เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ กับฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรือ

a12 (2)

ไม่บ่อยครั้งนักที่พสกนิกรชาวไทย จะได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฉลองพระองค์ในเครื่องแบบปกติขาวคอพับแขนสั้น ของทหารเรือ สำหรับตัวผมเอง ต้องบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็น เพราะโดยส่วนมากหากพระองค์จะทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรือ จะเห็นพระองค์ท่านในเครื่องแบบชุดใหญ่ อย่างชุดปกติขาว ชุดปกติกากีคอแบะ เครื่องแบบเต็มยศสำหรับใช้ในต่างประเทศที่มีอากาศหนาว ชุดปกติกากีคอพับทั้งแขนสั้นและแขนยาว หรือไม่ก็เป็นชุดฝึกไปเลย

  แต่เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ.2555 ต้องถือว่าเป็นโชคดีของพสกนิกรชาวไทย ที่ได้เห็นพระองค์ท่านในเครื่องแบบทหารเรือขาวสะอาดนี้ โดยพระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจในการเสด็จไปทรงเปิดโครงการชลประทานในพระราชดำริจำนวน 5 โครงการ ณ กรมชลประทาน เขตสามเสน กรุงเทพมหานคร โดยพระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคโดยประทับบนเรืออังสนา ที่กองทัพเรือจัดถวายเป็นเรือพระที่นั่ง

a11 (2)

       ในการเสด็จพระราชดำเนินในวันนั้น พระองค์ทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแบบปกติขาวคอพับแขนสั้น หรือเครื่องแบบหมายเลข 2 ตามระเบียบกองทัพเรือว่าด้วยเครื่องแบบทหารเรือ และการแต่งเครื่องแบบ พุทธศักราช 2529 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เครื่องแบบนี้ทหารเรือเราจะเรียกกันว่า “ชุดขาวน้อย”

      เนื่องจากในบรรดาเครื่องแบบสีขาวล้วนของทหารเรือนี้ ยังมีเครื่องแบบอีกชุดหนึ่ง ที่ใช้ใส่ในโอกาสสำคัญๆ เช่น ในพระราชพิธีสำคัญ พิธีกรรมทางศาสนา หรือในพิธีสำคัญอื่นๆ นั่นก็คือ ชุดปกติขาว ซึ่งเราจะเรียกกันว่า “ชุดขาวใหญ่”

      การที่ได้เห็นพระองค์ท่านทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแบบทหารเรือ ย่อมยังความปลาบปลื้มให้แก่เหล่าทหารเรือเป็นธรรมดา ยิ่งพระองค์ทรงเครื่องแบบปกติขาวคอพับแขนสั้น ซึ่งไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยๆ ยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกดีใจมากขึ้น

แต่ก็ไม่ดีใจไปกว่าการที่ได้เห็นพระองค์ยังทรงพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง และเป็นอีกครั้งหนึ่งที่พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินเพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อปวงชนชาวไทยของพระองค์ท่าน นั่นย่อมเป็นความปลื้มปีติของทหารเรือไทย และประชาชนชาวไทยอีกหลายล้านคนอย่างหาที่สุดมิได้

a10 (2)

      นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงประดับอินทรธนูแข็งตำแหน่งจอมพลเรือ เครื่องหมายความสามารถนักบิน และแพรแถบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระอุระ(หน้าอก) ด้านซ้าย เครื่องหมายแสดงความสามารถผู้ทำการรบพิเศษที่พระอุระข้างขวา และบริเวณกระเป๋าฉลองพระองค์ด้านขวาเหนือกระดุมประดับเครื่องหมายผู้บังคับการเรือ ส่วนบนกระเป๋านั้นเป็นเครื่องหมายนาวิกาธิปัตย์ 

a13

      ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารเรืออยู่หลายครั้งหลายครา และหลายชุด ผมจะขอย้อนอดีตนำท่านไปชมพระบรมฉายาลักษณ์ที่พระองค์ท่านทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบต่างๆ ของทหารเรือกันสักครั้งครับ

