วันนี้ตื่นแต่เช้า เพื่อไปหมู่บ้านสันติชล ชมทะเลหมอกหยุนไหล ผมออกจากที่พักเวลา 6.30 น.ระยะทาง 919.4 กม.จากที่พักเลี้ยวขวาผ่านสี่แยกถนนคนเดิน ตรงถึงสามแยกเลี้ยวซ้าย ตรงยาว ผ่าน รพ.ปาย ข้ามทางเลี่ยงเมืองปาย - วัดน้ำฮู ตรงไปไม่กี่ กม.ก็มาถึงปากทางเข้า หมู่บ้านสันติชลผมมาถึงหมู่บ้านสันติชลเวลา 7.10 น.ระยะทาง 924.2 กม.(จากปายมาบ้านสันติชลประมาณ 5 กม. มาถึงจอดรถได้ เหมารถชาวบ้านขึ้นไปชมทะเลหมอกหยุนไหล คันละ 300 บาท (หลัง 9 โมงเช้าเค้าถึงจะให้ขับรถขึ้นไปเอง) ขึ้นมาถึงซื้อตั๋วเข้าชมคนละ 20 บาทขึ้นไปชมทะเลหมอกกันครับ ไม่ค่อยมีอ่ะ แต่ข้างบนมีจุดกางเต้นท์ ร้านอาหาร มุมถ่ายรูป โออยู่แดดเริ่มออกก็สวยดีเหมือนกันมุมฮิตนั่งชิมชา ชมหมอก บรรยากาศสุดบรรยาย เสียดายอากาศไม่หนาวอย่างที่คิด อากาศประมาณ 24 องศาชา กาแฟ ข้าวต้ม ผมไม่ได้อุดหนุนนะครับจุดกางเต้นท์ ไม่ได้ถามราคา ใครมากางเต้นท์ขับรถขึ้นมาจอดข้างบนได้เลยได้เวลากลับแล้ว ผมอยู่ข้างบนประมาณครึ่งชั่วโมงก็ลงแล้วครับ
 

ลงมาทางนี้จะเป็นลานจอดรถลงมาถึงลานจอดรถข้างล่าง เดินเที่ยวหมู่บ้านสันติชลต่อ
 

หมู่บ้านสันติชล ไม่บรรยายเนอะ ใครสนใจดูเวปนี้ได้ คลิ๊กเลยบรรยายคราวๆแล้วกัน หมู่บ้านสันติชล จะจำลองบ้านแบบจีนยูนาน ภายในหมู่บ้านจะขายชาเยอะมาก อาหารแนะนำขาหมู-หมั่นโถ ไม่ได้ชิม ส่วนกิจกรรมต่างๆ พวกโล้ชิงช้า ขี่ม้า มีชุดยูนานให้เช่า ถ่ายรูปได้บรรยากาศไปอีกแบบ ยิงธนู ยิงปืน ทั้งหมดที่กล่าวมาผมไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับเค้าซักอย่าง เดินถ่ายรูปอย่างเดียว 555กิจกรรมทั้งหมด อยู่ในหมู่บ้านยูนาน เดินเล่นเพลินดีเหมือนกันลานกิจกรรมต่างๆได้เวลากลับแล้วเป้าหมายต่อไป โขกู้โส่หรือสะพานบุญผมออกจากหมู่บ้านสันติชลเวลา 8.03 น.ใช้เส้นทางเดิม กลับมาถึงเส้นเลี่ยงเมืองปายเลี้ยวขวาตรงไปทางสะพานประวัติศาสตร์ แต่ยังไม่ถึงสังเกตเลยบ้านกลับหัวให้ดูป้ายด้านขวามือจะมีทางเข้าไปน้ำตกแพมบกหรือหมู่บ้านแพมบกให้เลี้ยวขวาเข้าไปตามป้ายประมาณ 5 กม.ช่วงก่อนถึงสะพานบุญประมาณ 1 กม.ทางจะแคบมากโค้งชัน หักศอก ตามทางบังคับ จนมาถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายข้ามสะพาน ตรงไปเข้าหมู่บ้านจะเห็นสะพานบุญ ปาย 

