Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
"ตำรับ-ตำนาน"สวนสุนันทา

"ตำรับ-ตำนาน"สวนสุนันทา

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6356 ข่าวสดรายวัน


*

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีที่มาจากการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 กลับจากเสด็จประพาสยุโรปในปี 2451 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินการก่อสร้าง และตกแต่งพระราชอุทยานแห่งใหม่

โดยทรงถอดแบบมาจากวังเบิร์นสตอร์ฟ (Bernstorff Palace) ในประเทศเดนมาร์ก ทรงจัดการวางแบบแปลนสวนสุนันทา และสร้างปราสาทพระที่นั่ง สำหรับเป็นที่ประทับ ทรงควบคุมการก่อสร้างทุกขั้นตอน ทรงคัดเลือกพันธุ์ไม้มาปลูก และทรงกำชับให้สร้างพระตำหนักแบบ "บ้านนอกในวัง" อย่างฝรั่ง

โดยพระราชทานนามพระราชอุทยานแห่งนี้ว่า "สวนสุนันทา" ดังที่ปรากฏในพระราชหัตถเลขา เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2451

* เพื่อเป็นพระราชานุสรณ์แห่งความรักในสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ที่ได้เสด็จสวรรคตในเหตุการณ์มหาวิปโยคเรือประเทียบล่มที่ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2432

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า บรรดามหาปราสาทและพระที่นั่งยังไม่ทันได้สร้าง พระองค์ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อนในปีพ.ศ.2453

วังสวนสุนันทาในสมัยของพระองค์มีสภาพเป็นสวนป่าที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิดที่ส่งกลิ่นหอม

ต่อมาในปีพ.ศ.2455 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างองค์พระที่นั่งและพระตำหนักต่างๆ ที่ยังค้างคาอยู่รวม 32 ตำหนัก บนเนื้อที่ 122 ไร่ ในพระราชอุทยานสวนสุนันทาตามพระราชประสงค์ของพระบรมราชชนก

*โดยสร้างแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2462 บรรดาเจ้านายฝ่ายใน 24 พระองค์ และเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 จำนวน 13 ท่าน ได้ทยอยเสด็จมาประทับและพำนักในวังสวนสุนันทา รวมทั้งพระญาติอีกจำนวนหนึ่ง มหาดเล็ก และข้าหลวง รวมประชากรทั้งสิ้น 10,000 คน

วังสวนสุนันทาในสมัยรัชกาลที่ 6-7 ถือว่าเป็นราชสำนักฝ่ายในที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมไทย ก่อให้เกิดศิลปวิทยาการทางด้านอาหารชาววัง การเย็บปักถักร้อย ศิลปะการวาดภาพ การร้อยดอกไม้ การนวดแผนไทยต้นตำรับชาววัง ดนตรี และนาฏศิลป์ เป็นต้น

ดังนั้น การนวดรักษาตำรับราชสำนัก ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งได้รับการเผยแพร่ในราชสำนักเท่านั้น เนื่องจากเปรียบเสมือนแพทย์หลวงที่ถวายการรักษาแด่พระมหากษัตริย์ และเจ้านายฝ่ายใน ซึ่งเจ้านายและเจ้าจอมฝ่ายในไม่นิยมรับการรักษาจากแพทย์แผนตะวันตกและห้ามมิให้ผู้ชายแตะต้องร่างกาย ซึ่งแพทย์ในราชสำนักฝ่ายในจะเป็นแพทย์หลวงที่ถวายการรักษาด้วยสมุนไพรและการนวดรักษา

หน้า 21




สปาชาววัง มรดกจาก"สวนสุนันทา"

ราชภัฏวันนี้

กุมารี วัชชวงษ์ รายงาน - วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6356 ข่าวสดรายวัน


*มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มร.สส.) นับเป็นสถาบันการศึกษาที่มีความเก่าแก่และมีรากฐานของโรงเรียนฝึกหัดครู แต่ใครจะทราบบ้างว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยังมีองค์ความรู้มากมายที่ซุกซ่อนอยู่ไม่ไกลจากพระตำหนักของเจ้านายตั้งแต่อดีต

วังสวนสุนันทาในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6-7 ถือว่าเป็นราชสำนักฝ่ายในที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมไทย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านอาหารชาววัง การเย็บปักถักร้อย ศิลปะการวาดภาพ การร้อยดอกไม้ ดนตรี และนาฏศิลป์ เป็นต้น

