Red Cliff : โจโฉแตกทัพเรือ ในปี ค.ศ. 208 โจโฉขุนศึกผู้พิชิตพื้นที่ทางภาคเหนือและเมืองหลวง อ้างโองการของพระเจ้าเหี้ยนเต้ยกพลกว่าห้าสิบหมื่นเข้าโจมตี เล่าจ๋องบุตรเล่าเปียวไม่คิดสู้ ยอมยกเมืองให้โจโฉ เล่าปี่ที่อยู่เมืองน้อยซินเอี๋ย จึงต้องหนีตายไปยังเมืองอ้วนเซีย แต่ก่อนที่จะทิ้งเมืองขงเบ้งได้วางกลอุบาย เผาเมืองฆ่าทหารของโจโฉไปเสียมาก หลังจากถอนทัพไปยังเมืองอ้วนเซีย โจโฉส่งชีชีไปเกลี้ยกล่อม มิเป็นผล จึงกรีฑาทัพหวังจะเหยียบเมืองอ้วนเซียให้ราบ นี่คือที่มาของศึกที่ยิ่งใหญ่ศึกหนึ่งในเรื่องสามก๊ก ศึกที่ไพร่พลหลายสิบหมื่นจากแดนเหนือ เหลือรอดตายกลับไปไม่กี่ร้อยคน ศึกที่หากขงเบ้งต้องการชีวิตของโจโฉละก็ คงง่ายเหมือนหยิบส้มออกจากลัง ศึกที่คร่าชีวติสุดยอดขุนพลแดนกั๋งตั๋ง ก่อนจะกล่าววาจาที่อมตะออกมาว่า ฟ้าส่งจิวยี่ให้มาเกิดแล้ว ใยต้องส่งให้ขงเบ้งมาด้วยเล่า หนังเปิดตัวด้วยภาพอันสับสนวุ่นวายของการตามล่าจากทัพหน้าของโจโฉ และด้วยรบแบบห่วงหน้าพะวงหลังของเล่าปี่ กับการหอบข้าวของหนีของประชาชน ในความสับสนวุ่นวายนั้นเอง ทหารได้เข้ามาแจ้งข่าวร้ายแก่เล่าปีว่า ภรรยาและบุตรชายคนโต ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนจีนนั้น ติดอยู่ในทัพของข้าศึก เล่าปี่ฟังแล้วไม่แสดงสีหน้าอันใด ไม่มีคำสั่งอย่างร้อนรนให้ทหารไปตายเพื่อ ช่วยครอบครัวตัวเอง แต่กลับไปช่วยอุ้มเด็กชาวบ้านที่กำลังตกใจมาปลอบ ฉากนี้ มันกินใจมากๆ นึกถึงคำพูดอมตะของเล่าปีที่ว่า ลูกเมียดั่งเสื้อผ้า พี่น้องดั่งแขนขา เสื้อผ้าขาดแล้วย่อมเปลี่ยนใหม่ได้ แต่แขนขาขาดแล้ว จะอยู่ได้อย่างไร เรื่องเริ่มแปร่งๆ จากหัวใจของการศึกในตอนต้นของสงครามครั้งนี้ คือ การที่จูล่งควบม้าและเกราะสีขาว ใช้ทวนคู่กายกลับไปช่วยอาเต๊า ใช้เวลาตั้งแต่เช้าจนค่ำ ฆ่าทหารเลวเสียมากมาย ฆ่านายทัพอีกนับสิบคน เมื่อจูล่งเคลื่อนไปทางใด ทหารโจโฉก็แตกออก