ผมมาถึงสะพานบุญ เวลา 8.15 กม.ระยะทาง 932.2 กม. จากหมู่บ้านสันติชลมาสะพานบุญ ปาย ประมาณ 8 กม.สะพานบุญโขกู้โส่ มีความยาวทั้งหมด 815 เมตร สูงจากพื้นดินประมาณ 1-2 เมตร สร้างขึ้นจากโครงปูนและเหล็ก ใช้ไม้ไผ่สานเป็นพื้นด้านบน กว้างประมาณ 1 เมตร สองฟากฝั่งทางเดินจะเป็นนาข้าวสุดกว้างใหญ่ เสียดายผมไปเกี่ยวข้าวหมดแล้วมีให้อาหารปลาด้วย พอมีนักท่องเที่ยวเดินมา ปลาจะว่ายมารออาหารเลย ส่วนอาหารจะวางใส่ถ้วยไว้ ไม่บังคับเรื่องราคาไม่มีคนเฝ้า จะใช้บริจาคแทน ใส่เท่าไหร่แล้วแต่ศรัทธาเดินชมไปเรื่อยๆมาถึงทางแยก จะมีศาลาพักอีก 1 จุดคิดดู ถ้านาเขียวขจี จะสวยแค่ไหนสะพานยาวเกือบ กิโล เดินกันยาวเลยครับวัดอยู่ข้างหน้าลิบๆใกล้ถึงวัดจะมีศาลาให้พักอีก 1 จุด ด้านข้างจะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง เป็นชักโครกมีสายชำระ สะอาดมากทำตามกฎด้วยนะครับเดินต่อไปจะมีทางแยกเลี้ยวซ้ายจะเข้าหมู่บ้าน ตรงไปจะเป็นวัดผมตรงไปทางวัด วันนี้ปิด วัดจะเปิดให้เข้าไปทำบุญเฉพาะวันพระ เสียดายอ่ะหลังจากยกมือไหว้พระหน้าประตู ก็เดินกลับผมออกจากสะพานบุญเวลา 9.15 น. เส้นทางเข้าสะพานบุญจะเป็นแบบนี้ ดีสุดแล้ว ตอนทางขึ้นเขาโค้งหักศอกแคบกว่านี้ไม่ได้ถ่ายไว้ขากลับแวะกลับเข้าตัวเมืองปาย แวะเติมน้ำมันปั๊ม ปตท. ที่ปายจะมีปั๊มเดียว ใครไปช่วงเทศกาล ดูจังหวะให้ดีนะครับ รอคิวเติมยาวแน่ 

ผมเติมเต็มถัง ราคาดีเซล พรีเมี่ยม ณ วันนี้ ลิตรละ 28.68 บาทถึงที่พักประมาณ 10 โมงเรากินอาหารเช้าที่พักก่อนเลย (ที่พักมีอาหารเช้าให้ด้วย) เป็นบุฟเฟ่ต์ รองท้องไปก่อนข้าวต้มอร่อยมาก เดินวนไปสามรอบ ส่วนไส้กรอก แฮม ให้แบบไม่มีกั๊ก แค่นี้ก็หรูแล้วตบด้วยผมไม้อีก 1 จาน แตงโมหวานเย็นชื่นใจ แน่ใจนะว่ารองท้อง 555ได้เวลาเดินทางไปบ้านรักไทย ผมออกจากที่พักเวลา 10.30 น.ระยะทาง 949 กม.
ระหว่างทางจะผ่านดอยกิ่วลม ปางมะผ้า แวะพักรถยืดเส้นยืดสายนิดนึงเป้าหมายต่อไป ก๋วยเตี๋ยว บ้านจ่าโบ่ ทางผ่านมีถ้ำทั้งหลาย ผมเคยไปแค่ถ้ำลอดที่เดียว ถ้าใครมีเวลาแนะนำครับ ถ้ำลอดสวยจริง แต่ครั้งนี้ผมตียาว ผ่านตลาดปางมะผ้า ใหญ่เลยละ ใครจะแวะซื้อของตรงนี้ได้เลย จากตลาดปางมะผ้า ประมาณ 10 กม. มาถึงทางเข้าบ้านจ่าโบ่ จะอยู่ทางขวามือ มีป้ายบอก ผมมาถึงปากทางเข้าบ้านจ่าโบ่ เวลา 11.48 กม.ระยะทาง 1,000 กม.พอดี ทางเข้าหมู่บ้านจ่าโบ่เป็นถนนลาดยางอย่างดี กว้าง ช่วงก่อนถึงจะเป็นทางขึ้นเขา และลงเขาโค้งตัวเอส (หลายเอสอยู่เหมือนกัน)
 