รวมถึงการนวดแผนไทยต้นตำรับชาววัง ด้วยเหตุนี้ มร.สส.จึงจัดตั้งศูนย์สุขภาพแพทย์แผนไทยประยุกต์ ศูนย์สปาและความงาม เพื่อฟื้นฟูภูมิปัญญาโบราณมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทย

นายประชาวัฒน์ เกษียรพรหมราช แพทย์แผนไทยประยุกต์ ประจำศูนย์สุขภาพแพทย์แผนไทยประยุกต์ มร.สส. กล่าวว่า ในสมัยโบราณการแพทย์ในราชสำนักเป็นการถวายการรักษา บำบัดพระโรคให้กับพระมหากษัตริย์ เจ้านายชั้นสูง โดยการนวดรักษา กดจุด จับเส้น ประคบสมุนไพร ซึ่งเป็นการแพทย์ในราชสำนักที่มีมาตั้งแต่กรุงรัตนโกสินทร์และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม การนวดรักษาแผนไทยตำรับราชสำนักเป็นวิชาการแพทย์ที่ไม่ได้รับการเผยแพร่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับการนวดแผนไทยตำรับวัดโพธิ์ ซึ่งมีการเผยแพร่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เพราะศาสตร์ของการนวดรักษาแผนไทยในราชสำนักเป็นวิชาการแพทย์ชั้นสูงที่ใช้ดูแลรักษาโรคในวังเท่านั้น

ต่อมา ศ.น.พ.อวย เกตุสิงห์ คิดริเริ่มฟื้นฟูการแพทย์แผนไทย โดยจัดตั้งสถาบันอายุรเวทวิทยาลัย ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งผลิตบัณฑิตสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์

ในปัจจุบัน มร.สส.ให้ความสำคัญในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิชาแพทย์แผนไทยประยุกต์ จัดหลักสูตรการนวดรักษาตำรับราชสำนัก โดยที่ศูนย์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้บริการรักษาโรคด้วยการนวดรักษาตำรับราชสำนักควบคู่กับการรักษาด้วยยาสมุนไพร ซึ่งจะมีการตรวจร่างกาย สอบถามประเมินอาการของคนไข้ ซึ่งเป็นการเรียนแบบผสมผสานการแพทย์แผนปัจจุบันกับการแพทย์แผนไทย โดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องใช้ทั้งความรู้และประสบการณ์วินิจฉัยอาการเจ็บป่วยก่อนจะทำการนวดรักษา

*"ที่สำคัญการนวดรักษาตำรับราชสำนักมีคุณลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากการนวดทั่วๆ ไป คือ แพทย์ผู้ทำการรักษาจะคลานเข่าเข้ามาแล้วกราบขอขมาก่อนที่จะทำการนวดร่างกาย เพราะการนวดรักษาถวายแด่พระเจ้าแผ่นดิน และเจ้านายชั้นสูง จะใช้มือนวดเพียงอย่างเดียว แพทย์ต้องมีอาการสำรวมไม่จ้องร่างกาย ไม่ใช้เท้าหรือเข่าเหยียบไปบนร่างกาย ทั้งนี้ วิธีการนวดเน้นการกดจุดรักษาบริเวณบ่า หัวไหล่ และอวัยวะต่างๆ เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตไปทั่วร่างกาย แก้ไขอาการเจ็บป่วย จากนั้นแพทย์จะใช้สมุนไพรนวดประคบให้ตัวยาจากสมุนไพรซึมเข้าสู่ร่างกาย" ประชาวัฒน์กล่าว

ด้าน ดร.รัตนา ปานเรียนแสน อาจารย์ประจำสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มร.สส. กล่าวว่า ศูนย์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ เป็นคลินิกที่ฝึกปฏิบัติของนักศึกษารักษาโรคด้วยแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งแตกต่างจากแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะสาขาวิชานี้อยู่ตรงกลางที่สามารถเข้าใจการรักษาของการแพทย์ทั้งสองแบบแผน

นักศึกษาสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์เรียนวิชาต่างๆ เหมือนการเรียนแพทย์แผนปัจจุบัน และฝึกงานในชั้นปีที่ 4 ตามโรงพยาบาลที่มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย อาทิ ร.พ.ศิริราช และร.พ.สมเด็จฯ ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การแพทย์แผนไทยประยุกต์ไม่ได้มีวิธีการรักษาแต่เฉพาะการนวดรักษาเท่านั้น แต่ยังจัดการเรียนการสอนด้วยสมุนไพร การผดุงครรภ์ ดูแลมารดาก่อนคลอดและหลังคลอด โดยเฉพาะการสืบทอดองค์ความรู้ของการอยู่ไฟ ทับหม้อเกลือ เพื่อให้ร่างกายมารดาหลังคลอดแข็งแรงและขับน้ำคาวปลาที่จับอยู่ตามมดลูกให้หลุดออกไปหมด ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของไทยโบราณ

ปัจจุบันคนไทยไม่เข้าใจการรักษาแบบแพทย์แผนไทยประยุกต์ มีทัศนคติว่าเป็นการแพทย์แผนโบราณ ซึ่งการนวดรักษาแบบแพทย์แผนไทยประยุกต์กับคนไข้นั้นต้องใช้เครื่องมือในการตรวจรักษาควบคู่กับการจัดยาสมุนไพรให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามอาการ การวัดความดันโลหิต เป็นต้น ที่สำคัญหัวใจของการแพทย์แผนไทยประยุกต์ต้องวินิจฉัยการรักษาโรคและสามารถส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน

ดร.รัตนากล่าวว่า สำหรับการนวดรักษาตำรับราชสำนักเป็นความรู้ที่อยู่ในวังเจ้าจอม ที่มร.สส.พยายามฟื้นฟูศาสตร์การนวดรักษาให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่รู้จักแต่การนวดตำรับวัดโพธิ์เท่านั้น ทั้งนี้มหาวิทยาลัยมีนโยบายบุกเบิกตลาดการผลิตบัณฑิตการนวดรักษาตำรับราชสำนัก หากมหาวิทยาลัยเปิดสถานพยาบาลและส่งบัณฑิตไปประจำการก็จะทำให้เผยแพร่การนวดรักษาตำรับราชสำนักมากยิ่งขึ้น

ขณะนี้ศูนย์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และศูนย์สปาและความงาม จัดตั้งให้บริการอยู่ที่ตำหนัก พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัชดา พระอัครชายาในรัชกาลที่ 5

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยกำลังปรับปรุงซ่อมแซมพระตำหนักบริเวณ มร.สส. เพื่อขยายศูนย์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ให้มีพื้นที่ให้บริการรองรับคนไข้และผู้ที่ต้องการนวดผ่อนคลายด้านสปาและความงาม เท่ากับเป็นการชูจุดเด่นของวังเจ้าจอมให้มีชีวิตชีวาเป็นศูนย์ศิลปวิทยาการต่างๆ อวดโฉมให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเข้ามาใช้บริการที่นี่

รศ.ดร.ช่วงโชติ พันธุเวช อธิการบดี มร.สส. กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาศูนย์การแพทย์แผนไทยประยุกต์ ศูนย์สปาและความงาม ว่า มหาวิทยาลัยมีนโยบายขยายฐานการให้บริการทางวิชาการของทั้งสองศูนย์ โดยมีเป้าหมายสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนา จ.ระนอง เพื่อรองรับการจัดตั้งศูนย์วิจัย การเปิดหลักสูตรพยาบาล การแพทย์แผนไทยประยุกต์ และการโรงแรมและการท่องเที่ยว

มหาวิทยาลัยมีนโยบายจะใช้ศูนย์นี้เป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติของนักศึกษาชั้นปีที่ 3-4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในสาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ จับกลุ่มเป้าหมายดูแลนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ยุโรป ที่เข้ามาพักผ่อนและรับบริการด้านการแพทย์แผนไทยประยุกต์ สปาและความงาม โดยอาศัยศูนย์การศึกษา จ.ระนอง ให้บริการแบบ Long stay ต่อไป

"ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าในปีการศึกษา 2552 จะสามารถเปิดศูนย์การศึกษา จ.ระนอง เป็นสถานที่ฝึกปฏิบัติของนักศึกษา และมหาวิทยาลัยหวังจะเผยแพร่ภูมิปัญญาด้านการดูแลสุขภาพของไทยให้ชาวต่างประเทศรู้จักมากยิ่งขึ้นผ่านธุรกิจวิชาการแขนงนี้" รศ.ดร.ช่วงโชติกล่าว

การนำจุดเด่นของ "การนวดรักษาและสปาชาววัง" มรดกแห่งความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์แห่งวังเจ้าจอมของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ คงเป็นการต่อยอดความรู้ทางวิชาการนำมาสร้างจุดขาย และโอกาสในการบุกเบิกตลาดธุรกิจวิชาการของชาวสวนสุนันทา

หน้า 21


H O M E



Create Date : 02 พฤษภาคม 2551
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 21:26:09 น. 1 comments
Counter : 2401 Pageviews.

 
มาเยือนครับ


โดย: พริกดิบ 's blog (พริกดิบ ) วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:21:00:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.