หนองบัวลำภู มีอะไร? (2)

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=magnolia&month=06-11-2014&group=7&gblog=234

จะว่าไปแล้ว หนองบัวลำภู เป็นจังหวัดที่ยังมีความเป็นท้องถิ่นอยู่มาก เพราะไม่ค่อยมีคนต่างถิ่นเข้ามาอยู่เหมือนอุดรธานีที่แยกออกมา อาคารบ้านเรือน และรถรายังไม่ขวักไขว่ให้วุ่นวาย กลางคืนเข้าบ้านกันไว ไม่อึกทึก แม้จะเป็นช่วงเทศกาลลอยกระทงก็ตาม เราผ่านแถวถนนที่เขาขายของริมหนองบัวตอนกลางคืน คนบางตามาก

เช้ามา กลับไปกินไข่กระทะ ที่ร้านเจ้าชายเหมือนเดิม เพราะไม่รู้จะไปร้านไหน เห็นแต่มีร้านนี้ล่ะที่ไปง่าย และเปิดแต่เช้า



จากนั้น มุ่งหน้าไปยังวัดถ้ำกลองเพล ซึ่งอยู่ทางไปอุดรฯ ห่างจากตัวเองประมาณ 10 กว่าโลได้ มีป้ายบอกอยู่ เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน พอไปถึงอึ้งเล็กน้อย ในความสามารถของหลวงปู่ขาวที่พบสถานที่แห่งนี้ เพราะที่นี่มีภูมิทัศน์ที่แปลกกว่าวัดทั่วไป เนื่องจากส่วนหนึ่งมีลักษณะเป็นถ้ำ และมีก้อนหินยักษ์รูปร่างต่างๆ มากมายเรียงรายทั่วบริเวณวัด (ซึ่งกว้างมาก) คล้ายๆ กับภูผาเทิบที่มุกดาหาร แต่ไม่ต้องปีนป่ายขนาดนั้น



ไม้กลายเป็นหิน (แต่ก็ไม่แน่ใจว่าอยู่ไหน)



กุฏิหลวงปู่ขาว อนาลโย









อุโบสถของที่นี่ไม่ใช่เป็นลักษณะหน้าจั่ว มุงหลังคาอย่างวัดอื่นๆ แต่เป็นถ้ำที่แปลงสภาพเป็นอุโบสถ จะเย็นเพราะผนังหินตามธรรมชาติ เป็นวัดป่าจริงๆ











วัดค่อนข้างเงียบมาก เราแทบไม่เห็นพระสักรูป





ขับรถขึ้นเขาไปอีกหน่อย ไปสักการะหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ขาว







ในอดีตในหลวงและพระราชินีเสด็จมานมัสการหลวงปู่ขาวอยู่หลายครั้ง (ดูจากรูปที่ติดที่ผนังกุฏิ) สมัยนั้นเส้นทางเข้ามาคงทุรกันดารกว่านี้มาก







อนุสาวรีย์หลวงปู่ขาว





เห็นมีป้ายบอกว่ามีสุสานหอย 150 ล้านปี เราก็เดินไปดู ไม่เห็นมี เห็นแต่คลองธรรมชาติ(ไม่รู้จะเรียกว่าบึง หนอง คลอง หรือห้วยดี ดูแล้วมันคงมีที่ไปมากกว่านี้) อยู่ท่ามกลางป่า เขียวไปทั่ว สวยสงบร่มรื่นมาก จนเราต้องเอ่ยปากบอกกับเพื่อนว่า “คนที่พบที่นี่สุดยอดมากๆ ท่านต้องเดินทางเข้ามา และรู้ว่าที่นี่มีแหล่งน้ำธรรมชาติ จึงมาตั้งวัดที่นี่” เพื่อนเราบอกว่า “ท่านอาจจะเป็นพระขั้นอรหันต์จึงมีญาณหยั่งรู้” ก็น่าจะจริง









อยู่ๆ เราก็นึกขึ้นมาว่า น้ำนิ่งขนาดนี้จะมีจระเข้มั้ยนะ นึกกลัวขึ้นมาเอง ดูข่าวมากไป เลยค่อยๆ ถอยฉากออกมา อิอิ



เจดีย์หลวงปู่ขาว พร้อมพิพิธภัณฑ์ (แต่ไม่ได้เข้าไปชม)



การเดินทางไปหนองบัวลำภูครั้งแรก ไม่เสียเที่ยวสักเท่าไหร่นัก แม้ว่าจะไม่เจอน้ำตกอย่างที่ตั้งใจก็ตาม แต่ได้มาเจอสถานที่ที่แปลกตาไปจากที่เคยเจอ ก็นับว่าคุ้มค่าการขับรถ 200 กว่ากิโลอยู่ไม่น้อย

Create Date : 07 พฤศจิกายน 2557		0 comments
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2557 14:30:20 น.
Counter : 2346 Pageviews.
Share Tweet