4 | | | ตำนานอาถรรพ์ อาชญากรโลกไม่ลืม ฆาตกรรมบันลือโลก ประวัติศาสตร์ทั่วมุมโลก | | |

Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2558
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
14 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
คาเรน ซิลค์วู้ด : อุบัติเหตุปริศนา (ตอนที่ 2)



การประท้วงดำเนินไปอย่างยืดเยื้อ เป็นเวลานานถึงสองเดือนครึ่ง คนเดือดร้อนคือกลุ่มคนประท้วงเอง เพราะบริษัทไม่สะทกสะท้านสักนิด เพราะมีโรงงานที่อื่นตั้งเยอะ และมีคนงานมากมายที่อยากทำงานในอัตราจ้าง 3 เหรียญต่อชั่วโมง เวลาผ่านไป คนงานเริ่มทยอยกลับเข้าทำงานอย่างเก่า ทำให้คาเรนและกลุ่มประท้วงกลุ่มสุดท้ายที่ยังไม่ยอมแพ้ ต้องกลับเข้าประจำที่ตามเดิม ทันทีที่การประท้วงยุติลง ทางบริษัทยื่นเงื่อนไขสัญญาว่าจ้างฉบับใหม่แก่เหล่าคนงานที่เกิดเหตุ ซึ่งพวกเขาจำยอมถูกบีบบังคับ เพราะยังดีกว่าตกงาน ประสบการณ์ที่มีส่วนร่วมในการประท้วง ได้ทำให้คาเรนได้เห็นความใจไม้ไส้ระกำของบริษัทเคียร์-แม็คกี้ ที่กดขี่คนงานอย่างชัดแจ้ง มันยิ่งทำให้เธอคิดอยากต่อสู้ร่วมกับ OCAW เพื่อสิทธิอันชอบธรรมของคนงาน ความล้มเหลวจากการประท้วงของคาเรนชอกช้ำไม่น้อย แต่ไม่เท่ากับคำพูดของดรูว์ที่บอกเธอว่า เขาไม่ได้รักเธอแล้ว ตอนนี้เขากำลังพบผู้หญิงใหม่ที่ดีกว่าเธอแล้ว คาเรนจำต้องหอบผ้าออกจากบ้านของดรูว์วันเดียวกับวันที่เธอพ่ายแพ้ต่อการประท้วง ความเจ็บปวดของคาเรนแสนสาหัส ชีวิตของเธอหม่นหมอง จนกระทั่งเดือนกันยายน 1973 เธอกรอกยานอนหลบเป็นกำ ๆ เข้าปาก แล้วโทรบอกล่ำลาเพื่อน อาจเป็นเพราะเธอไม่อยากตายจริง ๆ ก็ได้ เพราะผลจากการที่เธอโทรไปหาเพื่อน เพื่อนคนดีคนนั้นก็รีบถลามาที่อพาร์ตเมนต์ของคาเรนแบบรวดเร็วปานฟ้าแลบ และบังคับให้คาเรนอาเจียนคายยาออกมาให้หมด ช่วยชีวิตเธอได้สำเร็จ

