4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
แองเจโล บัวโน และเคนเนท เบียงซี : คู่หูพิฆาต

ตำรวจสืบสวนสอบสวนสองนาย กำลังจ้องดูร่างที่ปราศจากวิญญาณของหญิงสาวสองคน พวกเขารู้สึกสลดใจ สยดสยอง กับภาพที่เห็นอยู่ข้างหน้า รูปลักษณะภายนอกของศพทั้งสองแตกต่างกันอย่างชั้นเชิง คนหนึ่งเป็นเพียงเด็กสาว ส่วนอีกคนเป็นหญิงสาวที่โตเต็มพิกัด ตำรวจต้องหนาวถึงขั้วหัวใจเมื่อเห็นร่องรอยทารุณกรรมที่ข้อมือ เข่า และต้นคอ แม้ร่างของผู้หญิงทั้งสองจะพบกันคนละวัน คนละสถานที่ แต่ตำรวจรู้ด้วยสัญชาตญาณว่าทั้งคู่ตายด้วยฝีมือของฆาตกรคนเดียวกันหรือชุดเดียวกัน เชื่อแน่ว่าฆาตกรต้องมีสองคน โดยดูจากการเคลื่อนย้ายศพด้วยวิธียกแทนการลาก


นี่ไม่ใช่ศพแรก ฆาตกรลงมือซ้ำ ๆ แบบฆาตกรต่อเนื่อง คนแบบนี้ไม่ใช่คนปกติแน่นอน เพราะในช่วงเดือนตุลาคม 1977 ถึงกุมภาพันธ์ 1978 มีผู้หญิงถูกฆ่าอย่างน้อยถึง 10 คนจากฝีมือของฆาตกรคู่นี้ และที่สำคัญฆาตกรทั้งสองคนนั้นมีศักดิ์เป็นญาติกัน......

✾ แองเจโล บัวโน ✾
แองเจโล บัวโน เขาเป็นชายวัย 44 ปี เขาเป็นชายที่หาความหล่อเหลาไม่ได้ ดูคล้ายกับอีแร้งป่วย หัวโตผิดส่วน พ่อแม่จึงมักเรียกเขาว่า "อีแร้ง" แองเจโลมีบ้านหลังเล็ก ๆ หลังหนึ่ง เขารักษามันได้อย่างดีเยี่ยมบนถนนสายซึ่งธุรกิจกำลังบูม และกำลังถูกบุกรุกด้วยร้านค้าและภัตตาคารที่ทันสมัย ทำให้เหลือบ้านเก่า ๆ เพียงไม่กี่หลัง บริเวณจากบ้านถึงโรงรถถูกล้อมไว้ด้วยแผ่นอะลูมิเนียม เพื่อป้องกันสายตาที่อยากรู้อยากเห็นจากภายนอก ด้านหลังถูกใช้เป็นร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์และรับจ้างแต่งรถ ว่ากันว่าเขามีฝีมือดีทีเดียว ส่วนหลังบ้านเลี้ยงกระต่าย สุนัข และตู้ปลาขนาดเล็ก ทุกอย่างก็ดูปกติ แต่ถ้าพูดถึงความผิดปกติ ก็คงอยู่ที่ตัวเจ้าของบ้านเองกระมัง! แองเจโลเป็นคนเกลียดผู้หญิงเข้ากระดูกดำ ไม่เคยไว้ใจหรือชื่นชมเพศหญิง ในความคิดของแองเจโล ผู้หญิงเป็นแค่เครื่องบำบัดทางเพศ ระบายอารมณ์ในรูปแบบและเวลาที่เขาต้องการเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงที่เขาระบายอารมณ์ทางเพศนั้น จึงมีทั้งลูกสาวตนเอง แฟนของลูกชาย (บางครั้งเขาก็ทำกับลูกชายด้วย) ฯลฯ ไม่มีใครรู้ว่าทำไมสมองเขาถึงเกลียดผู้หญิง แต่เท่าที่สืบทราบประวัติมาพบว่า เขามีปัญหาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่หย่ากันเมื่ออายุ 14 ปี แม่ทำหน้าที่เลี้ยงดูต่อ เพื่อนบ้านมักนินทาว่าแม่เขาเป็นโสเภณี ถึงขนาดจ่ายค่าซ่อมบ้านด้วยนาผืนน้อยแก่ช่างที่ซ่อมบ้าน บางครั้งเธอก็พาแองเจโลไปกินข้าวกับผู้ชายคนใหม่ของเธอ และปล่อยให้เขารอในรถขณะที่เธออยู่ในบ้านกับคนแปลกหน้า มีคนเคยได้ยินเขาเรียกแม่ตัวเองด้วยศัพท์ทางเพศที่หยาบคายอย่างที่สุดมาแล้ว แองเจโลมีภรรยาสามคน ลูกชายเจ็ด ลูกสาวสาม เขาแยกทางกับภรรยาคนแรกตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง แล้วแต่งงานครั้งที่สอง มีลูกห้าคน หลังอยู่มานานเจ็ดปี ภรรยาเขาขอแยกทางเนื่องจากทนระบบการเลี้ยงด้วยลำแข้งไม่ไหว แองเจโลแต่งงานครั้งที่สามกับหญิงม่ายลูกสอง มีลูกกับเธออีกสองคน ไม่นานนักเธอก็หอบลูกหนีเพราะรู้ว่าเขาไปมีอะไรกับลูกสาวในปี 1975

