ส่งท้ายปี ไหว้พระสี่วัด

วันนี้ตื่นมาแบบสะโหลสะเหล (เขียนถูกป่าวเนี่ย) เพราะเมื่อคืนนอนไม่หลับ วิตกกังวลว่าจะไม่ตื่น นัดเพื่อนก็ไม่ได้เช้าไรนักหนา แต่...ก็กลัวไม่ตื่นอยู่ดี ตอนแรกจะไปไหว้พระเก้าวัดที่อยุธยากับทัวร์ขสมก. เมื่อไตร่ตรองดูแล้ว พบว่าไม่สามารถ(ตื่น)แน่ๆ เลยเปลี่ยนแผน บอกเพื่อนว่าไปเที่ยวในกทม.ก็ได้เนอะ แฮ่ะๆ

รถไม่ติด เลยนั่งรถเมล์ไม่ถึงชม.ไปลงเทเวศน์ เริ่มต้นจากจุดนั้น คือกินก่อน แล้วก็นั่งรถต่อไปอีกหน่อย เพื่อไปยังวัดแรกของทัวร์ส่งท้ายปีหมา

วัดราชาธิวาสค่ะ วัดนี้เงียบมาก ณ วันนี้ อยู่ถนนสามเสนติดกับโรงเรียนเซนต์คาเบรียล ทางหลังติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา จริงๆแล้วต้องเรียกว่าข้างหน้า ไม่ใช่หลัง เพราะป้ายวัดอยู่ทางนี้



ซ้ายเป็นสะพานพระราม 8 ขวาเป็นสะพานซังฮี้






เข้ามาก็จะเห็นศาลาการเปรียญไม้สัก อายุเป็นร้อยปีแล้วล่ะ ถ้าจำข้อมูลไม่ผิดก็สร้างสมัยร.4 โดยกรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงออกแบบ ว่ากันว่าเป็นศาลาการเปรียญที่ใหญที่สุดในประเทศไทย และเอเชียอาคเนย์ค่ะ (ใหญ่ซะจนถ่ายไม่เต็ม อิอิ)



รอบๆวัดจะมีคำสอนติดอยู่มากมาย เตือนสติได้ดีทีเดียว




เงียบซะจนเค้าไม่เปิดให้เข้าชมอะไรเลย อีกด้านหนึ่งเป็นวิหารสีขาว หลังคาที่น้ำเงิน เราชอบนะ ดูคลาสสิคดี และไม่ค่อยพบเห็น พร้อมเจดีย์ปูนปั้น สวยงามดี









เราได้แค่ไหว้หลวงปู่ทวดเท่านั้นเอง แล้วก็ออกเดินทางไปยังวัดที่สอง วัดอินทราวิหาร อยู่ถนนวิสุทธิกษัตริย์ แยกบางขุนพรหม วัดนี้คนเยอะกว่าวัดแรกเยอะเลยล่ะ เพราะมีพระพุทธรูปให้สักการะบูชา ไปชมกันค่ะ



"พระพุทธศรีอารยเมตรัย" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ สูง 32 ม. ประมาณตึกเจ็ดชั้น ว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลกในเลยล่ะ กว้าง 10 ม.24 นิ้ว บนยอดพระเกตุมาลาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จากศรีลังกา กล่าวว่าสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นแต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จท่านก็มรณธภาพเสียก่อนค่ะ เห็นหลวงพี่โฆษกประกาศว่า ศักดิ์สิทธิ์นะคะ ขออะไรก็มักจะได้ เราก็ไม่กล้าขอหรอกค่ะ ให้มันเป็นไปตามดวงก็แล้วกัน





ข้างๆกันก็มีใส่บาตรด้วยเหรียญ ฝรั่งค่อนข้างสนใจไม่น้อยค่ะ




แต่ที่ดูแล้วไม่ค่อยสอดคล้องกันเท่าไหร่ก็คือ การขายล๊อตเตอรี่ นี่มันก็การพนันดีๆนี่เอง ขายนอกวัดก็ยังดี ไม่น่ามาขายกันจ่อๆอย่างนี้เลย อีกอย่างหนึ่งก็คือ ขายนก อันนี้ไม่ชอบเลย ทรมานมันแท้ แล้วยังบอกว่า freedom อีก โกหกทั้งเพ แพงก็แพง ในกรงน่ะมีแค่สามตัวเองนะ 90 บาท มีแต่ฝรั่งเท่านั้นแหละค่ะที่ซื้อ



