I AM SOMEONE
<<
กุมภาพันธ์ 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
21 กุมภาพันธ์ 2565

เธอทำให้ฉันเห็นวันพรุ่งนี้ ตอนที่ 11

เจนนิ่งงันไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำตอบจากหญิงสาว เขาคาดไม่ถึงว่าเธอกำลังจะแต่งงาน แค่เดาไปว่าเธอผิดหวังจากความรักด้วยสาเหตุทั่วๆ ไปที่ได้ยินมาดาษดื่นอย่างเช่น แฟนนอกใจ เราไปด้วยกันไม่ได้ หมดรัก หรือข้ออ้างสิ้นคิดอย่างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “ดีเกินไป” แต่เมื่อได้ฟังรายละเอียดถึงการจากไปของว่าที่เจ้าบ่าวของระมิงค์แล้ว เจนพลอยหดหู่ตามเธอไปด้วย

“ผมเสียใจด้วยนะครับคุณมิ้ง”
“เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้วค่ะ พี่พยายามจะลืมมันอยู่”
“โอ้ว งั้นผมขอโทษจริงๆ ที่ไม่น่าจะขุดเรื่องเก่าๆ มาให้คุณเล่าเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นการทดสอบจิตใจพี่ด้วยว่าพี่เข้มแข็งขึ้นหรือยัง อืม...มันก็โอเคนะ เมื่อก่อนเล่าทีไรร้องไห้ทุกที แต่คราวนี้ดีขึ้น แค่รื้นๆ แล้วก็หัวเราะได้ค่ะ หึๆๆ” ดูเหมือนเธอจะหัวเราะแบบขื่นๆ
“สรุปว่าเราทั้งคู่ผ่านมรสุมความรักที่ล้มเหลวมาทั้งคู่ ไม่สิ ของคุณอาจจจะไม่เรียกว่าล้มเหลว แค่ไม่สมหวัง” เขาว่า
“ไม่ถึงฝั่งฝันกันทั้งคู่ดีกว่า”
“อืมครับ ฟังดูดีขึ้นมานิดนึง”
“แล้วคุณมิ้งคิดจะเริ่มต้นใหม่มั้ยครับ”
“ฮึ???” เธอกำลังก้มดูดน้ำผลไม้ในแก้วเกือบสำลัก “ว่าไงนะ” ไม่แน่ใจในความหมายของคำถามนั้น
“เอ่อ...ผมหมายถึง ถ้าลืมเรื่องเก่าๆ ได้แล้ว คิดจะมีความรักอีกครั้งหรือเปล่า”
“อ่อ...” เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ไม่ได้หมายความอย่างที่เธอคิด ทีแรกคิดว่าเขาจู่โจมเร็วเกินไป ทั้งที่เพิ่งจะคุยกัน
“ปล่อยให้เป็นเรื่องอนาคตค่ะ พี่ไม่รีบไม่ร้อนอะไร เพื่อนๆ จะว่าแก่แล้วให้เร่งหน่อยก็ไม่สนใจ ไม่มีไม่เจอไม่ใช่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ซื้อกินด้วยเพราะไม่มีตังค์ ฮ่าๆๆ” ระมิงค์พูดติดตลก จนเจนก็อดหัวเราะตามไม่ได้
“คุณมิ้งนี่สวยแล้วยังตลกด้วยนะฮะ” เขาพูดปนหัวเราะ
“อุ๊ย ชมกันอย่างนี้เลยเหรอ เขินแย่” เธอกัดริมฝีปากแก้เขิน
“ก็จริงนี่ฮะ”
“คุณเจนล่ะคิดยังไง” ระมิงค์ถามกลับ
“คิดครับ” เขาตอบฉะฉานโดยไม่ลังเลจนระมิงค์ไม่ต่อไปไม่ถูก จึงเปลี่ยนเป็นแซวเขาแทน “คิดดีแล้วหรือคะ หึๆๆ”
“คุณมิ้งนี่อารมณ์ดีจังเลย น่าจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขกับชีวิตมากกว่านี้”
“อ้าว พี่ดูไม่ปกติขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ไม่ใช่หรอกครับ คุณทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆ สบายใจ ผ่อนคลาย คุณจึงไม่น่าจะเป็นโรคซึมเศร้าได้ ผมคิดว่าคนเป็นโรคซึมเศร้าจะเศร้าอย่างเดียวเสียอีก”
“ก็มีหลายแบบค่ะ คนเป็นโรคซึมเศร้าไม่จำเป็นต้องเศร้าเอาเป็นเอาตายนะคะ เขามักเศร้าเวลาอยู่คนเดียวมากกว่า แต่บางคนเศร้าทั้งวันทั้งคืนก็มี แต่สำหรับพี่แล้วถ้าอยู่กับคนอื่น พี่ไม่แสดงความเศร้าให้ใครเห็นหรอก เก็บความเศร้าให้อยู่กับเราคนเดียวก็พอ”
“โธ่อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ แบ่งความเศร้ามาให้ผมบ้างก็ได้” เจนพูดเหมือนจีบเข้าไปทุกที
“ความเศร้ามันน่าแบ่งให้กันด้วยหรือคะ ไม่มีเพื่อนพี่คนไหนมาขอแบ่งความเศร้าจากพี่เลยนะเพิ่งได้ยินจากคุณเจนนี่แหละคนแรก จะเอาความเศร้าไปทำอะไรคะ” เธอถามยิ้มๆ
“ถ้าได้มาจากคุณ ผมก็จะเอาไปทิ้งให้ครับ”
“พูดซะหล่อเลย”
“จริงๆ นะครับ มีอะไรที่ไม่สบายใจก็เล่าให้ผมฟังก็ได้ คุณมิ้งยังเก็บนามบัตรของร้านผมไว้หรือเปล่า โทรได้ตลอดนะครับ เบอร์ผมเอง ไม่ซื้อของก็โทรได้ครับ ผมอยากฟังเรื่องของคุณ” น้ำเสียงของเจนดูจริงจังมากขึ้น จนระมิงค์ไม่กล้าสบตา