เหมือนเรือน้อยที่แล่นผ่าน ไปในมหาสมุทร เลือดอาบเกราะและม้าศึกดั่งสีของครั่ง แต่ในหนัง แทบไม่ได้ทำให้รู้สึกได้เช่นนั้นเลย จุดต่อไปก็คือกวนอูมิได้อยู่ในการรบครั้งนี้เหมือนในหนังแน่ๆ และจุดจบการรบของวันนั้น เตียวหุยคนเดียวที่ยืนม้าอยู่ริมสะพาน และฝั่งที่ถอนทัพไปนั้นมีเพียงฝุ่นที่ฟุ้งกระจาย ทำให้โจโฉหวาดกลัว จนไม่กล้ายกทัพตามไป ซึ่งหากเป็นปกติของทัพที่สู้ไม่ได้ ย่อมตัดสะพานทิ้งทันที แต่นั่นย่อมทำให้โจโฉเสียเวลาที่สร้างสะพาน เพียงเล็กน้อย แต่เมื่อตามทันทัพเล่าปี่ย่อมถูกทำลายอย่างแน่นอน จุดที่สำคัญต่อไปคือ ฉากที่ขงเบ้งพบซุนกวนนั้น ถือเป็นสุดยอดแห่งการเจรจา การที่ฝ่ายเล่าปี่ทีมีทหารไม่กี่พันนาย จะไปขอร้องให้ซุนกวนช่วยรบกับทหารร้อยหมื่น ของโจโฉนั้นไม่น่าจะเป้นไปได้ จากการบวกลบคูณหารปกติ แต่ลิ้นเพียงสามนิ้วของเล่าปี่กับเป็นไปได้ เวลาที่ตัดทอนไปในฉากสำคัญนั้น ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อันใดเลย ฉากเด็กเป่าขลุ่ย คนเลี้ยงควาย ขงเบ้งไปช่วยทำคลอดม้า ค่ายกลกระดองเต่า หนังเริ่มเลอะเทอะไปเรื่อย จุดสิ้นสุดของความอดทนของผมก็มาถึง ฉากที่เล่าปี่ไปกินเหล้ากับซุนกวน แล้วเล่าปี่ขอเมืองเกงจิ๋วแบบดื้อๆ ซุนกวนก็เมาได้ใจจะยกน้องสาวให้อีก มันบ้าสิ้นดี ผมทนไม่ไหวต้องกดแผ่นออก แล้วโยนทิ้งถังขยะ แน่นอน การทำหนัง ไม่จำเป็นต้องทำตามหนังสือ แต่อย่าลืมว่า คนดูหนังแต่ไม่ได้อ่านหนังสือมีอยู่มากมาย แล้วใครจะรู้ว่า อนาคตข้างหน้า ความเข้าใจในศึกเซ็กแพ็กของคนบางคน อาจจะเป็นเช่นในหนังก็เป็นไปได้ สามก๊กนั้นเป็นเรื่องของสงครามเพื่อชิงอำนาจระหว่างก๊ก มันเต็มไปด้วยเล่ห์กลเกมแห่งสุดยอดของอุบาย ไม่ใช่เรื่องของคุณธรรมน้ำมิตรแบบในหนังของจอนวูเช่นนี้   Create Date : 16 ตุลาคม 2551 5 comments Last Update : 4 มีนาคม 2553 14:54:47 น. Counter : 1386 Pageviews. Share Tweet

