แอ่วเจียงฮาย วันที่ 4 ดอยช้าง แม่สลอง
ย้อนดูวันที่ 3 เวียงป่าเป้า-ดอยช้าง คลิ๊กเลย
วันจันทร์ 17 ธ.ค.55 อากาศบนดอยเมื่อคืนประมาณ 12 องศา หลับสบายเลยครับ ตอนเช้าหกโมงตื่นขึ้นมา ถ่ายรูปแสงยามเช้าตรงหน้าห้องพักครับ
ตื่นมาไม่รู้จะไปไหน ถ่ายเมล็ดกาแฟตรงหน้าที่พักนั้นแหละครับ จะปลูกเป็นแปลงเลย ตอนนี้เมล็ดกาแฟจะเริ่มออกแล้วครับ
แปดโมงเช้าได้เวลาอาบน้ำเก็บของเสร็จผมก็ขับรถไปคืนกุญแจบ้านพักที่อาคารเอนกประสงค์ แล้วอาหารมื้อเย็นที่ผมสั่งไว้ ไม่ได้กินตอนเช้าเลยให้แม่ครัวเอาไปอุ่นให้พร้อมสั่งไข่เจียวเพิ่ม รอดตายไปอีกมื้อ
เจ้าหน้าที่บนดอยช้างน่ารักมาก แอบชงกาแฟคั่วดอยช้างมาให้ดื่ม บอกใครขึ้นมาโดนบังคับให้ดื่มผลิตภัณฑ์กาแฟดอยช้างฟรีทุกท่าน ขนาดผมบอกผมไม่ดื่มกาแฟยังบอกให้ลองแล้วจะติดใจ
โดนสิครับ ไม่อยากจะเชียร์มาก ขนาดผมไม่ดื่มกาแฟ ลองชิมไปแล้ว ต้องซื้อกาแฟคั่วบดมาอีกหลายถุง เมื่อวานก็ซื้อไปหลายบาทอยู่เหมือนกัน แต่ของเค้าดีจริง ในรถผมหอมกาแฟตั้งแต่ดอยช้างยังกลับบ้านเลยครับ นี่เป็น Shop สินค้าวางจำหน่ายตรงอาคารเอนกประสงค์ ใครขึ้นไปแนะนำเลย กาแฟดอยช้างเค้าหอมจริงๆ
หลังจากอิ่ม คืนห้องพักเสร็จได้เวลาร่ำลาจากดอยช้าง (ไว้มีโอกาสจะไปนอนค้างอีก) ตามแผนเดิมที่วางไว้ ว่าจะขับย้อนลงมาถึงทางแยกแล้วเลี้ยวขวาลงไปทางบ้านห้วยไคร้ ชร.3037 เข้าดอยวาวี แวะเที่ยวไร่ชาและหมู่บ้านชาวเขาดูวิถีชีวิต บ้านเรือน ถ้ามีเวลาอาจขึ้นดอยกาดผี แล้วค่อยวิ่งออกไปบ้านสลัก เข้าเส้น 1089 เลี้ยวขวาไปแยกกิ่วสะไต เลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 1234 ขึ้นแม่สลอง เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางขึ้นเขา ทางลาดยางตลอดแต่แคบเป็นบางช่วง ถนนลาดยางตลอด เส้นนี้ไม่ต้องวิ่งเข้าเมือง พอลองถามข้อมูล เจ้าหน้าที่บอกว่าถ้าไปดูไร่ชา ที่ดอยวาวี (เป็นดอยแรกที่ปลูกไร่ชา) ส่วนมากดอยวาวีจะเป็นพวกปลูกไว้ขาย ยังไม่ค่อยมีอะไร ยังไม่ได้ทำเป็นเชิงท่องเที่ยวเท่าไหร่ ถ้าจะไปแม่สลองขึ้นไปถ่ายรูปไร่ชาที่แม่สลองเลยดีกว่า ไร่ชาที่แม่สลองจะทำเป็นเชิงธุรกิจท่องเที่ยวมีหลายไร่เลย ส่วนถ้าไปเที่ยวดอยกาดผี ทางโหดมากต้องใช้โฟร์วีลเท่านั้น อีกอย่างถ้าไปดอยกาดผีต้องไปดูหมอกแต่เช้ามืด ไปสายๆไม่มีอะไรแล้วขึ้นไปก็ไม่คุ้ม หรือจะกลับทางเก่าลงทางเขื่อนแม่สรวย ทางจะดีกว่าแต่จะอ้อมไปหน่อย หรือถ้าอยากขับรถแบบลุยๆหน่อยไม่ต้องอ้อม ให้ออกทางห้วยล้าน ทางไม่อ้อมแต่ทางจะเป็นทางลูกรังประมาณ 8 ก.ม.นอกนั้นก็ขับปรกติ ยิงยาวไปเข้าเส้น 1211ออกบ้านสวนดอกเข้าตัวเมืองเชียงรายเลย เอาวะ ผมเลยเปลี่ยนใจออกเส้นห้วยล้านแทน เมื่อวานรถช้ำยังไม่สะใจ 555 ดูแผนที่ คลิ๊กเลย
