กาลครั้งหนึ่ง...กับเพื่อนคนหนึ่ง
เรามีเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย ที่ยังสนิทกันจนปัจจุบัน
แต่เพื่อนคนนี้ นิสัยเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับที่เราเคยรู้จักมาก
สาเหตุหลักๆ มาจาก "เมาแล้วขับ"

ตอนที่จบ ม.ปลาย ทุกอย่างเหมือนจะดีนะ แต่พอถึงเวลาแยกย้าย
ก็ใจหายกันมากนะ แต่แล้วก็มีอยู่วันนึงที่ตอนกำลังรับน้องอยู่
เพื่อนคนนี้ของเราก็โทรมา พูดไม่เป็นคำเลย จับใจความได้ว่า
พี่ชาย โดนรถชนตาย แล้วก็ฟังอะไรไม่ค่อยรู้เรื่องเลยแหละ

ท้าวความก่อนว่า พี่ชายเพื่อนเป็นคนที่สร้างสีสันให้ชีวิตเพื่อนเรา
และลดความตึงเครียดของชีวิตเพื่อนเราได้ทุกวัน เป็นพี่ชายที่แสนดี
เป็นพี่ชายที่ตรงข้ามกับเพื่อนเรา เพื่อนเราเรียนกลางๆ ส่วนพี่ชาย
เป็นประเภท ไม่เอาเรียน เอาแต่สีสันชีวิต คือ เฮฮาและไม่เคยเครียด
สอบได้ 0 ไม่เคยต่ำกว่า 4 ตัว อะไรแบบนั้น ไม่จริงจังกับชีวิต
แต่จริงจังกับความสนุกสนาน มีความสุขกับชีวิตตลอดเวลา
แน่นอนว่า เพื่อนเราเป็นคนน่ารัก สดใส ร่างเริงสุดๆ เฮฮาสุดๆ

แต่พอวันที่เสียพี่ชายไป คือ เพื่อนเราโคตรอมทุกข์ น่าจะเป็น
โรคซึมเศร้าถึงขั้นหนัก กลายเป็นคนไม่พูดไม่จา เครียดจัด
เราก็คุยด้วยตลอด แต่เพราะเรียนกันคนละจังหวัด ไกลกันมาก
ก็เลยได้แค่โทรคุยกันแค่นั้น ทำได้แค่โทรคุยให้เพื่อนระบาย
ระบายทุกวัน จนกว่าจะรู้สึกโล่ง เพื่อนปิดโทรศัพท์ไประยะนึง
แล้วเพื่อนเราก็ติดต่อเรากลับมา บอกว่า ตอนนี้โอเคขึ้นแล้วนะ
อะไรแบบนั้น

เราก็รู้นะ ว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้โอเคอย่างที่พูด แต่เขาก็
พยายามที่จะเข้มแข็งอย่างที่เราพูดให้กำลังใจเขา แล้วเขาก็
อยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เข้มแข็งขึ้นมาก แต่ก็กลายเป็นคนที่เย็นชา
มากพอๆ กัน ความสดใสร่าเริงหายไปจนเกือบหมดเลย

