ปาหี่..รถเมล์ฟรี คนจนได้ไม่ทั่วฟ้า
ในที่สุดก็เผยไต๋ให้เห็นกันโต้งๆ ที่ว่า รู้ลึกรู้จริงเรื่องขนส่งคมนาคม...ไม่สมราคาอวดตัว
แค่เรื่องให้คนจนได้ขึ้นรถเมล์ฟรี อันเป็น 1 ใน 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคน ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เห็นชัดว่ารู้ไม่จริง
แถมยังฟ้องให้เห็นอีกว่า เป็นมาตรการที่ไม่ได้ทำเพื่อคนจนทุกคน จริง...หากแต่เป็นมาตรการประชานิยม เอาตัวรอดทางการเมืองไปวันๆ โดยไม่คิดวางแผนเตรียมการล่วงหน้าเหมือนคนรู้ลึกรู้จริง
มาตรการรถเมล์ร้อนฟรี 800 คัน วิ่งสลับกับไม่ฟรี 800 คัน เป็นเวลา 6 เดือนหรือ 180 วัน รัฐบาลต้องควักเงินอุดหนุนมากถึง 1,244 ล้านบาท เป็นการลงทุนได้ผลไม่คุ้มค่า เพราะจ่ายแพงเกินจริงเกือบเท่าตัว
นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานชมรมรถร่วม ขสมก.ให้ ข้อสังเกต
เหตุที่แพงเกินจริง ก็เพราะว่า เงินภาษีที่รัฐบาลเอามาจ่ายชดเชยให้กับ ขสมก. 1,244 ล้านบาท เป็นค่ารถวิ่งฟรี 800 คัน 180 วัน
เมื่อเอามาคิดหารเฉลี่ย...ได้ผลลัพธ์ตัวเลขออกมาว่า รัฐบาลจ่ายเงินอุดหนุนให้กับ ขสมก.คันละ 8,639 บาท ต่อวัน
ตัวเลขนี่แหละฟ้อง...จ่ายแพงเกินจริง
ทุกวันนี้ รถเมล์ร้อน ขสมก.นั้น รถเมล์ร้อนครีมแดง ที่เก็บค่าโดยสาร 7 บาทตลอดสาย วันหนึ่งมีสถิติเฉลี่ยแล้วขายตั๋วได้ 603 ใบต่อคัน รวมมีรายได้คันละ 4,291 บาทต่อวัน
รถเมล์ร้อนขาว-เขียว ที่เก็บค่าโดยสาร 8 บาทตลอดสาย วันหนึ่งมีสถิติเฉลี่ยขายตั๋วได้ 572 ใบต่อคัน รวมแล้วมีรายได้เฉลี่ยคันละ 4,576 บาท
คิดเฉลี่ยแบบง่ายๆ ตัวเลขกลมๆ ทุกวันนี้รถเมล์ร้อนของ ขสมก. ที่จะเอามาวิ่งฟรีนั้นมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 4,400 บาทต่อคัน
แต่รัฐบาลกลับเอาเงินภาษีไปชดเชยให้ ขสมก.ได้ยังไงถึงคันละ 8,639 บาทต่อวัน
แพงเวอร์เกินจริงไปถึงเกือบเท่าตัว!!!
จ่ายให้ ขสมก.แพงมากขนาดนี้ อย่าว่าแต่วิ่งฟรีแค่ 800 คันเลย... เอารถเมล์ร้อนของ ขสมก.ที่มีอยู่ 1,600 คัน มาวิ่งฟรีทั้งหมดก็ยังได้เลย
เพราะที่จ่ายไป 1,244 ล้านบาทนั้น สามารถเหมาให้ ขสมก.วิ่งฟรี 6 เดือน ได้ถึง 1,570 คัน เลยทีเดียว
รัฐบาลจ่ายแพงเวอร์เกินจริงไปเพื่ออะไร เป็นเพราะรู้ไม่จริงรู้ไม่ทัน หรือมีการรั่วไหลไปตรงไหนหรือเปล่า
เป็นปุจฉาปริศนาให้คาดเดาไปเรื่อยเปื่อย อย่างไร้หลักฐานให้ พิสูจน์ทราบ
แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่าจ่ายเงินเวอร์แพงเกินจริงไปแล้ว ไม่สามารถทำให้คนจนได้ใช้บริการรถเมล์อย่างทั่วถึง เหมือนที่คุยไว้ในสโลแกน...6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทยทุกคน
ข้อพิสูจน์ในประเด็นนี้ ที่ว่ากันว่า รถเมล์ฟรีคนแย่งกันขึ้นเต็มตั้งแต่ต้นสาย คนจนที่อยู่กลางทางขึ้นไม่ได้ หมดโอกาสขึ้นรถฟรี ต้องเสียเงินอย่างเดียว...จะไม่ขอพูดถึง
เพราะเป็นเรื่องของการคาดเดา เหตุการณ์จริงยังมาไม่ถึง...