ได้เส้นทางไปดอยแม่สลองแล้ว ก็เริ่มเดินทาง ผมออกจากดอยช้างเวลา 9.05 น.หน้าไมล์ 916 ก.ม. จากอาคารเอนกประสงค์เลี้ยวซ้ายขับไปทางบ้านพัก ขึ้นเขาต่อไปยังพุทธอุทยาน ก่อนถึงทางแยกเลี้ยวขวาเข้าพุทธอุทยานจะมีป้ายบอกให้ตรงไปเชียงราย ตรงไปเชียงรายเลยครับไม่ต้องเลี้ยวขวา เส้นทางนี้ถนนซีเมนต์ขับได้ไม่มีปัญหา ประมาณหนึ่งกิโลมั่ง เริ่มมันส์แล้วครับ ระหว่างทางแอบเจอพญาเสือโคร่ง แฟนบอกจอดหน่อยๆ ขอถ่ายรูป สองคนตายาย ยังลั่นล้ากันอยู่ ยังไม่รู้ชะตากรรม 555
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ทางก็จะเป็นลักษณะนี้ นี่แค่เริ่มต้น ถือว่าเส้นทางปรกติ ใครกลับใจก็รีบกลับรถตรงนี้เลยนะครับ เพราะขับต่อไปไม่มีที่กลับรถแล้ว หุหุ
ขับไปอีกหน่อยเริ่มลงเขาแล้วครับ
ระหว่างสองข้างทาง จะปลูกไร่กาแฟกับแมคคาเดเมีย สวยมาก แต่ด้วยเส้นทางไม่เอื้ออำนวยในการถ่ายรูปเลยได้แต่ชมด้วยสายตาไป ขับมาถึงตรงนี้ผมชอบมาก จะผ่านป่าสนร่มรื่นดีจัง
ระยะทางประมาณ 8 ก.ม.เป็นช่วงที่กำลังทำทางอยู่ บางช่วงเทคอนกรีตผมขับตามถนนคอนกรีตไปได้ซักพัก หยุดสร้างซะงั้น จะถอยกลับก็ไม่ไหวไกลเกินแถมถนนพอดีคันผมอีก พลาดตกไปเรื่องใหญ่ เลยต้องจอดรถลงเอาหินมาหนุนทำเป็นทางลง พอลงไปได้ก็ผ่านหมู่บ้านห้วยล้านลีซอ ระหว่างทางเจอรถเจ้าถิ่นอยู่คันวิ่งสวนที่หมู่บ้านนั้นแหละ นอกนั้นถนนเป็นของเรา แล้วก็ผ่านมาได้จนถึงจุดนี้ แฟนผมชอบใหญ่เลย
ขึ้นเขาลงห้วยของแท้ เห็นอย่างนี้สันเขื่อนสูงระดับหลังคารถผมเลยนะครับ
ขับข้ามลำธารตรงนี้ไปก็ เป็นทางราดยางแล้วครับ ขับสบาย ถ้าใครชอบขับลุยๆแบบผมก็แนะนำเส้นนี้เลย มีวิวสวยๆสองข้างทางให้ชมตลอด 8 ก.ม.ทางไม่ถึงกับออฟโรด แต่กระบะธรรมดาไม่โฟร์วีลอย่างผมก็พอได้ลุ้นตลอดเส้นทางเหมือนกัน หลังจากหลุด 8 ก.ม.แรกได้ ขับไปตามเส้นทางแล้วก็มาถึงทางแยก กม.ที่ 21 บ้านห้วยพลับพลา ระยะทางจากบ้านผม 943 ก.ม.เวลา 10.25 น. ถึงแยกเลี้ยวซ้ายไปถึงบ้านสวนดอก ก่อนถึงบ้านสวนดอกจะผ่านน้ำตกขุนกรณ์อยู่ทางซ้ายมือ จากทางเข้าไปกี่กิโลผมไม่ทราบ ส่วนผมขับตรงเข้าเชียงราย ก่อนถึงเชียงรายเจอสิงห์ตั้งเด่นเป็นสง่า ไร่บุญรอดนั้นเอง แอบขับเข้าไปดูข้างใน ไม่มีอะไรเลยอ่ะไม่มีข้อมูล ไม่รู้เค้าเที่ยวยังไง ต้องแวะที่ไหน เจอแต่สิงห์ตัวนี้ ตั้งเด่นเป็นสง่ากับร้านอาหารมั่งไม่แน่ใจ วันนี้ไม่ได้อยู่ในโปรแกรม ตียาวโลด อ้อ...ตรงแยกบ้านสวนดอกถ้าเลี้ยวขวาไปวัดร่องขุ่นได้เลยครับ
