|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
3 มีนาคม 2564
|
|
|
|
ตายายสายแค้มป์ปิ้ง : อช.ขุนสถาน
หลังจากทริปตายายล่มมาหลายครั้งจัดกระเป๋าเก้อ เหตุจากโควิด19บ้าง เจ๊าะแจ๊ะป่วยหนักบ้าง ลูกกลับมาเยี่ยมบ้านบ้าง
ครั้งนี้เป็นฉุกละหุกทัวร์ บ่ายๆคุณที่บ้านบอกจัดกระเป๋าเลย พรุ่งนี้เดินทางตอนเช้า เอ๊า....รีบบริหารจัดการ งานบ้าน จดรายการยา อาหารที่ต้องให้เจ๊าะแจ๊ะตามเวลา ฝากลูกสาวไว้ กำชับนักกำชับหนาว่า อย่าลืมที่จดไว้ให้นะ พร้อมขอให้รดน้ำผักรอบบ้านให้แม่ด้วย วันละครั้ง ซึ่งลูกก็รับปาก แต่ก็นึกระทึกอยู่ลึกๆเหมือนกันว่า ผักเราน่าจะแย่ เจ๊าะแจ๊ะก็ไม่รู้ได้กินยากินอาหารครบมั๊ย เตรียมอาหารตุนไว้ให้เจ๊าะแจ๊ะเรียบร้อย
กระเป๋าที่จัดค้างไว้คราวก่อนเพราะทริปล่มยังอยู่ เครื่องกันหนาวอัดไว้เพียบ รื้อออกบ้าง เอากันหนาวไปแค่ชุดเดียวพอ ใส่ซ้ำได้ ไปกันเอง2คนตายาย ไม่มีคนอื่น แต่เรื่องผ้านวมหนานุ่มต้องเอาไป คุณเขาหอบหมอนข้างไปด้วยค่ะ ไม่เคยขาดสักครั้ง รู้สึกอายๆคนที่เห็นอยู่เหมือนกัน เวลารื้อเอาหมอนข้าง หอบเข้าเต๊นท์ หรือโรงแรม
รถตรวจสภาพพร้อมเดินทาง เต๊นท์ติดหลังคารถพร้อมกระเป๋าสัมภาระก็พร้อม เช้าออกเดินทางได้
จากที่พักเดินทางถึงอ.ทับสะแก พขร.อยากแวะเข้าไปไหว้พระที่ วัดอ่างสุวรรณ อ.ทับสะแก ที่มีโบสถ์สร้างด้วยไม้ตาลทั้งหลัง สวยงามมาก ใช้เวลาสร้างถึง 7 ปีครึ่ง ใช้ไม้ตาลเป็นหมื่นต้น ซึ่งอายุต้นตาล70-100ปีเลยทีเดียว จากปากทางเพชรเกษมเข้าไป ไม่ไกลนัก แวะไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัย ไหว้ หลวงพ่อไทร พระพุทธรูปยืนที่สลักจากไม้ไทร ปากทางเข้าเหมือนเข้าเมือโบราณเลย ด้วยมาถึงเกือบ 4 โมงเย็นแล้ว ไม่มีใคร ทำบุญรับดอกไม้ธูปเทียนเข้าไปไหว้พระปิดทองด้านใน
เดินทางต่อ ผ่าน ต.นาหูกวาง ผ่านหงส์ทองริมทางที่ทับสะแก ปากทางเข้าวัดห้วยลึก หงส์ทองตัวนี้มีเรื่องเล่าขานมานานปี ลองไปหาอ่านได้นะคะ
เดินทางถึงชะอำ จ.เพชรบุรี พขร.หมดแรง และติดมืด ต้องพักค้างคืนที่ รร.เพชรชะอำพลาซ่าแอนด์รีสอร์ท ที่พักประจำระหว่างเดินทางเกือบทุกครั้ง ที่พักสะอาดและสะดวก ติดถนนใหญ่ ราคาไม่แพงเลย
เช้าวันรุ่งขึ้นเราเดินทางต่อค่ะถึงชัยนาท เจอท้องนามีต้นตาล บอกพขร. ....จอดๆๆๆๆๆๆๆ พขร.จอดรถพรืด คว้ากล้องลงไปถ่ายให้ เพราะรู้ใจดีว่า ภรรยาบ้าท้องนาเขียวๆและต้นตาล คงนึกว่า ชาติที่แล้วเมียตรู เคยเกิดเป็นควายแน่นอน
