เมื่อต้องปวดประสาทกับพี่ชายคนกลาง
ระหว่างที่แฟนเราไปเที่ยวและทำงาน พี่ชายตัวดีของเรา
ก็โทรมาทำให้เราประสาทเสีย สาปแช่งเราสาระพัด
ทั้งเดี๋ยวแฟนเราก็ทิ้งเรา บ้านเขารวยขนาดนั้นอย่างนั้น
อย่างนี้ เขามีสิทธิเลือกคนที่ดีกว่าเรา เขารวยกว่า ยังไง
เขาก็หาใหม่ได้ เราก็บอก ถ้าหาดีกว่า คงไม่ต้องรอมา
คบกับเราตั้ง 10 ปีมั้ง เห้ยย มึงเชื่อกู เดี๋ยวเค้าก็เลิกมึง
(จะให้เชื่อคนที่โดนผู้หญิงหลอกเงินตลอดเนี่ยนะ ตลก!
ชีวิตเจอแต่ความรักที่ผิดหวัง เพราะมึงเลือกแต่ผู้หญิงสวย
แล้วใช้เงินเก่งเนี่ยแหละ เตือนไรก็ไม่ฟัง แถมยังมาแช่งตรูอีก)

แล้วพี่เราก็ว่า คนรวยเขาจะมีผู้หญิงกี่คนก็ได้
มึงอยู่ไม่ได้หรอก ถ้ามีผู้หญิงกี่คนก็ได้ เขาคง
ไม่รับโทรศัพท์เราแค่คนเดียวมา 10 กว่าปีหรอกมั้ง
ขนาดโทรศัพท์พ่อแม่ยังไม่ค่อยรับ รับแค่เวลาเราโทรตลอด
แล้วตอนเรียนนี่ก็มีผู้หญิงโทรมานะ แต่ก็รับตรงหน้าแหละ
ก็เห็นคุยแต่งาน ไม่ก็มานั่งบ่นเพื่อนแต่ละคนให้ฟัง
เพื่อนก็เห็นว่ามีแฟนแล้วเป็นตัวเป็นตน แล้วก็
อยู่ด้วยกันเกือบทุกวัน ทั้งเดือนอยู่ด้วยกันตลอด
กินข้าวก็กินด้วยกันทุกมื้อ ไม่ได้บังคับให้มากินด้วยเลย
บอกให้กินกับเพื่อนบ้าง ก็ยังไม่ไปเลย ก็มากินข้าวด้วย
ทุกมื้อ ไม่เคยขาด

แล้วก็ย้ำเนี่ยเขาเริ่มหนีไปต่างประเทศตลอดแล้ว
(แค่กำหนดการครอบครัว กับงานของเขา ซึ่งเรา
ก็รู้มาตั้งนานแล้วว่าเขามีกำหนดการอะไรบ้างเนี่ยนะ)
เดี๋ยวเค้าก็ทิ้งเรา (อีกรอบ) แล้วพอเราบอกพี่ว่า
ของทุกอย่างของเขาอยู่ที่เรา ไม่ไว้ใจไม่ฝากแม้กระทั่ง
กุญแจบ้าน สมุดบัญชี เงินสดทั้งหมดที่มีแบบนี้หรอก

พี่เราก็สาปต่อ แช่งให้เราไม่มีลูก จะได้รับลูกของญาติ
ที่เพิ่งจะสร้างความอับอายให้ตระกูลไปเลี้ยง
เราก็แบบ ถ้าไม่มีลูกก็อยู่กัน 2 คน คุยกันแล้ว ยังไงก็
ไม่เลี้ยงลูกของคนอื่นแน่ๆ คนมันมีปัญญาไปเอากัน
มันก็ต้องรับผิดชอบชีวิตที่มันสร้าง ไม่ใช่โยนภาระ
ให้คนอื่น แล้วมึงก็เลิกเสือกเรื่องของคนอื่นได้แล้ว
ไม่ต้องเอาตัวเองไปเสือกกับทุกเรื่องที่ไม่สำคัญ
ในชีวิตมึงได้แล้ว เสือกไม่พอ ก็มาแช่งน้องตัวเองอีก

บอกตรงๆ ระหว่างที่แฟนไม่อยู่ พี่เราก็กวนประสาท
ได้ทุกวี่ทุกวัน เห็นโทรมาบ่อย นึกว่าจะมีเรื่องอะไร
โทรมามีแต่สาปแช่งเราตลอด หาเรื่องเราตลอดเวลา
ขนาดพ่อเคยคุยกับพี่ไปแล้ว ว่า เลิกโทรมากวนเราได้แล้ว
มันก็ยังโทรมาอีก แล้วโทรมาก็ไม่ได้คุยดีอะไรเบอร์นั้น
โทรมาแช่ง เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เราก็เลยไม่คิดที่จะรับสาย
ปล่อยมันมิสคอลวนไปอย่างนี้แหละ สามสี่เดือนรับสายทีนึง พอ