ในระหว่างนั้นอง ประวัติอาชญากรรมของแองเจโลได้ถูกรวบรวมหนาเป็นปึกอยู่ในแฟ้มตำรวจ รวมกับประวัติจำคุก แต่ทั้งหมดเป็นแค่คดีเล็ก ๆ น้อย อย่างมากแค่ไปขโมยรถ โทษสูงสุดที่เขาเคยได้รับคือภาคทัณฑ์โดยให้ไปติดคุกเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ตลอด 3 ปี ในปี 1975 แองเจโลเปิดร้านขายอุปกรณ์บนถนนโคโลราโด มีลูกค้าที่เป็นเด็กผู้หญิงมากมายมาใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย ไม่ใช่พวกเธอมาเพราะสนใจฝีมือของอีแร้ง แต่เธอหลงใหลในความโหด ไร้มารยาท ความโหดเหี้ยม และการบริการทางเพศที่สุดแสนไม่เหมือนใคร ด้วยเหตุนี้ร้านเขาจึงได้รับความรุ่งเรืองถึงสูงสุด แองเจโลไม่เคยมีหิริโอตัปปะ เขาพร้อมจะเป็นฆาตกรทุกเมื่อด้วยตนเองอยู่แล้ว แต่ซาตานก็ยังอุตสาห์ส่งตัวกระตุ้นไปให้


✾ เคนเนท เบียงซี 

เคนเนท เบียงซี หรือเคนนี่ หนุ่มหล่อวัย 26 ปี เขาเพิ่งย้ายมานิวยอร์ก เป็นชายประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อจริง ๆ เป็นคนหลงตัวเอง ภูมิใจในความฉลาดเทียม ๆ และฝันเฟื่องถึงชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ผู้หญิงและเงินเป็นฟ่อน แต่ในขณะที่ฝัน เขาไม่เคยกลับมาดูตัวเองตามความเป็นจริงเลยว่าจริง ๆ แล้ว เขาเป็นคนที่แสนจะขี้เกียจ เคนนี่ไม่เคยวิ่งเข้าหาโอกาสที่มาหาตัวสักนิด คิดว่าตัวเองเป็นผู้มีพระคุณของประชาชน อยากเป็นจิตแพทย์ แต่แทนที่จะเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัย กลับใช้วิธีถ่ายเอกสารปริญญาคนอื่นและใส่ชื่อของตนเองลงไป นอกจากนี้เคนนี่เป็นนักโกหกตัวยงเป็นพรสวรรค์ที่ซาตานมอบให้ตั้งแต่เด็ก เขาสามารถสร้างเรื่องในอากาศ แล้วนำมาเล่าเป็นตุเป็นตะด้วยใบหน้าจริงจังจนคนหลงเชื่อ เคนนี่ไม่ใช่หลานแท้ ๆ ของแองเจโล เขาเป็นลูกโสเภณีที่ถูกทอดทิ้ง ป้าของแองเจโล รับเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่เป็นทารก ชนิดเลี้ยงดูจนโตชนิดยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ดังนั้นเคนนี่จึงนับเป็นญาติกับแองเจโลด้วยเหตุนี้แล