ยังไม่เคยดูเลย ... อ่านแบบนี้แล้วจะดูดีหรือเปล่าเนี่ยะ หนังสือก็ไม่เคยอ่าน ... ท่าทางดูแล้วยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่   โดย: SIMAKHA 16 ตุลาคม 2551 11:26:43 น.

โดย: แม่อบ 16 ตุลาคม 2551 11:35:40 น.

เคยอ่านฉบับของเจ้าพระยาพระคลังหน อ่านผ่านหน้าที่ 1 หน้าที่ 2 พอพลิกไปหน้าที่ 3 เชื่อไหม ว่าผมจำไม่ได้ว่า คนที่อยู่ในหน้า 3 นั้นทำอะไรในหน้าที่ 1 ??? ผมสงสัยว่าทำไม อ่านสามก็ก ครบสามจบ คบไม่ได้ แค่อ่านสามหน้า ยังถอดใจได้เลย ตัวละครและเหตุการณ์ มันเยอะมากจริงๆ ที่พออ่านได้ ก็ตงเป็นฉบับวณิพกนี่ล่ะ   โดย: VET53 16 ตุลาคม 2551 18:13:03 น.

แน่นอน การทำหนัง ไม่จำเป็นต้องทำตามหนังสือ แต่อย่าลืมว่า คนดูหนังแต่ไม่ได้อ่านหนังสือมีอยู่มากมาย แล้วใครจะรู้ว่า อนาคตข้างหน้า ความเข้าใจในศึกเซ็กแพ็กของคนบางคน อาจจะเป็นเช่นในหนังก็เป็นไปได้ ...................... ผมกลับมองว่า ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ .... เพราะแม้แต่นอกวงการหนังในปัจจุบัน สามก๊ก ถูกย่อย วิเคราะห์ ตีความ และขุดลึกลงไปถึงแม้แต่ความเป็นได้ ความสมจริง ความถูกต้อง จนอาจจะกล่าวได้ว่า .. ถ้าเป็น "พงศาวดารสามก๊ก - ซานกว๋อจื้อ" ของ เฉินโซ่ว ... ยังพอค้นหาบรรทัดฐาน ความถูกต้อง และความตรงไปตรงมา ได้พอสมควร แต่สำหรับ "ตำนานสามก๊ก - ซานกว๋ออี้เอี๋ยน" ของ หลอกว้านจง .. แทบจะกลายเป็น .. สุดยอดแห่งการปกปิด บิดเบือน ป้ายสี และพลิกปิดความจริง.. ไม่สามารถใช้ชั่งตวงวัด ความถูกต้องของเนื้อหาได้แต่ อย่างใด ดังนั้น หากจอห์น วู จะตีความมันซะใหม่ ตามความเข้าใจของเขา ผมก็เห็นว่าไม่แปลกอะไร ดังที่มีคนกล่าวว่า "อ่านสามก๊กครบสามจบ คบไม่ได้" นั้น มีไว้หลอกลวงคน รุ่นหลัง ไม่ให้ เก็บรายละเอียด และสะดุดกับความปกปิดที่ไม่สมจริงใน "นิยายสามก๊ก" ... ต่างหาก .. สามก๊ก ควรอ่านให้เกิน สามจบ แล้วคุณผุ้อ่านทั้งหลาย อาจตั้งข้อสงสัยอันน่าสนใจเช่น -จิวยี่ ... ขี้ใจน้อย กระจอกงอกง่อย ขี้อิจฉาดั่งในนิยายจริงหรือ ... ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเป็น จอมทัพเรือ ที่ปราบศึกมากมายมาก่อนได้อย่างไร -เหตุผลที่แท้จริงแห่งการเผาเรือใน ศึกเซ็กเพ็กคืออะไร .. -ถ้าทัพโจโฉ ถูกทำลายล้างจนเหลือแค่ไม่กี่คน จนต้องโดนกวนอูจับแล้วปล่อย สามครั้งสามครา ... ทำไมอีกแค่ไม่นาน โจโฉจึงสามารถ รวบรวมฟื้นฟูทัพใหญ่ ออกรวมแผ่นดินได้อีกครั้งในเวลาอันสั้น etc.. อื่นๆอีกมากมาย รอทุกคนเข้าไปขุดค้น ทั้งใน "พงศาวดารสามก๊ก" และ "ตำนานสามก๊ก" ด้วยปัญญาและมุมมองที่กว้างไกลขึ้นครับ   โดย: sk-sint (sk-sint ) 16 ตุลาคม 2551 20:31:34 น.

เพิ่งผ่านมาอ่านเจอ เขียนได้ดีครับ สำหรับผม อ่านสามก๊กมากกว่าสามรอบ แต่ไม่เคยอ่านจบแบบครบๆสักที เลือกอ่านช่วงสนุกๆแล้วก็วางมันไป ขอให้ความเห็นของคำที่ว่า อ่านสามก๊ก สามจบ คบไม่ได้ อันนี้ ในมุมมองของผมน่าจะมาจาก คนที่อ่านแค่สามรอบ จะเอาสามก๊กไปใช้่แบบผิดๆครับ เหตุผลบางอย่างในสามก๊กฉบับเล่นงิ้ว(ท่านคึกฤทธิ์เหน็บไว้) มันเป็นการเอาพงศาวดารมาต่อเติมเพื่อเอาความมันส์เข้าว่า เอาไปใช้จริงๆ มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง ตัวอย่างเช่น ขงเบ้ง นั่งตีขิมบนกำแพงเมือง เปิดประตูเมือง ให้คนแก่ทำเป็นปัดกวาดเช็ดถูนอกประตู แบบนี้ เป็นเรื่องจริง สุมาอี้คงขออาสา ทหารม้ากล้าตายสัก 50คน ชาร์จเข้าไป เอาธนูไปยิงขงเบ้งตกลงมาซี้แหงแก๋ หรือถ้าพลาด เป็นกลลวง ก็จะเสียทหารแต่น้อย และทหารม้าเหล่านั้นก็มีโอกาสหนีทันเอาชีวิตรอดได้ด้วย ยังมีอีกหลายอุบายที่ฟังดูแล้วน่าทึ่ง แต่คิดไปจริงๆแล้ว มันไม่มีทางทำสำเร็จอีกหลายอย่าง แนะนำว่าคุณ VET53 ลองไปหาซื้อสามก๊กฉบับนายทุนของคึกฤทธิ์มาอ่านครับ ท่านวิจารณ์ได้ดี มีเหตุผลน่าฟังทีเดียว แล้วเล่มก็ไม่หนา อ่านจบได้ไม่ยากครับ   โดย: NATSKI13 4 พฤศจิกายน 2552 21:02:10 น.