แผนที่ของในหลวง
ขอหยิบมาเป็นบางช่วงตอนของพันเอกอมร บุศย์ประยูร จากสำนักพระราชวังที่ก่อนหน้านี้ท่านเคยอยู่กรมแผนที่และได้ถวายงานมาอย่างต่อเนื่อง เล่าว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระคุณอันประเสริฐต่อชาติบ้านเมืองอย่างหาที่เปรียบมิได้ ทรงทำทุกอย่างเพื่อที่จะปลดเปลื้องทุกข์ให้พ้นไปจากราษฎรของพระองค์ ทรงมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างทรงทุ่มเทตรากตรำ เพื่อยังประโยชน์สุขให้เกิดแก่ปวงชน นำความร่มเย็นมั่นคงเจริญงอกงามแก่ชาติบ้านเมือง น้ำท่วม เป็นที่ประจักษ์ว่า ทรงห่วงใยและพระราชทานความช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะอุทกภัย ทรงแก้ปัญหา แม้กระทั่งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เพื่อขจัดปัดเป่าความเดือดร้อน ตัวอย่างที่จังหวัดชุมพร จังหวัดเพชรบุรี กระทั่งน้ำท่วมอำเภอหัวหิน เพราะน้ำไม่อาจไหลลงทะเลได้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ทำทางระบายน้ำผ่านพระราชวังไกลกังวล เพื่อให้น้ำไหลผ่านลงทะเล บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้ พันเอกอมร บรรยายว่า มีโอกาสทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น ทรงโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดแผนที่สร้างอ่างเขื่อนรัชชประภา(จ.สุราษฎร์ฯ) และเขื่อนคลองท่าด่านฯ (จ.นครนายก) หลายอย่าง ทรงดำเนินการด้วยพระองค์เอง เช่น ทรงวางระบบสันเขื่อน กระทั่งแก้ปัญหาดินเปรี้ยวก็ทรงทำด้วยพระองค์ แผนที่ที่ทำต้องผ่านพระหัตถ์พระองค์ท่าน อย่างปี 2538 น้ำท่วมหนักทรงทำแผนที่เพื่อแก้ปัญหาโดยทรงวางระบบระบายน้ำผ่านจุดไหนๆ แล้วยังทรงให้ทำแก้มลิงเพื่อช่วยอีกทางหนึ่ง ทรงแนะให้กรมชลประทานสร้างคลองรอบสนามบินสุวรรณภูมิ น้ำไม่ท่วม ซึ่งล้วนผ่านแผนที่ที่ทรงใช้ทั้งสิ้น อันนำไปสู่ประโยชน์สูงสุดแก่ชาวชุมชนและประชาชนส่วนรวม อันนับว่าเป็นพระปรีชาสามารถจากการที่ทรงศึกษาค้นคว้าจนทำให้ทรงรู้ภูมิประเทศอย่างดีที่สุด อย่างหลายพื้นที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ระบบอ่างเก็บน้ำเกื้อกูลกันเป็นอ่างพวง ทำให้สามารถมีน้ำมาเติมกันได้ ผลที่เกิด คือ ประโยชน์ของประชาชนในพื้นถิ่น และประโยชน์ส่วนรวมคือประเทศมีทรัพยากรน้ำสร้างความชุ่มชื้นฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่เกี่ยวโยงให้คงอยู่สืบไป สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทำเพื่อประโยชน์สุขของราษฎร จะทรงถามประชาชนก่อนเสมอ ว่า ดีมั้ย.. จะเอามั้ย.. เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมที่สำคัญทรงให้ประชาชนมีส่วนร่วมนี่คือหลักการประชาพิจารณ์ พันเอกอมรกล่าว งาน ตามรอยพระมหกษัตริย์นักพัฒนา น้ำพระทัยเพื่อปวงประชาด้วยเกษตรกรรม เน้นให้ตระหนักถึงหัวใจแห่งพระมหากรุณาธิคุณอันเกิดจากพระราชหฤทัยห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์ ซึ่งประจักษ์อยู่ในสำนึกของคนไทยทุกหมู่เหล่าด้วยพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะยังประโยชน์สุขแก่ปวงประชา ได้พระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ในการดำเนินชีวิต สำคัญที่สุด คือ พระราชทานหลักแห่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่เป็นตัวขับเคลื่อนสู่เป้าหมายสูงสุดของชีวิตและสังคม คือ ความสุข ความสงบร่มเย็นแห่งชีวิต หลักความพอเพียงตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางหลักคุณธรรมนำสู่การต้องปฏิบัติคือความมีเหตุมีผล มีความพอประมาณ แล้วก็มีภูมิคุ้มกันด้วยความรู้คู่คุณธรรม อันจะทำให้การดำรงชีวิตของผู้ปฏิบัติมีความมั่นคงยั่งยืนด้วยการไม่อดอยากขาดแคลน บนพื้นฐานความเป็นคนดีเพราะมีสำนึกความไม่โลภ มีความขยันหมั่นเพียร อดทน อดออม มีเมตตากรุณา มีความกตัญญูรู้คุณ เมื่อครอบครัวมีความมั่นคงบนวิถีพอเพียงแล้วมีความเกื้อกูลถ่ายทอดองค์ความรู้ขยายผลไปยังครอบครัวอื่นชุมชนอื่นต่อไป เฉพาะอย่างยิ่งสู่เด็กเยาวชน หลักการนี้คณะผู้บริหารระดับกองต้องน้อมนำไปปฏิบัติด้วยก็จะเกิดประโยชน์สนองพระราชปณิธาน ถือว่าเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณทำงานถวายต่างพระเนตรพระกรรณเพื่อนำประโยชน์สุขสู่ปวงประชาต่อไป
. ที่มา : บางส่วนจากบทความของคุณเสกสรร สิทธาคม //www.chaoprayanews.com/2014/11/19/%e0%b9%81%e0%b8%9c%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%a5%e0%b8%a7%e0%b8%87/
Create Date : 20 พฤศจิกายน 2557 |
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2557 1:29:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3475 Pageviews. |
|
|