Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

เฉพาะแฟนชิงชัง (ตอนที่ 51 ใครไม่รักไม่รู้...รู้เพียงว่าทำเพราะรัก)


ละคร ชิงชัง
บทประพันธ์ จุฬามณี
บทโทรทัศน์ ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง สันต์ ศรีแก้วหล่อ
ออกอากาศ ททบ.5 (ตั้งแต่ 3 สิงหาคม-29 ตุลาคม 2552)
ผลิตโดย บริษัท Exact


ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดีระหว่าง "โศกนาฏกรรมน้ำตา" หรือว่า "โศกนาฏกรรมความรัก" แต่ไม่ว่าจะน้ำตาหรือความรัก มันก็มีจุดกำเนิดมาจากที่เดียวกันคือเรื่องของรัก โลภ โกรธ หลง แล้วรวมกันออกมาเป็นคำพูดที่สวยงาม "ความรัก" ดังที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ว่า "ความรักไม่ได้มีเพียงความหอมหวาน มันเจือปนไปด้วยความเจ็บปวดเสมอ"
ดั่งคำของพระพุทธองค์ที่ว่า "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"

แต่ถ้าพูดแบบนี้ เดี๋ยวหลายคนก็อาจจะกลัวไม่กล้ามีความรักกัน ก็อยากบอกว่า ความรักเป็นสิ่งดี สิ่งสวยงาม แต่ต้องรักให้เป็น เพื่อรักนั้นจะได้ไม่กลายเป็นทุกข์

วันนี้ขอพูดถึงนังอุ่นก่อน เพราะกำลังตกนรกทั้งเป็นกับการกระทำในอดีต ที่กำลังส่งผลมาถึง ณ เวลาปัจจุบัน ด้วยใจมันร้อนรุมดังไฟสุม ที่มันค่อย ๆ ลุกลามเผาไหม้กัดกร่อน ไม่ว่าจะลุก จะนั่ง จะยืน จะเดิน ไม่เป็นอันกินอันนอนเพราะเกรงความลับที่ปิดมาสิบกว่าปีจะถูกเปิดเผย แต่เมื่อถึงเวลาของมัน ไม่มีสิ่งไหนต้านทานได้ ไม่ว่านังอุ่นจะร้องไห้คร่ำครวญสารภาพผิดกับพระอินแค่ไหน เพราะไม่ต้องการให้ลูกต้องเจ็บปวด มารับผลกรรมที่ตนเป็นผู้ก่อ

แต่คำของพระอินที่ว่า "ไม่มีใครเลือกที่จะรับกรรมแทนใครได้ มันเป็นเรื่องของวิบากกรรม"

คำพูดของพระอินเปรียบเสมือนมีดที่กรีดลึกลงกลางใจของคนเป็นแม่อย่างนังอุ่นที่รักลูกยิ่งชีวิตนี่คือผลจากการกระทำในอดีตที่ส่งมาถึงปัจจุบัน จริงอยู่ไม่มีใครรู้ชะตาอนาคตข้างหน้าแต่หากเราไตร่ตรองถี่ถ้วนถึงผลของการกระทำที่จะส่งผลตามมาในวันข้างหน้าแล้วเหตุการณ์ในวันนี้ของนังอุ่นก็จะไม่เกิดขึ้น

คำพูดของนังอุ่นที่ว่า"ฉันไม่ผิด ฉันไม่ผิด!" ที่มันเคยย้ำเตือนตัวเองอยู่ตลอดทุกครั้งในการตัดสินใจจะทำอะไรสักครั้งละก็ มาครั้งนี้ หากพระยงชัยจะเป็นคนพูดบ้างว่า "ผมไม่ผิด ผมไม่ผิด"นังอุ่นจะรู้สึกยังไงบ้าง

พิมพ์มาดากับบทบาทที่ท้าทายการแสดงของเธอ ต้องบอกว่าในตอนนี้เธอคุมโทนของเรื่องเอาไว้ได้ทั้งหมด ไม่มีใครมาขโมยซีนได้เลย แม้จะมีความรักที่ระทมทุกข์ของแม่อิ่มมาสอดแทรกก็ตาม อาการร้อนรน กระวนกระวายที่ต้องปิดบังความชั่ว ความเลวของตนไว้นั้น ออกมาทางสีหน้าที่พยายามกลบเกลื่อนด้วยอาการกระฟัดกระเฟียด ขัดอกขัดใจกับบังอร แต่ขณะเดียวกัน ความทุกข์ใจมันออกมาทางแววตาอย่างชัดเจน ทุกข์เพราะรัก สงสารลูก ไม่อยากเห็นลูกเจ็บปวดเพราะความรักจากผลกรรมที่ตนเป็นผู้ก่อ แต่ไม่มีใครหนีผลกรรมพ้น ไม่ว่าจะเกิดมาสูงเสียดฟ้า หรือต่ำเพียงดิน
หากว่าเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ทุกคนมีกรรมต้องชดใช้ทั้งสิ้น

