พระมหากษัตริย์ผู้ทรงงานหนักเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนมากที่สุดในโลก
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ดร.สุทิน ลี้ปิยะชาติ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่า 69 ปี นับตั้งแต่ที่ได้ทรงขึ้นครองสิริราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของพสกนิกรทุกหมู่เหล่าให้ดีขึ้นในทุกด้าน ดังจะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจ พระราชจริยวัตรและพระเมตตาที่ได้ประจักษ์แจ้งแก่สายตาพวกเรา ผ่านสื่อต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่นี้ ได้ก่อให้เกิดคุณูปการอเนกอนันต์แก่ประชาชน และประเทศชาติโดยรวมและเกิดประโยชน์สุขแก่พสกนิกรชาวไทยมากมายเกินกว่าจะคณานับได้ พระราชกรณียกิจ พระราชจริยวัตร พระเมตตาและกระแสน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มีต่อแผ่นดินต่อประชาชนมากมายเกินกว่าจะคณานับได้นี้ โดยทรงส่งเสริมให้ทุกคนในสังคมใช้กำลังความสามารถและสติปัญญา ด้วยความสุจริตและบริสุทธิ์ใจ เพื่อความมั่นคงผาสุกของบ้านเมืองเป็นเป้าหมายสูงสุด ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิพระชนมพรรษา ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2547 ความตอนหนึ่งว่า
เวลานี้เราทุกคนมีภาระสำคัญรออยู่ที่จะต้องร่วมมือกันเสริมสร้างความเป็นปรกติเรียบร้อยให้แก่บ้านเมือง เพื่อให้ประชาราษฎร์ชาติภูมิมีความผาสุกสงบ ภาระทั้งนี้มิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดโดยเฉพาะ หากเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของทุกฝ่ายทุกคนที่จะต้องร่วมกันคิด ร่วมกันทำให้พรักพร้อม และสอดคล้องเกื้อกูลกัน โดยมีจุดมุ่งหมายและอุดมคติร่วมกัน ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอให้ท่านทั้งหลายในมหาสมาคมนี้ ตลอดจนประชาชนทุกหมู่เหล่า ทำความคิดจิตใจให้หนักแน่นแน่วแน่และเที่ยงตรงเสมอเหมือนกัน ที่จะร่วมมือร่วมคิดกันให้เต็มกำลังความสามารถและสติปัญญา ด้วยความสุจริตบริสุทธิ์ใจ และด้วยความสามัคคี ปรองดอง โดยยึดเอาประโยชน์ยั่งยืนยิ่งใหญ่ คือความมั่นคงผาสุกของบ้านเมืองเป็นเป้าหมายสูงสุด
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตราธิราชเจ้า ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ทรงมีพระราชอัธยาศัย และพระราชจริยวัตรอันงดงาม มั่นคงในทศพิธราชธรรมตลอดระยะเวลาแห่งการครองสิริราชสมบัติ ทรงมีพระราชหฤทัยเอื้ออาทรห่วงใยผูกพันอย่างลึกซึ้งกับพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ทรงถือว่าทุกข์สุขของราษฎรประดุจดังทุกข์สุขของพระองค์เอง ทรงคิดค้นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรให้พ้นจากสภาพความฝืดเคืองไปสู่ความพออยู่ พอกิน สมดังพระราชปณิธานที่พระราชทานเป็นพระปฐมบรมราชโองการ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ความว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม จากพระปฐมบรมราชโองการดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงพระราชปณิธานตั้งมั่นที่จะทรงอุทิศพระวรกาย พระราชหฤทัย และหยาดพระเสโทบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขทั่วทั้งแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศส่วนไหน ไม่ว่าจะเป็นดินแดนทุรกันดารเพียงใด ล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐของปวงชนชาวไทย ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร และทรงเยี่ยมราษฎรมาแล้วเกือบทั้งนั้น ทรงบุกป่าฝ่าดง ทรงขึ้นเขาลงห้วย ก็ล้วนแต่ทรงปฏิบัติมาแล้วทั้งสิ้นเช่นกัน การที่ทรงปฏิบัติพระองค์ได้เช่นนี้ โดยไม่ต้องมีกฎหมายหรืออำนาจใดบังคับ ก็ด้วยเหตุที่ทรงรัก ทรงห่วงใย ทรงมีพระมหากรุณาต่อราษฎรทั้งแผ่นดิน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ชนบทห่างไกล เพื่อที่จะพระราชทานแนวทางขจัดหรือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรของพระองค์อย่างสม่ำเสมอ นับตั้งแต่เสด็จเถลิงถวัลยสิริราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริให้มีโครงการที่เอื้ออำนวยประโยชน์สุขแก่ประชาชนมากมายบางโครงการได้พระราชทานแนวพระราชดำริผ่านรัฐบาล ผ่านหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง และบางโครงการก็ทรงสัมผัสด้วยพระองค์เอง ซึ่งก็คือ โครงการหลวง โครงการส่วนพระองค์ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีมากกว่า 4,000 โครงการ ด้วยทรงห่วงใยพวกเราเหล่าพสกนิกรทั้งในชนบท ในถิ่นทุรกันดาร และในกรุงเทพมหานคร แนวพระราชดำริที่เป็นรูปธรรมปรากฏชัดเจน มากมาย ได้แก่ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทฤษฎีใหม่ หญ้าแฝก กังหันน้ำชัยพัฒนา การแก้ไขปัญหาจราจร การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โครงการแก้มลิง และการจัดตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้น 6 แห่งทุกภาคทั่วประเทศ ที่เขาหินซ้อน จังหวัดฉะเชิงเทรา อ่าวคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี ห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี ห้วยฮ่องไคร้ จังหวัดเชียงใหม่ ภูพาน จังหวัดสกลนคร และพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส เป็นต้น จากการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงให้เห็นถึงพระขัตติยมานะ พระวิริยอุตสาหะ พระปรีชาสามารถอันสูงเลิศด้วยพระเมตตาคุณ พระบารมีปกเกล้าที่แผ่ไพศาลเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้แก่ราษฎรนั้น เป็นที่ประจักษ์ชัดและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนักว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงตรากตรำพระวรกาย ทรงงานเพื่อประชาชนมากที่สุดในโลก ด้วยพระเมตตาและไม่ทรงมีพระราชประสงค์สิ่งใดเป็นการตอบแทน นอกจากพระราชประสงค์ที่จะได้เห็นราษฎรในชาติพออยู่ พอกิน มีความร่มเย็นเป็นสุข สามัคคี รักใคร่ ปรองดองกัน พระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่งดงามนี้ ได้แผ่ไพศาลไปไม่เฉพาะสู่ประชาชนชาวไทยเท่านั้น แม้แต่ในระดับสากล ชาวโลกจากทุกประเทศทั่วโลกก็ได้รับรู้และแซ่ซ้องสรรเสริญ ดังเช่นเมื่อปี 2549 ดังที่นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวสดุดีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไว้ความตอนหนึ่งว่า
พระองค์ทรงเอื้อมพระหัตถ์เอื้อไปยังบรรดาผู้ที่ยากจนที่สุด และเปราะบางที่สุดในสังคมไทย ทรงรับฟังปัญหาของพวกเขาเหล่านั้น และให้ความช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นให้สามารถยืนหยัดดำรงชีวิตของตนเองต่อไปได้ด้วยกำลังของตัวเอง
โครงการเพื่อการพัฒนาชนบทต่างๆ ของพระองค์ยังประโยชน์ให้กับประชาชนนับเป็นล้าน ๆ คนทั่วทั้งสังคมไทย
พระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นที่ประจักษ์ ทำให้สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ต่างทราบและถวายการยกย่องเทิดพระเกียรติพระองค์ว่า ในบรรดาพระมหากษัตริย์ที่มีอยู่ในโลกปัจจุบันนี้ ไม่มีพระองค์ใดทรงงานหนัก เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนเท่ากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกแล้ว ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ ในวโรกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม ในปี 2558 นี้ จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกคนมาร่วมกันถวายสัจจะ ทำความดี รู้รักสามัคคีและมีสติในการกระทำ เสียสละเพื่อส่วนรวม ให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น เป็นการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้ ข้าพระพุทธเจ้าในนามหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชวโรกาสตั้งสัตยาธิษฐาน ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยพระสยามเทวาธิราช เทวามหาฤทธิ์ปกปักษ์รักษาพระราชอาณาจักร พระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์เป็นที่ตั้ง ดลบันดาลประทานพระพรชัยมงคลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยที่แข็งแรง พระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาล เป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าของพสกนิกรชาวไทยตลอดจิรกาลเทอญ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
.. ที่มา : สยามรัฐ สำนักข่าวเจ้าพระยา
Create Date : 05 ธันวาคม 2558 |
Last Update : 5 ธันวาคม 2558 1:36:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3597 Pageviews. |
|
|