เหตุการณ์วันที่เกิดอุบัติเหตุก็คือ พี่ชายเพื่อนกำลังจะกลับบ้าน
ขี่มอเตอร์ไซต์มาอย่างช้าๆ ชิวๆ ผ่านสี่แยกไฟแดง ที่ไฟกำลัง
เขียวอยู่ พอขี่มาถึงกลางสี่แยก รถมอเตอร์ไซต์ของคนที่เมาเหล้า
ฝ่าไฟแดงออกมาอย่างเร็ว และชนเข้าอย่างจังกับรถของพี่ชายเพื่อน
กระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง พี่ชายเพื่อนตายคาที่ ส่วนคนเมา
ลุกขึ้นมานั่งมึนๆ งงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พ่อแม่เพื่อน คือ เสียใจจนไม่รู้จะทำยังไงต่อไปกับชีวิต
ลูกชายก็มีแค่คนเดียว ลูกสาวก็มีแค่คนเดียว จะฝากผีฝากไข้
กับลูกชาย ก็ไม่ทันได้ฝากอะไร ก็ไปซะก่อน แก้ข้องใจ
ด้วยการไปหาแม่หมอ เขาก็เล่าเหตุการณ์ในอดีตชาติ
สไตล์แม่หมอ พ่อแม่เพื่อนก็เครียดน้อยลง จนทุกวันนี้
ก็หายดี แต่ก็มากดดันกับเพื่อนเราแทน เพื่อนเราที่เครียดอยู่แล้ว
ก็กลายเป็นเครียดหนักขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ก็กลายเป็นพวก
เก็บกดมาตลอด เครียดจัดตลอด เรามีเวลาเราก็ทักไปคุยบ้าง
เผื่อเขามีอะไรอยากพูดอยากระบาย ก็ปล่อยเขาพูดไป

เมื่อตอนเด็กก็ไม่ค่อยรู้อะไร ชีวิตไม่ได้สนใจอะไรนอกจากเกม
และเรียน แค่นั้นเลย เราก็ถามแม่เรานะ ว่า แม่ ทำไมไอ้พวก
เมาแล้วขับ แม่งไม่ตาย คนที่เขาขี่รถมาดีๆ ทำไมแม่งตายตลอด
(เราคุยกับแม่แบบนี้จนแม่ชินมากแล้ว พี่ชาย 2 คนยัดเยียดภาษาให้)
แม่ก็บอกว่า ก็ไอ้พวกที่มันเมาเหล้า มันไม่รู้สึกตัว ไม่มีสติแล้ว
ร่างกายมันปล่อยไปตามแรงปะทะ พอชนกับอะไร มันก็เลย
ไม่เจ็บตัวมาก มีแค่ช้ำๆ เล็กน้อย ส่วนคนที่มีสติ เวลาที่เจอเหตุการณ์
แน่นอนว่า เห็นทุกอย่าง ก็จะระวังตัว ร่างกายก็จะหดเกร็ง
เพราะความกลัวตาย และสุดท้าย ก็มักที่จะตายจริงๆ
ซึ่งความเป็นจริงมันก็ตามที่แม่บอกจริงๆ นั่นแหละ

แล้วครอบครัวไอ้คนที่มาชนพี่เพื่อนเราตายคาที่อ่ะ ทุกวันนี้
ก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลยนะ ต่อให้มากราบขอโทษ
พ่อแม่เพื่อนคงไม่ให้อภัยอ่ะ ขอโทษแล้วคนตายมันฟื้นได้ไหม?
เอาจริงๆ ขอโทษให้ได้อะไร ถ้าสำนึกมันมีมันไม่ขี่รถออกมา
ทั้งที่เมาหรอก ชนคนอื่นตายไม่พอ ไม่รับผิดชอบอะไรอีก
ก็นอนคุกไปยาวๆ

เรานึกถึงตอนที่เราไปอยู่ที่ต่างประเทศนะ กฎหมายบ้านเขาแรง
และเจ้าหน้าที่เอาจริงเอาจังมาก เขาไม่ให้คนเมาขับรถได้เลย
เอาจริงๆ คือ แม่ง ไม่มีโอกาสขับรถอออกจากผับได้เลย
เพราะรถตำรวจแม่งจอดอยู่หน้าผับ คอยตรวจแอลกอฮอล์
นักเที่ยวกลางคืนทุกคนที่ออกจากผับ ถ้าเมา ไปนั่งในรถตำรวจ
แต่ถ้าไม่เมาก็เชิญกลับไปได้ แล้วผับเขาไม่ได้ตั้งเรี่ยราดนะ
เขาจัดโซนให้อยู่เฉพาะที่ จะเปิดนอกเหนือจากพื้นที่นี้ไม่ได้
มันเลยทำให้เขาง่ายต่อการจัดระเบียบสังคมไปด้วย
อุบัติเหตุจากคนที่เมาแล้วขับ มันเลยไม่ค่อยมี