ดังเช่นที่ยงชัยกับก้อยกำลังเผชิญอยู่ นี่คือบทเรียนราคาแพงของคนทั้งคู่ โดยมีนังอุ่นเป็นผู้ร่างบทเรียนขึ้นมาให้คนทั้งสองอย่างตั้งใจ (เพราะว่านขวดนั้นไง) โดยที่เธอไม่ทันคิดว่าบทเรียนบทนี้ มันจะส่งผลให้คนที่เธอรักต้องมาชดใช้เมื่อยี่สิบปีให้หลัง คนที่น่าเห็นใจที่สุดไม่พ้นยงชัยกับก้อย แต่หากทั้งสองคนยอมหันหน้าเข้ารับฟังความจริง จริงตรงที่ว่าไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อรักได้ก็ทุกข์ได้ เมื่อทุกข์ได้ ก็หายได้ ชีวิตคนเราไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ทุกคนย่อมเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ (เอ๊ บอกใครหว่า?)

น้องเต้ย ผู้สวมบทบาทก้อย หญิงสาวผู้ถูกความรักทำร้ายจนบอบช้ำ เคยดูบทบาทการแสดงของเธอในอุบัติรักข้ามขอบฟ้า บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นเฉย ๆ มากกับการแสดงของเธอ เพราะดูเหมือนว่าจะไม่ต้องใช้พลังในการแสดงมากนัก นอกจากบทแสนงอน ง้อกันไปง้อกันมากับพระเอกของเรื่อง
แต่ก็ติดใจในน้ำเสียงและหน้าตาของเธอ มาเรื่องนี้แม้จะบทคล้าย ๆ กันคือเป็นวัยรุ่นสดใส แต่เมื่อต้องเจอปัญหารักต้องห้าม แววการแสดงกลับฉายแสงโดดเด่นขึ้นมาทันที อยากบอกว่าคนดูจะจดจำการแสดงของน้องเต้ย ในบทบาทของก้อยผู้อาภัพรักได้เป็นอย่างดี

แต่จะว่าไปแล้ว นักแสดงที่เล่นชิงชังทุกคนต่างทำหน้าที่ของตนได้อย่างดีเยี่ยม พระยงชัยที่ร้องไห้ราวกับสั่งน้ำตาได้นั้น พาคนดูสะเทือนใจในทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว ตอนที่ก้อยถอยหลังไปตกน้ำนั้น เหมือนย้ำให้รู้ว่าเส้นทางของทั้งสองถูกขีดให้เป็นเส้นขนานไปโดยปริยายแล้ว หลังรู้ความจริง
แม้แต่จะโดดน้ำลงไปช่วยให้หญิงสาวรอดชีวิต ยงชัยยังทำไม่ได้ มันเหมือนเป็นลางบอกเหตุให้เขารู้ว่า ความรักที่เขาตั้งความหวังไว้นั้นสิ้นสุดลง ณ ตรงจุดนี้

อ้อ ลืมบอกว่าชอบฉากที่กิ่งปลอบน้องบนเตียงมากเลย ดูแล้วทำให้รู้ว่าถึงก้อยจะบอบช้ำเพราะความรักต้องห้ามแต่เธอจะได้ความรักจากพี่สาวต่างแม่ทดแทนอย่างล้นเหลือ

สุดท้ายวันนี้ไม่พูดถึงเลยเห็นจะไม่ได้ แม่อิ่ม กับพี่ยอด ยี่สิบปีที่ต้องพลัดพรากจากกันสิ้นสุดลงเมื่อทุกอย่างกระจ่างชัด ผลจากการกระทำที่ผู้อื่นเป็นผู้ก่อให้กับคนทั้งสองนั้น สลายกลายเป็นผงธุลี เมื่อคนทั้งสองรับรู้ว่าความรักของเขาทั้งคู่ไม่ได้เหือดแห้งหายไปกับวันเวลาที่ผันผ่าน ยิ่งนานวัน ความรักยิ่งฝังตัวลึกอยู่ในความทรงจำ แม่อิ่มนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะหัวใจรักของเธอไม่เคยแปรเปลี่ยน ส่วนพี่ยอดนั้นเล่า แม้จะทำความทรงจำหายไป แต่ในเศษเสี้ยวที่เหลืออยู่ มันมีแม่อิ่มอยู่ในร่องรอยของทุกลมหายใจไม่ว่าจะหลับหรือตื่น ดังเช่นที่พี่ยอดบอกแม่อิ่มว่า "ตอนนั้นฉันคงรักแม่อิ่มมาก ฉันถึงได้ฝันถึงแต่แม่อิ่ม" แล้วคำตอบที่ไอ้ยอดอยากได้ยินมานานนั้นก็ออกจากปากของแม่อิ่ม "ใช่ ตอนนั้นพี่ยอดรักฉัน เหมือนที่ฉันรักพี่ยอด"

