Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ชิมบะหมี่เกี๊ยว ราชวิถี เจี๊ยเฮง

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก


*วันนี้ขอพาแฟนๆ ไปชิมบะหมี่เกี๊ยวที่ร้านราชวิถี โด่งดังขึ้นชื่อมานานนับครึ่งศตวรรษ อยู่ใกล้สี่แยกซังฮี้ ในตึกแถว 2 คูหา ริมถนนสามเสน ฝั่งเดียวกับ รพ.วชิระ

เจ้านี้เกิดก่อนปิ่นโตเถาเล็กร่วม 10 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2498 อายุเกินครึ่งศตวรรษเลยทีเดียวเชียว ข้างหน้าร้านติดป้ายเชลล์ชวนชิม ซึ่งพ่อมาชิมตั้งแต่ปี 2511 และเขียนแนะนำในสยามรัฐสัปดาหวิจารณ์

ตัวป้ายโดนลมโดนฝนจนมอมแมม แต่ฝีมือการทำบะหมี่ของเขานั้นไม่ธรรมดา ขายดิบขายดีมาตั้งนมนานแล้ว ข้างในร้านติดป้ายว่า "ยุ้ยกี่" ซึ่งคุณพี่เบญจวรรณ พี่สาวของคุณเกษม เจ้าของร้าน เล่าว่า จริงๆ แล้วชื่อพ่อคือ หยวย แต่เหตุไฉนคนทำทะเบียนถึงจดเป็นยุ้ยไปได้

รับทราบกันไว้ด้วยว่า ยุ้ยกี่คือชื่อพ่อ ส่วนชื่อร้านมีชื่อเดียวคือ ราชวิถี ไม่มีสาขาที่ไหน

ถ้าขับรถมาเองต้องบอกว่าที่จอดรถบริเวณนี้หาได้ยากยิ่ง ถึงแม้ในชุมชนสวนอ้อยฝั่งตรงข้ามจะอนุญาตให้จอดได้สลับกันวันคู่วันคี่ก็ตาม แต่ก็มีคนแถวนี้ต่างจับจองที่จอดไปเกือบหมด (ยกเว้นวันเสาร์ถ้ามาเช้าๆ จะค่อยยังชั่วสักหน่อย) อีกทั้งริมถนนใหญ่รอบๆ บริเวณนี้ เขาห้ามจอดตลอดเวลา


*ทางที่ดีถ้าเอารถมาให้วิ่งข้ามแยกซังฮี้ไปตามถนนสามเสนที่เป็นเส้นทางรถเดินทางเดียว ไปหาที่จอดในซอยวัดราชาธิวาส (สามเสน 9) หรือวิ่งต่อไปแล้วเลี้ยวซ้ายที่สามแยกถัดไปเพื่อหาที่จอดริมถนนอู่ทองนอก จากนั้นให้นั่งรถรับจ้างวนกลับมาแยกซังฮี้ก็ได้

กิจวัตรประจำวันที่นี่ (ยกเว้นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด) เริ่มตั้งแต่ตี 5 เหล่าบรรดาพนักงานซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาวๆ ต่างก็มาช่วยกันห่อเกี๊ยวและขนมจีบ ทำไส้ซาลาเปา นั่งสลอนกันจนเต็มร้าน กว่าของจะครบเปิดให้ลูกค้าเข้ามานั่งกินได้ก็ประมาณเจ็ดโมงครึ่ง

ช่วงเช้าๆ บรรดาลูกค้าที่โทร.มาออเดอร์ซาลาเปาไว้ล่วงหน้าก็จะยืนออกันเต็มร้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าเทศกาลเช็งเม้ง คนแน่นถึงขนาดต้องแจกบัตรคิว แต่ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็ไม่ถึงขนาดต้องโทร.มาสั่งล่วงหน้าข้ามวันหรอก

     อยากมาลิ้มลองของอร่อย กรุณาหลีกเลี่ยงมื้อเที่ยง และโปรดจำให้ขึ้นใจว่าบ่ายสองโมงเขาก็ปิดร้านแล้ว เมื่อท่านเดินเข้าไปในร้าน พนักงานสาวๆ ซึ่งมีอยู่มากมายจะเดินปรี่เข้ามารับคำสั่งทันที มาร้านนี้สั่งง่าย ไม่มีเส้นอะไรให้เลือกนอกจาก "บะหมี่" และก็ "เกี๊ยว" สั่งบะหมี่เฉยๆ หรือบะหมี่กับเกี๊ยว ใส่ปูหรือใส่หมูแดงหรือใส่ทุกอย่าง เขาคิดราคาเดียวชามละ 20 บาท