มีกฎของครอบครัวของแองโจโลว่า "เคนนี่ไม่เคยทำผิด" แม่บุญธรรมไม่เคยเห็นความผิดของลูกเลี้ยงแม้แต่ครั้งเดียว เขาขี้โกหกเพราะคนอื่นสอน แม้ถูกไล่ออกก็แก้ตัวว่าเพราะคนทั้งโรงเรียนไม่ดี เคนนี่เป็นเด็กมีปัญหาตั้งแต่เกิดจริง ๆ อารมณ์ร้าย ขี้โกหก จนแม่เลี้ยงถูกแนะนำให้พาเคนนี่ไปหาจิตแพทย์ แต่เธอปฏิเสธด้วยความโกรธ ต่อมาภายหลังเธอถูกแนะนำไปหาจิตแพทย์เช่นกัน แต่มันก็สายไปแล้วสำหรับเคนนี่ เมื่อโตเป็นหนุ่ม เคนนี่จึงไม่สามารถแยกความจริงและความเท็จออกจากกัน แม้มีอายุ 26 แล้วแต่สมองเท่ากับเด็กตัวเล็ก ๆ อายุ 6 ขวบ ความเป็นหนุ่มหล่อนี้ทำให้เขาได้แต่งงานเมื่ออายุเพียง 18 ปี แต่ก็หย่าเกือบทันที เพราะเขาต้องการผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคนในเวลาเดียวกัน แต่ขี้เกียจสันหลังยาว นิสัยอีกอย่างหนึ่งของเคนนี่คือการไม่รู้จักยอมรับผิด ถนัดแต่รับชอบ หากล้มเหลว เขาพร้อมโยนความผิดให้ทุกอย่างรอบกาย และเมื่อชีวิตในนิวยอร์กไม่เป็นดั่งฝัน เขาโทษว่านิวยอร์กเป็นเมืองชั่ว ไม่เหมาะกับคนดีอย่างเขา เคนนี่จึงอพยพไปอยู่กับแองเจโลที่ลอสแองเจลิสในปี 1976 นอกจากความสนใจในวิชาจิตวิทยา เคนนี่ยังฝันเป็นตำรวจ เขาคลั่งไคล้เครื่องแบบ แต่คนที่ขี้เกียจสันหลังยาวและ,uความผิดปกติทางจิตคงไม่มีวันสอบผ่านการทดสอบของกรมตำรวจได้แน่ เขาจึงหาอาชีพที่ใกล้เคียงกับบุคคลในเครื่องแบบมากที่สุดนั้นคือเป็นยาม เคนนี่สมัครเป็น รปภ. เฝ้าห้างสรรพสินค้า แต่เป็นรปภ. ชั้นเลว ชอบหยิบฉวยสินค้าที่เผลอ ในปี 1972 แม่บุญธรรมซื้อรถคาดิลแลคให้ขับทั้งๆ ที่เขายังไม่มีปัญญาหาเงินเลี้ยงชีพ เคนนี่จึงกลายเป็นหนุ่มเจ้าสำราญจอมปลอมสมใจอยาก และเมื่อสองจอมวายร้ายมาพบกัน การฆาตกรรมต่อเนื่องก็บังเกิด