อยากบอกอีกครั้งว่าการจะบอกรักใครสักคน อย่ารอวันพรุ่งนี้ เพราะมันอาจสายเกินไป ความรักดี ๆ ยังมีอยู่ในโลกนี้จ้า ถ้าทุกคนจะรักให้เป็น


โมริสา

คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นหลังดูละครจบ
ใครจะเห็นอย่างข้าพเจ้าหรือไม่ ไม่ใช่ความผิดขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็ไม่ผิดเช่นกันที่จะมีความเห็นเช่นดังที่กล่าวมาแล้ว

โปรดใช้วิจารณญาณ
โดย: โมริสา IP: 125.24.1.63 28 ตุลาคม 2552 23:05:17 น.



ตอนที่ 51 รักต้องห้าม

ชอบตอนที่คุณชลาชล(พี่ยอด)ให้แม่อิ่มช่วยเล่าเรื่องแต่หนหลัง ว่าเคยรักกันมากแค่ไหนให้ฟัง แล้ว
...พอคุณชลถามว่า

"ฉันคงรักแม่อิ่มมากใช่มั้ย"

แม่อิ่ม "ใช่ รักมาก มากเท่าที่ฉันรักคุณ"

แล้วคุณชลก็ยิ้มทั้งน้ำตา แล้วก็ขอกอดแม่อิ่ม มันปลื้มจริงๆนะฉากนี้ (ในที่สุดไอ้ยอดก็ได้รู้ซักที ว่าแม่ยอดขมองอิ่ม รักมันมากเพียงใด)

ความรักจากใจจริงเท่านั้น ที่จะทำให้ได้รักที่จริงใจตอบกลับมา

แล้วก็มาถึงคิวคุณแม่สารภาพผิดกับหลวงพี่ หลวงพี่พูดได้จับใจดีจริง พูดให้คิด พูดดีๆ แค่นี้คนเป็นแม่ก็คงให้นึกเจ็บใจความเห็นแก่ได้ อิจฉา อยากเอาชนะ ของตนในอดีตเป็นแน่แท้ ว่านอกจากตัวเองจะไม่ได้อะไรกลับคืนมาแล้ว ยังเป็นเหตุทำให้คนที่รักยิ่งเจ็บช้ำน้ำใจอีกต่างหาก(อดีตตามหลอกหลอน ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะต้องชดใช้เวรกรรมแบบใด ตอนไหน แต่ซักวันเมื่อ เวรกรรตามทันแล้ว ใครทำอะไรไว้ เมื่อประสบเหตุแบบเดียวกันจะทั้งกับตน หรือคนที่ตนรักจึงจะรู้แจ้งแก่ตัวเอง) ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากรู้จังว่าอุ่นจะทำแบบนี้มั้ย

น้องก้อยน่าสงสาร ใจนึงก็ดีใจที่พ่อรู้อดีต แต่อดีตของพ่อก็ได้ทำร้ายเธออย่างไม่น่าเชื่อ คนเป็นพ่อถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ คงแทบไม่อยากรื้อฟื้นอดีตตัวเอง ลูกเจ็บ พ่อแม่เจ็บยิ่งกว่าหลายเท่า ยังใช้ได้กับทั้งกรณี คุณชล-หนูก้อย และอุ่น-พระยงชัย และเพื่อช่วยเสริมความจริงที่ว่านี้ให้เห็นชัดขึ้นไปอีก โดยคำพูดของแม่อิ่มที่ว่า "ทีเอ็งยังรักลูกเอ็ง เค้าเป็นพ่อก็ต้องรักลูกเค้า ไม่อยากเห็นลูกเค้าเสียใจเป็นธรรมดา"

