ปวดตา ปวดกบาล
พดพบว่า การจ้องคอมฯนานๆ แบบว่า ทำงาน น่ะ ปวดตา ปวดกบาล มากมาย ทว่า ยังหยุดตัวเองไม่ได้ บางทีก็ขยันอยากทำงานให้มันเสร็จๆ
ARC หรือ International Agency for Research on Cancer หน่วยงานหนึ่งขององค์การอนามัยโลก ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับเหตุผลของการจัดให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ว่าเป็นปัจจัยก่อมะเร็งประเภท 2B หรือ เป็นไปได้ที่จะก่อมะเร็ง นอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า การใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีระบบบลูทูธจะทำให้ผู้ใช้ได้รับพลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่ำกว่าการใช้ผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือโดยตรงถึง 100 เท่า และการใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีแบบมีสาย หรือหูฟังจะช่วยลดการได้รับพลังงานที่สมองลงประมาณร้อยละ 10 แต่การใช้ทั้งสองประเภทไม่ควรเกี่ยวไว้ที่หูตลอดเวลาเมื่อไม่ได้ใช้งาน นอกจากนี้การถือโทรศัพท์แนบหูทำให้เกิดการดูดซับพลังงานที่สมองทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ความทรงจำ ฯลฯ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้โทรศัพท์มือถือกับเด็ก เนื่องจากสมองเด็กจะได้รับคลื่นมากกว่าผู้ใหญ่ 2 เท่า ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายอย่างมาก
จากข้อมูลดังกล่าว การระมัดระวังในการใช้โทรศัพท์มือถือจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างแน่นอน magazine.trendyday.com นำข้อควรปฎิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการใช้โทรศัพท์มือถือมาฝากทุกคน เพื่อความปลอดภัยในการใช้โทรศัพท์มือถือ และช่วยเตือนตัวเองอยู่เสมอค่ะ
** ข้อควรปฎิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการใช้โทรศัพท์มือถือ
1. เปลี่ยนไปใช้สมอลล์ทอล์ก หรือ บลูทูธ เพื่อหลีกเลี่ยงการถือโทรศัพท์แนบกับศีรษะ แต่ไม่ควรคุยโทรศัพท์นานเกินไป ประมาณ 15 นาทีเป็นเวลาที่พอเหมาะ 2. ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือ หากอยู่ในบริเวณที่มีสัญญาณต่ำ เพราะจะทำให้โทรศัพท์ปล่อยคลื่นความถี่สูงกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสมองได้ 3. หากไม่มีความจำเป็นไม่ควรให้เด็กใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะจะส่งผลโดยตรงกับสมองมากกว่าผู้ใหญ่ถึง 2 เท่าตัว 4. ควรวางมือถือให้ห่างจากศีรษะในเวลาเข้านอน ไม่ควรวางไว้ที่หัวเตียงเพราะจะส่งผลต่อระบบสมอง เนื้องอกในสมอง ความทรงจำผิดปกติได้ค่ะ ข้อมูลอ้างอิง: healthupdatetoday.com
.. นิตยสาร ชีวจิต ได้นำวิธีบริหารลูกตาเพื่อลดอาการสายตาสั้นและยาวมาฝากหนุ่มสาวบิวตี้นิสต้าที่สุดหวงแหนสายตากัน