✾ โยลันดา วอชิงตัน 

การทำการฆาตกรรมครั้งแรกนั้น เกิดแบบมิได้ตั้งใจ ในขณะที่เขาทั้งสองคิดว่าจะทำธุรกิจแมงดา เนื่องจากเป็นอาชีพที่ไม่ต้องลงแรงแต่รายได้ดี อันดับแรกของการเป็นแมงดาคือ หาโสเภณีเข้าสังกัดและหารายชื่อลูกค้า การหาผู้หญิงในสังกัดทำได้ไม่ยาก แต่การหารายชื่อลูกค้าเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นข้อมูลที่ต้องปกปิดในหมู่ที่ทำธุรกิจประเภทนี้ เคนนี่ทราบมาว่าโสเภณีที่ชื่อโยลันดา วอชิงตัน ที่ทำตัวเป็นนายหน้าค้าประเวณี จัดหานางบำเรอกามทางโทรศัพท์ เขาจึงโทรติดต่อให้เธอมาบริการที่บ้านเพื่อหวังจะเค้นรายชื่อลูกค้า เมื่อเธอมาถึงบ้าน โยลันดารู้สึกผิดปกติเมื่อเห็นชายสองคนมากันพร้อมหน้าและซักถามวนเวียนเรื่องข้อมูลลูกค้า เธอพยายามหนีแต่ถูกจับใส่กุญแจมือ เธอแหกปากร้อง ทั้งสองจึงบีบคอ ข่มขื่น และฆ่าในที่สุด เคนนี่ถอดแหวนพลอยของเธอมาใส่เล่น ถอดเสื้อฝังดิน และนำศพเปลือยฝังในป่า บริเวณไหล่เขา การฆ่าคนครั้งแรกเป็นไปอย่างง่ายดาย และนั้นทำให้ฆาตกรย่ามใจที่จะกระทำการอุกอาจครั้งต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ความสำนึกผิดไม่เคยปรากฏในสมองของชายสมองคน แต่ตรงข้าม ทั้งคู่กลับปรึกษากันเพื่อล่าเหยื่อต่อไป และในเวลาสองอาทิตย์ถัดมามันก็ทำการล่าเหยื่ออีกครั้ง


✾ จูดิธ มิลเลอร์

จูดิธ มิลเลอร์ เด็กสาวผอมแห้งวัยสิบห้า ริขายตัวตั้งแต่อายุสิบสี่ปี ตอนที่เกิดเหตุเธอขายตัวในฮอลลีวูด แองเจโลเป็นคนขับรถ ปล่อยให้หนุ่มหล่อเคนนี่ลงไปต่อรองราคา เมื่อล่อจูดี้มาขึ้นรถก็แสดงตราตำรวจปลอม และจับเธอใส่กุญแจมือ อ้างว่าจะนำตัวไปสอบสวน ทั้งสองขับรถกลับบ้าน พาเธอเข้าไปในโรงรถ มัดด้วยเชือก ใช้เทปปิดปาก และใช้แผ่นหนังเทียมที่เหลือจากงานแต่งรถยนต์ปิดตาเธอไว้ จากนั้นก็ผลัดกันข่มขืน โดยบอกว่าถ้าเธอให้ความร่วมมือจะได้ไม่เจ็บตัว หลังจากที่ทั้งสองระบายความใคร่ถึงจุดที่เบื่อหน่าย แองเจโลก็แสดงถึงความวิปริตด้วยการับเด็กผู้หญิงนั่ง เอาถุงพลาสติกครอบหัว ใช้เทปพันรอบคอ ทำให้เธอหายใจเฉพาะอากาศในถุง มันนั่งดูถุงพลาสติกยุบและพองไปตามจังหวะการหายใจอย่างสบายอุรา จูดี้ดิ้นทุรนทุรายหาออกซิเจนที่ค่อย ๆ หมดไป เธอล้มตะแคงได้ในที่สุด

เมื่อเหยื่อถูกสังหาร ทั้งสองแกะหลักฐานออกจากศพจนหมด ทำลายเสื้อผ้า และนำศพไปทิ้งในที่โล่งอย่างท้าทายอำนาจรัฐ ตำรวจพบศพจูดี้ มิลเลอร์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 1977 ไม่มีหลักฐานเลยว่าเธอเป็นใคร ยกเว้นเศษโฟมที่ติดหนังตาอยู่หน่อยหนึ่ง พวกเขาเก็บมันได้เป็นอย่างดี เผื่อจะเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้ายในอนาคต สภาพศพทำให้หลายคนหดหู่ เด็กหญิงผอมแห้งร่ายเปลือยเปล่า ที่คอมีรอยซ้ำเพราะถูกรัด เช่นเดียวกับข้อมือข้อเท้าหน้าเป็นสีม่วงคล้ำจากการขาดอากาศ แองเจโลและเคนนี่รู้สึกแปลกใจ การฆาตกรรมเป็นเรื่องง่ายเหมือนกับฆ่าไก่สักตัว ไม่มีแม้แต่ข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ เคนนี่ออกจะผิดหวังเพราะนิสัยเป็นคนชอบอวด เขาอยากให้การกระทำของตัวเองเป็นที่กล่าวถึง อยากให้สังคมรับรู้พลังอำนาจของตัวเอง แองเจโลคิดอีกอย่าง เขาเป็นคนรอบคอบ แต่ก็ไม่พอใจผลงานตนเช่นกัน เหยื่อทั้งสองไม่มีคุณภาพเสียเลย ทั้งสองปรึกษากันว่าเหยื่อคนต่อไปจะต้องไม่ใช่โสเภณีกิ๊กก๊อกโนเนมอีกต่อไป ลอสแองเจลีสน่ะมีสาวสวยมากมายให้เลือก