มาถึงตัวเมืองเชียงราย ดูรถวุ่นวายเหมือนกันเนาะ เจอป้ายเลี้ยวซ้ายไปไร่ไม่ฟ้าหลวง จากแยกสัญญาณจราจร จะผ่าน รพ. ผ่านค่ายเม็งราย วิ่งไปตามทางก็จะมาถึงไร่แม่ฟ้าหลวง ระยะทางประมาณ 3 ก.ม.จากปากทางครับ
ผมโชคดีครับ วันนี้วันจันทร์ ปิด 555 อดเข้าไปชม ได้แต่ถ่ายป้ายข้างหน้ามาแล้วขับกลับอย่างหงอยๆ ถึงไม่ได้เข้าชมขอเอาข้อมูลไร่แม่ฟ้าหลวงมาฝากครับ "อุทยานแห่งความสงบ งามอย่างล้านนา" ไร่แม่ฟ้าหลวงตั้งอยู่บริเวณพื้นราบทางตะวันตกของตัวเมืองเชียงราย ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ฝึกอบรมเยาวชนชาวเขาจากหมู่บ้านต่างๆ ในภาคเหนือ ปัจจุบันเป็นอุทยานศิลปะและวัฒนธรรมอันรื่นรมณ์ด้วยหมู่ไม้นานาพันธุ์ เหมาะสำหรับผู้แสวงหาความสงบเงียบและแรงบันดาลใจอันเกิดจากธรรมชาติ และสิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น บริเณ 150 ไร่ของไร่แม่ฟ้าหลวงเป็นที่จัดแสดงงานศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี ละคร ทั้งยังเหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยงรับรองรูปแบบต่างๆ การประชุมสัมนาหรือการประกอบพิธีกรรมพื้นเมืองเหนือในท่ามกลางบรรยากศอันสงบและศักดิ์สิทธิ์ ไหว้สาแม่ฟ้าหลวง เป็นภาษาเนหือโบราณแปลว่า การน้อมคารวะ แม่ฟ้าหลวง เป้นคำที่ชาวไทยในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทบ ใช้แทนพระนามของสมเด็ขพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีผู้สันนิษฐานว่าชาวไทยภูเขาได้คำนี้มาจากชาวไทยใหญ่ในตอนใต้ของประเทศจีนที่เรียกเจ้านายของตนเองว่า เจ้าฟ้า บางท่านสันนิษฐานว่า พระนามนี้ได้มาจากกาเสด็จเยี่ยมเยือนราษฎรชาวไทยภุเขา ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เฮลิปคอบเตอร์เป็นพระราชพาหนะ เปรียบเสมือนมารดาจากฟากฟ้ามาดูแลบุตร แต่ไม่ว่าคำคำนี้จะมีที่มาจากเหตุใด ก็เป็นพระสัญญานามที่ถวายแด่พระองค์ ท่านด้วยความรัก บูชา และซาบซึ้งในพระเมตตาที่ทรงมีต่อราษฎรในพื้นที่ทรุกันดารเหล่านั้น ประดุจความรักและเมตตาอันยิ่งใหญ่ที่มารดาพึงมีต่อบุตร ใครสนใจอย่าไปวันจันทร์นะครับ เดี๋ยวจะอดเข้าชมเหมือนผม วันและเวลาดำเนินการ ปิดเฉพาะวันจันทร์ / เวลาดำเนินการ 08.00 - 18.00 น. อัตราค่าเข้าชม บุคคลทั่วไป - คนไทย 150 บาท / คน - คนต่างชาติ 200 บาท / คน หมายเหตุ * เด็กต่ำกว่า 12 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม ติดต่อสอบถามได้ที่ ไร่แม่ฟ้าหลวง 313 หมู่ 7 ต. รอบเวียง อ. เมือง จ. เชียงราย 57000 โทรศัพท์ 053-601013, 053-711968 โทรสาร 053-712429, อีเมลล์ rmfl@doitung.org ขอบคุณข้อมูลจากเวป คลิ๊กเลยหลังจากผิดหวังไร่แม่ฟ้าหลวงที่ไปผิดวันเอง ก็ขับออกจากตัวเมืองเชียงรายเพื่อไปต่อแม่สลอง เอาเส้นการเดินทางไปแม่สลองมาให้ดู ผมไปเส้นทางที่สองครับ
