ความรักใดจะไม่ปวดร้าว by ชวนหนี (พระราชนิพนธ์แปล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ)
สำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ พิมพ์เมื่อ 2559
จำนวนหน้า 100 หน้า ราคา 135 บาท
คำโปรย...
ความรักเป็นแก่นเรื่องสำคัญในวรรณกรรมมาทุกยุคทุกสมัย
ความเจ็บปวดจากรักเป็นอารมณ์สะเทือนใจที่สร้างวรรณกรรม
และศิลปะอันซาบซึ้งใจมาตลอดกาล
นวนิยายเรื่อง "ความรักใดจะไม่ปวดร้าว"
สะท้อนให้เห็นปัญหาสังคมสมัยใหม่
อันส่งผลต่อนิยามของความรักในมิติต่างๆ
โดยเฉพาะจากมุมมองของผู้หญิง ผู้เป็นทั้งแม่และภรรยา
เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามกับค่านิยมเก่าที่บูชาเทิดทูนความรัก
ทั้งความรักของพ่อแม่ ความรักของหนุ่มสาว ความรักของเพื่อน
และจบลงอย่างชาญฉลาด
ด้วยความตระหนักรู้ของตัวละครเอกว่า
ไม่มีความรักใดจะไม่ปวดร้าว
แต่ผู้จะเปลี่ยนความปวดร้าวนี้เป็นปีติสุขได้นั้นก็คือ
ผู้มีความรักนั้นเอง
(พระราชนิพนธ์คำนำ)
หลังอ่าน
อ่านแล้วสะเทือนใจค่ะ
เราว่ายิ่งผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว มีลูกสักคนสองคนมาอ่านนี่น่าจะยิ่งเข้าถึงเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งทีเดียว
เป็นเรื่องของหมิ่นมิน หญิงสาวที่แต่งงานกับคนรักที่คบกันตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งคู่ทำงานและสร้างครอบครัว
เธอเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอตั้งแต่ตอนรักกัน แต่งงาน ความหวานชื่นหลังแต่งกันใหม่ๆ การพยายามทำงานหนักของเธอเพื่อความรักของทั้งคู่ และมาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อมีลูก แล้วเธอต้องออกจากงานมาทำหน้าที่แม่บ้านเต็มตัว ดูแลลูก ไม่ได้ออกนอกบ้าน ไม่ได้สนใจดูแลตัวเอง ทำให้เกิดความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เกิดอารมณ์หงุดหงิดโมโหร้าย สามีก็เริ่มเปลี่ยนไป
.
คือพออ่านแล้วเรารู้สึกสงสารหมิ่นมินมาก เข้าใจเลยว่าผู้หญิงที่เคยทำงานและกำลังมีอนาคตไปได้ดี ต้องละทิ้งทุกอย่างนั้นมาเพื่อทุ่มเทให้กับครอบครัว แต่ดูเหมือนว่าสามีของเธอจะไม่ได้เห็นคุณค่าในจุดนั้น เขาคงคิดว่าก็แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูก ไม่ได้ต้องออกไปทำงานเหน็ดเหนื่อยข้างนอกซะหน่อย จะอะไรนักหนา ... แต่หารู้ไม่ว่าไอ้อยู่บ้านเลี้ยงลูกดูแลบ้านนี่แหละ มันเป็นงานหนักและไม่มีวันหยุดเลยด้วย
นี่ขนาดไม่มีครอบครัวกะเขานะ ยังอ่านแล้วอินมากค่ะ