Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
7 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ซัดแหลก!! นำอาคารไปรษณีย์บางรัก'ยุค ร.7' ทำโรงแรมหาเงิน




     โปรดอย่าหาเงินด้วยการ "ทำลาย" ประวัติศาสตร์ชาติไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมนำทีมวอนระงับโครงการ ด้านนักวิชาการ สถาปนิก ซัดแหลกแนวความคิดนำอาคาร "ไปรษณีย์ บางรัก" สมัย ร.7 ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่ามากมาย ไปแปลรูปทำ "โรงแรม" แค่ป้องกันการขาดทุน...

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ผู้ทรงคุณวุฒิหลายฝ่ายแสดงความไม่เห็นด้วยต่อประเด็นที่คณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ไปรษณีย์ไทยมีดำริว่า น่าจะนำ "อาคาร ไปรษณีย์กลางบางรัก" ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 70 ปี เป็นสถาปัตยกรรมเก่าสมัยรัชกาลที่ 7 อันทรงคุณค่าไปจัดทำ "โรงแรมขนาดเล็ก" ไม่เกิน 100 ห้อง พร้อมทั้งมีโซนการค้าอยู่่ในนั้นด้วย โดยอ้างว่าเพื่อหารายได้ป้องกันการขาดทุนนั้น ส่งผลให้หลายฝ่ายแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้กันอย่างเผ็ดร้อน ...นนน



     นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวผ่าน ไทยรัฐออนไลน์ ว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และน่าตกใจมากๆ ซึ่งหากเป็นไปได้ ก็อยากจะขอความร่วมมือกับคนคิดโครงการนี้ว่า เนื่องจากอาคารไปรษณีย์กลางที่บางรัก เป็นตึกที่เก่าแก่ มีคุณค่า อีกทั้งยังมีความเป็นมาอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไทย ก็อยากให้ทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง

"จริงๆ แล้วอาคารเก่าแก่เหล่านี้ถึงแม้มันจะไม่สามารถทำเป็นธุรกิจ เพื่อประกอบการเป็นผลกำไรได้ แต่อย่าลืมว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจมากๆ สามารถทำให้คนได้รู้ประวัติศาสตร์ความเป็นไปเป็นมาทำให้รู้ประวัติศาสตร์ของชาติไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในระยะหลังๆ ผมสังเกตว่าทำไมเดี๋ยวนี้ในประเทศไทยไม่ค่อยเห็นคุณค่าของประวัติศาสตร์กันเลย แต่กลับหันมาทำเป็นธุรกิจกันหมด อันนี้จะต้องสร้างความสำนึกของคนให้เห็นสิ่งเหล่านี้ เพราะว่าเมืองนอก อย่าว่าแต่เป็นอาคารเก่าเลย แม้แต่สะพานเก่าแก่ที่สร้างมาเป็นร้อยปี เมื่อเขาจะสร้างสะพานใหม่ แต่เขาก็ยังอนุรักษ์สะพานเก่าเอาไว้ ซึ่งอาคารเหล่านี้ อยู่ใจกลางเมืองผมก็อยากให้อนุรักษ์เอาไว้ ดังนั้นจึงอยากจะเรียกร้องให้ทบทวนแนวความคิดนี้ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มันมีคุณค่าทางจิตใจ แบบที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้แน่นอน"

ด้าน อ.วศิน ธรรมานุบาล หัวหน้าสาขาวิชาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) กล่าว ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้ เพราะดูจากจุดมุ่งหมายแล้วทางบอร์ดไปรษณีย์ต้องการที่จะหารายได้มากกว่า ซึ่งขณะนี้ไปรษณีย์กำลังหลงประเด็นว่าหน้าที่ของเขาคืออะไร