แผนที่และการเดินทาง คลิ๊กเลยการเดินทาง การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง เส้นทางแรก (เส้นทางสายใหม่) ใช้ทางหลวงหมายเลข 10 จากตัวเมืองเชียงราย ไปทางอำเภอแม่จัน ระยะทาง 29 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 1089 (แม่จัน-ท่าตอน) บริเวณหลัก กม.856 ก่อนถึงทางเข้าตัวอำเภอแม่จันเล็กน้อย ผ่านน้ำพุร้อนป่าตึง (กม.78) ลานทองวิลเลจ (ระหว่าง กม.73-74) ประมาณ 31 กิโลเมตร และ กม. 55 ให้เลี้ยวขวา ไปตามเส้นทางขึ้นดอยคดเคี้ยว ไปอีกประมาณ 15 กิโลเมตร รวมระยะทาง 75 กิโลเมตร เส้นทางที่ 2 (เส้นทางสายเก่า) ใช้ทางหลวงหมายเลข 10 ผ่านอำเภอแม่จัน ประมาณ 1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางไปดอยแม่สลอง เส้นทางสายนี้ค่อนข้างแคบและคดเคี้ยว ผ่านหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆ เป็นระยะๆ เมื่อถึงบ้านป่าเมี่ยง หลัก กม. 10 จะเป็นสามแยกศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา ให้เลี้ยวซ้ายตามทางหลวง 1234 ระยะทาง 25 กิโลเมตร ผ่านบ้านอีก้อสามแยก ตรงหลัก กม. 9 ให้เลี้ยวซ้ายไปอีก 16 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถสองแถวสีเขียวสายแม่จัน กิ่วสะไต แม่สลอง เวลาออกจากแม่สลอง 07.30 น.-09.30 น.-11.30 น.-13.30 น.-15.30 น. เวลาออกจากแม่จัน 07.30 น.-09.00 น.-11.00 น.-13.00 น. ผ่าน รพ.แม่จันก็จะเห็นป้ายนี้แล้วครับ เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด
จากป้ายเลี้ยวซ้ายขับไปเรื่อยๆเส้นทางยังไม่ชันมาก ขับได้สบายๆไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ทางค่อนข้างดีเลยครับ ลาดยางตลอด ขับมาได้ประมาณ 10 ก.ม. (ช่วงนี้เส้นทางยังขับชิวๆ ขึ้นเขาบ้างแต่ยังไม่ชันโค้งไม่เยอะเท่าไหร่ ระหว่างทางจะมีไร่ชาให้เข้าไปชมกับรีสอร์ทดังๆหลายเจ้า) แล้วก็มาถึงทางแยกจะมีด่านตั้งอยู่ ขับตรงไปเป็นดอยหัวแม่คำ เราเลี้ยวซ้ายไปดอยแม่สลอง จะมีป้ายบอกครับ พอเริ่มเลี้ยวซ้ายตรงด่าน ทางเริ่มคดเคี้ยวและชันขึ้นเรื่อยๆ แต่ถนนราดยางเรียบดีครับ ขับปุเรงๆไปเรื่อยๆเจอไร่ชา 101 ดักไว้จุดแรกเลยครับ ตอนแรกว่าจะไม่แวะ แต่ขอจอดพักรถถือโอกาสลงไปถ่ายรูปก่อน ผมมาถึงไร่ชา 101 เวลา 12.02 น.หน้าไมล์จากบ้านผมวันแรกถึงตอนนี้ 1,023 ก.ม.