จากปากทางเข้ามาบ้านจ่าโบ่ประมาณ 4 กม.ถึงแล้ว ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่ รสชาติไม่สนต้องการกินบรรยากาศมากกกกกกคือ ................................................วันนี้วันอังคาร ไม่ใช่วันพระ ปิดเพราะอะไร ไม่มีข้อมูล อยากกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาชมวิว ทำได้แค่เกาะประตูมองดูบรรยากาศภายในร้านดีนะกินรองท้องจากที่พักมาก่อน ถ่ายวิวไปผิดหวังอย่างแรง ไว้ค่อยมาซ่อมใหม่ 

ออกจากบ้านจ่าโบ่เวลา 12.07 น.ระยะทาง 1,003.7 กม.ยิงตรงยาวไปแม่ฮ่องสอน ถึงถ้ำปลาเวลา 13.02 น.ระยะทาง 1,045 กม. แวะกินข้าวก่อน หิวมากๆผมเลือกร้านที่ไม่มีลูกค้า จะได้กระจายรายได้ จากการเดินสำรวจร้านอาหาร 1 รอบ จะขายคล้ายกันหมด ส่วนมากร้านไหนลูกค้านั่งอยู่แล้ว ลูกค้ามาใหม่จะมานั่งตามไส้อั่ว-ซี่โครงหมูย่าง ผ่านการย่างมาอย่างโชคโชน แห้ง แข็ง มัน แต่ไส้อั่วอร่อยดีครับไก่ย่าง รสชาติอร่อยดี ถ้าย่างใหม่ๆผมให้ 5 ดาวเลย เอาไป 4 ดาวพอ หักค่าย่างไว้นานปลาทับทิมเผา หนักกว่าเพื่อน เนื้อร่วนแห้งติดหนัง กินไปคำเดียวพอเลยส้มตำไทย เมนูนี้ชนะเลิศ ต้องสั่งมาอีกจานราคาทั้งหมด มีข้าวเหนียว 1 จานน้ำแข็ง-น้ำอัดลม- น้ำเปล่ากับข้าว 4 อย่าง 460 บาทเรื่องราคาพอรับได้ ส่วนคุณภาพไม่ผ่านเน้อ แต่ไม่ได้เสียอารมณ์หรือฝิดหวังเท่าไหร่ ถือว่ากระจายรายได้ ให้ชาวบ้านได้มีอาชีพทำมาหากิน อีกอย่างมาเที่ยวเนอะ เจอร้านอร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้างรับได้ ขออย่า่งเดียวอย่างโดนเอาเปรียบพอ สำหรับใครอยากจะแวะเที่ยวถ้ำปลาก็เข้าไปชมได้ บัตรผ่านประตูสามารถใช้บัตรถ้ำปลาไปยื่นที่ปางอุ๋งได้เลย ไม่ต้องเสียเพิ่ม ส่วนผมไม่ได้แวะเที่ยวถ้ำปลานะครับ เคยมาเที่ยวแล้ว 

หลังจากอิ่มแล้วก็เดินทางไปยังบ้านรักไทย ออกจากถ้ำปลาเวลา 13.48 น.วิ่งเข้าหมู่บ้านหมอกจ่าแป่ไปเรื่อยๆจะมีป้ายบอกตลอดทาง สังเกต ป้ายดีๆแล้วกันเลยป้ายทางจะเริ่มขึ้นเขาไต่ระดับไปเรื่อยๆ ถนนกว้าง ราดยางอย่างดี ผ่านน้ำตกผาเสื่อ ไม่ได้แวะ จนมาถึงศูนย์บริการและพัฒนาปางตองตามพระราชดำริ ตรงนี้จะเป็นทางแยกซ้ายมือเข้าไปเลยตรงไปจะไปบ้านรักไทย ขอแวะนิดนึงจากทางเข้าประมาณ 1 กม.จะมาถึงด่านทางเข้า
 