เอ้า นั่งรถต่อไปยังท่าช้าง นักท่องเที่ยวพลุกพล่านมากๆ ของกินก็น่ากินไปเสียทุกอย่างเลย เรานั่งเรือข้ามฝากไปยังวัดระฆังโฆษิตาราม วัดที่สาม อยากบอกว่าวัดนี้คนเยอะมากกว่าวัดอินทราวิหารประมาณเท่าตัว แน่นจนไม่สามารถเข้าไปไหว้พระได้ใกล้ๆค่ะ ไม่รู้เพราอะไรนะที่ทำให้คนแห่กันมาที่นี่ หรือจะเป็นเพราะ...ความเชื่อที่ว่า ไปวัดระฆังฯต้องไปตีระฆัง จะได้มีชื่อเสียงก้องกังวานเหมือนดังระฆัง





เสียงดังเง่งง่างจนหูแทบจะแตก พระที่นั่งเฝ้าตรงนั้น ต้องมีอุปกรณ์อุดหูส่วนตัวไว้โดยเฉพาะค่ะ นี่เป็นพระปรางค์วัดระฆัง สัญลักษณ์ที่คุ้นตาค่ะ



ส่วนนี่เป็นอุโบสถที่คนก็เนืองแน่นเช่นกัน



มีแต่พระพุทธรูปองค์นี้ล่ะมั้งที่ไม่ต้องแย่งไหว้กับใคร แต่ไม่มีธูปเทียนเตรียมไว้ให้ ต้องเอามาเอง แฮะๆ ไม่มี



ข้ามฝากกลับมายังฝั่งพระนครค่ะ เดินมาอีกหน่อย ก็ถึงแล้ว...จำยักษ์ตนนี้ได้มั้ยคะ เฉลยเลยแล้วกัน จริงๆ มียักษ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของวัดนี้ แต่ไม่ได้เดินไปถ่าย (ใหญ่จัด เดินไม่ไหว) วัดโพธิ์ หรือวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดสุดท้ายของวัดนี้



เป็นวัดที่มีเจดีย์สถาปัตยกรรมวิจิตรแปลกตา และเยอะที่สุดในประเทศไทย สวยที่สุดด้วยล่ะมั้ง (เรายกให้เลย มากี่หนๆ ก็รู้สึกว่าสวยทุกหน)





สวยจนไม่รู้จะบรรยายยังไงจริงๆ ค่ะ



แม้แต่ประตูยังสวย



วัดโพธิ์ มีสิ่งที่น่าสนใจให้ชมเยอะแยะมากมาย น่าจะให้เวลาเดินชมไม่ต่ำกว่าชม.นะคะ นี่ก็เป็นศาลาที่เก็บพระพุทธรูปปางต่างๆ สมัยต่างๆ




อันนี้จำไม่ได้จริงๆ ว่าชื่อวิหารอะไรแล้ว (แย่จังเลยนะเรานี่) แต่เข้ามาข้างในแล้ว ตระการตามากค่ะ





ศิลปะผสมผสานกันระหว่างไทยกับจีนอย่างงดงาม และลงตัว





ตุ๊กตาปูนปั้นและสวนย่อมเล็กๆมีให้เห็นเป็นจุดๆค่ะ







ขอชื่นชมกระเบื้องสีสันสวยสดอีกสักทีเหอะ ชอบจริงๆนะเนี่ย





ปิดท้ายกับเข้าไปสักการะพระพุทธไสยาส ที่มีขนาดใหญ่มากๆ และเปล่งรัศมีแห่งศรัทธาออกมาจนเป็นที่ประทับใจแก่ผู้มาเยือนค่ะ





โชคดีปีใหม่กันทุกคนนะคะ

Create Date : 31 ธันวาคม 2549		3 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2550 14:39:00 น.
Counter : 3302 Pageviews.
Share Tweet