เที่ยงแวะกินข้าวที่ Home Pro จ.นครสวรรค์พอเข้าเขต โพทะเล จ.พิษณุโลก เห็นต้นตะแบก อินทนิล เสลาตลอดสองข้างทาง อยากลงถ่ายแต่ พขร.บอกว่า พอเถอะ จะไม่ถึงน่านเอานะ เลยถ่ายจากรถที่วิ่ง ภาพไม่ชัดค่ะ ดูด้วยตา สวยมาก ม่วงไล่สี เข้าเขตจ.แพร่ ต้องถ่ายกำแพงนี้ทุกครั้ง เวลา 17.05น.แล้ว โห....ครั้งนี้ไม่ถึงน่านแน่นอน ช้ากว่าทุกครั้ง คงเพราะพขร.อายุแยะแล้ว เมื่อ6-7 ปีก่อน ขับรวดเดียวจากชะอำถึง อช.ขุนสถาน ปีนี้ไม่ถึงค่ะ คืนที่2แล้ว ต้องมองหาที่พักข้างทาง เจอรีสอร์ทเล็กๆ มีที่พักเป็นเรือนไม้สักหลังเล็กๆ 12 หลัง ชื่อ เฮือนสักทอง แวะพีกที่นี่แหละ ต้องยูเทิร์นข้ามฝั่งมา ราคาคืนละ550บาท ดูผ้าปูปลอกหมอน พื้นสะอาดดี คนที่มาต้อนรับเล่าว่าตัวเองเป็นคนสิงคโปร์ มาช่วยเพื่อนอยู่ที่นี่หลายปีแล้ว มิน่า เขาพูดไทยไม่ชัดเลย ค่ำๆมีรถแขกเข้ามาอีก 2 คันรถ พักหลังติดกับเราเช้าๆอากาศดี กินกาแฟ ขนมเสร็จ เดินทางต่อ ไม่ไกลก็ถึงอ.ร้องกวาง แวะเข้าตลาดสด ตุนของสดและผัก ผักราคาถูกมากๆ กะหล่ำสดๆหัวใหญ่มาก หัวละ10บาท มะเขือเทศและพริก ถุงละ 5 บาท แม่เจ้า! ถ้าเราอยู่ที่นี่ต้องเก็บเงินได้แยะแน่ๆเลยถึงทางเข้า อ.ขุนสถานแล้ว พอเลี้ยวหัวรถเข้าไปทางขวามือ เจอป้ายประกาศว่า อุทยานแห่งชาติขุนสถานปิดไม่ให้เข้าพักหรือกางเต๊นท์ ตั้งแต่ 16 ก.พ.64เป็นต้นไป อ้าว เฮ๊ย....มาตั้งไกล แต่เจอที่ทำการปิด ยังไม่ละความตั้งใจ จอดรถลงไปถามร้านข้างทางเข้าเพื่อความแน่ใจ เจ้าของร้านบอกว่า เปิดแล้ว นั่นป้ายเก่าตอนโควิดระบาดรอบ2 เขายังไม่เอาออก ...โห...โล่งเลย เข้าไปสักพักเจอด่านคัดกรอง ก็ลงไปเขียนรายละเอียด แล้วเดินทางต่อ ที่จ.น่านเขาเข้มแข็งเอาจริงเอาจังกันดี ตั้งแต่ทางเข้าเขตก็ตรวจเข้มกันมาครั้งหนึ่งแล้วเจอดอกพวงครามข้างทาง แวะค่ะ สีโปรด มีมะเขือเทศลูกเล็กๆด้วย ที่จริงอยากซื้อ แต่ไม่เห็นเจ้าของ ต้องผ่านค่ะเจอส้านดอกขาวปากชมพูต้นแรก กรี๊ดกร๊าด คุณพขร.รู้ใจ คว้ากล้องส่งให้ บอกเธอไปเองเหอะ จะรอในรถ..