ผมลงไปพักรถ เข้าห้องน้ำ ลงไปถ่ายรูปชา ไม่ได้อุดหนุนสินค้าเค้าเลยครับ
เดี๋ยวจะหาว่าแล้งน้ำใจ ถึงผมไม่ได้อุดหนุนสินค้า งั้นเอาข้อมูล สินค้าไร่ชา 101 มาโปรโมทให้แล้วกันครับ ไร่ชา101ซึ่งถือได้ว่าเป็นเจ้าแรกและเจ้าที่ใหญ่ที่สุดของดอยแม่สลอง แรกเริ่มเดิมทีเจ้าของไร่ชาเป็นไกด์อยู่ที่กรุงเทพฯ พอได้แฟนเป็นคนไต้หวันเลยริเริ่มที่จะคิดปลูกชาอู่หลง เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศของดอยแม่สลอง ไม่แตกต่างจากที่ไต้หวันมากนัก จากนั้นทางเจ้าของได้ทำการจ้างคนไต้หวันมาเที่ยวเมืองไทยโดยให้นำกิ่งของชาเขียวเข้ามาด้วย เพื่อที่จะทำการเพาะและขยายพันธุ์ ซึ่งในช่วงที่ทำแรกๆ ได้ขาดทุนไปหลายล้านบาทเพราะลองผิดลองถูก และเมื่อทดลองได้ผลแล้วทำให้ได้ขยายพื้นที่ของการปลูกให้มากขึ้นริ่มเดิมทีเจ้าของไร่ชาเป็นไกด์อยู่ที่กรุงเทพฯ พอได้แฟนเป็นคนไต้หวันเลยริเริ่มที่จะคิดปลูกชาอู่หลง เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศของดอยแม่สลอง ไม่แตกต่างจากที่ไต้หวันมากนัก จากนั้นทางเจ้าของได้ทำการจ้างคนไต้หวันมาเที่ยวเมืองไทยโดยให้นำกิ่งของชาเขียวเข้ามาด้วย เพื่อที่จะทำการเพาะและขยายพันธุ์ ซึ่งในช่วงที่ทำแรกๆ ได้ขาดทุนไปหลายล้านบาทเพราะลองผิดลองถูก และเมื่อทดลองได้ผลแล้วทำให้ได้ขยายพื้นที่ของการปลูกให้มากขึ้น
ชาที่ไร่ 101 จะปลูกอยู่ 3 ชนิด คือ อู่หลงก้านอ่อน อู่หลงเบอร์ 12 และชาสี่ฤดู แต่จะปลูกอู่หลงก้านอ่อนมากที่สุด เนื่องจากอู่หลงก้านอ่อนได้รับการตอบรับและมีสรรพคุณที่ดี การปลูกชาต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดีเนื่องจากชาจะดูแลรักษายาก ชาก็ต้องมีการใส่ยาเป็นปรกติ แต่จะไม่ให้มีสารตกค้างจากยา และเครื่องจักรที่ใช้เกี่ยวกับการทำชาทั้งหมดจะนำเข้ามาจากประเทศไต้หวันและจะต้องทำมาจาก สแตนเลสเพื่อไม่ให้มีสารตกค้าง
โดยทั่วไปแล้วสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงเวลาระยะ 45-50วันต่อ หนึ่งครั้ง ซึ่งในหนึ่งปีหากน้ำเยอะก็สามารถเก็บได้ 7-8 ครั้ง ในการเก็บยอดชาอ่อน จะต้องเก็บในช่วงที่น้ำค้างแห้งแล้ว เพราะว่าหากน้ำค้างยังไม่แห้งจำให้น้ำชาที่ได้มาเป็นสีออกแดงๆ
แนะนำข้อมูลพอหอมปากหอมคอ จากเวปนี้ครับ คลิ๊กเลยถ้าใครขึ้นดอยแม่สลอง ขับมาลองแวะไร่ชา 101 แวะพักรถ เดินถ่ายรูปหรือจะเข้าไปชิมชาฟรีได้ ไม่ซื้อไม่ว่า แนะนำครับ ผมไปไม่ใช่ช่วงเทศกาลที่จอดรถว่างมาก นักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยเยอะ แต่ถ้าเทศกาลเห็นบอกว่าที่จอดรถแทบไม่พอ แถมช่วงนี้เค้ามีโปรโมชั่นลดราคาให้ด้วย