ฉลองพระองค์เครื่องแบบปกติขาว หรือ เครื่องแบบหมายเลข 1 หรือ ชุดขาวใหญ่

       เครื่องแบบปกติขาว เป็นฉลองพระองค์ที่พสกนิกรชาวไทยจะได้เห็นบ่อยครั้งในหลายโอกาส เช่น

       เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์นิวัติพระนคร ในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2493 โดยทางเรือ ซึ่งกองทัพเรือได้จัดกระบวนเรือและเครื่องบินรับเสด็จฯ ที่สันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาประกอบด้วย เรือหลวง จำนวน 11 ลำ เครื่องบิน จำนวน 3 หมู่ มี ร.ล.ศรีอยุธยาเป็นเรือพระที่นั่งทรง และ ร.ล.สุราษฎร์เป็นเรือพระที่นั่งรอง

       ในวันนั้นกองทัพเรือได้ทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องยศ จอมพลเรือ ณ ห้องโถงนายทหาร ร.ล.ศรีอยุธยาด้วย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับ แล้วมีพระราชดำรัสตอบ มีความตอนหนึ่งว่า “ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้เห็นบรรดาเหล่าทหารเรือทั้งหลาย ได้พร้อมใจนำเครื่องยศจอมพลเรือมาให้ และอวยพรให้ข้าพเจ้าในโอกาสที่กลับสู่พระนครในวันนี้ ข้าพเจ้าขอรับด้วยความขอบใจ และจะรักษาเกียรติศักดิ์นี้ด้วยดีอยู่เสมอ”

a15

เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปยังกรมอู่ทหารเรือ เพื่อทรงประกอบพิธีวางกระดูกงูเรือยนต์รักษาฝั่ง ต.91 เมื่อ วันพุธ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2510

a16

 เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อทรงกระทำพิธีปล่อยเรือ ต. 99 ซึ่งเป็นเรือในชุดเรือ ต.91 ลำสุดท้ายลงน้ำ

       สำหรับเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.91 นั้น เป็นเรือที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระราชวินิจฉัยในทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบเรือ จนกระทั่งถึงการต่อออกมาเป็นเรือเลยทีเดียว ดังนั้น เรือลำนี้จึงให้หมายเลขขึ้นต้นด้วย เลข 9 อันหมายถึงรัชกาลที่ 9 นั่นเอง

a17

       เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มายังอู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ เพื่อทรงประกอบพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ลงน้ำ เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2550 

a18

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงกระทำพิธีปล่อยเรือ ต.991 ลงน้ำ

 ฉลองพระองค์เครื่องแบบปกติกากีคอแบะ หรือเครื่องแบบหมายเลข 5

       เป็นเครื่องแบบที่เราอาจจะเคยเห็นพระองค์ท่านทรงฉลองพระองค์อยู่บ่อยๆ อีกเช่นกัน เช่น

a19

       เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงนำพระราชาธิบดีเฟรเดอริกที่ 9 แห่งเดนมาร์กเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร ป้อมพระจุลจอมเกล้า ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.​2504

a20

 ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2536

a21

       ในโอกาสที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนิน เพื่อทรงเจิม ร.ล.จักรีนฤเบศร เมื่อครั้งที่ ร.ล.จักรีนฤเบศร เดินทางจากราชอาณาจักรสเปน มาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2540

ฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศสำหรับใช้ในต่างประเทศที่มีอากาศหนาว

หรือ เครื่องแบบหมายเลข 7 (ค.)

       พระองค์จะทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบนี้ ในโอกาสที่ทรงเสด็จประพาสยังต่างประเทศ ในช่วงที่มีอากาศหนาว เช่นการเสด็จประพาสยุโรป และสหรัฐอเมริกา

  ในพระบรมฉายาลักษณ์นี้ พระองค์ทรงดำรงพระราชอิสริยยศ จอมพลเรือ ทรงฉายพระรูปร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ และพระราชินีอลิซาเบธ​ ที่ 2 และเจ้าชายฟิลลิป ดยุคแห่งเอดินเบอระ ณ พระราชวังบัคกิ้งแฮม ประเทศอังกฤษ เมื่อปี​ ค.ศ.1960

a22

a23

a24

a25

พระบรมฉายาลักษณ์ด้านล่างนี้ ทรงฉายขณะเสด็จเยือนราชอาณาจักรสเปน เมื่อปี ค.ศ.1960

a26

        ฉลองพระองค์เครื่องแบบปกติน้ำเงินดำสำหรับใช้ในต่างประเทศที่มีอากาศหนาว หรือ เครื่องแบบหมายเลข 9 หรือ ชุดทูนิค หรือ ชุดบลู

a27

        ฉลองพระองค์นี้ เป็นเช่นเดียวกับเครื่องแบบหมายเลข 7 (ค.) คือใช้ในโอกาสที่ทรงเสด็จประพาสยังต่างประเทศ ในช่วงที่มีอากาศหนาว แต่มีข้อแตกต่างคือ หากผู้ใส่มีสายยงยศประกอบเครื่องแบบ จะใส่อินทรธนูที่ด้านขวาติดกับสายยงยศเพียงข้างเดียว และใช้กางเกงสีน้ำเงินดำ ที่ไม่มีแถบไหมทอง

ฉลองพระองค์เครื่องแบบครึ่งยศ หรือ เครื่องแบบหมายเลข 6

a28

เครื่องแบบนี้เสื้อจะเป็นเช่นเดียวกับชุดปกติขาว แต่กางเกงจะใช้กางเกงขายาวสีดำแถบไหมทอง รองเท้าดำ  ฉลองพระองค์นี้พระองค์เคยทรง เมื่อครั้งเสด็จเยือนประเทศอินโดนีเซีย

a29

อีกครั้งเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน พร้อมสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามในพระราชพิธีกาญจนาภิเษก เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539

 ฉลองพระองค์เครื่องแบบปกติกากีคอพับแขนยาว หรือ เครื่องแบบหมายเลข 4

a31

a32

a30

        พระองค์ทรงเคยฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแบบนี้ในหลายโอกาส โดยเฉพาะในโอกาสที่พระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมราษฎรตามหัวเมืองชายทะเล และตามเกาะแก่งต่างๆ ที่เข้าถึงไม่ได้ทางรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์

 ฉลองพระองค์เครื่องแบบปกติลำลองคอพับแขนสั้น หรือ เครื่องแบบหมายเลข 10

        ฉลองพระองค์นี้ เป็นฉลองพระองค์ในสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย เช่น บ่าที่ในปัจจุบันเป็นบ่าอ่อนคือเป็นแถบผ้าติดกระดุมเป็นทรงอินทรธนู แต่ไม่ประดับอินทรธนู แต่ในยุคสมัยนั้นจะใช้เสื้อแบบเดียวกับ ชุดปกติกากีคอพับแขนสั้น และเครื่องหมายยศจะติดที่ปกเสื้อ กับสวมหมวกกระบังอ่อนสีกากี ซึ่งในปัจจุบันได้เลิกใช้ไปแล้ว

a33

พระองค์เคยทรงฉลองพระองค์เครื่องแบบปกติลำลองคอพับแขนสั้นนี้ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎรยังเกาะพะลวย

        เกาะพะลวยเป็นเกาะเล็กๆ ใกล้กับเกาะสมุยซึ่งในสมัยก่อนนั้นถือเป็นเกาะที่อยู่ไกล และทุรกันดารมาก ในปัจจุบันเกาะพะลวยนี้ ได้ถูกสร้างเป็นเกาะสีเขียวหรือ Green Island เช่นที่ประเทศอิตาลี คือเป็นเกาะอนุรักษ์ธรรมชาติที่ใช้พลังงานสะอาด เช่น ไฟฟ้าตามบ้านเรือนใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ โดยจะไม่มีการใช้ไฟฟ้าที่ได้จากโรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือเครื่องยนต์ดีเซล นอกจากนี้รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้บนเกาะ ก็ยังใช้พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย โดยโครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ กับกระทรวงพลังงาน

a34

ส่วนพระบรมฉายาลักษณ์นี้ เป็นอีกเหตุการณ์ในการเสด็จเยี่ยมประชาชนตามหัวเมืองชายทะเลของพระองค์ท่าน

