ในหลวงทรงลดปัญหาไม่สมดุลในประเทศ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีบทบาทแก้/ลดปัญหาไม่สมดุลประเทศผ่านโครงการพระราชดำริ หลังประเทศเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง จนเกิดปัญหาขาดสมดุลใน 4 มิติ เรียกร้องคนไทยต่อยอดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้แสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการเพิ่มความสมดุลในการพัฒนา ที่สถาบันศศินทร์ จุฬาฯ ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยได้มีการปรับโครงสร้างในการผลิตโดยมีความเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น อีกทั้งมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงและต่อเนื่อง ลดการพึ่งพาภาคเกษตรกรรม ซึ่งในช่วง 63 ปี คือระหว่าง พ.ศ. 2489 2552 ประเทศไทยมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจาก 17 ล้านคนมาเป็น 63 ล้านคน หรือ 3 เท่าตัว ในส่วนของผลิตภัณฑ์หรือจีดีพีก็เพิ่มขึ้น 32 เท่า รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น 10 เท่า ซึ่งมองแง่ความสำเร็จที่เป็นตัวเลขรวมก็ได้ ส่วนตัวเลขประชากรภายใต้เส้นความยากจนระหว่างปี 2529 มี 24 ล้านคน พอถึงปี 2550 ลดเหลือ 5 ล้านคน หรือร้อยละ 9 แต่ภายใต้ความสำเร็จก็มีความไม่สมดุลในหลายมิติ ซึ่งมี 4 เรื่องหลักๆ คือ ความไม่สมดุลด้านการกระจายรายได้ซึ่งมีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ความไม่สมดุลในการใช้และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ดินแหล่งน้ำ ป่าไม้ร่อยหรอ เสื่อมโทรม ความไม่สมดุลของการพัฒนาการเมืองและชนบท คือ เมืองหลวงที่ขยายตัวสูง ขณะที่ชนบทมีความเหลื่อมล้ำด้านเมืองมากขึ้น ปัญหาค่านิยมและศีลธรรมที่เสื่อมลงเพราะการดำเนินชีวิตที่แข่งขันสูง ปัญหาหนี้สิน การคอร์รัปชั่น สิ่งเหล่านี้ควรวิเคราะห์ว่าเป็นความสำเร็จหรือไม่ ดร.จิรายุ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ในฐานะเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ได้พระราชทานคำปรึกษาทรงให้การสนับสนุน ซึ่งช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาทรงมีบทบาทมากในเรื่องของการตักเตือน ให้คำปรึกษาที่เป็นแนวทางการเพิ่มความสมดุลในการพัฒนาประเทศ ซึ่งพระองค์ได้ทรงเตือนล่วงหน้าถึงความไม่สมดุลผ่านทางพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสหลายโอกาส โดยเฉพาะเรื่องของปรัชญาพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงเปรียบเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐานของความมั่นคงของแผ่นดิน เปรียบเสมือนเสาเข็มที่ถูกตอกรองรับบ้านเรือนตัวอาคารไว้นั้นเอง สิ่งก่อสร้างจะมั่นคงได้ก็อยู่ที่เสาเข็ม แต่ส่วนมากมองไม่เห็นเสาเข็มและลืมเสาเข็มด้วยซ้ำไป ทั้งนี้ โครงการพระราชดำริต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นมีเป้าหมายสำคัญคือ แก้ปัญหาให้แก่คนส่วนใหญ่ของประเทศ แก้วิกฤตของคนในพื้นที แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น ศูนย์การพัฒนาเขาหินซ้อน โครงการแก้มลิง ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง โครงการฝายชะลอน้ำ โครงการปลูกหญ้าแฝก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีบทบาทเพิ่มความสมดุลและแก้ปัญหาของประเทศไทยนั้น ทางสหประชาชาติระบุว่าเพราะทรงเป็นนักวิทยาศาสตร์ ทรงเป็นนักปรัชญา ทรงเป็นนักเผยแพร่แนวคิด ทรงเป็นนักปฏิบัติและทรงเป็นผู้นำ แม้ภายใต้ความสำเร็จของประเทศแต่ก็มีความไม่สมดุลซึ่งทุกคนต้องยอมรับ แต่พระองค์ได้พยายามลดความไม่สมดุลซึ่งปัญหาเพิ่มมากขึ้นหากไม่ทรงเตือน และเริ่มโครงการพระราชดำริ ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าจะมีแนวโน้มมากขึ้น เช่น ปัญหาโลกร้อน ปัญหาพลังงาน จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา และสานต่อโครงการของพระองค์ เช่น โครงการปิดทองหลังพระ ต่อยอดปรัชญาและแนวทางพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
.. ที่มา ; บทความจากสำนักงานโครงการที่หลบภัยสึนามิ และศูนย์เรียนรู้ภัยธรรมชาติเฉลิมพระเกียรติ มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม www.tndl.org (๘ เมษายน ๒๕๕๖) //th.tndl.org/en/news/080413t.html //www.chaoprayanews.com/2014/11/10/%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%a5%e0%b8%94%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%94/
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2557 1:56:02 น. |
|
0 comments
|
Counter : 6057 Pageviews. |
|
|