ผมมาถึงตรงนี้เวลา 14.13 น.ระยะทาง 1,061 กม.ขับเข้าไปอีกประมาณ 2 กม.จะมีฟาร์มแกะ ระหว่างทางจะมีแปลงเกษตรทดลอง การเลี้ยงปลาเทรา ใครสนใจข้อมูลดูเวปนี้ได้ครับ คลิ๊กเลยผมอยู่ตรงนี้ไม่นานเดินทางไปบ้านรักไทยต่อ

ออกจากปางตองเวลา 14.35 น. วิ่งไปตามทาง ถนนดีมาก มีขึ้นเขา โค้งบ้างประปราย ก็มาถึงประตูทางเข้าบ้านรักไทยจากประตูไปไม่กี่ กม.ก็ถึงบ้านรักไทย ผมมาถึงพัก เหล่าต้าซือ บ้านรักไทยเวลา 15.00 น.ระยะทาง 1078.2 กม.ตอนแรกตั้งใจจอง ลีไวน์ รักไทย โทรไปล่วงหน้าก่อน 2 เดือน บอกเต็มไปถึงเดือน กพ.แล้ว เห้อ... อะไรจะฮอทขนาดนั้น ชาสา ว่างวันอื่นส่วนวันที่ผมจองเต็ม มาว่างที่ เหล่าต้าซือ จองก่อนเลย ทั้ง 3 ที่จะอยู่ใกล้ๆกัน จากประตูทางเข้าบ้านรักไทยตรงมา จะเจอเหล่าต้าซืออยู่ด้านขวามือติดริมอ่างเก็บน้ำ ด้านซ้ายมือจะเป็นลีไวน์ บ้านรักไทย มีถนนกั้นจะปลูกบนเนินเขาไล่ระดับ ถัดไปทางซ้ายมือติดๆกัน จะเป็นบ้านชาสา มีที่พักและร้านอาหารบนเนินเขา ส่วนริมอ่างเก็บน้ำ ถัดจากเหล่าต้าซือ จะเป็นร้านอาหารของลีไวน์ รักไทย หลังจากนั้นรอบๆ จะมีบ้านเรือน-ที่พักและร้านอาหาร ขายของตลอดทาง

เหล่าต้าซือมีที่จอดรถด้านหน้าที่พัก เดินเข้ามาก็เจอประชาสัมพันธ์ด้านหลังจะเป็นห้องอาหารของเหล่าต้าซือ ใครไม่มาพักที่นี้ก็แวะมากินข้าวเอาบรรยากาศที่นี่ก็ได้ หลังห้องอาหารก็เป็นส่วนของบ้านพักแล้ว มาดูห้องที่พักของเหล่าต้าซือกันบ้าง ผมจองเตียงเดี่ยว ได้ห้อง 4 ติดริมทะเลสาบเข้าไปดูในห้องกันห้องไม่กว้างมาก พื้นปูนปูด้วยเสื่อน้ำมัน เตียงเดี่ยวขนาด 5 ฟุตเป็นเตียงไม้ มีมุงให้ด้วย เก๋มาก แต่ไม่ได้กางหรอก ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัวสะอาดมาก หน้าต่างมีม่านติดประตู ด้านข้างมีทีวี น้ำเปล่า 2 ขวด สลิปเปอร์ 2 คู่ ห้องน้ำในตัว หน้าห้องน้ำมีอ่างล่างหน้าพร้อมกระจก ภายในห้องน้ำเป็นชักโครกมีสายชำระ น้ำอุ่นแบบต้มแก๊ส น้ำแรงดี ไม่มีแอร์ ไฟมีตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนโทรศัพท์มีสัญญาณทุกเครือข่ายพร้อมไวไฟ อธิบายเหนื่อยเหมือนกันเนาะ 555 ดูรูปบ้างด้านหน้าห้องจะมีระเบียงพร้อมโต๊ะนั่งเล่น 1 ชุด ถัดไปเป็นเตียงคู่ หลังคาสีเขียวแพงกว่าเตียงเดี่ยว 100 บาท ตอนจองไม่รู้ว่าเตียงเดี่ยว เตียงคู่ราคาไม่เท่ากัน เพื่อ...วิวจากหน้าห้องเดินข้ามถนนไปชม ลีไวน์ รักไทยกันบ้านด้านหน้าประชาสัมพันธ์ลีไวน์ เปิดให้เข้าไปชมไร่ชาได้ แต่ไม่ให้เข้าไปรบกวนแขกในส่วนของบ้างพัก
 