เราชอบผังเมืองบ้านเขามากนะ ร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์การค้า
อยู่โซนนึง แหล่งออกกำลังกายอยู่โซนนึง ที่พักอาศัยโซนนึง
โซนพวกผับก็โซนนึง โรงเรียนจะอยู่ใกล้ๆ กับที่พักอาศัย
ห้องสมุดชุมชน ก็จะอยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียน ย่านเศรษฐกิจ
ที่มีแต่คนมาทำงาน ก็โซนนึง ที่ทิ้งขยะต่างๆ อยู่นอกเมืองเลย
ทุกส่วนแยกกันไปหมด ที่ๆ เป็นที่อยู่อาศัย จะไม่มีร้านค้าอะไรเลย
นอกจากพวกร้านขายของสด ขนมปัง กับผักและผลไม้แค่นั้น

ค่าปรับสูงลิบลิ่วจนคนไม่กล้าทำอะไร ค่ารักษาพยาบาลยิ่งแพงกว่า
เจ็บป่วยเล็กน้อย ไม่มีใครไปหาหมอหรือซื้อยามารักษาหรอก
เขาสอนวิธีดูแลตัวเอง จะไปหาหมอก็ต้องนัดล่วงหน้าเท่านั้น
ไม่มีปุบปับเข้าโรงพยาบาลได้ ถ้าปุบปับก็โดนชาร์จค่าบริการ
เพิ่มเข้าไปอีก ไปทีก็ไม่ต่ำกว่าร้อยดอล โหดหินมาก 5555

เคยคุยกับแฟนเรื่องกฎหมายเหมือนกันนะ ก็เพิ่งจะเข้าใจว่า
กฎหมายต่างประเทศเขาปรับค่าปรับขึ้นตามค่าเงินทุกๆ ปี
แต่บ้านเราคือ อัตราคงที่ตลอดปีตลอดชาติ ยิ่งค่าปรับแพง
คนก็ยิ่งต้องระวังตัวมากขึ้น แต่บ้านเรานี่ยิ่งแพง ยิ่งด่ารัฐ 555
รู้สึกได้ว่า บ้านเราก็พยายามจะปรับตัวแล้วนะ แต่ยิ่งปรับ
คนยิ่งด่า ต่างกับที่อื่นๆ ที่ยิ่งปรับคนยิ่งระวังตัวมากขึ้นไปอีก
ก็คนมันต่างกันจริงๆ อ่ะนะ คุณภาพไม่ค่อยมี อะไรๆ มันก็
ได้แค่เนี๊ยะแหละ ตามสภาพ 555555555555555555555



Create Date : 04 พฤษภาคม 2562
Last Update : 4 พฤษภาคม 2562 4:39:33 น.
Counter : 606 Pageviews.

3 comments
  

สวัสดียามเช้าครับ

ดูปัญหานี้ได้ดีที่สุด
คือทุกเทศกาลครับ
ตายเยอะกว่าในบางเหตุการณ์ของการก่อการร้ายเสียอีก
ล่าสุดปีนี้ รณรงค์อย่างหนัก
ก็ตาย 300 กว่าศพ
เกินครึ่งมาจากการเมาสุรา

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:37:15 น.
  
ก็คงต้องทำกันต่อไปครับ
พี่ก๋าว่าวันหนึ่งถ้าการศึกษาทำให้คนได้คิด
ทำให้คนรู้ว่าสุรา ยาเสพติด มีโทษภัยต่อชีวิต
วันนั้นอัตราการเสพ การกิน การดื่ม
ก็คงลดลงครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 พฤษภาคม 2562 เวลา:20:38:30 น.
  


สวัสดียามเช้าครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤษภาคม 2562 เวลา:6:50:06 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Princezz Matcha Latte
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มะมะมะเหม่ง เองงับ!!! ทุกวันนี้ไม่เดิน เพราะกลิ้งได้
^_^
พฤษภาคม 2562

 
 
 
2
3
7
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog