4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
ริชาร์ด เทรนตัน เชส : แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต

เด็กคนนี้ตายแล้ว (เดวิด อายุ 22 เดือน) แม้มันจะหลายนาทีแล้วแต่ร่างของศพยังอุ่น ๆ อยู่ เลือดที่ไหลรินออกจากปากแผลนั้นมันช่างยั่วน้ำลายสำหรับริชาร์ด เชส นัก



ริชในวัยหนุ่ม

ริชาร์ด เชส หรือที่ใคร ๆ มักเรียกเขาว่า “ริช” เขามักวิตกอยู่เสมอว่า สักวันเลือดในตัวของเขาจะหมดลงกลายเป็นผง มันจะทำให้เขาตาย เขาคิดว่าเป็นเพราะแม่ แม่เล่นไม่ซื่อกับเขา แม่ร่วมมือกับนาซีหรือมนุษย์ต่างดาวเตรียมจะทำให้เขาตายอย่างทรมานด้วยการใช้ยาพิษหรือสารอะไรสักอย่างทำให้เลือดของเขาเปลี่ยนสภาพ ซึ่งมันทำให้เขาตายลงอย่างช้า ๆ ไม่เป็นไร เขาหาวิธีแก้เลือดของเขาเปลี่ยนสภาพได้แล้ว..... เลือดของคนที่เขาฆ่าไงละ! เขาจะต้องฆ่าแล้วจัดการดื่มเลือดเหยื่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ใช่! เด็กคนนี้คือหนึ่งในเหยื่อของเขา มันตายง่ายจริงๆ พับผ่า! แค่ยิงปืนที่หัวมันก็ตายแล้ว เลือดพุ่งอย่างกับท่อประปาแตก แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาดื่มเลือดมัน เขาจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายศพเด็กคนนี้ขึ้นรถของเขาเพื่อนำมันกลับบ้านเขาก่อน ระหว่างทางไม่มีด่านตรวจ หรือด่านจับแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่เมืองซาคราเมนโตกำลังอยู่ในช่วงฆาตกรต่อเนื่องอาละวาด รู้สึกชาวบ้านนักข่าวจะตั้งฉายามันว่า “แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต” มันฆ่าคนดะไปทั่ว สภาพศพที่มันทำสุดสยองราวกับว่าไม่ใช้ฝีมือคน ฆาตกรคนที่ว่าเขาเองแหละ!! เมื่อไม่มีด่านตรวจ ริชจึงสามารถเร่งความเร็วรถเพื่อนำศพที่ติดมือกลับบ้านอย่างสะดวกสบายไร้ความกังวล

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ริชนำศพเด็กชายมาวางไว้ที่ห้องพิเศษ เพื่อจัดการ “ถ่ายเลือด” ด้วยวิธีพิเศษพิลึกพิลั่นตามแบบฉบับของเขาคนเดียว เริ่มจากริชจัดการผ่าศพเด็กชายนั้นอย่างแคล่วคล่องว่องไว ก่อนหน้านั้นเขาเคยมีประสบการณ์จำพวกนี้เยอะ เขาผ่าตัดสิ่งมีชีวิตอื่นมากมายก่อนจะมาผ่าศพเด็กคนนี้ จากนั้นก็ควักเอาอวัยวะภายในตัวเด็กอย่างเชี่ยวชาญ เขาเอาปอด ม้าม ไส้ และอื่น ๆ ออกมากองใส่ภาชนะอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นาน อวัยวะภายในที่สำคัญของเด็กคนนั้นถูกนำไปปั่นเป็นน้ำผลไม้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็น “เครื่องดื่มอวัยวะปั่นในน้ำเลือด” ที่ริชแสนโปรดปราน ริช หนุ่มจอมเพี้ยนไม่รอช้า เขายกแก้วใส่อวัยวะปั่นปนเลือดขึ้นจิบด้วยความรู้สึกสดชื่น เขารู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เขาแก้อาการป่วยเขาได้แล้ว! มันช่างรู้สึกดีจริง ๆ ให้ตายสิ!


เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงของฆาตกรนาม ริชาร์ด เชส เจ้าของฉายา แวมไพร์กระหายเลือด ถือได้ว่าเป็นฆาตกรที่น่าขนลุกและน่ากลัวคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ฆาตกรที่มีมาเลยที่เดียว เขาติดอันดับ 1 ใน 10 ฆาตกรที่โลกต้องจดจำ นอกจากวีรกรรมที่เขากระทำและรูปร่างหน้าตาและการอาศัยอยู่ก็น่าสะพรึงกลัวด้วยดังที่นักวิเคราะห์อาชญากรเคยบรรยายรูปร่างของเขาว่า

“เขาเป็นชายผิวขาว อายุ 25-27 ผอม สารรูปเหมือนคนขาดสารอาหาร ที่พักรกรุงรัง ตาลึกโบ๋ ใส่เสื้อสกปรก รอยปากแตกเป็นสะเก็ต มีประวัติเคยป่วยทางจิต เสพยา ไม่สมาคมกับใคร ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน อยู่ตามลำพัง ไม่มีงานทำ....” ทั้งหมดดังกล่าวข้าง
ตนคือคำนิยามของริชาร์ด เชส

ปี 1976 เป็นต้นมาเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขึ้น ทั้งหมดเป็นฝีมือของริช เหยื่อของเขาทั้งหลายเมื่อฆ่าและเขามักจะดูดเลือดไม่ก็เอากลับมาที่บ้านเพื่อทำน้ำอวัยวะปั่น เหยื่อของเขาส่วนมากเขาจะเลือกฆ่าแถวย่านซาคราเมนโตเป็นหลัก จนเขาได้รับสมญานามว่า “แวมไพร์แห่งซาคราเมนโต” 
มันโหดยังไงมาดูกัน.......

กำเนิดอำมหิต
ริช หรือ ริชาร์ด เชส มีชื่อเต็ม ๆ ว่า ริชาร์ด เทรนตัน เชส เป็นคนอเมริกัน ลืมตาบนโลกเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1950 มีพี่สาวอายุแก่กว่าเขา 4 ปี พ่อเป็นคนเคร่งครัดกฎระเบียบ ตั้งแต่เกิดริชนั้นเป็นเด็กไม่ค่อยปกติ เป็นคนที่ชอบเรื่องราวที่แปลก ๆ ผิดจากคนทั่วไป คือเป็นคนที่พิสมัยในเรื่องของไฟและการวางเพลิงจนใคร ๆ ต่างไม่ชอบหน้า กาหัวเขาว่าเป็นเด็กอันตราย ไปไหนใครๆ ก็ต่างร้องยี้ ทำให้ริชมักจะโดนพ่อแม่ลงโทษประจำ นอกจากนี้ริชยังเป็นคนรักสัตว์มากๆ จนคิดว่ามันสามารถมาแทนที่มนุษย์ได้ในหลายๆ อย่าง วันๆ หนังริชมักอยู่ขลุกกับสัตว์เป็นประจำ สัตว์ของริชเป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งคนรัก เวลาริชนอนมันต้องนอนกลับเขาด้วยราวกับมันเป็นเพื่อนรักคนหนึ่ง

พอริชอายุ 10 ปี นิสัยสันดานสัตว์ของริชยิ่งมากขึ้น เขาชื่นชอบในการเล่นแผลงๆ สร้างความเดือดร้อนให้พ่อแม่เป็นประจำ พ่อแม่แก้ปัญหาเรื่องนี้โดยการทำโทษริช การทำโทษริชนั้นไม่เหมือนพ่อแม่ทั่วไปทำโทษลูกด้วยการดุด่า เฆี่ยนตี ในกรณีของริช การลงโทษนั้นมันหนักหนาสำหรับเด็ก 10 ขวบมาก เมื่อริชเด็กน้อยทำผิดอะไรพ่อกับแม่เขาจะลงโทษอย่างหนักด้วยการถูกแตะทั้งต่อย ถูกแส้เฆี่ยนดี พร้อมคำดุด่าอย่างบ้าคลั่งจากปากของพ่อแม่ที่ราวกับเห็นลูกตัวเองเป็นขยะพร้อมทิ้งลงหลุม โดยเฉพาะแม่!! ริชเกลียดและกลัวแม่มาก เพราะแม่ชอบทำโทษริช โดยด้วยความกลัว ความทุกข์ ความทรมานส่งผลให้ริชกลายเป็นเด็กที่วิตกจริตได้ง่าย ฉี่รดที่นอนบ่อย ทุกครั้งที่ผ้าปูที่นอนเปียกฉี่นั้น ริชรู้ตัวดีว่าต้องรับบทลงโทษจากแม่แน่ๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ประจำที่เขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความเจ็บปวดและการถูกทำโทษนั้นทำให้ริชกลายเป็นคนเก็บกด เครียดจัดทั้ง ๆ ที่เป็นเด็ก ผลจากความกดดันการได้รับการลงโทษจากแม่ที่ไม่เห็นคุณค่าของตัวเขา ทำให้ริชกลายเป็นเด็กที่หันไปหาทางออกโดยวิธีอื่นๆ อย่างน้อยก็เพื่อให้ลืม ๆ เรื่องเฮงซวยนี้วะ ระหว่างเขากับแม่ วิธีอะไรก็ได้ขอให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพอะไรก็ได้ และแล้วเด็กน้อยก็มีวิธีลืมเรื่องนี้ได้ เด็กน้อยแก้ปัญหานี้โดยใช้ยาเสพย์ติด เหล้าเครื่องดื่มมึนเมาต่าง ๆ และสารพัดยาเสพย์ติดกลายเป็นเพื่อน และมิตรของริชอย่างรวดเร็ว นี้แหละจินตนาการที่สัมผัสได้มากกว่าครอบครัวเสียอีก ด้วยปัญหาจิตใจของริชที่ถูกรุมเร้ามากมายในขณะที่เขาเป็นวัยรุ่น ส่งผลให้ริชกลายเป็นคนมีปัญญาเรื่องเพศคืออวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ในสถาวะปกติ แพทย์ให้การวิเคราะห์อาการแบบนี้ว่าเกิดเพราะเขาสะสมความโกรธในจิตใจมากเกินไปจนกลายเป็นความกดดัน

โรคจิตขาดเลือด
หลังริชติดยา ทำให้เขาเกิดอาการโรคจิตอย่างหนึ่งคือ โรคอุปทานเกินเหตุ เขาคิดว่าตัวเองเป็นโรคที่มีความบกพร่องอย่างโน้นอย่างนี้มากมายไปหมด สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้ริชกลายเป็นคนมีปัญหาต่อสังคมยิ่งขึ้น ใครๆ ก็ไม่อยากคบสมาคมเพราะเบื่อระอากับความหวาดระแวงเกินเหตุของริช บ่อยครั้งที่ริชมักบ่นให้คืนอื่นว่า “หัวใจเขาจะหยุดเต้น” นอกจากเรื่องหัวใจหยุดเต้นแล้ว ริชมักพูดเรื่องการที่ถูกคนอื่นขโมยเส้นเลือดที่เชื่อมปอดของเขาด้วย แม้เรื่องแต่ละเรื่องที่ริชพูดออกจะเวอร์ๆ พิสดาร แต่สำหรับริชแล้วสิ่งที่เขาพูดเขาเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ดังนั้นเขาต้องหาวิธีที่จะหยุดมัน นอกจากนี้เวลาที่คนอื่นพบเห็นริซ ริชมักปรากฏตัวในภาพหนุ่มบ้า ๆ บอ ๆ บนศีรษะมีผลส้มวางอยู่อย่างน่าขัน เขาให้เหตุผลแบบบ้า ๆ บอ ๆ เกี่ยวกับแบบนี้ว่า สมองของเขาขาดวิตามินซี เลยคิดว่าการวางส้มบนหัวอาจช่วยไว้ได้ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้สารในส้มผ่านเข้าไปสู่สมองได้ดีกว่าวิธีอื่น ๆ บ้าหลุดโลกจริง ๆ

ออกจากบ้าน
ริชคิดอยู่เสมอ ตลอดเวลาเลยแหละว่าแม่ของเขาเกลียดเขา เลยหาทางกำจัดเขาโดยการวางยาพิษให้เขาตายจากโลกใบนี้ และเพื่อให้พ้นอันตรายจากแม่ มีวิธีเดียวคือ เขาต้องหนีออกจากบ้าน น่าแปลกแม้ไม่มีคนชอบขี้หน้าเขา แต่ริชก็มีเพื่อนอยู่บ้าง ส่วนใหญ่เพื่อนเหล่านั้นเป็นพวกแก๊งเสเพสด้วยกันและมีปัญหาต่างๆ เขาจึงหนีออกจากบ้าน อาศัยอพาร์ตเม้นต์กับเพื่อนๆ แบบรวมกลุ่มกัน แต่กระนั้นแม้อยู่ร่วมกัน ริชก็ยังแสดงอาการบ้าๆ บอๆ ให้เพื่อนเห็นอยู่เสมอ เริ่มจากริชหาไม้กระดานมาปิดตตายประตูห้องนอนของเขาเองทันที เขาให้เหตุผลที่ทำแบบนี้ว่า “กลัวคนอื่นแอบไปฆ่าเขา”

จากนั้นต่อมา ริชก็เจาะกำแพงตู้เสื้อผ้าเพื่อทำเป็นช่องทางหลบหนีเพื่อตัวเขาเองเสร็จสรรพ เผื่อว่าถ้ามีเหตุการณ์อะไรไม่ชอบมาพากล เขาก็สามารถอาศัยเส้นทางนั้นหนีออกมาข้างนอกได้ ด้วยพฤติกรรมบ้า ๆ บอ ๆ เข้าข่ายโรคจิต ทำให้บรรดาเพื่อนของริชเริ่มหมดความอดทน ต่างพากันยื่นคำขาดให้ริชออกไปจากห้องพักนี้โดยด่วน มาอยู่ฟรี กินฟรี แล้วสร้างปัญหาอีก เป็นใครก็ไม่ชอบแต่ริชยืนกราน เขาไม่ยอมย้ายออกจากห้องเด็ดขาด!

เมื่อไล่ริซออกไปไม่ได้ บรรดาเพื่อน ๆ ก็แก้ปัญหาโดยเก็บของออกไปจากห้องทิ้งริชไว้คนเดียว และนั้นทำให้ริชอยู่สบายแบบสุขอุรา บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ แถมทำอะไรก็ได้ แบบห่าม ๆ และพิสดารสุดขั้วโดยไม่ต้องเกรงใจสายตาของใครอีกต่อไปแล้ว........

อุ่นเครื่อง 
การอยู่อพาร์ตเมนต์นั้นเหมือนเป็นเวลาโปรดของริชที่เขาสามารถทำใจตามใจปรารถนา ริชเริ่มต้นฆ่าสัตว์ต่าง ๆ มากมายหลายชนิด โดยนำสัตว์เล็ก ๆ ไปจนสัตว์โต ๆ จำพวก หนู หมา ไก่ เข้ามาฆ่าในอพาร์ตเม้นต์ของเขา การฆ่าส่วนใหญ่ริชจะทำการชำแหละอวัยวะต่าง ๆ ทำเหมือนผ่าตัดควักอวัยวะออกมา จากนั้นก็นำมากินเลือด (โดยทำเป็นเครื่องดื่มสูตรพิเศษเอาเลือดกับอวัยวะมาปั่นรวม) ซึ่งเขาเชื่อว่าวิธีนี้จะสามารถแก้อาการขาดเลือด และไม่ให้หัวใจของเขาลดขนาดลงได้ไม่มีรายงานแน่ชัดว่าริชฆ่าสัตว์ไปมากเพียงใด แต่ด้วยพฤติกรรมการเสพเลือดและอวัยวะสัตว์ต่าง ๆ ของริช ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา เนื่องด้วยเลือดสดๆ ของสัตว์นั้นมีทั้งพยาธิและพิษนานาชนิด ซึ่งภายหลังเมื่อพิษเหล่านั้นสะสมจนทำให้ร่างกายของเขาป่วยจนต้องถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลในเวลาต่อมา

ปี ค.ศ. 1975 ริชเกิดอาการเลือดเป็นพิษเนื่องจากฉีดเลือดกระต่ายเข้าไปในเส้นเลือด เขาหมดสติและถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลไม่กี่วัน ริชก็แข็งแรงพอที่จะเผ่นหนีมุ่งหน้าไปบ้านแม่เขาทันที แต่ไม่นานก็ถูกลากกลับที่สถานบันวิเคราะห์ทางจิตเนื่องจากเป็นไปได้ว่าริชมีอาการผิดปกติทางจิต อาจทำอันตรายต่อคนอื่นได้ ต้องรักษาเยียวยาทันที

การรักษาริชนั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีการติดตามผลเป็นระยะ แม้ในระหว่างการรักษาริชก็มักจะทำพฤติกรรมน่าขนลุกให้แก่เจ้าหน้าที่สถาบันให้เห็นบ่อยๆ มีอยู่ครั้งหนึ่งริชหายตัวไป ก่อนที่จะกลับมาที่พักพร้อมเลือดเต็มปาก เขาบอกว่าเป็นเลือดนก 2 ตัว เขาฆ่าเพราะอยา
กจะกินเลือดมัน... เจ้าหน้าที่จึงได้ตั้งฉายาริชในเวลาต่อมาว่า “แดร็กคูล่า”

อย่างไรก็ตาม ปี ค.ศ. 1976 ริชได้รับการปล่อยตัวจากสถาบันแต่มีเงื่อนไขต้องให้รับการดูแลจากผู้ปกครอง หน้าที่นี้จึงตกมาที่แม่ที่ต้องทำการดูแลลูกชายวัย 26 ปี โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง แน่นอนก็แม่ริชเกลียดเขานี้น่า จะให้เลี้ยงดูดีๆ ได้ไง ยาก็ให้ขาด ๆ เกิน ๆ ริชเลยกลับมาบ้าอีกครั้ง จากการถูกละเลย เขายังคงอาศัยอยู่คนเดียวที่อพาร์ตเมนต์ โดยแม่เป็นคนจ่ายค่าเช่าและเอาของกินของใช้ไปให้ด้วย

กลางปี ค.ศ.1977 ริชขับรถกระบะเข้าไปในเขตป่าสงวนทะเลสาบทาโฮ ซึ่งต้องขับผ่านด่าน เจ้าหน้าที่ชาวอินเดียแดงเข้ามาตรวจรถกะบะของริช พบว่าเสื้อที่เขาสวมใส่นั้นชุ่มไปด้วยเลือด และพบปืนในกระบะรถรวมทั้งถังขนาดใหญ่ใส่เสื้อไว้เต็ม แต่เจ้าหน้าที่คิดว่าเป็นเลือดของสัตว์มากกว่าเลือดคนจริงปล่อยริชไปโดยไม่ตั้งข้อหาใด ๆ ไม่รู้ว่าริชมีปืนได้อย่างไร แต่เมื่อคนบ้ามีปืน คดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่สยดสยองฝีมือของแวมไพร์แห่งซาคราเมนโตก็เริ่มต้นขึ้น

รายแรก
29 ธันวาคม ค.ศ. 1979 อีกไม่กี่วันจะถึงปีใหม่ แอมโบรส กรีฟฟิน วิศวกรวัย 51 ปี คุณพ่อลูกสองกำลังเดินอยู่ดี ๆ ริชก็โผล่พรวดมาใช้ปืนยิงแบบไม่นับ กระสุนเจาะร่างแอมโบรสถึงแก่ความตายคาที่ ส่วนมือปืนริสหลังยิงเสร็จก็หนีไปไกล ริชสารภาพกับตำรวจภายหลังว่า วันที่เขาฆ่าคนรายแรกนั้น เขาขับรถไปเรื่อยๆ และเหนี่ยวไกยิงเหยื่อโดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้า แบบว่าอยากเจอใครก็จะยิง พอดีแอมโบรสอยู่ในวิถีกระสุนเขา คดีนี้คราวแรกตำรวจไม่สนใจริชมากนัก เพราะการตายของแอมโบรสถูกมองว่าเป็นการลอบยิงของเพื่อนบ้านในย่านซาคราเมนโตตะวันออกมากกว่า แต่จากการสืบพบว่าตำรวจจับผิดตัว



รายสองฆ่าแล้วข่มขืน
เทเรซ่า วิลลิน สาวสวยที่เพิ่งต้องท้อง 3 เดือน กลายเป็นเหยื่อโหดรายที่สองแบบไม่วางแผนของริช ไม่กี่วันหลังฆ่าแอมโบรส วันที่ 23 มกราคม 1978 ริชมาปรากฏกายที่บ้านของเทเรซ่า บุกเข้าไป จากนั้นก็ยิงเทเรซ่าด้วยปืนในระยะเผาขน 3 นัดซ้อน เธอตายคาที่ และในขณะนั้นเขาพบว่าเขาเกิดอาการตื่นตัวทางเพศอย่างรุนแรง อารมณ์หื่นในช่วงนั้นผลักดันให้ริชหันไปบรรเลงเพลงกามกับศพ เขาพอใจในการฆ่าศพนี้มาก และด้วยความพอใจของเขาได้สะท้อนมาในรูปการตัดชิ้นส่วนศพอย่างมีความสุข

ศพของเทเรซ่าถูกพบโดยสามีของเธอ เขาพบศพภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์เสียชีวิตในห้องนอน ศพถูกชำแหละ เนื้อเยื่อหายไปหลายชิ้น ข้างศพเป็นกล่องโยเกิร์ตเปล่ามีคราบเลือดอยู่ภายใน บ่งชี้ว่าฆาตกรน่าจะใช้มันแทนแก้วดิ่มเลือดผู้ตาย ด้วยเหตูจูงใจของฆาตกรรายนี้ไม่แน่ชัด คดีนี้เอฟบีไอจึงเริ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง

กินเลือดสุนัขสด ๆ คั่นจังหวะ
หลังจากที่ฆ่า และข่มขืนศพเทเรซ่า วิลลิน วันที่ 21 มกราคม 1978 อีกสองวันให้หลังริชอดใจไม่ไหวอยากฆ่าคนอีก แต่มันยังไม่สบโอกาสเหมาะ ๆ ในการสังหารมนุษย์ ริชเลยแก้ปัญหานี้โดย ไปซื้อลูกหมามา 2 ตัวจากเพื่อนบ้าน จากนั้นก็ฆ่าหมาพวกนั้นก่อนที่จะดื่มเลือดหมาด้วยความสุขยิ่ง



สังหารหมู่
คดีนี้ถือได้ว่าเป็นคดีฆาตกรรมที่สร้างชื่อเสียงของริชอย่างยิ่ง จนโลกต้องตะลึง เดือนมกราคม 1978 ถือได้ว่าริชกระหายอยากฆ่าคนอย่างยิ่ง หลังจากอัดอั้นมานาน ริชก็ได้เปิดฉากฆ่าสังหารอย่างมโหฬารและโหดเหี้ยมที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แน่นอนการฆ่าครั้งนี้ ริช สุ่มฆ่าเหยื่อเหมือนเดิม และหวยมาออกมาที่บ้านหลังหนึ่ง

27 เดือนมกราคม 1978 ริชทำการบุกเดี่ยวเข้าไปในบ้านของเอเวอร์ลีน มิรอธ สาวใหญ่วัย 38 ปี ด้วยความเหี้ยมเกรียมพร้อมฆ่าคนที่พบหน้าเช่นเคย คนแรกที่ริชพบคือ ดอน เมรดิธ เพื่อนบ้านของเอเวอร์ลีน ครั้งแรกที่พบดอน ริชไม่รอช้า จัดการเขาด้วยการสาดกระสุน ดอนตายคาที่ ริชคว้ากระเป๋าเงินและพวงกุญแจรถของดอนติดมือไปด้วยจากนั้นก็ตะลุยเข้าไปในบ้านของเอเวอร์ลีนอย่างรวดเร็วจนคนในบ้านตั้งตัวไม่ติด สาวใหญ่ตกใจกับฆาตกรโหดตรงหน้า ริชไม่รอช้ากระหน่ำยิงเอเวอร์ลีนตายคาที่ พร้อมหันปากกระบอกปืนยิงใส่เด็กชายเจสัน มิรอธ วัย 6 ขวบอย่างไร้เมตตา จากนั้นริชเดินตุ่ม ๆ สำรวจบ้านเพื่อหาว่ายังมีคนอื่นอยู่หรือไม่ ริชพบเด็กวัย 22 เดือน หนูน้อยเดวิด หลานชายของเอเวอร์ลีน เขายิงใส่เด็กทารกแบบเหี้ยมโหด เด็กน้อยแนบนิ่งไป วินาทีเลือดผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนในบ้านตายเรียบ จากนั้นริชก็กำทำการย่ำยีศพเอเวอร์ลีนท่ามกลางกองเลือด หนุ่มโหดจอมเพี้ยนร่วมเพศพร้อมกับกินเลือดกินเนื้อศพไปด้วยเหมือนแวมไพร์กลับชาติมาเกิดไม่ปาน



แต่เหมือนเป็นคราวเคราะห์ของริช เพราะเวลานั้นเด็กสาววัย 6 ขวบ ที่เป็นเพื่อนบ้านและเป็นเพื่อนเล่นกับเจสันก็เปิดประตูบ้านเข้ามาเพื่อชวนเจสันไปเล่นเช่นเคย แต่ตอนนั้นเด็กสาวยังไม่รู้ว่าเพื่อนชายของเธอกลายเป็นศพในบ้านแล้ว เมื่อเปิดประตูเข้ามาเด็กสาวเห็นฆาตกรกำลังฆ่าเจสันพอดี ริชที่กำลังเมามันกับการละเลงเลือดกับศพและเสพเลือดศพต่าง ๆ อย่างมีความสุขไม่ทันได้เห็น ตอนนั้นเด็กสาวตกใจมาก แต่ต้องชมเธอเป็นอย่างมากที่เธอสามารถควบคุมสติได้ เด็กสาวรีบฉวยโอกาสฆาตกรที่ยังไม่รู้ตัว เผ่นไปบอกเพื่อนบ้าน เพื่อให้ช่วยกันตามตำรวจมาจับฆาตกรโหดทันที ริชตกใจไม่น้อย เขารีบผลุนผลันออกจากที่เกิดเหตุด้วยรถสเตชั่น แวกอนของ ดอน เมรดิธ แต่ก่อนหนีเดวิดนำร่างของเดวิดติดมือไปด้วย กว่าตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ไม่เห็นหัวริชแล้ว แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุมีเพียบ มีทั้งรอยนิ้วมือเปื้อนเลือดจำนวนมาก รอยเท้าที่ย่ำไปมาบนพื้นทั่วกองเลือดของเอเวอร์ลีนที่สภาพศพบ่งบอกถึงการย่ำยีของฆาตกรโหดอย่างเมามัน “เป็นการฆ่าที่ประหลาด วิตถารและไร้สติที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นในรอบ 28 ปี” นายอำเภอท้องที่ออกความเห็น

เมื่อริชกลับมาที่บ้าน เขารีบดื่มเลือดของเดวิดวัย 22 เดือน อย่างมีความสุข พร้อมกับนำเลือดและอวัยวะภายในของหนูน้อยไปปั่นเป็นเครื่องดื่มสูตรพิเศษ แล้วบรรจงดื่มลงคออย่างช้า ๆ พร้อมรำพึงถ้อยคำบ้า ๆ บอ ๆ ออกมาไม่ขาดปาก....

ผลสุดท้าย
การลงมือในคดีสุดท้ายถือเป็นจุดดับของริชอย่างยิ่ง เพราะคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ สั้นประสาทมาก ประชาชนด่าตำรวจไม่มีชิ้นดี ที่ปล่อยให้ฆาตกรมาลอยนวลมาฆ่าคน ตำรวจเร่งการสืบหาตัวฆาตกร ตำรวจกว่า 65 นาย เข้ามาการสืบสวนหาฆาตกรรายนี้อย่างเร่งด่วนก่อนที่มันจะไปฆ่าใครอีก จนในที่สุดตำรวจพบรถของดอน มันจอดอยู่ที่ไม่ไกลกว่าที่เกิดเหตุมากนัก ส่วนรายนิ้วมือที่ฆาตกรนั้นทิ้งไว้ กลายเป็นเบาะแสการจับกุม ริชาร์ด เชส 

ริชาร์ด เชส ไปไหนไม่รอด ริชโดนตำรวจรวบตัวเขาตอนออกจากหอพักพร้อมกล่องใบหนึ่ง ตำรวจยึดกล่องใบนั้นไว้พบผ้าขี้ริ้วเปือ้นเลือด จากการค้นตัวของริชพบปืนรีเวอร์วอลเวอร์ .22 กระเป๋าใส่ธนบัตรของดอน ส่วนรถปิกอัพของเชสจอดอยู่ใกล้ที่พัก ในรถสภาพแย่มาก ในรถรกไปด้วยหนังสือพิมพ์ ผ้าขี้ริ้ว กระป๋องเบียร์ กล่องนมเปล่า นอกจากนี้พบมีดแล่เนื้อยาว 12 นิ้ว รองเท้าบู๊ตติดคราบเลือดอีกคู่ จากนั้นตำรวจทำการบุกค้นห้องพักในอพาร์ตเมนต์ สภาพภายในห้องรกมาก ตำรวจพบอาหารคลุกเลือด 3 อย่าง เสื้อสกปรกเต็มไปด้วยคราบเลือดแห้งกรัง หนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวคดีแรกที่ริชฆ่า เครื่องปั่นมรณะที่ใช้ปั่นเลือดและอวัยวะภายในเหยื่อ ชิ้นส่วนมนุษย์ที่ใส่ไว้ที่จานหลายใบในตู้เย็น ใบหนึ่งเป็นเยื่อสมอง ส่วนปฏิทินบนผาผนัง ตรงกับวันที่เกิดเหตุคดีฆ่าหญิงท้องแก่กับคดีสังหารหมู่ ทั้งสองคดีเขียนคำว่า “วันนี้” นอกจากนั้นตำรวจยังพบวันที่เขียนคำว่า “วันนี้” กว่า 44 วัน
ริชถูกส่งฟ้องศาลในข้อหาฆ่าคนตาย 6 คน ทนายของริชพยายามสู้คดีโดยเน้นไม่ให้ริชต้องโทษประหาร โดยพยายามอ้างเรื่องประวัติการบำบัดทางจิตของริชซึ่งคิดว่าเขาน่าจะมีความผิดเพียงแค่จำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น

ท้ายสุด วันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1979 ศาลซาคราเมนโตมีคำตัดสิน
ให้ริชาร์ด เทรนตัน เชส มีความผิดฐานฆ่าคน 6 จริง ส่งผลให้มีประหารชีวิตให้ตายไปจากโลกซะด้วยการ “รมแก๊สพิษ” ระหว่างที่รอการประหารช่วงเวลานั้นริชให้สัมภาษณ์กับนักข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับโดยสิ่งหนึ่งเขามักอ้างมาตลอดว่าที่เขาฆ่าคนเพราะความกลัวพวกนาซีกับยูเอฟโอ ดังนั้นคนที่ความถูกลงโทษควรเป็นพวกนั้น (นาซีกับยูเอฟโอ) ไม่ใช้มาลงโทษแต่เขาคนเดียว บ้าจนหยุดสุดท้ายจริง ๆ

ระหว่างการรอประหาร ริชมีอาการกระวนกระวายใจมาก ทำให้เกิดความเครียดนอนไม่หลับ แพทย์ต้องเข้ามาดูอาการและจ่ายยาเพื่อแก้ความเครียด วันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1980 ผู้คุมเดินเข้ามาตรวจห้องขังของริช และพบว่า ริชนั้นไม่หายใจแล้ว สาเหตุการตายเกิดจากการกินยาเกินขนาด โดยริชแอบสะสมยานอนหลับเพื่อมากินคราวเดียวให้ตาย หลีกหนีความผิดในการเข้าห้องรมแก๊ส ถือได้เป็นการหยุดชีวิตแวมไพร์แห่งซาคราเมนโต ไว้ที่ 30 ปี 7 เดือน 3 วัน แม้ริชาร์ด เทรนตัน เชส จะจากโลกนี้ไปนานแล้ว แต่เรื่องราวพฤติกรรมที่ทั้งแปลก โหดเหี้ยมห่าม ๆ ของฆาตกรคนนี้ ยังอยู่ในใจของคนอเมริกาจนถึงทุกวันนี้







Create Date : 15 กรกฎาคม 2558
Last Update : 28 กรกฎาคม 2558 11:54:46 น. 0 comments
Counter : 2452 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.