ทางขึ้นไปชมไร่ชาบ้านลีไวน์ ปลูกไต่ระดับ มีไร่ชาอยู่ด้านหน้า สวยดีครับ ถึงว่าจองอยากมากถ่ายจากไร่ชา มองลงไปยังอ่างเก็บน้ำถัดมาเป็นบ้านชาสา อยู่เนินเขาเหมือนกัน เปิดให้ขึ้นไปขมข้างบนได้แต่ผมไม่ได้เดินขึ้นไปสำรวจด้านหน้าจะขายพวกชา ผลไม้อบแห้งและของที่ระลึกชั้นสองเป็นร้านอาหาร ไม่ติดริมน้ำ แต่ได้บรรยากาศเห็นอ่างเก็บน้ำมุมสูงส่วนฝั่งติดอ่างเก็บน้ำเลยเหล่าต้าซือ เป็นร้านอาหารของลีไวน์เดินสำรวจรอบอ่างเก็บน้ำ จะมีร้านขายกาแฟ ขนม ผลไม้อบแห้ง ชา บ้านพัก รอบอ่างเก็บน้ำถึงแยกนี้ก็เลี้ยวขวาเดินรอบอ่างเก็บน้ำบ้านเหล่าต้าซือบรรยากาศช่วงสี่โมงเย็น รอบอ่างเก็บน้ำ ณ บ้านรักไทยเดินสำรวจเล่นๆมา 1 รอบ ประมาณห้าโมงเย็นได้เวลากินข้าว ผมกินที่ร้านเหล่าต้าซือก่อน
 

ผัดยอดถั่วลันเตา 80 บาทเห็ดหอมทอด 120 บาท เค็มไปหน่อยหมั่นโถทอดจิ้มนม อร่อยดีเหมือนกันแต่อมน้ำมันน่าดูหมั่นโถ เปล่าๆราคาทั้งหมด 320 บาท กินเล่นๆไปก่อน เดินไปชิมร้าน ลีไวน์ ต่อเริ่มมืด ร้านชาสา เริ่มเปิดไฟกันแล้วนั่งร้านลีไวน์ บรรยากาศดีเหมือนกัน สั่งอาหารไปสองอย่าง เป็นต้มจืดกับผัดเห็ดสด น้ำแข็งกระติก น้ำอัดลม 2 กป. ราคาทั้งหมด 390 บาทอาหารทั้ง 2 ร้าน ราคาจะใกล้เคียงกัน พวกผัดผักต่างๆ จะอยู่ที่ 80 เท่ากัน ของกินราคาจะสูง แพงกว่า กทม.อีกคงเพราะค่าขนส่งแพงด้วยมั่ง รสชาติจะออกจืด มันๆ ส่วนมากจะมีไม่กี่เมนู ขาหมูจานใหญ่มาก ไปสองคนกลัวกินไม่หมดเลยไม่ได้สั่งมากิน เสียดายอยู่เหมือนกัน นั่งเล่นได้ซักพักก็กลับเข้านอน 

 

พรุ่งนี้ไปนอน เมืองสามหมอกที่แม่ฮ่องสอนกันครับ คลิกเลย

สรุปค่าใช่จ่ายวันนี้

-ค่าที่พัก เหล่าต้าซือ 1 คืนพร้อมอาหารเช้า 900 บาท
-เหมารถขึ้นชมทะเลหมอกหยุนไหล 300 บาท
-ค่าเข้าหยุนไหล 40 บาท(20*2)
-ค่าน้ำมัน 900 บาท (เติมดีเซล พรีเมี่ยม 31.38 ลิตร ลิตรละ 28.68 บาท)*** ดีเซลธรรมดา 25.68 บาท
-อาหารมื้อเที่ยงถ้ำปลา 460 บาท
-อาหารมื้อเย็นร้านเหล่าต้าซือ 320 บาท
-อาหารมื้อเย็นร้าน ลีไวน์ รักไทย 390 บาท
 

รวมทั้งหมด 3,310 บาท

***ระยะการเดินทางวันนี้ทั้งหมด 158.8 กม.

 

- เติมน้ำมันครั้งที่ 2 จากลำปาง-ปาย ระยะทางทั้งหมด 353.6 กม.เติมเต็ม 31.38 ลิตร เฉลี่ย 11.26 ลิตร/กม.