ไรแว้ ลงไปเซลฟี่เองก็ด่ะ ทั้งสวยทั้งหอม ชอบเลยเห็นชาวบ้านมาตั้งโต๊ะขายสตรอเบอรี่กับกูซเบอรี่ข้างทางคุณเขาจอดเองเลย เพราะรู้ว่าเราชอบโทงเทงฝรั่ง ชิมไปซื้อไป ถามว่าปลูกเองเหรอ คนขายบอกปลูกเอง สวนอยู่บนเนินข้างหลังโน่น เราถามไกลมั๊ย เขาบอกไม่ไกล เดินขึ้นไปดู ไปเก็บสดๆเองได้เลย สตรอเบอรี่ลูกโต กล่องละ200บาท ลูกกลาง 150 เราได้มา 2 กล่อง 150บาท และโทงเทงอีก 1 กก. 100บาท มีกล่องๆใต้โต๊ะแยะเลย แม่ค้าบอกว่ามีคนมาสั่งไว้ คนขายใจดีลดให้ ขึ้นไปที่สวน เก็บกินสดๆหวานฉ่ำ โทงเทงกำลังผึ่งให้แห้งอยู่แยะเลย แป๊บเดียวมีรถตู้มาจอดอีก2คัน เดินตามขึ้นไปเก็บอีก ตกลงขายเกลี้ยงแผง ตอนขากลับแวะซื้ออีก มีแต่สตรอเบอรี่ แต่โทงเทง เอาไปส่งในเมืองหมดแล้ว เสียดาย ลูกโตหวานดีมาก
ถึงแล้วค่ะจุดหมายปลายทางของเราคืนนี้ เสียค่าเข้าคนละ20บาท ค่ารถ คันละ30 บาท ค่ากางเต๊นท์ไปเสียด้านบน คนละ 30 บาท อายุเกิน60 เสียแต่ค่ารถค่ะ ค่าเข้าและค่ากางเต๊นท์ไม่ต้องเสีย ซึ่งไม่เหมือนกันทุกที่นะคะ บางที่ก็เก็บค่ากางเต๊นท์ บางที่ก็ไม่เก็บ ไม่รู้ทำไมค่ะขึ้นไปจอดรถด้านใน เวียนหาทำเลจอดก่อน ด้านบนที่เห็นไกลๆ 2 ข้าง เป็นจุดกางเต๊นท์ เนิน1 และเนิน 2 ซึ่งเอารถเข้าไปไม่ได้ ก็ต้องผ่าน เพราะเราเป็นเต๊นท์ที่กางอยู่บนหลังคารถจุดนี้เป็นลานจอด ฮ. เฉพาะหน้าป้ายห้ามกางเต๊นท์ สงวนไว้ให้ถ่ายรูป วิวสวย แต่เรากางไม่ได้อีก ผ่าน
ขับรถกลับไปด้านล่างอีกนิด แวะเข้าไปด้านในสุด ถัดจากบ้านพักไปตรงนี้เป็นร้านกาแฟค่ะ นั่งจิบกาแฟชมวิวสวยๆได้วิวจากจุดที่เราเลือก เป็นริมผา วิวสวยพอประมาณ เป็นจุดเดียวที่เราจอดรถเต๊นท์ได้สบายและห่างไกลผู้คนจอดรถไว้ข้างล่างแล้วปีนเนินเขาเตี้ยๆขึ้นไปดูวิว มองลงไปเห็นรถของเรา จอดเล็งที่พักไว้อยู่ค่ะ แต่ไม่ได้จอดตรงนี้ เราวนเข้าไปทางขวาของภาพ จนไปถึงหน้าผาดอกไม้บนเนินเขา ดอกเล็กๆรูปโคมสวยน่ารักมากๆ ไม่รู้จักชื่อค่ะ ใบอ่อนสีแดงชมพูได้จุดจอดรถเต๊นท์ก็ลงมือกางเต๊นท์หลังคา ไม่ยากเหมือนกางเต๊นท์พื้น สะดวกและปลอดภัยจากแมลง มดคันไฟ มดตะนอยมาก รื้ออุปกรณ์ทำครัวออกมาทำอาหารเย็นกันถ่ายคนถ่ายวิวไปพลางช่วงทำอาหาร ลมเย็นพัดมา เริ่มหนาว ทำอาหารเสร็จรีบไปอาบน้ำก่อนค่ำ ห้องน้ำเดินไปไม่ไกล สะดวกมากค่ะอาหารมื้อนี้ ทำข้าวผัดกะเพราหมู ผักเหมียงผัดไข่(แวะซื้อผักเหมียงอ่อนๆจากชุมพร) และหมูทอดน้ำปลา อิ่มอร่อยกันไป