"จริงๆ คุณมีหน้าที่ให้บริการการสื่อสารไม่ใช่หรือ การจะอ้างว่าเอาทรัพย์สินที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาหารายได้ มันคงไม่ใช่เพราะความสำคัญของสถานที่เหล่านี้มีมากกว่าการเอามาทำเป็นโรงแรม ควรหารายได้ด้วยวิธีอื่น อย่าคิดถึงผลตอบแทนเป็นตัวเงินอย่างเดียว ไปรษณีย์ควรตอบแทนด้านการให้ความรู้ดีกว่าไหม อย่างเช่น เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์เพราะจะเอาโบราณสถานมาวัดกำไรขาดทุนผมว่าไม่ถูกต้องเอาผล กำไรในการพัฒนาคนในชาติแทนดีกว่า ตึกอาคารเก่าล้วนมีเรื่องราว มีความเป็นมา สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสถานที่นั้นๆ ได้ ซึ่งถ้าคนลงทุนเขาครอบครองอาคารนั้นถูกกฎหมาย ผมก็เฉยๆ นะ แต่ถ้าเป็นของราชการแล้วเอามาทำแบบนี้ไม่เหมาะสม ซึ่งการสร้างโรงแรม ไปรษณีย์ก็ทำเองไม่ได้อยู่แล้ว ก็ต้องจ้างบอร์ดบริหารมาอยู่ดี เรื่องนี้ต้นทุนกำไรเขาคิดเป็นหลักอยู่แล้ว และคนทั่วไปไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้บริการได้ ผมมองว่าตอนนี้ไปรษณีย์กำลังเอาความสำคัญของประวัติศาสตร์ที่สร้างมาทำ ประโยชน์ให้กับคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นไม่แฟร์และได้ไม่คุ้มเสีย"

หัวหน้าสาขาวิชาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เอแบค ยกตัวอย่างว่า เท่าที่ทราบทุกคนที่มีตึกเก่าเขาก็จะอนุรักษ์เอาไว้อย่าง ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นบริษัทเอกชนแท้ๆ ยังอนุรักษ์ตึกเก่า เราก็ควรจะอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกศูนย์การเรียนรู้ของประเทศดีกว่า ซึ่งมันก็จริงที่ค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างสูง แต่ว่าคุณก็ต้องหาวิธีว่าเอาเงินตรงไหนมาสนับสนุน ไม่ใช่เห็นว่าขาดทุนหลายร้อยล้าน แล้วเอาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ในขณะที่คุณภาพของคนในชาตินั้นลดลง ประเทศก็ไม่เจริญ คุณก็ต้องขายสมบัติกินแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

     ด้านนายจรัสพงษ์ สุรัสวดี หรือ ซูโม่ตู้ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสถาปัตยกรรมกล่าวไม่เห็นด้วยกับการทำโรงแรมขึ้นมา เพื่อป้องกันการขาดทุนของไปรษณีย์ไทย

"ผมแนะนำวิธีแก้การขาดทุนง่ายๆ ก็คือหน่วยงานไหนไม่สามารถทำกำไร หรือเอาตัวไม่รอดต้องยุบไปตามธรรมชาติไม่ใช่ดื้ออยู่แล้วขายยาบ้าเอามาผ่อนไม่ได้ ซึ่งความเก่าแก่ของอาคารแบบนี้ต้องควรอนุรักษ์เอาไว้ก่อน คำถามผมก็คือว่าวันนี้ประเทศไทยไม่ได้เหลือพื้นที่น้อยขนาดนั้นเชียวหรือ จำเป็นแค่ไหนที่ต้องไปทำลายของมีคุณค่าขนาดนั้น ซึ่งถ้าอยากจะทำโรงแรมจริงๆ แนะนำให้สร้างโรมแรมคล่อมอาคารเก่าแก่นี้เอาไว้เหมือนกับประเทศทางสแกนดิเน เวียนเขาทำคือต้องเดินเข้าไปถึงจะเห็นเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ถามว่าสนับสนุนแนวความคิดนี้ไหม ไม่สนันสนุนแน่นอน"

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหน หากจะแปลงโฉมแค่ภายในของอาคารไปรษณีย์บางรักเป็นโรงแรม โดยปล่อยให้ภายนอกคงเป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ดังเดิม

"คำถามผมก็เกิดขึ้นอีกว่าการรีโนเวทแบบนี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งต้องมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญต้องเป็นครูบาอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญชั้นสูงพอสมควร ซึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ ถึงแม้จะบอกว่าทำแค่ภายในก็ยังต้องรักษาสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าเอาไว้ เหมือนกัน ปูนปั้นต่างๆ ที่สมัยนี้เราหาไม่ได้แล้ว ที่สำคัญถ้าบอกว่าจะรีโนเวทภายในหมายถึงการที่ไม่ต้องทุบอะไรเลยจะทำอย่าง นั้นจะดีมากๆ ผมมองว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย ก็อยากจะฝากเอาไว้ให้ทุกๆ คนคิดว่าการทำความเจริญทางวัตถุอยู่กลางธรรมชาติที่ควรอนุรักษ์เอาไว้มันจะ มีประโยชน์อะไร สิ่งนี้คือสิ่งที่ทุกคนต้องตอบตัวเอง"