ผมพักรถที่ไร่ชา 101 ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ได้เวลาเข้าไปที่พักแล้วครับ ระหว่างทางก็จะผ่านไร่ชาวังพุดตาล เจ้านี้เค้าก็ดัง เห็นนักท่องเที่ยวแวะเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ผมไม่แวะเข้าไปชมแล้วครับ เลยไม่มีข้อมูลมาฝาก อีกจุดที่นักท่องเที่ยวส่วนมากจะแวะชมก็รีสอร์ทดอยหมอกดอกไม้ครับ (ไม่รู้ตอนนี้เปิดให้เข้าชมเปล่า ผมเคยเข้าไปถ่ายรูปตอนปี 48) ลืมบอกคืนนี้ผมนอนพักที่ ลิตเติ้ลโฮม เกสท์เฮาส์ บนแม่สลองนอก ผมมาถึงที่พักเวลา 12.40 น.หน้าไมล์ 1,029 ก.ม. แผนที่การเดินทางไป ลิตเติ้ลโฮม เกสต์เฮาส์ครับ อยู่ทำเลดีมากเลย จะไปเที่ยวตรงจุดไหนก็ไม่ไกลมาก
ผมจองที่ลิตเติ้ลโฮม มีที่จอดรถให้ด้วยที่เห็นรูปข้างบนเป็นร้านอาหารและเป็น Office ของลิตเติ้ลโฮมในตัว ส่วนห้องพักจะเป็นบ้านหลังๆอยู่ข้างหลัง Office ต้องเดินขึ้นไปอีกนิดนึง
ได้กุญแจห้องเสร็จก็เข้าไปถามข้อมูลสถานที่เที่ยวบนดอยแม่สลอง ได้รับคำแนะนำเป็นอย่างดีพร้อมกับให้แผนที่เที่ยวเสร็จ ได้ข้อมูลผมก็ขับไปพระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทร์สถิตมหาสันติคีรี จากที่พักไปพระบรมธาตุประมาณ 5 ก.ม. ทางขึ้นพระบรมธาตุฯจะขึ้นตรงบ้านสันติคีรีซึ่งจะร้านขายชา อาหารจีนยูนนานและของฝากจากดอยแม่สลอง จากที่พักเลี้ยวขวาวิ่งไปตามทางจะมีป้ายบอก ไปไม่ยากครับ ช่วงทางขึ้นไปพระบรมธาตุฯ ตั้งแต่บ้านสันติคีรีขึ้นไปทางค่อนข้างโค้งและชันแต่ถนนดี
พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทร์สถิตมหาสันติคีรี ตั้งอยู่บนยอดดอยสูงสุดที่ระดับความสูง 1,500 เมตร บนดอยแม่สลอง และอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 4 กม. ทางขึ้นไปยังพระธาตุเป็นถนนลาดยาง เป็นถนนที่คดเคี้ยวและสูงชัน เป็นเจดีย์แบบล้านนาประยุกต์ มีความสูงประมาณ 30 เมตร และฐานกว้างด้านละประมาณ 15 เมตร สร้างบนฐานสี่เหลี่ยมลดชั้นประดับกระเบื้องสีเทา เป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ได้กว้างและสวย โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน เข้าไปชมข้างในกัน
เห็นมีเหรียญตั้งไว้บนฐานด้วยครับ อันนี้ไม่รู้ที่มาที่ไป และตั้งเพื่ออะไรแต่ผมก็ลองตั้งไว้หนึ่งเหรียญกะเค้าเหมือนกัน
ขึ้นไปถ่ายมุมสูงจากข้างบนพระบรมธาตุฯ จะเห็นเส้นทางดอยแม่สลองที่เราขึ้นมา วิวสวยดีครับ
เส้นทางบนดอยแม่สลองจากมุมสูง เดี๋ยวเย็นๆค่อยพาไปเดินเล่นนะครับ
ลงจากพระบรมธาตุฯ เดินไปด้านหลังแอบเห็นดอกพญาเสือโคร่งบานอยู่ต้นหนึ่ง
ช่วงที่ผมไปมีบานอยู่ต้นนี้ต้นเดียวเองครับ
วันนี้ข้างบนแดดแรงมากครับ ดีว่าท้องฟ้าแจ่มดี ถ่ายรูปเดินชมพระบรมธาตุฯเสร็จก็ได้เวลากลับเข้าที่พัก
ขากลับลงมาแวะจุดซื้อของที่บ้านสันติคีรี เราสามารถเอารถเข้าไปจอดในโรงเรียน ไม่เสียค่าที่จอดแล้วค่อยเดินออกมาหน่อย