ปลายปี 1973 นี้เอง เธอก็กลับมาคืนดีและขนของเข้ามาอยู่ในบ้านของดรูว์อีก แต่เป็นเพียงระยะสั้น ๆ เธอก็ย้ายออกมา เพราะทำใจไม่ได้ แต่กระนั้นคาเรนกับดรูว์ก็ยังมีความสัมพันธ์ในสภาพแบบนี้ ไม่ได้ตัดขาดซะทีเดียว ชีวิตรักครึ่งๆ กลางๆ กึ่งเพื่อนกึ่งผัวเมีย ดำเนินมาจวบจนวาระสุดท้ายของคาเรน ดูใบไม้ผลิของ ค.ศ. 1974 บริษัทเคียร์-แม็คกี้ ตั้งเป้าว่าจะต้องเพิ่มผลผลิตให้มากกว่าเก่า ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบการทำงาน นั้นคือเพิ่มเวลาทำงาน ใครควบกลางคืนและกลางวันยิ่งได้เงิน แต่อนิจจามาตรฐานความปลอดภัยยงเหมือนเดิม และแล้วก็เกิดเรื่องร้ายจนได้ เมือถุงขยะที่ทิ้งเศษพลูโตเนียม ุถุงนั้นเป็นถุงขยะที่ใช้ทั่ว ๆ ไป่ (ซึ่งมันต้องใช้ถุงพิเศษ) จู่ ๆ ก็มีควันประหลาดลอยกรุ่นออกมาฟุ้งกระจายเต็มห้อง อากาศเป็นพิษทันที คนงานในห้องนั้นสูบหายใจควันพลูโตเนียมเข้าไปเต็มปอด นอกจากนี้ยังติดผม ผิวหนัง และเสื้อผ้าในปริมาณเกินขีดอันตราย ภัยพิบัตินี้มีคนงานป่วยถึง 7 คน และเหตุภัยพิบัตินี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในเวลาต่อมาสื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ติเตียนบริษัทเคียร์-แม็คกี้ จนรัฐบาลและคณะกรรมมาธิการที่เกี่ยวข้องสนับสนุนอยู่นั้น ทนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้ จึงต้องมีการจัดการอะไรสักอย่างเพื่อรักษาภาพพจน์ของตนเอง แต่หายนะยังไม่จบ เพราะไม่นานหลังจากที่เกิดเรื่องกับคนงานทั้ง 7 ก็ปรากฏว่าเครื่องปั๊มในห้องผลิตยูเรเนียมเกิดขัดข้อง นายช่าง 2 คน ถูกส่งตัวเข้าไปแก้ไขซ่อมแซม ด้วยความไม่รู้ ทำให้ทั้งคู่ไม่มีความระมัดระวังใด ๆ ทั้งสิ้น ฝุ่นยูเรเนียมจำนวนมากเกาะติดตัวช่างทั้งสองออกมาสู่โลกายนอก!

หลังจากซ่อมเสร็จ 2 คนนั้นเกิดหิวข้าวพอดี เลยพากันออกไปกินอาหารที่ภัตตาคาร ผลคือเกิดภาวะมลพิษร้ายแรงทันที บรรดาลูกค้าที่เข้าไปกินอาหารที่นั้นมีทั้งเด็กเล็ก ต่างโดนพิษกันไปทั่วหน้า ต่อจากนั้น ก็มีเรื่องใหม่เกิดขึ้นตามมาติด ๆ ผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานในห้องแล็บ โดนพิษแอมโมเนียเข้าอย่างจัง เพราะมันรั่วออกมาปนอากาศจนอันตรายถึงขั้นวิกฤติ และแล้วก็ถึงตาคาเรน ซิลค์วู้ด เธอโดนเป็นรายถัดมา เมื่อกัมมันตภาพรัวสีรั่วจากเครื่องมือที่เธอใช้ตรวจสอบเม็ดยูเรเนียม บริษัทเคียร์-แม็คกี้ ถูกบังคับให้รับผิดชอบดูแลรักษาอาการของคาเรน และต้องตรวจหาปริมาณรังสีที่ร่างกาย และเนื้อเยื่อของเธอที่รับเข้าไปด้วย คอนนี้เป็นที่แน่ชัดต่อสังคมแล้วว่า บริษัทเคียร์-แม็คกี้ ใจร้ายใจดำต่อคนงาน
ที่มาเป็นลูกจ้างของบริษัท เห็นได้จากนโยบายที่ให้คนงานทำงานเหมือนทาส ขนาดมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นมากมาย พวกเขาก็ทำตัวเหมือนทองไม่รู้ร้อน

โดยความหยิ่งทะนงว่าข้านี้แหละมีอิทธิพลหนุนหลัง ดรูว์ สตีเฟ่น เป็นอีกคนที่รู้ว่าบริษัทฯ นี้ไม่เคยมองเห็นคุณต่าของเขาเลย ไม่ว่าเขาจะตั้งใจทำงาน ทุ่มเทงานอย่างเพียงใดก็ตาม มิหนำซ้ำยังโดนกดขี่สารพัด อาจเป็นเพราะเขาเป็นคู่รักของคาเรนกระมัง ทำให้บริษัทไม่ชอบขี้หน้าเขาเท่าไหร่นัก เลยสั่งย้ายเขาไปอยู่ที่เจนเนอร์รัล แลบบอราทอรี่ และในวันที่ 12 กันยายน 1974 ดรูว์ยื่นใบลาออกจากบริษัทเคียร์-แม็คกี้

คาเรน ปะทะ บริษัทเคียร์-แม็คกี้
บริษัท เคียร์-แม็คกี้ ไม่เดือดร้อนกับเรื่องที่เกิดขึ้นสักนิด กลับกันบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ยิ่งเร่งรุดก้าวหน้า พัฒนาผลผลิตและกำไรอย่างไม่มีอะไรหยุดยั้ง ขนาดเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบ่อยก็จัดการแค่บอกคนอื่นว่า “กำลังอยู่ระ
หว่างการตรวจสอบ” เหล่าสหภาพแรงงานมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเคียดแค้น คาเรนเริ่มเป็นผู้นำความคิด เธอหยิบยกข้อบกพร่องทั้งหลายของบริษัทมาปลุกระดมเพื่อนร่วมงาน เพื่อต่อต้านบริษัท บริษัท เคียร์-แม็คกี้ก้เริ่มมีท่าทีเด่นชัดว่าเกลียดคาเรน คาเรนรู้ตัวดี ผลการประท้วงครั้งก่อนทำให้เธออยู่ไม่เป็นสุขในบริษัทนี้แน่ เธอเลยกังวลและเครียดมาก เพราะบริษัทแกล้งคาเรนต่าง ๆ นานา เช่น จัดเธอให้ทำเวรทำงานในตอนกลางคืนความเครียดทำให้คาเรนเป็นโรคนอนไม่หลับ จนต้องไปหาหมอ 
แพทย์ผู้รักษาสั่งยาเมธาควาโลนให้เธอ ยาชนิดนี้ทำให้หลับเร็ว แต่ข้อเสียมันคือมันเป็นยาเสพติด ซึ่งนั้นทำให้คาเรนกลายคนติดยา และกลายเป็นหม่อลอย ไม่คิดมาก ไม่วิตกกังวล ซึ่งหลังจากที่คาเรนตาย ก็มีการสันนิษฐานว่าเพราะฤทธิ์ยานี้ใช้หรือเปล่าที่เป็นตัวต้นเหตุ!? ทำให้เกิดอุบัติเหตุ


เดือนสังหาคม 1974 คาเรน ซิลค์วู้ด สมัครลงรับเลือกตั้งตำแหน่งกรรมการสหภาพ เพื่อเป็นตัวแทนเจรจาต่อรองและร่างสัญญาทางบริษัท ตัวแทนชุดนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 คน ผลจากการเลือกตั้งออกมาตัวแทนทั้งสามคนได้แก่ แจ๊ค ทิซ ผู้ต่อต้านผู้มากประสบการณ์ เจอร์รี่ บรูว์เออร์ และ คาเรน ซิลค์วู้ด 26 กันยายน 1974 ตัวแทนทั้งสามบินสู่วอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อพบผู้นำระดับสูงสหภาพ OCAW ชื่อ สตีฟ วอดก้า ด้วยปัญหาเรื่องความปลอดภัยของคนงานในโรงงานผลิตพลูโตเนียม เมื่อพบเจ้าหน้าที่ระดับสูง OCAW คาเรนยื่นความผิดด้านละเมิดกฎรักษาความปลอดถัยของบริษัทเคียร์-แม็คกี้ถึง 39 ข้อ นั้นนั้นก็มี การไม่เอาใจใส่คนงาน ไม่มีหน้ากากปิดจมูก ไม่มีเครื่องดูดฝุ่นผงในห้องปฏิบัติงาน ไม่ให้เปลี่ยนถุงมือใหม่บริษัทขี้เหนียว ฯลฯ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสั่งให้คาเรนหาหลักฐานให้แน่นหนากว่านี้ เพราะ OCAW ต้องการพิสูจน์คำกล่าวหาของคาเรนว่ามันเป็นจริง

ดังนั้นเมื่อเธอกลับไปเธอต้องสังเกตพนักงานกลุ่มที่ทำหน้าที่เอกซเรย์บรรจุเชื้อเพลิงพลูโตเนียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเธอสงสัยว่าจะมีการรับสินบนในบริษัทนี้ และตั้งแต่นั้นเป็นคาเรน ซิลค์วู้ดและดรูว์ สตีเฟ่น ก็ถูกบริษัทเคียร์-แม็คกี้และเอฟบีไอ (เหตุที่เอฟบีไอจับตามองเพราะมีความเป็นได้มากว่าคนทั้งคู่เป็นคนหัวรุนแรง) ่สะกดรอยตลอดเวลา และมีความเป็นไปได้มากที่ทั้งคู่ถูกดักฟังโทรศัพท์ เพื่อที่ว่าบริษัทเคียร์-แม็คกี้จะเอาสิ่งที่อัดเทปไปเล่นงานทั้งคู่ได้ตามกฎหมาย

ในขณะเดียวกันคาเรนถูกแยกออกจากดรูว์ตามกฎระเบียบใหม่ของบริษัท คือห้ามสมาชิกของสหภาพพบปะกันในระหว่างทำงาน เดือนตุลาคม ในช่วงนั้นเองเกิดความแตกแยกสามัคคีกันในหมู่คนงานบริษัทเคียร์-แม็คกี้ เริ่มมีการแบ่งพวก ไม่มีการปรองดอง ฝ่ายคาเรนก็ยังดำเนินการต่อสู้ตามแบบฉบับของตนเองต่อไป เธอเฝ้าสอบถามข้อมูลจากเพื่อนร่วมงานมากมายหลายสิบคน เพื่อส่งเป็นหลักฐานเพิ่มเติมให้ OCAW นอกจากนี้หลักฐานที่คาเรนขุดคุยมีเรื่องหนึ่งน่าตกใจมาก คือระบบรักษาความปลอดภัยประตูเข้าออกโรงงานแห่งนี้หละหลวมมาก คนงานเดินเข้า ๆ ออก ๆ โดยไม่มีการตรวจค้น แม้แต่เครื่องวัดคลื่นกัมมันตภาพรังสีที่อาจติดไปกับเสื้อผ้าเนื้อตัวคนงานก็ไม่มี จึงเป็นเรื่องง่ายมากที่ใครก็ได้จะซุกเอาพลูโตเนียมใส่กระเป๋าหรือถุงกระดาษแล้วเดินออกไปหน้าตาเฉย 

และนั้นเองที่ทำให้มีข่าวว่ามีพลูโตเนียมจำนวนมากหายไปจากโรงงาน มากพอที่จะทำระเบิดนิวเคลียร์หลายลูก! คาเรนรู้สึกเครียดมากขึ้น เธอจะพิสูจน์อย่างไรว่า เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ สำหรับเธอแล้วมันยากเกินที่จะจับให้มั่นคั้นให้ตาย เมื่อถูกกดดันหนัก ๆ เข้า คาเรนก็หันมาพึ่งยานอนหลับขนานเดิมของเธออีก! ปลายเดือนตุลาคม เพื่อน ๆ ที่สนิทกับคาเรนเริ่มสังเกตว่าเธอใช้ยามากกว่าเก่า ท่าทางก็เงียบขรึมครุ่นคิด วิตกจริตไปต่าง ๆ นานา

17 ตุลาคม เธอโทรศัพท์ไปหา สตีฟ วอดก้า แห่ง OCAW บอกว่าเธอพบหลักฐานสำคัญในรูปแบบเอกสาร เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าท่อเชื้อเพลิงบรรจุเม็ดพลูโตเนียมหลายท่อมีข้อบกพร่องไม่ได้มาตรฐาน เช่น มีรอยแตกต่อไม่สนิท ได้ถูกปล่อยออกจำหน่ายเพราะฝ่ายหน่วยเอกซเรย์ ที่มีหน้าที่ตรวจตราได้รับสินบนให้เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำเป็นไม่เห็นข้อผิดพลาด และยอมให้ท่อมรณะพวกนี้ “สอบผ่าน” ไม่ต้องโดนเก็บทำลาย พอฟังดังนั้น OCAW ก็บอกคาเรนว่าเขาจะพานักข่าวจาก “นิวยอร์ก ไทมส์” เดินทางไปโอกลาโฮม่า เพื่อพบกับเธอ และดูวิว่าสิ่งที่เธอพบนั้นเป็นจริงมากน้อยเพียงใด พวกเขานัดกันไว้ว่า วันที่ 13 พฤศจิกายน เจอกัน และวันนั้นเองก็เป็นวันเสียชีวิตของคาเรน!!



#อ่านต่อตอนที่ 3








Create Date : 14 กรกฎาคม 2558
Last Update : 14 กรกฎาคม 2558 9:46:00 น. 0 comments
Counter : 835 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

hathairat2011
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]










Google

ขอบคุณที่แวะมา
อย่าลืมคอมเม้นท์นะจ้ะ

Flag Counter

ส่งอีเมล์

Facebook ของ Hathairat



New Comments
Friends' blogs
[Add hathairat2011's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.