✾ ลิสซ่า คาสติน

ลิสซ่า คาสติน หญิงเสิร์ฟหน้าตาดีวัย 21 กำลังขับรถเข้าซองในสวนสาธารณะ ทั้งสองขับรถปิดท้าย แสดงตราตำรวจ ใส่กุญแจมือในข้อหาขโมยสินค้าในห้าง หลังจากนั้นก็นำเธอไปสอบสวนที่ "สถานีตำรวจย่อย" ก็คือบ้านของแองเจโลนี้แหละ แต่ครั้นมาถึงบ้านทั้งสองกลับไม่ชอบหน้าลิสซ่า ไม่มีอารมณ์ทางเพศเลย แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเพื่อสนองความบ้าระห่ำเดือด แองเจโลจึงทำบ่วงคล้องคอลิสซ่าแบบคาวบอย กระตุกห่วงให้รัดคอจนแน่น เมื่อเธอหน้าเขียวก็คลายห่วงออก มองดูเธองับอากาศเฮือกสุดท้ายด้วยความมันในอารมณ์ มันทำซ้ำ ๆ เหมือนคนบ้านานนับชั่วโมงจนเธอขาดใจตายในที่สุด ทั้งสองหารือกันว่าครั้งต่อไปจะต้องพิถีพิถันเลือกเหยื่อให้ตรงรสนิยมมากกว่านี้ การพูดโต้ตอบระหว่างคนทั้งสองฟังไม่ผิดอะไรกับคนเดินตลาดเลือกผักปลา


✾ เจน คิง

เจน คิง คือเหยื่อรายต่อไป หญิงสาวตาโต ขาสวย อายุ 28 ปี คนนี้เป็นนักศึกษาวิชาการแสดง ทั้งคู่พบเหยื่อขณะขับรถตระเวณช้าๆ ไปตามถนนสายเปลี่ยว แองเจโลแกล้งขับรถผ่าน ปล่อยเคนนี่ลงในระยะห่าง เคนนี่เดินย้อนมาที่ป้ายรถเมล์ ทำท่าทีรอรถเช่นกัน การสนทนามีขึ้นอย่างง่าย ๆ เคนนี่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจลอสแองเจลิส สักครู่เดียวก่อนที่รถเมล์จะมา แองเจโลก็ขับรถย้อนกลับ โบกมือทักทายเคนนี่ ทำท่าทีว่าเป็นตำรวจ และรับอาสาพาทั้งสองไปส่งในเมือง หญิงสาวหลงกล! ฆาตกรคู่นี้มีความสุขบนเรืองร่างของเจนเป็นอย่างยิ่ง เธอเป็นเหยื่อที่สวยที่สุดที่ผ่าน ๆ มา แต่จุดจบของเธอไม่แตกต่างกับคนอื่นมากนัก มัด รัดคอแล้วคลายลงอย่างช้า ๆ ดูเธออ้าปากฮุบอากาศนับชั่วโมงก่อนตายอย่างทรมาน


✾ โดโรเรซ เคพีดา และซอนญา จอห์นสัน

เมื่อทำอะไรซ้ำซากเบื่อหน่าย ฆาตกรคู่จึงเริ่มเปลี่ยนหาวิธีที่สนุกใหม่ ๆ คราวนี้มันหันไปเลือกโดโรเรซ เคพีดา วัยสิบสอง และเพื่อนรักซอนญา จอห์นสัน วัยสิบสี่ ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรถเมล์อยู่ตรงหน้าห้างฯ ฆาตกรคู่แสดงเป็นตำรวจ แจ้งข้อหาขโมยของ และนำกลับไปข่มขี่นและฆ่าที่บ้าน เป็นคู่