ฉลองพระองค์เครื่องแบบปฏิบัติราชการสนามของหน่วยทหารนาวิกโยธิน

a35

เมื่อครั้งทรงนำธงราชนาวิกโยธินเสด็จไปกับเรือเวคา เรือใบประเภทโอเค ที่พระองค์ท่านทรงต่อด้วยพระองค์เอง พระองค์ทรงแล่นใบจากพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มายังอ่าวเตยงาม กองบัญชาการนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อนำธงมาพระราชทานให้กับนาวิกโยธิน โดยพระองค์ได้ทรงปักธงนั้นไว้ที่ก้อนหินใหญ่บนชายหาดหน้าอ่าวเตยงาม

a36

เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร การฝึกยกพลขึ้นบก “ทักษิณ ๑๒” ของกองทัพเรือ ณ หาดบ้านทอน ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ในฐานะจอมทัพไทย พร้อมด้วยเรือตรีสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ(พระอิสริยยศขณะนั้น) เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2512

a37

เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมทหารในหน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขง (นปข.) ที่สถานีเรือบ้านเขตตำบลโพนทอง อำเภอบ้านแพง จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2518 โดยในภาพพระองค์ทรงประทับอยู่บนเรือลาดตระเวนลำน้ำ

a38

         และฉลองพระองค์ทิ้งท้ายสำหรับบทความนี้ ก็คือฉลองพระองค์ชุดกะลาสี ซึ่งคาดเดาว่าจะเป็นเครื่องแบบกะลาสีของประเทศทางยุโรป สมัยที่พระองค์ยังทรงพระเยาว์ โดยในพระบรมฉายาลักษณ์ พระองค์ทรงฉายพระรูปร่วมกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลฯ สมเด็จพระเชษฐาธิราชของพระองค์

a39

ในฐานะที่ตัวผมเองเป็นทหารเรือ จึงปลื้มใจทุกครั้งที่ได้เห็นพระองค์ท่านทรงฉลองพระองค์ด้วยเครื่องแบบทหารเรือ ที่ก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะได้เห็นบ่อยครั้งนัก ซึ่งผมเองก็เชื่อว่าประชาชนผู้จงรักภักดี และมีความรักในพระองค์ท่านจะต้องปลื้มปีติไปกับความงามสง่าของพระองค์ท่านด้วยเช่นกัน

         อย่างไรก็ตาม เครื่องแบบหรือฉลองพระองค์นั้นก็เป็นเพียงสิ่งภายนอกที่เราอาจชื่นชมด้วยสายตา

แต่สิ่งที่เราได้เห็นจากพระราชรณียกิจของพระองค์ท่าน ก็คือสิ่งที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนของพระองค์อย่างแท้จริง ทั้งการกระทำเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ผ่านโครงการพระราชดำริ และพระจริยวัตรของพระองค์ท่านที่เราสามารถน้อมนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี

 สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นสิ่งที่ผู้ที่มองเห็นในความดีของพระองค์ สามารถรับรู้และซาบซึ้งได้ด้วยใจ

—————————————–

ที่มา : บันทึกไม่ประจำวันของเจ้าชายน้อย

ขอขอบคุณภาพบางส่วนจากเว็บ Sanook News  และ สารคดีกองทัพเรือ

สำนักข่าวเจ้าพระยา




Create Date : 25 มิถุนายน 2558
Last Update : 25 มิถุนายน 2558 20:53:50 น. 0 comments
Counter : 14735 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.