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ประวัติโครงการสร้างตึกที่ทำการกรมไปรษณีย์โทรเลขแห่งใหม่นี้ ดำริขึ้นเป็นครั้งแรก โดยพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์ และคมนาคม แต่ไม่บรรลุเป็นผลสำเร็จบังเอิญรัฐบาลต้องกระทบกระเทือนทางเศรษฐกิจจึงเป็นอันระงับไป จนถึงพุทธศักราช 2477 ในสมัยที่หลวงโกวิทอภัยวงศ์ รัฐมนตรีดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ก็ได้รื้อฟื้นโครงการสร้างตึกที่ทำการกรมไปรษณีย์โทรเลขขึ้นพิจารณาอีกเป็น ครั้งที่ 3 และได้รายงานขออนุมัติให้กระทรวงเศรษฐการตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง ให้มีหน้าที่เร่งรัดและพิจารณาโครงการสร้างตึกที่ทำการกรมไปรษณีย์โทรเลขให้สำเร็จลงโดยรวดเร็วอย่างจริงจัง เมื่อคณะกรรมการได้ตกลงในเรื่องแบบแผนผังตลอดจนรายละเอียดต่างๆ เสร็จ

หลังจากนั้นจึงได้เลือกพระสาโรชรัตนนิมมานก์ หัวหน้ากองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร เป็นสถาปนิก และพระสาโรชรัตนนิมมานก์ เลือกนายหมิว อภัยวงศ์ เป็นผู้ช่วยสถาปนิก กับเลือกนายเอ็ช เฮอรมัน เป็นวิศวกร ทั้งนี้ ได้เริ่มงานก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2478 แล้วเสร็จส่งงานเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2481 รวมเป็นเวลาก่อสร้าง 3 ปี 5 เดือนเศษ

สำหรับการออกแบบ อาคารแห่งนี้เป็นรูปตัวที (หมายถึงตัวT) สูง 4 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้น ส่วนหน้ากว้าง 103.80 เมตร ลึก 38.52 เมตร ส่วนหลัง กว้าง 22 เมตร ลึก 96 เมตร ตัวอาคารด้านหน้ามีการแบ่งความยาวออกเป็น 5 ส่วน โดยเน้นความสำคัญของตำแหน่งศูนย์กลาง โดยให้มุขหน้าบริเวณกึ่งกลางของอาคารมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีการประดับด้วยปูนปั้นรูปครุฑ ที่บริเวณมุมหน้าทั้ง 2 ด้านของมุขหน้า ซึ่งเป็นเครื่องประดับอาคาร ที่ได้รับความนิยมในงานสถาปัตยกรรมในยุคนั้นก่อสร้างแล้วเสร็จและทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2483 ปัจจุบันมีอายุการใช้งานประมาณ 70 ปี

ทั้งนี้ อาคารแห่งนี้ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมโมเดิร์น (Modern Architecture) ตามแนวทางของศิลปะใน ยุค Neo-Classicism ผสม Functionalism เน้นการออกแบบที่มีความเรียบง่าย ตรงไปตรงมาลดทอนการประดับประดา โดยใช้เส้นตรงและระนาบเข้ามาประกอบ ซึ่งผู้ออกแบบปูนปั้นประดับอาคาร ปณก. ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี ศิลปินผู้บุกเบิกงานประติมากรรมแบบสากลในประเทศไทย สมัยรัชกาลที่ 8 ซึ่งมีคติการออกแบบสถาปัตยกรรมยุคนั้นจะต้องมีรูปปูนปั้นประกอบเสมอ เช่น ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สนามกีฬาแห่งชาติ นอกจากนี้ภายในยังมีรูปปูนปั้นที่ยังคงความสวยงามอย่างมากมาย

     นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลอีกว่าเมื่อ 6 ปีก่อน กรมศิลปากร ได้มีหนังสือที่ วธ.0407/1480 ลงวันที่ 9 เมษายน 2547 แจ้งว่าปัจจุบันอาคาร ปณก. ถือเป็นโบราณสถาน ตาม พ.ร.บ. โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535) แต่กรมศิลปากร ยังมิได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานอีกด้วย.

Credit : ไทยรัฐออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2553

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์

H O M E



Create Date : 07 กรกฎาคม 2553
Last Update : 7 กรกฎาคม 2553 21:43:06 น. 0 comments
Counter : 1864 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.