พระอาทิตย์ยามเช้ามองเห็นได้ชัดเจนจากห้องนั่งเล่นเเละระเบียง
หลายอาทิตย์มานี้นอกจากพี่หนูพลอยจะไม่สบายมากเเล้ว
ยังโดนงานสารพัดชนิดท่วมหัวหูจนโงศีรษะเเทบไม่ขึ้น
จึงไม่ค่อยมีโอกาสไปเยี่ยมเยียนพูดคุยกับคุณๆได้บ่อยเหมือนเคยครับ
เหตุผลสำคัญอีกอย่างก็คือ
คุณเธอต้องย้ายบ้าน ซึ่งเรียกว่าค่อนข้างปัจจุบันทันด่วนทีเดียว
จากระเบียงบ้านมองออกไปเห็นทะเลซึ่งอยู่ไม่ไกลครับ
ตอนนี้คุณเธอได้ทำการย้ายสำมะโนครัว
เข้ามาอยู่บ้านใหม่ได้สี่วันเเล้ว
พึ่งได้มีเวลาจัดการจัดเก็บข้าวของต่างๆ
เพราะพึ่งได้หยุดงานเมื่อวานนี้เองครับ
บ่ายวันนี้คุณเธอออกไปเดินรอบบ้านมา ถือโอกาสเก็บภาพมาด้วย
เลยคิดว่าน่าจะนำมาให้คุณๆได้ชมกัน
สระว่ายน้ำเล็กๆตั้งอยู่ด้านข้างของตัวบ้าน
เเต่เนื่องด้วยโควต้าหน้าบล๊อกยังเป็นของผมนายพอลสุดหล่อ
ดังนั้นคุณเธอจึงมอบหมายให้ผมทำหน้าที่เป็นไก่ โอ๊ะ..... ไกด์
พาคุณๆทัศนาทัวร์กันพอหอมปากหอมคอนะครับ
ที่ต้องเล่นกันเเค่เพียงฉบับย่อ ก็เพราะด้วยเวลานอนของผมมีจำกัด
ขอได้โปรดเห็นใจกะเหรี่ยงไทยผู้ต้องทำงานหาบ่ายกินดึกด้วยครับ
ลิฟต์อยู่เยื้องไปจากประตูหน้าบ้านนิดเดียว (ทั้งที่ตึกนี้มีเเค่สี่ชั้นเอง.....)
เจ้าตัวเขากระซิบมาว่า
เนื่องด้วยความสามารถในการถ่ายภาพติดเอฟ
ดังนั้นภาพต่างๆจึงอาจจะออกมาเเบบสวยเกรดซี (ไหนเมื่อกี๊บอกเอฟ.....)
เเถมยังหยิบยืมกล้องของคนอื่นเขามาใช้อีกต่างหาก
เเบบว่าไม่มีอุปกรณ์เป็นของตัวเอง
ดังนั้นโปรดช่วยๆกัน ทนๆดูบ้าง ผ่านๆตาบ้าง จะเป็นพระคุณครับ
เเผงออดหน้าหน้าประตูตึก..... ทายกันดูครับว่าคุณเธออยู่ยูนิตอะไร
จากตรงนี้ไปผมจะเล่นง่ายด้วยการใช้เเต่เพียงคำบรรยายใต้ภาพ
เพื่อเป็นการเพิ่มเวลานอนให้เเก่ตัวเองครับ
บอกเเล้วว่าทัวร์นี้มินิ
ทางเดินเข้าบ้านกับสีสวยๆของไม้ดอกไม้ใบ
หน้าบ้านหลังใหม่ที่ประกอบไปด้วยผู้ร่วมตึกอีกหกยูนิต
คราวนี้เราออกไปชมโลกกว้างภายนอกกันบ้างครับ
ไปดูสิว่าผู้คนเเถวๆนี้ เขาทำมาหารับประทานอะไรกัน
อารยธรรมรอบบ้านประกอบด้วยอะไรบ้าง
ไม่ไกลครับ..... โกวเล้ง (หรือกิมย้งก็ไม่รู้) กล่าวเป็นภาษิตจีนว่า
เดินเท้าเพียงชั่วก้านธูป (อื้อหือ..... คม)
เเปลกันง่ายๆว่า เเค่สิบนาทีเท่านั้นครับ
สารพัดเมนูที่ร้านค้าเเถวนั้นเอามาตั้งบนบาทวิถีเพื่อเรียกลูกค้า
