ธันวาคม 2563

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ตำนานรักสองสวรรค์ ซิงหลิง เขียน


4/12/2019


 



 

ตำนานรักสองสวรรค์ (4 เล่มจบ) 

ซิงหลิง เขียน  ธารยุทธ์ แปล 

สำนักพิมพ์สยาม  แนวบุปผาแห่งรัก 

1,100 บาท  1,204 หน้า 




#แปลจีน #นิยายแปล #นิยายชายหญิง #ตำนานรักสองสวรรค์ #ซิงหลิง #สยามอินเตอร์บุ๊ค #รีวิวนิยาย #ออโอ

 

หลังปก 

 

หกหมื่นปีก่อน มหันตภัยหุนตุ้นพลันบังเกิดขึ้น เขาได้แต่ทนมองดูนางแตกสลายกลายเป็นธุลี...เพื่อช่วยสามพิภพไว้ 

หกหมื่นปีต่อมา นางหวนคืนมา ทว่า...การพบเจอกันใหม่ทุกอย่างล้วนแปรเปลี่ยน พวกเขากลับกลายเป็นคนแปลกหน้า 

 

เหตุใดผู้ที่เคยสนิทสนมจึงมาแปรผัน  

เหตุใดรักที่เคยมีให้กันพลันสูญสลาย? 

จากคนที่เคยใกล้ชิดที่สุดกลับไม่อาจฉุดรั้งคืนสู่วันวาน ถ้าเป็นเช่นนั้น...หลังแทงกระบี่นี้ออกไป ไป๋เจวี๋ย ข้าจะแค้นท่านไปตราบชั่วชีวิต 

 

บัดนี้บนสวรรค์เหลือเทพบรรพกาลอยู่เพียงสี่องค์ สามองค์แรก เป็นเทพอันเที่ยงแท้ มีเพียงองค์สุดท้าย...ที่เล่าขานกันว่า แม้เปลือกนอกจะกอปรด้วยเกียรติยศ แต่แท้จริงแล้วกลับอ้างว้างเดียวดายอย่างที่สุด ทว่า....ทั่วสามพิภพแปดดินแดน นอกจากเทพบรรพกาลทั้งสามแล้ว สรรพชีวิตทั้งหลาย ไม้เว้นแม้แต่เหล่าเทพเซียน ก็ยังต้องก้มกายเรียกขาน “นาง” ด้วยความเคารพ และยามใดที่แม้แต่เทพบรรพกาลทั้งสามยังต้องค้อมเอวแสดงความเคารพ “นาง” เมื่อนั้นจึงจะเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวที่แท้จริง 





 

คุยกันหลังอ่าน 




 

จบสักที ส่งเสียงแห่งชัยชนะทันทีที่ปิดหน้าสุดท้าย เฮ้อ อ่านนานมาก ถือไปด้วยทุกที่ แต่ความคืบหน้านี่น้อยยิ่งกว่าน้อย 


 

แนวเทพเซียนนี่แหละค่ะ สองสวรรค์ในชื่อเรื่องนี่หมายถึงยุคของสวรรค์ ซึ่งแบ่งเป็น ฟ้าปางแรก กับ ฟ้าปางหลัง 


  

ในฟ้าปางแรกนี่ก็จะมีเทพบรรพกาลสี่องค์อาศัยอยู่ คอยดูแลปกปักรักษาสามพิภพ แต่ภายหลังเกิดมหันตภัยหุนตุ้นขึ้น ทำให้เทพบรรพกาลทั้งสี่ต้องอุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือสามพิภพไว้ หลงเหลือมหาเทพเพียงสามองค์ คือ เทียนตี้ มหาเทพอู๋ฮวั่น และมหาเทพกู่จวิน เป็นการปิดฉากฟ้าปางแรก เข้าสู่ฟ้าปางหลัง 

 

เดิมอู๋ฮวั่นกับกู่จวินครองรักกัน แต่หลังจากอู๋ฮวั่นให้กำเนิดทารกเป็นไข่ใบน้อยที่ไม่แข็งแรง กู่จวินจึงเริ่มหิ้วไข่น้อยไปหาวิธีช่วยเหลือต่าง ๆ ทิ้งอู๋ฮวั่นให้อยู่ตามลำพัง เทียนตี้ที่แอบชอบอู๋ฮวั่นอยู่จึงหาโอกาสไปพูดคุยเยี่ยมเยือน สุดท้าย อู๋ฮวั่นก็เปลี่ยนใจไปอยู่กับเทียนตี้ รับตำแหน่งเทียนโฮ่วของสวรรค์ กู่จวินรู้ข่าวก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากทวงตำแหน่งมหาเทพให้บุตรของตน โฮ่วฉือ 

 

เวลาผ่านไป โฮ่วฉือเติบโตขึ้นในวังชิงฉือของมหาเทพกู่จวิน และมีเหตุให้ได้ออกจากวังชิงฉือเป็นครั้งแรก โฮ่วฉือเริ่มสงสัยถึงเรื่องราวของผู้ที่เคยเลี้ยงดูจึงเดินทางออกตามหาคำตอบ ระหว่างทางได้เจอชิงมู่ ซึ่งเป็นเทพผู้มีชื่อเสียงและอนาคตไกล ชิงมู่เองก็ออกเดินทางตามหาชิ้นส่วนปริศนาในเรื่องราวของตนเช่นกัน ทั้งสองจึงร่วมเดินทางไปด้วยกัน เกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ แก่กันแม้ไม่ต้องมีคำหวานใด 

