Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
11 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
มิติใหม่ในวังเก่า ณ "สวนสุนันทา"



     สิ่งหนึ่งในเมืองไทยที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยว ต่างประเทศก็คือ "นวดแผนไทย" ฝรั่งที่ไหนมาก็มักจะถามหา Thai Massage คนไทยก็มักจะชี้ทางให้ไปวัดโพธิ์ ซึ่งถือเป็นแหล่งนวดแผนไทยที่ดังที่สุด แต่วันนี้ฉันมีสถานที่นวดไทยอีกแห่งจะมานำเสนอ ที่สำคัญคือคนนวดนั้นเป็นสาวชาววังด้วยอีกต่างหาก

สถานที่นวดไทยที่ว่านั้นก็คือที่ "ศูนย์สุขภาพแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา" และสาวชาววังที่บอกก็คือสาวชาววังสวนสุนันทานั่นเอง ซึ่งนี่ถือเป็นการเปิดมิติใหม่อีกสิ่งหนึ่งในสถาบันแห่งนี้


     การได้มานวดไทยที่นี่นอกจากจะได้ความสบายตัวกลับไปแล้ว ก็ยังไม่ควรที่จะพลาดการเดินชมมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นมาอันเก่าแก่ และเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ เพราะบริเวณที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทานี้ถือเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ มีความสำคัญขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เมื่อพระองค์ได้ทรงใช้เงินพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อที่ดินและสร้างวังสวนดุสิตขึ้น แต่พระองค์ทรงเห็นว่าเขตพระที่นั่งอัมพรสถานในพระราชวังดุสิตนั้นมีผู้คนพลุกพล่านขาดความเป็นส่วนตัว จึงทรงจัดการวางแบบแปลนสร้างสวนขึ้นที่ท้ายวังสวนดุสิต ทรงควบคุมการก่อสร้างทุกขั้นตอน อีกทั้งยังทรงคัดเลือกพันธุ์ไม้มาปลูกและทรงกำชับให้สร้างพระตำหนักแบบ "บ้านนอกในวัง"

และเมื่อการก่อสร้างเสร็จสิ้น พระองค์ก็ได้พระราชทานนามว่า "สวนสุนันทา" เพื่อเป็นพระราชานุสรณ์แห่งความรักในสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี อัครมเหสีของพระองค์ที่ได้สวรรคตในเหตุการณ์เรือพระที่นั่งล่มในแม่น้ำเจ้า พระยาขณะจะเสด็จไปยังพระราชวังบางปะอิน แต่น่าเสียดายที่พระที่นั่ง และตำหนักต่างๆ ยังไม่ทันสร้างเสร็จเรียบร้อย รัชกาลที่ 5 ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาจึงมีการสร้างจนเสร็จเรียบร้อยลงในสมัยรัชกาลที่ 6


     แม้วังจะได้ชื่อว่า "วังสวนสุนันทา" แต่ผู้ที่ถือว่ามีความสำคัญที่สุดในวังสวนสุนันทานั้นก็คือ "พระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา" พระอัครชายาเธอซึ่งเป็นที่โปรดปรานในรัชกาลที่ 5 ยิ่งนัก และทรงเป็นผู้มีพระปรีชาสามารถในเรื่องการปรุงอาหารเป็นอย่างยิ่ง และทรงรับราชการฉลองพระเดชพระคุณในหน้าที่กำกับดูแลห้องเครื่องต้นถวายพระพุทธเจ้าหลวงตลอดจนสิ้นรัชกาล

หลังจากที่รัชกาลที่ 5 สิ้นพระชนม์แล้ว ในตอนกลางสมัยรัชกาลที่ 6 พระวิมาดาเธอฯ และพระราชธิดาได้ทรงย้ายที่ประทับจากวังลดาวัลย์ของพระราชโอรสมาประทับที่วังสวนสุนันทาเป็นการถาวร บรรดาเจ้านายฝ่ายในและเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ก็ได้ทยอยตามเสด็จมาด้วย ทำให้บรรยากาศในวังสวนสุนันทากลับมาครึกครื้นอีกครั้งหนึ่ง


     ในช่วงนี้เองที่วังสวนสุนันทาเป็นเหมือนศูนย์รวมของพระราชวงศ์ฝ่ายในที่ใหญ่ที่สุด อีกทั้งยังเป็นเหมือนศูนย์กลางของวัฒนธรรมไทยก็ว่าได้ เพราะถือเป็นศูนย์รวมของชาววังที่มีการสืบต่อศิลปวัฒนธรรมแขนงต่างๆ ทั้งในเรื่องตำรับอาหารชาววัง การเย็บปักถักร้อย ศิลปะการแกะสลักผักผลไม้ การพับผ้าเช็ดหน้าเป็นรูปสัตว์ต่างๆ การร้อยมาลัยร้อยดอกไม้ ดนตรี โขน ละคร นาฏศิลป์ต่างๆ