ระหว่างกินข้าวมีแขกที่เข้าบ้านพักใกล้ๆ เดินมาทักทาย คุยกันเรื่องเต๊นท์แบบคนคอเดียวกัน บางคนเดินเอาของกินมาให้ ของมีนเมาก็มี คุณเขาไม่รับ แต่เอาเม็ดกาหยีอบกรอบ ที่เราติดรถมา ไปให้ แสดงอัธยาศัยไมตรีเก็บของล้างถ้วยชาม แปรงฟัน ก็ปีนขึ้นเต๊นท์นอน ฟังเสียงนกกลางคืน เสียงลมพรึ่บพรั่บ อากาศลดลงไปเหลือ15องศา กำลังสบายๆใต้ผ้านวมหนานุ่มที่หอบเอาไปด้วย หลับสบายค่ะยามเช้าอากาศเย็น ไม่มีหมอก อาทิตย์ตกและขึ้นมองเห็นจากตรงจุดที่เราพักอาหารเช้าง่ายๆ กาแฟและขนมพร้อมผลไม้ที่ซื้อจากข้างทางมา กินกันที่ท้ายรถนี่แหละ มีลิ้นชักที่ชักออกมาทำโต๊ะกินกาแฟได้สบายๆ คุณเขาช่างออกแบบ และทำโน่นนี่เก็บเต๊นท์หลังคา เวียนถ่ายภาพอีกรอบ เอาพาสปอร์ตไปแสตมป์ระเบียงบนร้านอาหาร กว้างขวางชมวิวได้เป็นจุดหมายปลายทางที่เราชอบ ที่กางเต๊นท์ไม่มากนัก แต่วิวสวยงามดีค่ะ เราเคยพลาดไปเมื่อ 2 ปีก่อนช่วงปีใหม่ ขึ้นมาไม่ได้ เต็มหมด แม้ที่จอดรถก็ไม่มี ต้องไปกางบนเนินไร่ของชาวบ้าน ครั้งนั้นหมอกลงจัดและหนาวสุด นี่เป็นสาเหตุที่ คุณเขาต้องการมากางเต๊นท์บนนี้ให้ได้นั่นเอง สมใจเขาละสวัสดี
Create Date : 03 มีนาคม 2564 |
Last Update : 3 มีนาคม 2564 12:33:57 น. |
|
18 comments
|
Counter : 823 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณทนายอ้วน, คุณkae+aoe, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณhaiku, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณSleepless Sea, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเนินน้ำ, คุณSweet_pills, คุณสองแผ่นดิน, คุณหอมกร, คุณKavanich96, คุณnewyorknurse |
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:12:56:53 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:12:58:40 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:13:56:21 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:14:49:15 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:15:09:51 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:23:22:20 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 3 มีนาคม 2564 เวลา:23:54:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 มีนาคม 2564 เวลา:6:11:57 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 5 มีนาคม 2564 เวลา:17:02:42 น. |
|
|
|
| |
|
|
ตะลีกีปัส |
|
|
|
|