✾ คริสตินา เวคเลอร์

เหยื่อคนต่อไปคือ คริสตินา เวคเลอร์ อาศัยในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งซึ่งเคนนี่ก็เคยพักอยู่ที่นั้นและหมายตาผู้หญิงมานานแล้ว แต่จีบไม่สำเร็จ เพราะเธอเย้ยหยันเขาว่าเป็นพวกดีแต่ปาก งานการไม่ทำ การเลือกคริสตินาจึงผสมด้วยแรงแค้น แผนการล่อเหยื่อครั้งนี้ค่อนข้างแยบยล เคนนี่เคาะประตูห้องคริสตินาบอกว่าขณะนี้เขาทำงานเป็นตำรวจ แสดงตราตำรวจให้ดู และแจ้งว่ารถเธอที่จอดด้านล่างถูกชนท้าย เธอตามไปดูเพื่อความแน่ใจ เมื่อเผลอ ทั้งสองจับเธอใส่กุญแจมือ ปิดตาและปากด้วยเทป พากลับบ้าน ข่มขื่นเช่นเหยื่อรายอื่นแต่การฆ่าแตกต่างไป คริสตินากลายเป็นหนูทดลองความอำมหิต แองเจโลจอมเหี้ยมเบื่อหน่ายกับการรัดคอ มันจึงทดลองฉีดน้ำยาเช็ดกระจกวินเด็กซ์เข้าเส้นเลือดของเหยื่อ เธอชักจนหลังแอ่น น้ำลายฟูมปากแต่ไม่ได้ มันสนุกจนต้องฉีดซ้ำ และเมื่อเห็นเหยื่อทนได้ จึงหาวิธีฆ่าแบบใหม่โดยคลุมหัวเหยื่อด้วยถุงพลาสติก ดึงท่อแก๊สมายัดในถุง เคนนี่เปิดแก๊สแล้วปิดที่ละนิดสนุกกับภาพเหยื่อดิ้นรนขอชีวิต ไม่น่าเชื่อว่าจนบัดนี้ตำรวจยังไม่สามารถสืบหาตัวฆาตกรได้เลย และไม่กล้าแพร่ข่าวว่ามีฆาตกรโรคจิตให้สาธารณชนรับทราบ แต่นั้นยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวลงเพราะประชาชนไม่ตระหนักถึงภัยใกล้ตัว


✾ ลอเรน วากเนอร์

วัยสิบแปดคือเหยื่อรายต่อไป มันจับเธอขณะกำลังจะเลี้ยวรถเช่าบ้านซึ่งพ่อแม่รอทานอาหารอยู่ด้านใน คราวนี้มันเพิ่มอุปกรณ์ช่วยคือใช้ปืนจี้ แสดงตราตำรวจ จับเธอขึ้นรถ พากลับบ้าน ข่มขืนและฆ่า แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้มีความแตกต่างกันออกไปเล็กน้อย ตรงที่มีพยานแอบเห็นเหตุการณ์จนจับตัว และการฆ่าถูกเปลี่ยนรูปแบบ โดยฆาตกรปอกสายไฟมัดแขนของลอเรน ปิดทับด้วยเทปกาว แล้วเสียบปลั๊ก ลอเรนไม่ตายอย่างที่มันคิด การทรมานจึงเกิดขึ้นแบบเดิม ๆ คือ รัดคอด้วยเชือกให้ตายอย่างทรมาน


✾ คิมเบอร์ลีย์ ไดแอน มาร์ติน 

แองเจโลและเคนนี่เปลี่ยนบรรยากาศการทำการฆาตกรรมใหม่โดยหาอพาร์ตเมนต์ว่าง ห้องที่ 114 โทรไปหาหญิงบริการไปหาถึงที่ และนั้นคือจุดจบของ คิมเบอร์ลีย์ ไดแอน มาร์ติน หญิงสาววัยสิบเจ็ด แต่การฆ่าไม่ราบรื่นอย่างที่คาด เพราะเธอกรีดร้องสุดชีวิตก่อนตายจนคนร่วมอพาร์ตเมนต์ได้ยินกันทั่ว ทั้งสองเห็นท่าไม่ดี จึงทุบเธอก่อนขมขื่นแบบสะใจและฆ่า ศพของเธอพบในเช้าในเดือนธันวาคม บนไหล่เขาสูงบนถนนทางหลวง


✾ ซินดี้ ฮัดสเปท 

หลังเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทั้งคู่หยุดปฏิบัติการณ์นานเกือบสองเดือน ก่อนที่มันจะเริ่มต้นกันใหม่กับซินี้ ฮัดสเปท สาวเสิรฟ์ที่คุ้นหน้ากับแองเจโลดี เธอเอารถดิทสันให้เขาตกแต่ง ขณะที่ยืนรอ แองเจโลเกิดอารมณ์หื่นและเคนนี่อยู่ด้วยพอดี หญิงสาวจึงตกเป็นเครื่องบำบัดความใคร่ก่อนที่จะถูกฆ่า


✾ ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ 

มีสิ่งหนึ่งที่แองเจโลประสาทเสียอยู่เรื่อย คือนิสัยคุยโตของเคนนี่ เขามักเรียกร้องความสนใจจากคนแปลกหน้าด้วยการพูดเลียบ ๆ เคียง ๆ เรื่องความเก่งกล้าสามารถของฆาตกรที่จับไม่ได้เช่น "คุณคงไม่เชื่อว่าฆาตกรอยู่ใกล้คุณแค่เอื้อม" แองเจโลอยากจะยุติเรื่องนี้ และกำจัดเคนนี่ออกไปจากชีวิต โชคเข้าข้างแองเจโล แฟนของเคนนี่ที่ไปมาหาสู่กันเกิดท้องคลอดลูก เธอตัดสินใจกลับไปอยู่เบลลิงแฮมบ้านเกิด เพื่อจะได้อยู่ใกล้พ่อแม่ แองเจโรพูดโน้มน้าวทุกทางให้เคนนี่ตามเมียไป โดยครั้งแรกเคนนี่ปฏิเสธเพราะสนุกกลับการฆ่า แต่เมื่อถูกตัดรอนมากๆ จึงต้องยอมย้ายออกไป เรื่องมันน่าจะจบแค่นี้ ทั้งคู่ไม่มีวันถูกจับถ้าไม่ใช้ความโง่ของเคนนี่ หลังจากย้ายไปเบลลิงแฮม เขาได้ทำงานเป็นรปภ. ในบริษัทวัทคอมซึ่งมีหน้าที่ดูแลอาคารธุรกิจและบ้านพัก เคนนี่เมื่อได้เป็น รปภ. ก็ใช้สันดานเก่านั้นคือการโกหกเอาใจเจ้านายจนได้ดิบได้ดีในเวลารวดเร็ว เขาขึ้นเป็นหัวหน้า รปภ. แต่ก็ไม่เลิกใช้อำนาจหน้าที่ขโมยสินค้ามาเป็นของตนเองอยู่บ่อยครั้ง แค่ขโมยไม่หนำใจ เคนนี่ยังฝังตรึงกับรสชาติในการฆ่าข่มขืน

เขายังต้องการแสดงให้แองเจโลคู่ขาเห็นว่า ตัวเองน่ะก็ฆ่าคนได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร เคนนี่โทรไปติดต่อนักศึกษาสาวที่ปิ๊งกันในห้างฯ บอกให้เธอชวนเพื่อนร่วมห้องมาที่ห้องพักของเขา เคนนี่มีงานง่าย ๆ ให้ทำคือ ช่วยเฝ้ายามบ้านหลังหนึ่งที่กำลังซ่อมแซม เขายินดีจ่ายค่าตอบแทนถึงชั่วโมงล่ะ 100 ดอลลาร์ หญิงสาวทั้งสองตกลงทันทีด้วยความดีใจ เงินดีรายได้งามผิดปกติ ไม่สงสัยสักนิด เคนนี่บอกเธอว่างานที่ต้องทำเริ่มตอนหนึ่งทุ่ม คาเรน แมนดิค และไดแอน ไวล์เดอร์มาพบเคนนี่ที่ห้องตอนหนึ่งทุ่มคามนัดหมาย และเมื่อถึงเวลาสามทุ่ม ทั้งสองก็กลายเป็นศพ แต่งานนี้ไม่หมูอย่างที่คิด เคนนี่หัวปั่น เขาใช้พลังงานจัดการกับผู้หญิงทั้งสองจนหมดแรงที่จะข่มขืน เขาต้องลากทีละร่างขึ้นรถนำไปทิ้ง