*เขาจะเสิร์ฟมาในชามสแตนเลสเหมือนในโรงพยาบาล นอกจากเจ้านี้ก็มีร้านอิสลามตรงหัวถนนสีลมที่ใช้ชามแบบนี้ แต่ไม่มีใครว่าหรอกเพราะของที่อยู่ในชามอร่อยเหลือหลาย เส้นบะหมี่เป็นเส้นแบนๆ และเล็กๆ เหนียวนุ่มอร่อยอย่าบอกใคร เขาขายดีจนกระทั่งต้องติดป้ายงดขายบะหมี่ดิบเปล่าๆ แล้ว เกี๊ยวไส้หมูสับ แป้งบางๆ เหมือนที่เคยกินตอนเด็กๆ น้ำซุปหอมหวานยิ่งนัก ทำจากน้ำต้มกระดูกหมูกับฟัก

ถ้ามาร้านนี้ต้องกินบะหมี่น้ำ และถ้าสั่งบะหมี่แห้ง ต้องขอน้ำซุปมาด้วยต่างหาก นอกจากนี้ยังมีบะหมี่หน้าไก่กับข้าวหน้าไก่ เครื่องปรุงรสที่นี่ไม่ใช้น้ำปลาแต่เป็นซีอิ๊วขาว น้ำส้มพริกดอง พริกไทย น้ำตาล และพริกป่น เครื่องปรุงทุกอย่างยกเว้นน้ำส้มจะใส่ในขวดน้ำพลาสติคเจาะรูตรงปากขวด

ของกินเล่นมี "ขนมจีบแบบโบราณ" ที่เคยกินหน้าโรงเรียนสมัยก่อน ขนมจีบไส้หมูสับนุ่มๆ ลูกเล็กๆ ราดน้ำซีอิ๊วรสเปรี้ยวเค็มหวานกับกระเทียมเจียว มีไม้จิ้มมาให้ด้วย คิดลูกละ 2 บาท 1 จานใหญ่มี 10 ลูก 20 บาท

     ส่วน "ซาลาเปา" นั้นเดิมมีไส้ให้เลือก 5 อย่าง เดี๋ยวนี้พัฒนากลายเป็น 10 อย่าง คิดลูกละ 8 บาททุกอย่าง ไส้ที่ผมชื่นชอบคือ "ไส้หมูสับไข่ต้มและไส้หมูสับไข่เค็ม" เนื้อหมูสับนุ่มหอมอร่อยไม่หวานเหมือนซาลาเปายุคใหม่ นอกนั้นก็มีไส้หมูแดงไข่ต้ม ถั่วไข่เค็ม ครีม ฟักทอง ถั่วดำ เผือก เผือกเห็ดหอม และพุทราจีน

อ่านจบแล้วอย่าเพิ่งคิดมาในวันอาทิตย์ เพราะเขาหยุดพักผ่อน 1 วัน ถึงไม่มีธุระแถวนี้ ก็ควรค่าแก่การมาชิม มาสัมผัสตำนานร้านบะหมี่ ต้องมีดีอะไรแน่ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่อยู่มานานเกินครึ่งศตวรรษหรอก

ข้อมูล

ราชวิถี

โดย คุณเกษม อรสุทธิกุลชัย


ที่ตั้ง 635-637 ถนนสามเสน ใกล้สี่แยกซังฮี้ แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300

โทร. 0-2243-1375, 0-2668-8088

เปิดบริการ 07.30-14.00 น. จันทร์-เสาร์

หยุด วันอาทิตย์ และเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่

แนะนำ บะหมี่เกี๊ยว ปู หมูแดง ขนมจีบ ซาลาเปาหมูสับไข่เค็ม และหมูสับไข่ต้ม


ขอขอบคุณ
ที่มา :
มติชนรายวัน วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 หน้า 19



H O M E



Create Date : 09 ตุลาคม 2552
Last Update : 9 ตุลาคม 2552 23:43:21 น. 0 comments
Counter : 2304 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.