เรียกว่าเเข่งกันทำมาหากินครับ
ฝรั่งหัวทองทั้งนั้น กินกันเอร็ดอร่อย .....ไม่ต้องห่วงครับ
พี่หนูพลอยของผมมีหรือจะยอมน้อยหน้าฝรั่งตาน้ำข้าว
คุณเธอไปเข้าคิวรอซื้อซีฟู้ดกับเขาเเล้วเรียบร้อย
สวนสาธารณะเล็กๆฝั่งตรงข้ามที่ฝรั่งมังค่ามักหอบลูกจูงหลาน
มานั่งล้อมวงเหล้า เอ๊ย..... ปิ้งหมูปิ้งไก่ ย่างบาร์บีคิวกันต่างหากเล่า
หน้าสวนฯคือป้ายรถเมล์หลักของย่านนี้เขาล่ะ
ดูกันให้ชัดอีกทีครับ..... หน้าตาต่างจากป้ายรถเมล์บ้านเราบ้างไหม
อะไรเอ่ย..... ฟ้าๆ ใหญ่ๆ เหลี่ยมๆ .....เอิ๊ก
หนึ่งในบ้านสวยเเละโลเกชั่นดีที่สุดในเมืองนี้เขาล่ะครับ
ก็จะไม่ดีได้ไงครับ ก็เล่นตั้งอยู่หน้าหาดเป๊งเลย.....
พี่หนูพลอยไปเดินเลียบๆเคียงๆ (รั้วบ้านเขานะ) ด้วยเเววตาละห้อย
น้ำลายไหลเยิ้ม โอ๊ะ.....หนักไป หมายความว่า
คุณเธออยากได้ใจจะขาด เเต่อับจนด้วยทุนทรัพย์ครับ
ก็เเหม..... จะซื้อหลังนี้ได้ต้องมีไม่ต่ำกว่าร้อยล้านเชียวนะครับ
กะเหรี่ยงอย่างพวกเราคงทำได้เเค่ชะเเง้เเลมองเท่านั้น
ชาติหน้าไม่เกิดมาเหลี่ยม เฮ้ย..... ผิดงานอีก
คือหมายความว่า ไม่เกิดมารวยบ้างก็เเล้วไปสิน่า
ขากลับคุณเธอเดินผ่านบรรดาร้านรวงต่างๆเเบบชิดใกล้
เรียกว่าตั้งใจเฉียดเพื่อเก็บภาพ
เเต่ก็ทำได้เเค่พอหอมปากหอมคอครับ
เพราะขืนถ่ายกันโต้งๆตรงๆ พ่อค้าเเม่ขายเเถวนั้นจะได้ออกมากลุ้มรุมปะไร
โทษฐานทำตัวคล้ายจะเป็นสปายขมายไอเดียนั่นล่ะครับ .....เฮ้อ
คาเฟ่อิตาเลี่ยนกับโต๊ะเก้าอี้สีสันสดใส
เเต่อย่าถามว่าอาหารอร่อยไหม เพราะยังไม่เคยได้ลองครับ
อีกมุมหนึ่งของร้านเดียวกันครับ
ร้านนี้มีเเต่เหล้า ....หากเข้าไปต้องมีบัตรประจำตัวนะครับ
เพราะฝรั่งมักเดาอายุของกะเหรี่ยงอย่างพวกเราไม่ถูก
พี่หนูพลอยถูกใจนักล่ะ เวลาโดนคนขายขอดูบัตร
ร้านสุดท้ายขายเสื้อผ้าเซิร์ฟ
ไอ้ยี่ห้อดังทั้งหลายที่วัยรุ่นบ้านเรานิยมกันทั้งของก๊อบของเเท้
ใส่กันจนไม่รู้ว่าชิ้นไหนปลอมชิ้นไหนจริงนั่นล่ะครับ
เเล้วอาทิตย์ก็อัสดง .....กับเเสงสุดท้ายของวัน
ภาพถ่ายจากบนระเบียงบ้านอีกเช่นกันครับ
สิ้นสุดกันที โอ๊ะ..... หมายถึงว่า ผมจะได้ฤกษ์ได้ยามเข้านอนเสียทีครับ
กู๊ดบาย ซันไชน์ บีช .....
เเล้วพบกันอีกครั้งที่โต๊ะกาล่าดินเนอร์ครับ
ไม่สบายยังไม่หายอีกเหรอคะ พักผ่อนเยอาะๆน๊า