245

ไปรษณียบัตรสยามรุ่นแรก พ.ศ.2426 เป็นแผ่นกระดาษสีเหลืองเข้ม มีตราแผ่นดินและแสตมป์ไทยชุดแรก (รุ่น 1) พิมพ์ติดอยู่บนเนื้อกระดาษ เนื้อที่ครึ่งล่างด้านหน้าเว้นไว้จ่าหน้าชื่อที่อยู่ของผู้รับ ส่วนด้านหลังว่างเปล่าไว้สำหรับเขียนข้อความ

ไปรษณียบัตร หรือโปสการ์ดเมืองไทย สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งพบในปัจจุบัน ไกรฤกษ์ นานา ได้จำแนกออกเป็น 8 กลุ่มใหญ่ คือ--

1. จัดพิมพ์และจำหน่ายโดยร้านถ่ายรูป เจ. อันโตนิโอ ชาวอิตาเลียน จากจำนวนที่พบน่าจะบอกได้ว่ามีปริมาณมากที่สุด และน่าจะเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯด้วย ตั้งอยู่ปากตรอกชาเตอร์แบงค์ มีทั้งรูปวิวและรูปในหลวง (รัชกาลที่ 5) ปกติจะพิมพ์คำว่า "Photo by J. Antonio"s Studio-Bangkok" ติดอยู่ด้วยเสมอ

2. จัดพิมพ์โดยห้องภาพ บริษัท สยาม โฟโต้ ซัพพลาย

3. จัดพิมพ์โดยร้านถ่ายรูปของนายโรเบิร์ต เลนซ์ ชาวเยอรมัน และมักจะพิมพ์ชื่อไว้เสมอว่า Robert Lenz & Co. Bangkok นายเลนซ์เป็นช่างภาพหลวง จึงมีโอกาสถ่ายรูปในหลวงและพระบรมวงศานุวงศ์ไว้เป็นจำนวนมากพอๆ กับภาพวิว ร้านนี้ตั้งขึ้นในรัชกาลที่ 5 ที่หัวมุมถนนตีทอง เยื้องโรงภาพยนตร์เฉลิมกรุง (ปัจจุบันคือร้านแว่นตาเฉลิมกรุง) ฝีมือดีมาก มีข้อสังเกตว่ารูปถ่ายร้านนายเลนซ์จะมีราคาสูงกว่าที่อื่นๆ

4. จัดพิมพ์โดยร้านนายก็อตตี ชาวเยอรมันอีกคนหนึ่ง โดยปกติจะพิมพ์กำกับรูปเป็นภาษาเยอรมันว่า Gotty & Co.,Buchdruckerei, Bangkok (Siam) ที่น่าสนใจคือรูปจากร้านนายก็อตตีจะมีดีไซน์แนวยุโรปแปลกตาให้เห็นเสมอ เช่น แบ่งเป็นช่องมีภาพวิวหลายรูปเรียงกันอยู่ มีดอกไม้ ลวดลายประดับงดงาม แต่พบน้อยกว่าห้างอื่นๆ

5. จัดพิมพ์โดยโรงพิมพ์ไทย ร้านอยู่ที่สะพานยศเส มีชื่อภาษาอังกฤษระบุว่า Thai Printer

6. จัดพิมพ์โดยร้านถ่ายรูปพร้อม ของนายเอบาตา ชาวญี่ปุ่น ซึ่งมักจะพิมพ์ชื่ออยู่บนหลังโปสการ์ดว่า Y. Ebata นอกจากเป็นร้านถ่ายรูปแล้วยังเป็นร้านขายของเบ็ดเตล็ดอื่นๆ เช่น เสื้อผ้าและของที่ระลึกจากญี่ปุ่น ร้านของนายเอบาตาอยู่ต่อมานานกว่าร้านอื่นๆ

7. เป็นกลุ่มที่ไม่ระบุแหล่งพิมพ์แน่นอน หรือไม่ลงชื่อร้านที่ผลิต คาดว่าผลิตในกรุงเทพฯ

8. เป็นโปสการ์ดที่เดินทางมาไกลจากยุโรป มีหลากหลายชื่อ จากห้องภาพนานาชาติ ยากจะบอกได้ว่ามีใครบ้าง ทุกวันนี้ยังพบชื่อใหม่อยู่เรื่อยๆ ขึ้นอยู่ว่าจะพบเข้าในประเทศไหน โดยมากเป็นภาพในหลวงหรือเจ้านาย ส่วนใหญ่จะเป็นภาพพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 5 ระหว่างเสด็จประพาสยุโรปทั้งสองครั้ง หรือพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงฉาย ณ ห้องภาพตามเมืองใหญ่ๆ ที่ระบุชื่อผู้ผลิตไว้ก็มี

ในหลวงรัชกาลที่ 5 โปรดใช้คำว่า "โปสตก๊าด" ทับศัพท์ภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา จนติดปากชาวราชสำนักไปด้วย เลยกลายเป็นคำเฉพาะที่ตรัสถึงสื่อสิ่งพิมพ์ชนิดนี้

ภาพไปรษณียบัตรที่แพร่หลายอยู่ในยุคสมัยนั้น มิได้แพร่หลายอยู่เฉพาะการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่สองในปี 2450 เมื่อทรงเล่นกล้องอย่างขะมักเขม้นเท่านั้น แต่ยังพบว่ามีการพิมพ์ไปรษณียบัตรเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจตั้งแต่การ เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกในปี 2440 ด้วย ปัญหามีอยู่ว่า ไปรษณียบัตรเสด็จประพาสยุโรปเป็นของหายากมาก ทำให้คนรู้จักในวงแคบ ในขณะที่บางคนเข้าใจว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย

จากหลักฐานที่ปรากฏ คือพระราชหัตถเลขาที่ได้พระราชทานมายังสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทำให้อธิบายได้ว่า ไปรษณียบัตรกลายเป็นพระราชปฏิพัทธ์ในรัชกาลที่ 5 ที่คนไทยเราไม่เคยทราบมาก่อน ทรงเป็นนักสะสมโปสการ์ดด้วยความประทับพระราชหฤทัยในรูปภาพที่ติดมาด้วย ทรงโปรดปรานลวดลายใหม่ๆ ของโปสการ์ดทางยุโรป ที่นอกจากวิวแล้ว ยังมีรูปการ์ตูน รูปล้อการเมือง หรือภาพแบบสแนปช็อต ซึ่งเป็นที่นิยมในยุโรปแต่ยังมาไม่ถึงเมืองไทยในขณะนั้น

ไปรษณียบัตรรัชกาลที่ 5 ไม่เฉพาะว่าเป็นของสะสมที่มีคุณค่าเท่านั้น แต่ยังสามารถสะท้อนภาพจากพงศาวดารไทยหน้าหนึ่งได้ดีกว่าภาพประกอบทั่วไปในหนังสือพงศาวดารเสียอีก จึงเป็นที่เสาะแสวงหาในวงการนักสะสมตลอดเวลา ชิ้นที่มีราคาสูงที่สุดในปัจจุบันก็มักจะเกี่ยวเนื่องด้วยการเสด็จประพาส ยุโรป

เพราะถือว่าเป็นอุบัติการณ์สำคัญประจำรัชกาลที่ 5 เป็นพระราชกรณียกิจที่เป็นสิริมงคลและมีความหมายต่อประเทศชาติยิ่ง

Credit : มติชนรายวัน 23 ตุลาคม 2551 หน้า 20

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 25 กรกฎาคม 2553
Last Update : 25 กรกฎาคม 2553 9:41:29 น. 0 comments
Counter : 2018 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.