เข้าใจว่าพี่เป็นลูกคนกลางขี้น้อยใจ อิจฉาที่พ่อแม่รักเรามากกว่างี้
แม่ให้สร้อยทองกับเรา เพื่อนแม่ให้ชุดหยกน้ำผึ้งเกรดเอกับเรา
พ่อแม่ชอบซื้อโน้นซื้อนี่ให้เราตลอด พี่เราก็เลยรู้สึกอิจฉาเรามาก
แล้วแม่งมึงไม่คิดถึงค่าใช้จ่ายที่พ่อแม่ให้มึงเลยเน๊าะ ไอ้พี่ชายยย
เสื้อผ้ามึง พ่อแม่ก็ต้องไปสั่งตัดเฉพาะให้ทุกตัว สั่งตัดยันรองเท้า
เพราะตัวใหญ่กว่าชาวบ้านชาวช่องเขา ไม่มีไซต์ขาย แพงทุกอย่าง
ของที่ได้ ไม่คิดว่าพ่อแม่รัก แต่เห็นของที่เราได้ บอกพ่อแม่รักมากกว่า
มันจะน้อยใจอะไรกันนักหนา เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ค่าไปเรียนพิเศษ
ค่าไปสอบอะไรต่อมิอะไรของพี่ พ่อแม่ก็ออกให้หมดอ่ะ ยังว่า
ไม่ได้อะไรจากพ่อแม่ไปอีก บ้าบอมาก

อิจฉาน้องตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้โทรมาสาปแช่งรอบที่ N แล้วเนี่ย
มันเกินไปหน่อย โดนพ่อเฉ่งแล้วรอบนึง ก็ยังไม่จำอีก ก็ยังทำอีก
เราก็ไปบ่นกับพ่อเราอีกอ่ะ มันเอาอีกแล้ว เอะอะแช่งน้องมันอีก
พ่อก็ว่า จะไปบอกให้ ว่าไม่ต้องกวนเราอีก แต่แม่งก็คงทำอีกอ่ะ
นึกว่าจะจบแล้ว ยังไม่จบอีก พูดไม่รู้ความจริงๆ พ่อก็ย้ำตลอด
พี่น้องมีกันแค่นี้ ต้องรักกัน ก็รักกันนะ แต่ปากมันเนี่ย ไม่ไหวแล้ว
บอกแล้วว่า จะไม่ทน พูดจาดีๆ ก็ดี แต่ถ้าพูดจาหมาๆ แช่งตลอด
แบบนี้ แม่งก็ไม่ไหวอ่ะ เสียสุขภาพจิตทุกครั้งที่สนทนา ใครเขา
จะอยากคุยด้วยวะ ขนาดเราปากหมา เรายังไม่เคยไปแช่งอะไรมันเลย

จริงๆ ก็ไม่ได้แค่อิจฉาเรา แต่อิจฉาแม้กระทั่งพี่ชายคนโตด้วย
บอกว่า ตัวเองคงไม่มีปัญญาเลี้ยงลูกแบบพี่ คงไม่มีปัญญาเลี้ยง
ลูกแบบเรา คงไม่มีเงิน ไม่มีอะไรให้ลูก เราก็แบบมึงลืมที่พ่อ
สอนแล้วหรอ พอเพียงอ่ะ พอเพียง ถ้ามึงไม่สั่งสอนให้มันขี้อิจฉา
แบบมึง ไม่มีก็คือไม่มี มีก็คือมี ชีวิตมันง่าย พี่ชอบพูดตลอดว่า
กลัวลูกจะอิจฉาครอบครัวเรา ครอบครัวพี่ชาย ว่าทำไมเขามี
ทำไมตัวเองไม่มีอะไร เรานี่แบบ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย
ถ้าคิดอยู่แค่นี้ ชีวิตก็ไม่ต้องเอาอะไรแล้ว อิจฉาริษยาคนอื่น
มันทั้งชีวิตเนี่ยแหละ ตอนเราเด็กเราเห็นคนอื่นมี แต่ไอ้คนที่มี
มันก็ขโมยของๆ เรา เราก็แค่เกิดคำถาม มันรวย แล้วมันขโมย
ของๆ เราทำไมฟระ หรือมันไม่รวยจริง? แค่นั้น ไม่เคยอิจฉา

พ่อแม่ไม่เคยสอนให้อิจฉา ชีวิตเรามีทุกวันนี้ ก็เพราะตัวเราเอง
ทั้งนั้น พ่อสอนแต่ให้รู้จักพอเพียง แม่สอนให้รู้จักใช้จ่ายอย่างรู้ค่า
เราก็เห็นคนอื่นเขามีของเขา แต่เราก็ไม่รู้จะไปอิจฉาทำไม
เสื้อผ้าทั่วไปของเรา ไม่เคยได้ซื้อใหม่แม้แต่ชิ้นเดียวจนถึง ม.ต้น
ใส่เสื้อผ้าต่อจากพี่สองคนทุกตัว ไม่เคยได้ใหม่แบบที่พี่ได้
แค่จุดเริ่มต้นชีวิตเรากับพี่มันก็ต่างกันมากแล้ว