เริ่มที่ท่าที่ 1 กรอกลูกตามองไปทางซ้ายให้สุด และมองมาทางขวาให้สุดๆ เท่าที่จะทำได้ประมาณ 10 ครั้ง
ท่าที่ 2 เหลือบลูกตาขึ้นมองเพดาน โดยวางหน้าตรงไม่แหงน และเหลือบตาลงล่างสุดมองพื้น ทำขึ้นๆ ลงๆ 10 ครั้ง
ท่าที่ 3 เหลือบตามองขึ้นไปที่ปลายคิ้วซ้าย และลากตาเหลือบลงมามองที่แก้มขวาทำ 10 ครั้ง
ท่าที่ 4 เหลือบตามองขึ้นไปที่ปลายคิ้วขวา และลากตาเหลือบลงมาที่แก้มซ้าย
ท่าที่ 5 กรอกลูกตาหมุนไปเป็นวงกลมซ้าย-ขวา ทำข้างละ 10 ครั้ง
ท่าที่ 6 เป็นการเพ่งลูกตาเพื่อบริหารกล้ามเนื้อทั้ง 6 มัดพร้อมกัน โดยนั่งบนเก้าอี้ วัดความสูงจากยอดศีรษะตนเองถึงก้นที่นั่งบนเก้าอี้ เช่น วัดได้ 70 ซม. เอาความยาว 70 ซม. วัดจากลูกตาไปที่กำแพงในท่านั่งเก้าอี้ แล้วจุดหรือทำสัญลักษณ์ไว้ที่กำแพงระดับเดียวกับลูกตาในขณะที่นั่งเก้าอี้ จากนั้นจึงค่อยๆ เพ่งมองจุดหรือสัญลักษณ์นั้น ห้ามกระพริบตาจนรู้สึกแสบตา น้ำตาเอ่อออกมาจึงค่อยกระพริบตา ทำหลายๆครั้ง จะรู้สึกว่าสายตามองชัดเจนขึ้น
ส่วน ท่าสุดท้ายคือหลับตาทั้งสองข้าง แล้วเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างวางเหนือหัวคิ้วแต่ละข้างแล้วค่อยๆกดนวดคิ้วและ รอบดวงตา เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อยู่รอบนอกของดวงตา
วิธีเหล่านี้นอกจากลดปัญหาสายตาสั้นกับสายตายาว ช่วยให้ไม่ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อยๆแล้ว การ บริหารดวงตายังช่วยลดและป้องกันอาการบกพร่องที่จอรับภาพได้อีกด้วย (อาการบกพร่องที่จอรับภาพคือรู้สึกว่าตามีแสงแปลบปลาบหรือเห็นหิ่งห้อยวิ่ง ไปมา หรือเห็นเป็นแสงสว่างวงๆ วาบๆ บ่อยๆ อาการเหล่านี้หากปล่อยไว้จอรับภาพอาจพิการหรือถึงกับมองไม่เห็นได้) ... การ บริหารลูกตาอย่างสม่ำเสมอทุกๆ วัน จะช่วยให้เลือดมาเลี้ยงจอรับภาพมากขึ้น อาการบกพร่องจะน้อยลงหรืออาจหายไปได้ และสำหรับคนที่สายตาปกติดีอยู่แล้ว การบริหารวิธีนี้ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อตาแข็งแรง และนัยน์ตาสดใสได้อีกด้วย
แต่สาเหตุใหญ่ คือ พดตื่นทุกตี1-2-3-4 แล้วแต่เข้านอนเร็ว หรือช้า มาเล่นอิโฟน4ไม่เอส ในความมืด จะทำให้ปวดกบาลกว่าเดิม แม้นจะพยายามเปิดไฟช่วยแล้ว เวลาอ่านอะไรแล้วมักจะติดพัน เช่น อ่านกระทู้ในพันทิบ อ่านข้อมูลในฟบ. พดจึงต้องบริหารสายตาทุกเช้า+ค่ำ ด้วยท่าดังต่อไปนี้ (//แวะไปถามอากู๋ก่อน)
ไปเสิร์ชดูไม่เจออันที่พดทำประจำ แต่ขี้เกียจหาและ เลยเอาที่เจอมาแปะไว้ก่อน
สรุปว่า อย่านั่งจ้องจอนานเกินไป พด ไปละ
อ่อ ว่าที่แฟนคนสุดท้ายของพด น่ารักดี แต่ไม่รักพดเป็นแฟน
เอิ๊กๆ
Create Date : 28 เมษายน 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 28 เมษายน 2556 13:18:26 น. |
Counter : 846 Pageviews. |
|
|
|