วังสวนสุนันทาได้กลายเป็นวังร้างไปในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงการ ปกครอง แต่ต่อมาวังแห่งนี้ก็ได้ถูกแปรสภาพมาเป็นมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาอย่าง ที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน โดยยังมีตำหนักเก่าแก่จำนวน 6 หลัง หลงเหลืออยู่ภายในมหาวิทยาลัย ไม่เพียงแต่ตัวตำหนักเท่านั้น แต่ยังมีหลุมหลบภัยในสมัยสงครามโลกซึ่งขณะนี้ปิดเอาไว้ชมได้เพียงด้านนอก มีสะพานข้ามคลองที่มีลักษณะเดียวกับสะพานชุดที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 สะพานนี้ยังเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าเคยมีเส้นทางน้ำที่เชื่อมต่อจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาภายในพระราชอุทยานสวนสุนันทาอีกด้วย

เดินชมมหาวิทยาลัยเสียเพลินจนเกือบลืมจุดประสงค์ในวันนี้เสียแล้ว ฉันจึงมุ่งหน้ามาที่ "ศูนย์สุขภาพแพทย์แผนไทยประยุกต์" ที่ตั้งอยู่ใน "ตำหนักสายสุทธานภดล" ตำหนักหลังใหญ่ที่สุดและยังเป็นตำหนักที่พระวิมาดาเธอฯ เคยประทับอยู่อีกด้วย


     สำหรับศูนย์สุขภาพฯนี้เขาเปิดมาสำหรับคนขี้เมื่อยโดยเฉพาะ เพราะมีการนวดแผนไทย และนวดสปาไว้บริการ โดยศูนย์สุขภาพฯนี้ได้เปิดให้บริการมานานถึง 4 ปีแล้ว ในช่วงแรกเปิดนั้นก็มีจุดประสงค์เพื่อการเรียนการสอนของภาควิชาการแพทย์แผน ไทยประยุกต์ แต่ต่อมาก็เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบโดยมีทั้งการนวดแบบส่งเสริมและแบบรักษา การนวดแบบส่งเสริมก็คือการนวดเพื่อผ่อนคลาย หรือนวดแบบสปา ส่วนการนวดแบบรักษานั้นก็คือการนวดแบบราชสำนัก โดยเป็นการนวดที่ทำให้เกิดผลต่ออวัยวะและเนื้อเยื่อที่อยู่ลึกๆ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มการทำงานของเส้นประสาทนั่นเอง

หลังจากเดินชมบรรยากาศของวังเก่าในมหาวิทยาลัยจนเริ่มเมื่อยได้ที่แล้ว การได้มานวดผ่อนคลายในศูนย์สุขภาพฯ จึงเป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด และนอกจากการนวดผ่อนคลายแล้วก็ยังมีการนวดอีกหลากหลายแบบ ทั้งนวดรักษาแบบราชสำนักนวดราชสำนักส่งเสริมสุขภาพ นวดฝ่าเท้า ประคบสมุนไพรสด นวดคอ บ่า ไหล่ อบสมุนไพร ลูกประคบสมุนไพรสด หรือใครอยากนวดสปาก็มีทั้งการนวดหน้า 10 ขั้นตอน นวดน้ำมันอโรมา คอ บ่า ไหล่ แบบสวีดิช นวดกระชับสัดส่วน นวดตัว ขัดผิวผ่อง นวดอโรมาเทอราพี สปาเท้านุ่ม แม้จะมีเตียงนวดให้บริการไม่มากมาย แต่ก็ได้บรรยากาศสบายๆ แถมราคาก็ยังสบายกระเป๋าอีกต่างหาก


     หากใครนวดเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบกลับ ไม่อย่างนั้นจะเสียดายหากไม่ได้ขึ้นไปยังชั้น 2 เพื่อชม "ศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา" ซึ่งเป็นที่จัดแสดงศิลปวัตถุที่ส่วนใหญ่เป็นสมบัติในตำหนักนี้ แต่ก่อนจะไปชมข้าวของต่างๆ นั้น ให้ฉันได้พาไปรู้จักกับตัวตำหนักสายสุทธานภดลนี้ก่อนดีกว่า ตำหนักหลังนี้เรียกกันว่า "ตำหนักใหญ่" เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรือนมะนิลา ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนสองชั้น เป็นตำหนักแฝดที่มีเฉลียงทางเดินชั้นล่างและชั้นบนเชื่อมต่อกัน ด้านนอกอาคารมีลวดลายปูนปั้นประดับอยู่เล็กน้อย ส่วนช่องลมก็มีลวดลายฉลุงดงามมาก

สำหรับห้องจัดแสดงในศูนย์ศิลปวัฒนธรรมนั้น ก็มีทั้งห้องแสดงพระราชประวัติของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีในรัชกาลที่ 5 ห้องแสดงพระประวัติของพระวิมาดาเธอฯ ห้องแสดงพระรูปและพระประวัติพระบรมวงศานุวงศ์และเจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ที่ทำให้เราทราบถึงเรื่องราวของผู้ที่มีความสำคัญยิ่งในวังสวนสุนันทาแห่งนี้


     สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นในศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้ก็คือรูปวาดสีน้ำเป็นรูปดอกไม้ ต่างๆ จำนวนหลายร้อยรูป ซึ่งรูปภาพเหล่านี้เป็นรูปที่วาดขึ้นโดยคุณข้าหลวงในตำหนักพระวิมาดาเธอฯ เพราะแต่ก่อนนั้นในบริเวณรอบวังสวนสุนันทาจะเต็มไปด้วยพรรณไม้ดอกนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นดอกลั่นทม กุหลาบ สารภี ลำดวน นมแมว มะลิ หน้าวัว พุทธชาด แก้วเจ้าจอม ฯลฯ ต่างก็ออกดอกส่งกลิ่นหอมทั่วไปหมด พระวิมาดาเธอฯจึงทรงโปรดให้ข้าหลวงฝึกหัดวาดรูปดอกไม้และระบายสีน้ำให้เหมือนของจริงที่สุด แล้วนำขึ้นถวายทอดพระเนตร ปัจจุบันรูปเหล่านี้ก็มีที่สูญหายไปบ้าง แต่ที่เก็บรวบรวมไว้ก็มีอยู่ 117 ภาพด้วยกัน จัดแสดงไว้อย่างสวยงามราวกับแกลอรี่

แต่สิ่งที่ฉันคิดว่าน่าสนใจก็คือบรรดารูปเก่าๆ ของวังสุนันทาในอดีต และรูปเก่าๆของเจ้านาย เจ้าจอม และพระบรมวงศานุวงศ์ในอิริยาบถต่างๆ ทำให้เราได้เห็นทั้งการแต่งกายในสมัยนั้น ได้เห็นบรรยากาศของวังสวนสุนันทาในอดีตนั้น แค่นี้ก็คุ้มค่ากับการได้มาชมแล้ว


     และนอกจากนั้นก็ยังมีการจัดแสดงแฟชั่นการแต่งกายของสาวชาววังในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ การจัดแสดงหุ่นกระบอก หุ่นละครเล็ก โขน และสมุดไทยโบราณนับร้อยเล่ม เช่น หนังสือจินดามณี วรรณกรรมสุนทรภู่ ฯลฯ และข้าวของที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย

ได้ชมบรรยากาศวังเก่าสมัยรัชกาลที่ 5 ชมภาพเก่าและข้าวของสวยงามต่างๆ ทั้งยังได้ผ่อนคลายกับการนวดไทย อย่างนี้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

* * * * * * * * * * * * * * * *
     มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ตั้งอยู่ที่ถนนอู่ทองนอก เขตดุสิต กรุงเทพฯ ศูนย์สุขภาพแพทย์แผนไทยประยุกต์ เปิดให้บริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-19.30 น. และในวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 08.30-18.30 น. สอบถามรายละเอียดโทร.0-2244-8908, 0-2243-2240 ถึง 6 ต่อ 481 ส่วนศูนย์ศิลปวัฒนธรรม เปิดให้เข้าชมวันจันทร์-วันศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ในเวลา 09.00-16.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะให้ทำหนังสือมาล่วงหน้า สอบถามรายละเอียดโทร.0-2243-2240 ต่อ 106, 354 0-2668-7702 การเดินทางมายังมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีรถประจำทางสาย 3, 9, 12, 16, 28, 30, 32, 33, 51, 64, 108, 110, 503, 512, 505, 515, 524, 539, 542 ผ่าน

Credit : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2551

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 11 กันยายน 2553
Last Update : 11 กันยายน 2553 17:53:56 น. 5 comments
Counter : 6424 Pageviews.

 
ศิษย์เก่าสวนสุนันทา เห็นภาพ แล้วนึกถึงสมัยเรียนจังเลยค่ะ


โดย: MoD IP: 125.24.1.248 วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:9:54:48 น.  

 
อยากเข้าไปเที่ยวแบบนี้สักครั้งเหมือนกันค่ะ

เออ...เพิ่งรู้ว่าที่นี่มีนวดแผนไทยด้วย

แต่เรื่องพระวิมาดาเธอฯ นี่เคยได้อ่านบ่อยๆ ในหนังสือของหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์นะคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:15:53:59 น.  

 
เพิ่งไปพักที่โรงแรมสวนสุนันทา และได้มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมตึกสายสุทธานภดลและเข้าไปนวดผ่อนคลาย

รู้สึกดีจังเลย


โดย: apple IP: 118.172.209.25 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2553 เวลา:22:07:52 น.  

 
คิดถึงสมัยที่ยังเรียนอยู่ในรั้วสวนสุนันทา ปี 2533-2536 จังคร้า^^


โดย: พนิต IP: 124.122.229.53 วันที่: 13 พฤษภาคม 2555 เวลา:14:21:54 น.  

 
เคยเรียนในปี35ชอบต้นประยงค์ออกดอกหอมมากกลับไปใหม่เมื่อปีที่แล้วไม่มีต้นประยงค์แล้วทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมดเลย..ใจหายนะ..


โดย: อิสรีย์ IP: 182.232.65.113 วันที่: 8 ตุลาคม 2559 เวลา:9:34:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.