ระมิงค์กลัวตัวเองจะคิดมากไปกับสายตาและน้ำเสียงของเขาที่แสดงออกมา จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “เออ กิจการที่ร้านเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“ก็ค่อยเป็นค่อยไปครับ พอเลี้ยงตัวเองได้ ผมว่าคนนิยมเทรนด์วินเทจมากขึ้น บวกกับเศรษฐกิจแบบนี้ประหยัดได้ก็ต้องประหยัดครับ คนรักการแต่งบ้านก็ต้องเลือกอะไรที่คุ้มค่ากับเขาที่สุด”
“คุณเจนเก่งนะ อายุยังน้อยเป็นเจ้าของกิจการ กล้าตัดสินใจทำอะไรหลายอย่างที่พี่ไม่กล้า ในความคิดพี่นะ พี่ว่าผู้ชายกล้าเสี่ยงมากกว่าผู้หญิงโดยเฉพาะการลงทุน ลองผู้หญิงได้ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วล่ะก็ น้อยมากที่จะกล้าตัดสินใจออกจากคอมฟอร์ทโซนเพื่อเปลี่ยนตัวเองไปตามหาความฝัน ส่วนใหญ่ทำๆ ไปจนถูกไล่ออกบ้าง หรือไม่ก็ทำจนแก่จะเปลี่ยนงานใหม่ก็ไม่ได้แล้ว อย่างพี่เนี่ยจำเป็นต้องออกเพราะป่วย ทำงานไม่ได้แล้ว พอจะกลับไปทำงานใหม่ก็แก่เกินไป ทนไม่ได้อีกที่จะไปเป็นลูกน้องคนที่อายุน้อยกว่า เลยจำเป็นต้องทำงานอิสระ ทำแบบกระท่อนกระแท่นไป”
“ผมว่ามันเป็นจังหวะ โอกาส และความบ้าของแต่ละคนมากกว่า ผมเรียนไม่จบปริญญาตรีนะครับ คนอื่นอาจจะมองว่าน่าจะทำไปงานใช้แรงงานหรือรับจ้างทั่วไปมากกว่า แต่ผมไม่ยอมแพ้ ผมว่าสิ่งที่ผมคิดจะทำไม่จำเป็นต้องใช้ปริญญา ผมยังอ่านออกเขียนได้ ผมก็ศึกษาด้วยตนเองครับ บวกกับประสบการณ์ลองผิดลองถูกของผมไปเรื่อยด้วย อย่างผมเนี่ย ผมไม่ได้กล้าอย่างเดียวนะ แต่ผมบ้าด้วย บ้ามาก” ระมิงค์รีบพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย จนเจนยิ้มกว้าง
“เอ้า นี่คุณก็เห็นว่าผมบ้าหรือครับ”
“ก็บ้าด้วยกันทั้งคู่นี่ล่ะค่ะ ถึงได้มาเจอกันที่คลินิกแล้วมานั่งคุยกันอยู่ตรงนี้ไง ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆ เออ จริงด้วย งั้นเราคงไปด้วยกันได้” เจนปิดท้ายไว้ให้ระมิงค์คิดอีกแล้ว แต่เธอไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าหนุ่มรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่าเกือบสิบปีจะมาสนใจผู้หญิงป่วยๆ อย่างเธอทำไมกัน

หลังจากการทำความรู้จักกันมากขึ้นกว่าในคลินิก ทำให้เจนยิ่งตกหลุมรักระมิงค์มากยิ่งขึ้นถึงขั้นนอนไม่หลับซ้ำซ้อนเข้าไปอีก ส่วนหนึ่งมาจากที่เขาไม่ยอมกินยาตามหมอสั่ง เพราะเขามีความสุขที่ได้คิดถึงผู้หญิงคนนี้ หากหลับไปเขาคงเสียดายเวลาแย่

ขณะที่ระมิงค์กลับไม่ได้ครุ่นคิดถึงหนุ่มรุ่นน้องมากนัก แม้คำพูดของเขาจะสร้างความระแวงไปบ้าง แต่ก็คุ้นเคยกับคำเหล่านี้มาเรื่อยๆ เมื่อมีผู้ชายคนใหม่ๆ มาทำความรู้จัก เพียงแต่รายนี้อายุกว่าเธอหลายปีเท่านั้นเอง



Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2565
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2565 9:11:39 น. 0 comments
Counter : 495 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ
[Add Alex on the rock's blog to your web]