และคุณน้ามหาภัยบังอร " พี่อุ่น ทำไมพี่จะต้องทำให้มากเรื่องด้วย แค่ลูกพี่ลูกน้องไม่เห็นเป็นไรเลย เด็กมันรักกัน พี่จะขัดขวางมันทำไม พี่จำไม่ได้เหรอ คราวพี่ยังจะผูกคอตายที่ไม่สมหวังกับพี่ยอดเลย นี่หนูก้อยก็มากระโดดน้ำ ถ้าพระเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ฉันกลัวว่าพระจะทำอะไรลงไป แล้วคนที่จะเสียใจที่สุดคือพี่นะ" (ชอบเธอมากมายเลยตอนนี้ บังอรนี่ทำให้คำพูดที่ว่า "คำพูดเป็นนายตัวเอง" ชัดเจนเขึ้นมาเลย เธอจะพูดให้ดีก็ได้ ให้ร้ายก็ได้ ไม่ว่าจะพูดเอาประโยชน์ใส่ตัว คนอื่นจะเจอเรื่องเลวร้ายอะไรช่างมัน ไม่สน หรือพูดแรงๆให้คิดได้ ดังประโยคข้างต้น ติดที่ว่าความอิจฉาทำให้ต้องมีชีวิตที่ผิดพลาด แต่ก็ยังกลับตัวทัน จะอะไรก็แล้วแต่ เธอทำให้เห็นว่า ตัวบังอรนั้น นอกจากรักแม่มากแล้ว ยังรักและหวังดีกับพี่น้องและหลานมากอีกด้วย เพียงแต่การแสดงออกมันชวนหมั่นไส้มากกว่าเคารพ)

ท้ายที่สุดและแม่อิ่มกับบังอรในตอนนี้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร เธอก็พร้อมที่จะฟังอย่างเข้าใจ และพร้อมที่จะช่วยอุ่นแก้ปัญหานี้ให้ผ่านไปให้ได้ เพื่อคนที่พวกเธอรัก คือพระยงชัย หากแต่ว่าปัญหานี้ คนที่เป็นผู้ก่อมันขึ้นมาต่างหาก จะต้องเป็นผู้ที่สะสางปมนี้ด้วยตัวเอง แล้วที่สุดก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามวิบากแห่งกรรม ท้ายนี้คุณชลคงจะคาดไม่ถึงเหมือนกันที่ได้มารู้ความจริง จะเป็นยังไงต่อไป อย่าพลาดคืนนี้นะคะ ตอนสุดท้ายแล้ว

ขอบคุณที่ติดตามอ่านคะ

ณัฐเอง








"ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรดีระหว่าง "โศกนาฏกรรมน้ำตา" หรือว่า "โศกนาฏกรรมความรัก" "

คุณลีว่าตั้งคำถามไว้..

ผมคิดว่า ชิงชัง มันคือ "โศกนาฏกรรมหมู่"

นั่งดูตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันพุธ ไม่มีตัวละครตัวไหนไม่ร้องไห้...ร้องกันหมด ..ร้องจนอดสงสัยไม่ได้ว่า ..ในกองถ่ายช่วงหลัง ๆ นี้ ..แบบห้ามมีคนพูดเล่นพูดล้อกันด้วยหรือเปล่า..แบบ ต้องเศร้าบริ้วววววววววว อารมณ์นักแสดงกันทั้งกอง.......(คิดไปได้เนอะ)...

คำว่า โศกนาฏกรรมหมู่ นี้ ก็พลอย ทำให้ผมนึกถึง หนังสือเล่มบาง ๆ ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เล่มหนึ่งที่ผมอ่านเมื่อก่อนเขียนชิงชัง..

ทายสิเล่มไหน.....

แท่นแท้น..

(มีใครด่าผมอยู่ในใจเปล่าเนี่ย 5555555555+)

ทายก่อนซี้..

(แบบไม่อยากให้เครียดกันอะนะ)

เรื่องนั้นมีชื่อว่า "หลายชีวิต" มันเป็นที่สุดของชีวิตคนอันหลากหลายที่มาที่มาตายพร้อมกันด้วยเหตุเรือล่ม..

ตรงนั้นก็น่าจะมาเป็นแรงบันดาลใจหนึ่งให้ผมเขียน "ชิงชัง" งานที่เต็มไปด้วยเรื่องที่คาดไม่ถึง...

และอีกเเรงบันดาลใจหนึ่ง ซึ่งผมถูกถาม ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ..ว่า น้อง ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน..

ผมตอบตรงนั้นไปว่า เรียนอยู่ราม เห็นคลองแสนแสบทีไรก็นึกถึงขวัญเรียม..ตอนที่เขียนชิงชัง ก็แบบอยากให้คนผ่านนครสวรรค์ นึกถึงตัวละครที่มีชื่อสั้น ๆ แบบนั้นบ้าง ..ยอด อิ่ม อุ่น อิน ยิ่ง ปิง จึงถือกำเนิดขึ้นมา...