อาจจะเกิดก็ได้ ไม่เกิดก็ได้
แต่ที่มีหลักฐานว่า คนจน...จนแบบต้องพึ่งรถร้อนอย่างเดียว เพราะเป็นรถโดยสารสาธารณะที่มีค่าตั๋วถูกที่สุด จะไม่ได้ใช้บริการนี้อย่างทั่วถึง
นั่นก็คือ...ทุกวันนี้ รถโดยสารสาธารณะที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลนั้นมีทั้งหมด 453 เส้นทาง
ถ้าตัดจำนวนสายรถมินิบัส รถสองแถวเล็กในซอย และรถตู้ ปรับอากาศออกไป
จะเหลือเส้นทางให้รถเมล์ขนาดใหญ่รับส่งผู้โดยสาร ตั้งแต่สาย 1 (ถนนตก-ท่าเตียน) ไปจนถึง สาย 559 (ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-สนามบินสุวรรณภูมิ)...อยู่ทั้งหมด 227 เส้นทาง
เป็นของ ขสมก. 108 เส้นทาง...รถเอกชนร่วมบริการ 119 เส้นทาง
แต่มาตรการรถเมล์ฟรี 800 คัน...กลับให้ขึ้นได้ฟรีเฉพาะ ขสมก. แค่ 73 เส้นทางเท่านั้นเอง
ฝนตกไม่ทั่วฟ้า คนจนได้ใช้บริการรถเมล์ฟรีไม่ทั่วถึง
มองแค่ตัวเลขนี้ อาจจะไม่เป็นธรรมกับรัฐบาล เพราะ 227 เส้นทางรถเมล์นั้น รวมทั้งรถร้อนและรถ ปอ.
มาตรการที่ออกมา รัฐบาลแถลงชัดเจนต้องการช่วยคนจน ที่พึ่งรถเมล์ร้อน...คนขึ้นรถปรับอากาศมีฐานะ ไม่ควรได้ใช้บริการรถฟรี
มองเฉพาะเส้นทางสายรถเมล์ร้อนอย่างเดียว รายงานของ ขสมก. ณ เดือนมกราคม 2551 ระบุว่า มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 161 สายเส้นทาง
เป็นของ ขสมก. 82 เส้นทาง มีรถวิ่งรับส่งผู้โดยสาร 1,674 คัน
เป็นของรถเอกชนร่วมบริการ 79 เส้นทาง แต่มีรถให้บริการ 2,559 คัน
ที่รัฐบาลมีนโยบายให้ขึ้นฟรี ได้แค่ 73 เส้นทาง...แสดงว่า คนจนที่พึ่งรถเมล์มากกว่าครึ่งหนึ่ง หมดโอกาสที่จะได้ใช้บริการรถเมล์ฟรีตามที่รัฐบาลได้แถลงไว้
เฉพาะของ ขสมก.อย่างเดียว ก็ยังฟรีไม่ครอบคลุมเส้นทางทั้งหมด
จะปล่อยให้คนจนที่อยู่นอกเส้นทางวิ่งอีก 88 สาย ไม่มีสิทธิได้ขึ้นรถเมล์ฟรีหรืออย่างไร
คนจนที่จำต้องขึ้นรถเมล์ร้อนของเอกชน ไม่มีสิทธิได้รับการช่วยเหลือ
ผิดเพราะดันไปมีบ้านอยู่ในเส้นทางที่ ขสมก.ขายสัมปทานไปให้เอกชนอย่างนั้นหรือ
ที่สำคัญ รายงานของ ขสมก. ในเรื่องที่เกี่ยวกับการโครงการเช่ารถเมล์ 6,000 คัน ที่นายกรัฐมนตรีได้เห็นผ่านตา ก็ระบุไว้ชัดเจน ในหน้าที่ 5 ว่า...
รถโดยสารที่อยู่ในระบบ ไม่รวมรถเถื่อน...วันหนึ่งมีผู้โดยสารใช้บริการประมาณ 2.7 ล้านคน มีคนใช้บริการรถของ ขสมก. 3,535 คัน แค่ 0.7 ล้านคน หรือประมาณ 25% เท่านั้นเอง
ที่เหลืออีก 75% ใช้บริการรถเอกชนสารพัดชนิด
และเฉพาะรถเอกชนร่วมบริการ ที่เป็นรถเมล์คันใหญ่ 3,491 คัน มีผู้โดยสารใช้บริการ 1.1 ล้านคน หรือประมาณ 40%
ตัวเลขของ ขสมก. แสดงให้เห็นชัดเจน คนส่วนใหญ่ใช้บริการรถร่วมฯ มากกว่ารถ ขสมก.เกือบเท่าตัว
แต่มาตรการกลับให้ขึ้นฟรีแค่รถ ขสมก.เท่านั้น...ทั้งที่ให้บริการไม่ ครอบคลุมทุกเส้นทาง และมีคนใช้บริการน้อยกว่า
แค่นั้นไม่พอ ถ้าจะอ้างว่าช่วยคนจนขึ้นเฉพาะรถเมล์ร้อนอย่างเดียว... ผู้ที่อ้างตัวรู้ลึกรู้จริงเรื่องคมนาคม รู้หรือเปล่าว่า ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลทุกวันนี้นั้น
มีเส้นทางรถเมล์ ที่มีแต่รถ ปอ.วิ่งอย่างเดียว โดยไม่มีรถเมล์ ร้อนวิ่งเลย ประมาณ 62 สาย
ยิ่งเส้นทางสายใหม่ๆ สาย 500 ขึ้นไปนั่นนะ...ขสมก.วิ่งเอง ไม่มีรถเมล์ร้อนให้คนจนได้ขึ้นใช้บริการเลย
โดยเฉพาะสายที่วิ่งจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปดูได้เลย...มีแต่รถเมล์ปรับอากาศ ขสมก.
แถวนั้นไม่มีคนจนอยู่เลยหรืออย่างไร...ถึงไม่ได้รับการช่วยเหลือ.
ขอขอบคุณ ที่มา : สกู๊ปหน้า 1 ไทยรัฐ 31 กรกฎาคม 2551
H O M E
Create Date : 31 กรกฎาคม 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2551 16:23:55 น. |
Counter : 1339 Pageviews. |
|
|
|
แล้วถ้าไม่เก็บตังค์...จะจอดรับผู้โดยสารรึคะ?