จากที่จอดรถเดินมายังร้านขายของจะมีของจากชาวเขาเอาของมาวางขายตามสองข้างทาง
สองข้างทางร้านขายชาเยอะมาก ผมได้แต่เดินชมอย่างเดียว ไม่รู้จะซื้อร้านไหนดี
เดี๋ยวนี้นิยมสร้างหลักกิโลเมตรยักษ์กันจัง แล้วผมก็ต้องถ่ายทุกครั้งที่เจอซะด้วยซิ
ร้านขายของโซนนี้ช่วงบ่ายจะโดนแดดเต็มๆ ที่เห็นเอาผ้ามาบังแดด ไม่ใช่ปิดร้านแล้วนะครับ ยังเปิดบริการอยู่
ร้านนี้อร่อยเปล่าไม่รู้ ผมไม่ได้แวะชิม แต่เห็นอาหารน่ากินดีเลยถ่ายรูปเก็บไว้
ผมเดินประมาณสิบห้านาทีไม่รู้จะซื้ออะไร ตอนแรกว่าจะแวะสุสานในพลต๋วน แต่เปลี่ยนใจกลับเข้าที่พักเลยดีกว่า ได้ห้องพักแล้วครับ ของผมได้บ้าน B7 ครับ อยู่ข้างหน้าเลย ที่เที่ยวบนดอยแม่สลอง คลิ๊กเลย
ลักษณะบ้านจะเป็นอย่างนี้ ที่เห็นบ้านที่ผมพักเลยครับ อยู่ใกล้ที่จอดรถสะดวกดี
หน้าบ้านจะปลูกต้นมะเขือมิกกี้เม้าส์หรือมะเขือการ์ตูนไว้หลายต้น น่ารักเชียว
ผมกลับมาถึงลิตเติ้ลโฮมเวลา 13.39 น.หน้าไมล์ที่ 1039 ก.ม. เข้ามาถึงก็จอดรถไว้เลยครับ เดี๋ยวเย็นๆค่อยเดินเที่ยวเอา ตอนนี้ขออาบน้ำก่อน
อาบน้ำเสร็จได้เวลากินข้าวมื้อเที่ยงแล้วครับ มีขาหมู+หมั่นโถ จานนี้ 350 บาท กินกันสองคนไม่หมดเจ้าของร้านบอกว่าเก็บไว้ เดี๋ยวตอนเย็นอุ่นไว้ให้กินต่อได้ ราคานี้ไม่แพง ขาเดียวกินได้สองมื้อเลย ขาหมูอร่อยมากแต่กินมากก็เลี่ยน เจ้าของชงชาของทางร้านเองมาบริการให้ด้วย อยากบอกว่าประทับใจการบริการของลิตเติ้ลโฮมมาก น่ารักทั้งครอบครัวเลยครับ
จานต่อไปผัดหมี่ยูนนาน จานนี้ 40 บาท อร่อย จานนี้แนะนำเลยครับ
จานสุดท้ายหมูผัดผักกาด 60 บาท จานนี้ไม่ค่อยถูกปากผมเท่าไหร่ครับ รสชาดมันจะออกเปรี้ยวๆหน่อย แต่ก็แก้เลี่ยนขาหมูได้ดีเหมือนกัน จานนี้เฉยๆ
หมั่นโถ กับน้ำชา
ตามสูตรหนังท้องตึงหนังตาหย่อน ไม่รู้จะไปไหนเข้าห้องนอนพักผ่อนก่อนครับพอเวลาสี่โมงครึ่งผมก็เดินเที่ยวบนแม่สลอง จากที่พักเดินไปทางแม่สลองวิลล่าระยะทางประมาณหนึ่งกิโล บนแม่สลองมีเซเว่นด้วยนะส่วนมุมขวามือที่เห็นยอดทองๆเล็กๆนั้นคือพระบรมธาตุฯที่เมื่อตอนกลางวันผมขึ้นไปไหว้ครับ
ทางเดินจะขึ้นเนินบ้าง ทางลาดบ้าง แต่เดินตอนเย็นๆออกกำลังกายดีครับ
เดินไปเรื่อยๆก็เพลินดีเหมือนกันครับ
เดินผ่านบ้านหอมหมื่นลี้จะเป็นบ้านพักมีไม่กี่ห้อง อยู่ตรงข้ามกับสวีทแม่สลอง จะเป็นร้านชา-กาแฟไว้ให้นักท่องเที่ยวนั่งชมวิวดื่มกาแฟ วันที่ผมไปร้านปิดครับ เจ้าของไปซื้อของในตัวเมืองเชียงราย (ปรกติจะเปิดทุกวัน)
สวีทแม่สลอง วันนี้ปิด เห้อๆ
เดินไปอีกหน่อยจะเป็นร้านขายอาหารและผลิตภัณฑ์ของไร่ชาวังพุดตานครับ มีบางส่วนกำลังสร้างเพิ่มเติม
ส่วนไร่ชาวังพุดตานจากตรงนี้จะไปประมาณอีก 1 ก.ม.