ตอนเด็ก เงินเก็บของเรา เราก็ซื้อของเข้าบ้านเอง ชั้นหนังสือทั้งหมด
ในบ้านทุกวันนี้ ก็เงินเราซื้อทั้งนั้น ถึงจะโดนแม่เรายึดไปทั้งหมด
แล้วก็เถอะ แม้แต่โต๊ะคอมของพ่อแม่ ก็เงินของเราซื้อเองทั้งหมด
ตู้รองเท้าที่ใช้ทุกวันนี้ ก็เงินเราซื้อ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านส่วนใหญ่
เงินเราซื้อตั้งแต่ ม.ต้นจนถึง ม.ปลาย ถามว่าหมดเยอะไปไหม
สำหรับเด็กคนนึง ก็ถือว่า เยอะมาก ในขณะที่พี่คนกลางเอา
เงินทั้งหมดไปลงร้านเกม พี่คนโตเอาเงินไปเที่ยวผับกินเหล้าทุกวัน
ไม่เหลือเก็บแม้แต่บาทเดียว ตอนพี่เรียน ม.ปลาย ร้องขอพ่อแม่
ซื้อคอมเครื่องละ 5 หมื่น พ่อแม่ก็ขูดเลือดขูดเนื้อตัวเองซื้อให้

ในวันที่พ่อแม่อดอยากมากที่สุด พี่คนโตถลุงเงินพ่อแม่อย่างกับน้ำ
ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเต็มที่ พี่คนกลางก็เริ่มกินเหล้า เที่ยวผับ
กิจกรรมเยอะ ใช้เงินเยอะ เราได้ยินที่คุยกับแม่ ขอเงินกิจกรรม
เรื่อยๆ อ่ะ แม่บอกตลอดว่า เงินไม่พอก็บอกแม่ แม่จะให้เพิ่ม
แต่ที่บ้านอ่ะ จะไม่มีกินแล้ว เราถึงเอาเงินเก็บที่เหลืออยู่ให้พ่อแม่ใช้
พี่ไม่เคยอยู่ตรงนั้น ไม่เคยมารับรู้ความยากลำบากของคนที่อยู่บ้าน
เหมือนเราเลยอ่ะ

ในขณะที่พี่เอาแต่เล่นเกม ถามว่า เราเล่นเกมไหม เราเล่นนะ
แต่เราก็ช่วยทำงานให้พ่อแม่ ช่วยพิมพ์งานเป็นพันๆ หน้า
วาดรูปให้ตลอด อยากให้วาดแบบไหน ออกแบบอะไร ทำให้หมด
ช่วยพ่อแม่ทำเอกสารสำหรับเลื่อนขั้นทั้งหมด ซึ่งพี่ไม่เคยช่วยทำ
ไม่เคยได้ช่วยงานพ่อแม่เหมือนเรา จะบอกว่า พ่อแม่รักมากกว่า
ก็คงไม่ถูกมั้ง พ่อแม่ก็รักก็เอ็นดูลูกแต่ละคนตามสถานการณ์
ที่ผ่านมาด้วยกันแหละ เราเป็นลูกคนเล็ก ที่ทำทุกอย่างให้
พ่อแม่มาตลอดอยู่เรื่อยๆ อ่ะ แม้แต่จบตรีแล้ว จบโทแล้ว
ก็ยังเหมือนเดิม ของใหญ่ในบ้าน บ้านเต็มแล้ว เลยไม่ซื้อ
ซื้อของใช้ทั่วไปที่มันได้คุณภาพหน่อย กลับไปให้ที่บ้าน
ทุกครั้ง ก็ไม่วายพี่ชาย 2 คนก็หยิบของที่เราซื้อให้พ่อแม่
เอาไปใช้ส่วนตัวอีก หมดคำจะพูดจริงๆ อ่ะ

พ่อแม่ก็พูดเสมอ ครอบครัวเราอบอุ่น เออ อุ่นจริงๆ
อุ่นจนร้อน 5555555555555555555555555555



Create Date : 23 มิถุนายน 2562
Last Update : 24 มิถุนายน 2562 14:25:29 น.
Counter : 458 Pageviews.

2 comments
  
ลองซื้อให้อ่านดูสิครับ
พี่ก๋าว่าเป็นหนังสือที่ดีเลยนะครับ
บางครั้งหนังสือที่ดี
ก็อาจเปลี่ยนชีวิตคนอ่านไปตลอดกาลเลย

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มิถุนายน 2562 เวลา:14:46:07 น.
  


ลองดูครับ
พี่ก๋าว่ามันคงต้องหนังสือสักเล่มที่คลิกกับเค้าล่ะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มิถุนายน 2562 เวลา:19:55:41 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Princezz Matcha Latte
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มะมะมะเหม่ง เองงับ!!! ทุกวันนี้ไม่เดิน เพราะกลิ้งได้
^_^
มิถุนายน 2562

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
21
24
26
27
28
29
30
 
 
All Blog