 

แต่แล้วอุปสรรคแรกก็เริ่มพัดเข้ามา โฮ่วฉือได้รู้จากปากอู๋ฮวั่นว่านางไม่ใช่บุตรของอู๋ฮวั่น ชิงมู่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ได้มุกชีพมังกรขององค์หญิงจิ่งเจาซึ่งเป็นบุตรสาวของอู๋ฮวั่นช่วยไว้ เขาจึงยอมขึ้นแท่นมังกรเขียวเพื่อรับสายฟ้า แต่ไม่ยอมให้ตนถูกเหนี่ยวรั้งไว้ ท้ายที่สุดชิงมู่รอดมาได้ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เกิดไข่ใบหนึ่งขึ้น ถือเป็นบุตรของชิงมู่และโฮว่ฉือ 

 

ต่อมาโฮ่วฉือได้เบาะแสของผู้ที่เคยดูแลนางในอดีต จึงยอมทำผิดกฎเพื่อช่วยเหลือเขา ทำให้นางต้องเนรเทศตนเพื่อลงโทษตัวเอง ระหว่างนี้ก็ได้สัญญากับชิงมู่ไว้ว่าเมื่อครบกำหนดจะกลับมาอยู่ด้วยกัน 

 

แต่ก่อนจะครบกำหนดไม่นาน โฮ่วฉือก็ได้รับข่าว ชิงมู่ของนางกลายเป็นเทพบรรพกาลไป๋เจวี๋ย และเขาตอบตกลงจะแต่งงานกับจิ่งเจา โฮ่วฉือจึงออกไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง พบว่า ชิงมู่ของนางไม่หลงเหลืออยู่แล้ว เขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับนางเท่านั้น 

 

เรื่องย่อข้างบนนี่โอตัดทอนรายละเอียดไปเยอะมาก และต่อจากที่เล่าก็ยังมีความวุ่นวายอีกเยอะมากเช่นกัน แต่ถ้าเล่ามากกว่านี้มันจะเฉลยเรื่องราวมากเกินไป ขอเล่าเพียงเท่านี้นะคะ 

 

ความหวาน 0.5% ดราม่า 100% เรียกน้ำตาได้ 0% มันจะอึดอัดมากกว่า 

 

ข้อสรุปแรกหลังอ่านคือ เทพเซียนก็ไม่ได้ดีเด่ไปกว่ามนุษย์อะไรหรอก ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง และเห็นแก่ตัว 

 

ข้อสรุปที่สองคือ ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น เพียงแต่จะมาก จะน้อย จะเห็นแก่หน้าที่ที่ค้ำคอแค่ไหน 

 

ข้อสรุปที่สามคือ ดราม่าทั้งหมดทั้งมวลล้วนมีเหตุจากการไม่รู้จักพูดกันตรง ๆ คือต่างคนต่างคิดเอง ทำเอง เออเองทุกอย่าง หวังให้มันเป็นไปตามที่ตนต้องการ แต่สุดท้ายก็ตรงข้าม หายนะล้วน ๆ ซึ่งโอเป็นคนที่เกลียดดราม่าประเภทนี้มาก ๆ คือทำไมไม่พูดกันว้า หลายหัวย่อมดีกว่าหัวดีอยู่แล้ว ความรู้สึกอะไรก็บอก ๆ ไป อมพะนำมีประโยชน์อะไร  

 

โอรู้สึกว่ามันยัดเยียดทุกอย่าง ยัดเยียดดราม่า ยัดเยียดความรัก ยัดเยียดอารมณ์ ยัดเยียดเหตุ ยัดเยียดผล แม้กระทั่งนิสัยตัวละครประเภทซุกซน ก็ยังล้นจนไม่ธรรมชาติ โอไม่อินกับเรื่องหรือตัวละครเลย 

 

เอาจริง ๆ เรื่องไม่ได้แย่ มันก็มีเรื่องราว มีความเชื่อมโยง มีการปิดบังซ่อนเร้น มีความซับซ้อน แต่โอไม่ชอบ และไม่รู้สึกอยากที่จะอ่าน เล่ม 1-2 นี่แบบถอนหายใจไปอ่านไป เล่ม 3-4 ดีขึ้นมานิด เล่ายืด บางเรื่องไม่ต้องลงรายละเอียดมาก แต่ก็ใส่มาเต็ม ทำให้เรื่องเนือยมาก แต่เขาก็ใช้ประโยชน์จากส่วนที่เล่านะ แต่ประโยชน์มันน้อยถ้าเทียบกับขั้นตอน มันเลยเกินจำเป็น โอว่านิสัยตัวละครก็มาจากผู้เขียนนี่แหละ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำเรื่องใหญ่ให้ใหญ่ยิ่งกว่า  

 

2.5 ดาว 

 

 

 

 

 




 



Create Date : 14 ธันวาคม 2563
Last Update : 14 ธันวาคม 2563 10:54:49 น.
Counter : 2578 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณnewyorknurse

  
ขอบคุณคุณhaiku, คุณnewyorknurse สำหรับโหวตด้วยค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 18 ธันวาคม 2563 เวลา:12:06:22 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments