ขัวมุงท่าสิงห์” หรือ สะพานมีหลังคา ในอดีตใช้เพื่อการใด ไม่ทราบแน่ชัด แต่จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ขัวมุง หลายแห่งในภาคเหนือมักสร้างใกล้วัดหรือในชุมชน ดังนั้น “ขัว” หรือสะพาน น่าจะใช้เพื่อการสัญจรไปมาระหว่างสองฝั่งน้ำเป็นจุดประสงค์หลัก แต่การสร้างหลังคามุงขึ้นสันนิฐาน ว่าสร้างขึ้นเพื่อเหตุผลทาง สถาปัตย์ คือ สะพานโบราณส่วนใหญ่เป็นสร้างด้วยไม้ การมุงหลังคาช่วยกันแดดกันฝนทำให้อายุการใช้งานของสะพานยาวนานขึ้น ต่อจากนั้นเมื่อสะพานมีร่มเงา จากที่ใช้เพียงการสัญจรไปมากลายมาเป็นนั่งพักผ่อน นั่งคุยกัน และพัฒนามาเป็นตลาดพื้นบ้านเล็กข้ามสะพานไปจะมีร้านอาหารหลายเจ้า พวกข้าวซอย ไส้อั่ว ถนนวัฒนธรรมใครสนใจตรงไหนก็เดินตามป้ายได้เลยส่วนผมตรงมาร้านหมูตุ๋นลำไย ไม่แน่ใจว่ามีเจ้าเดียวในลำพูนเปล่าจากสะพานขัวมุงท่าสิงห์เดินไม่ถึง 50 ม.ก็ถึงแล้วร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ถ้าตรงไปอีกหน่อยจะเป็นข้าวซอยบ้านยองสั่งเส้นหมี่น้ำ หมูตุ๋นลำไย น้ำซุปเฉยๆยังไม่โดน แต่หมูตุ๋นเปื่อยดี หมี่แห้ง รสชาติกลมกล่อมดี ออกหวานนิดๆ แห้งอร่อยกว่าน้ำอีกนอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังมีขนม ผลไม้ ซาลาเปา อีกหลายอย่าง ผมชิมแค่ก๋วยเตี๋ยวอย่างอื่นไม่ได้ชิมส่วนราคาตามป้ายเลยครับอิ่มเสร็จเดินข้ามสะพานเข้ามาในพระธาตุหริภุญชัย เพื่อมาชิมร้านนี้เฉาก๊วย อร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์ เข้าในพระธาตุร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือลูกค้าต่อคิวพอประมาณ แม่ค้าอารมณ์ดีสุดๆสั่งมา 1 ถ้วย หวานเย็นชื่นใจ ไม่หวามมาก อร่อยดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าที่สุดในเมืองมนุษย์หรือเปล่า กินที่อื่นก็ประมาณนี้โดนซื้อข้าวโพดคั่วแบบงงๆมาอีก 1 กระป๋อง แม่ค้าบอกมาเล่นเกมส์กัน เอามา 20 บาทแล้วเดี๋ยวบอกเกมส์ พอให้ไป 20 บอกหยิบข้าวโพดไป 1 กระป๋อง เฮ้ย... นี่เกมส์เหรอ ตอนนั้นงงมากหยิบมาแบบงงๆ แต่ก็ไม่คิดอะไร พอมาทำบล็อกนึกออกแล้ว เกมส์ค่าโง่นั้นเอง 555หลังจากเล่นเกมส์เสร็จ เข้าไปไหว้พระขอพรในพระธาตุได้เวลาเดินทาง ออกจากพระธาตุหริภุญชัย เวลา 10.49 น.ขับกลับเส้นลำปาง ระหว่างทางเห็นป้ายทางเข้า อช.ขุนตาลเลี้ยวซ้ายตามป้าย