เดินไปอีกหน่อยก็ถึงแม่สลองวิลล่า ผมเดินไปถึงแม่สลองวิลล่าก็เดินกลับแล้วครับ ระยะทางจากที่พักมาถึงแม่สลองวิลล่าประมาณ 1 ก.ม.
เยื้องๆตรงข้างแม่สลองวิลล่าจะมีที่กางเต้นท์ สวนชาเย่าชิง เป็นของเอกชน ใครสนใจติดต่อ 089-2666512
ส่วนมื้อเย็นผมสั่งเพิ่ม เห็ดหอมซีอิ๊ว จานนี้อร่อยดีครับ เคี้ยวกรุ๊บๆยิ่งจิ้มกับน้ำจิ้มเด็ดขาด
ส่วนอีกจานทางร้านนำเสนอ ปลากระป๋องยำยอดใบชา แปลกๆดี เจ้าของร้านบอกว่าแขกที่มาพักประจำจะสั่งตลอด วันนี้โชคดีเค้าหายอดใบชามาได้ก็เลยเอามานำเสนอ ใครสนใจลองไปชิมได้ ส่วนผมเฉยๆอ่ะ ยังไม่โดน
หลังจากอิ่มแล้วก็เข้าที่พักนอนพักผ่อน วันนี้ผมขอลาด้วยบ้านพักที่หน้าห้องผมแล้วกัน มีแขกเริ่มทยอยเข้าที่พักแล้ว ที่เห็นไม่ใช่รถผมนะครับ
สำหรับ ลิตเติ้ลโฮม เกสต์เฮ้าท์ ผมเพิ่งเคยไปพักเป็นครั้งแรก อยากบอกว่าประทับใจเจ้าของทั้งครอบครัวมาก ทำให้รู้ว่าการบริการด้วยใจกับบริการแบบธุรกิจมันต่างกันอย่างไร ใครเคยไปพักมาแล้วจะรู้ว่าลิตเติ้ลโฮมบริการสุดยอดจริงๆ ถ้ามีโอกาสไปอีก ลิตเติ้ลโฮม จะเป็นที่แรกที่นึกถึงและกล้าแนะนำให้เพื่อนๆได้เต็มปากเลยครับ สนใจติดต่อลิตเติ้ลโฮม เกสท์เฮาส์ ตั้งอยู่ เลขที่ 31 หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โทร (053) 765-389 เวปลิตเติ้ลโฮม เกสต์เฮ้าส์ คลิ๊กเลยพรุ่งนี้ไปเที่ยวแม่สาย ข้ามท่าขี้เหล็ก ต่อด้วยสามเหลี่ยมทองคำ นอนเชียงแสนหนึ่งคืน //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&month=14-01-2013&group=15&gblog=28 วันนี้เดินทางจากดอยช้างมาถึงแม่สลองรวมแวะที่เที่ยวหมดทั้งวัน รวมระยะทาง 123 ก.ม. ค่าเสียหายวันนี้ดอยช้าง - อาหารมื้อเช้า 50 บาท - ทำบุญที่ดอยช้าง 20 บาท - ผลิตภัณฑ์กาแฟคั่วบด+แมคคาเดเมีย 645 บาท ดอยแม่สลอง - อาหารมื้อกลางวัน 450 บาท - บ๊วย+มะเขือเทศเชื่อมร้านชาวังพุดตาน 115 บาท - อาหารมื้อเย็น 170 บาท - ชาร้านลิตเติ้ลโฮม 930 บาท (ชาอูหลงก้านอ่อน (เบอร์ 17)+ดอกหอมหมื่นลี้ 3 ถุงเล็กและ 1ถุงใหญ่+แก้วชา 3 ชิ้น) - ที่พักลิตเติ้ลโฮม 1 คืน 800 บาท รวมทั้งหมด 3,180 บาท
Create Date : 06 มกราคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 22 มกราคม 2560 22:11:23 น. |
Counter : 20054 Pageviews. |
|
|
|