ตำรวจสืบหาตัวเคนนี่ด้วยเวลาอันรวดเร็วหลังพบศพ เพราะคาเรนบอกคนไปทั่วว่าเธอได้งานพิเศษเงินตอบแทนงาม เธอทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของเคนนี่ไว้ในห้องนอนด้วย หลักฐานมัดตัวเคนนี่จนดิ้นไม่หลุด ครั้งแรกเขาสร้างเรื่องโกหกเพื่อพ้นผิด ว่าอยู่ที่โน่นที่นี้ แต่ครั้นคิดได้ว่าหากตำรวจสืบพยานก็ไม่มีใครช่วยโกหก วันรุ่งขึ้นเขาจึงรีบกลับคำให้การใหม่ โดยแต่งเรื่องให้สมจริงที่สุด เมื่อเห็นว่าเอาตัวไม่รอดแน่นอนแล้ว เคนนี่ก็ใช้ความรู้ทางจิตวิทยาที่ศึกษามาใช้เป็นประโยชน์ เขาอ้างว่าป่วยทางจิต มีบุคลิกภาพซ้อน มีชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในร่างของตนชื่อว่าสตีฟ สตีฟเป็นคนเลวและเป็นคนฆ่าผู้หญิงทั้งสอง ตัวเขาไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น เคนนี่ถูกส่งไปให้นักจิตวิทยาเพื่อทดสอบ ความขี้โกหกทำให้นักจิตวิทยาที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญหลงกลถึงสองคน และเกือบออกใบรับรองให้ว่าเป็นคนวิกลจริต ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง กฎหมายก็เอาผิดไม่ได้ แต่โชคดีแต่เป็นความโชคร้ายของเคนนี่แผนการต้มจิตแพทย์ไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะนักจิตวิทยาคนที่สามได้ทำการสะกดจิตและวางแผนซ้อนจนเคนนี่ตกหลุม


เมื่อแผนล้มเหลว เคนนี่ก็โยนความผิดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบกาย คือการใช้ไม้ตายสุดท้ายคือการโยนความผิดให้กับคนอื่น และคนนั้นก็คือแองเจโล บัวโน ซึ่งตำรวจเองก็สาวไปถึงตัวอยู่แล้วเพราะพบว่าสถิตจำนวนผู้หญิงที่ถูกฆ่าในบ้านเดิมของเคนนี่ลดจำนวนลงทันทีที่เขาย้ายมาเบลลิงแฮม และแหวนพลอยสวมนิ้วของเคนนี่ก็มีรูปพรรณเหมือนแหวนของโยลันดา วอชิงตัน เหยื่อรายแรก แองเจโล บัวโน หรืออีแร้ง ถูกจับกุมโดยมีเคนนี่เป็นพยานปรับปรัมแต่เพียงผู้เดียวและ พยานรู้เห็นคนอื่น ๆ หลีกไปเลย เพราะไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย หลังจากพิจารณาคดีนานสองปี แองเจโล บัวโนต้องจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีการลดหย่อน และสำหรับเคนนี่ผู้ที่ไม่เคยเห็นผิดของตัวเอง แม้จะปรักปรำแองเจโลทุกเรื่องทุกเหตุการณ์ แต่คณะลูกขุนก็เห็นความกลอกกลิ้ง และประกอบกับหลักฐานจากการฆ่าผู้หญิงสองคนโดยแองเจโลไม่รู้เห็น จึงให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นกัน แต่มีสิทธิลดหย่อนได้ ขณะนี้เคนนี่ได้รับการลดหย่อนสองครั้งแล้ว อีกไม่นานเขาคงออกมาเดินในสังคมพร้อม ๆ กับคนอื่น ๆ ไม่นานเกินรอ !?








Create Date : 15 กรกฎาคม 2558
Last Update : 20 ตุลาคม 2558 13:27:58 น. 0 comments
Counter : 1067 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.