สรุปว่าตอนนี้ชิงชังติดลมบนไปแล้วววววววววววว ...
และเรื่องที่น่าหนักใจของคนทำงานแบบนี้ นั่นก็คือ นักอ่าน หรือคอละคร เกิดอาการคาดหวัง หวังว่า เรื่องหน้า น่าจะทำได้เร้าใจเท่านี้

..แรงกดดันมาแล้ววววววววววววว......

แต่ผมเองก็ยังมีมุมสนุกสนาน..มุมรักรักหวาน ๆ ที่สมหวัง ..

อย่างไรก็ฝากผลงานในนามปากกาอื่นไว้ด้วยนะครับ..แต่ไม่หนักเท่าชิงชังแต่ว่าก็มีมิติล้ำลึกแฝงอยู่ด้วยตามสไตล์

มี "เฟื่องนคร" กับ "ชอนตะวัน"

ถ้าจะเรียงกันคล้องจองเสนาะหูก็..

จุฬามณี-เฟื่องนคร-ชอนตะวัน

ฝากทั้งสามนามปากกานี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ...




“คนเรือที่ช่วยฉันมาบอกว่า เจอฉันลอยน้ำกับกอสวะ เขาช่วยฉันมาจากน้ำน้ำไกลจากที่นี่ไม่เท่าไหร่”

“เมื่อ20 ปีก่อนโยมยอดก็ถูกทำร้ายจนตกน้ำไปเหมือนกัน โยมยอดหายสาบสูญไป จนคนคิดว่าโยมยอดตายไปแล้ว”

“20 ปีก่อนเรื่องฉันก็เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อนขอรับ”

“แล้วนี่ โยมจำอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ รึ”

“ฉันถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัส จนความจำเสื่อ จำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ชื่อของตัวเอง จำได้แต่เพียง ฉันต้องถือศีลห้า”

“ศีลห้ารึ!” (พระอินตกใจ น้ำตาคลอ เหม่อหมองผนัง ความหลังครั้งเก่าก็หวนกลับมา)

“โยมยอดเอง ก็เคยสาบานตนต่อหน้าพระประธานองค์นี้ว่าจะรักษาศีลห้าไปจนตัวตาย..”

“ท่านช่วยเล่าเรื่องของคนชื่อยอดให้ผมฟังหน่อยได้ไหมขอรับ ฉันมีความรู้สึกว่า ฉันอาจจะเป็นเขา..”

“โยมยอดกับอาตมาเป็นเพื่อนรักกันแต่เด็ก แต่ต่อมาผิดใจกันเพราะเรื่องผู้หญิง เราสองคนต่างแก่งแย่งช่วงชิงผู้หญิงที่เรารัก แต่สุดท้ายแล้ว โยมยอดเป็นฝ่ายชนะได้ ได้ผู้หญิงไปครอง เพราะใช้เสน่ห์ยาแฝด (ชลาชลตกใจอยู่ไม่น้อย).......อาตมาในตอนนั้น คุ้มแค้นและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วงชิงคนรักกลับคืนมา อาตมายอมกระทำผิด แม้กระทั่ง(นิ่งคิดอยู่นาน) เอาชีวิตผู้อื่น….ในตอนนั้นความรักทำให้คนสองคนตาบอดสนิท ทั้งโยมยอดและทั้งอาตมาเอง”

“ผู้หญิงคนนั้นคือใคร คือแม่อิ่มใช่หรือเปล่าขอรับ..ถ้าอย่างนั้นต้องใช่แน่ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ฉันฝันเห็นหน้าแม่อิ่มมาตลอดจะเป็นอื่นไปไม่ได้ ฉันคือคนที่ท่านพูดถึง ฉันคือไอ้ยอดแน่ ๆ”

“มีเพียงทางเดียวที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ได้ ถ้าโยมเป็นยอดจริง ๆ โยมมีบาดแผลตามลำตัวหรือไม่”

“มีขอรับ”

“ตรงไหนรึ”
(ยอดเปิดเสื้อให้ดูด้านหลัง หลวงพี่อึ้งไปเลยยยยยยยยยยยยยยยยย)

“ไม่น่าเชื่อ ไม่น่าเชื่อจริง ๆ”

“แผลนี่ติดตัวฉันมาตั้งแต่ตอนนั้น ที่ฉันถูกทำร้าย...”

“โยมถูกยิง บาดแผลนี้ เกิดจากการถูกยิงด้านหลัง ส่วนที่สมองโยมกระทบกระเทือนจนความจำเสื่อม น่าจะถูกจากไม้ตีศีรษะอย่างแรง...”

“ท่าน ทำไมท่านรู้!!...”

“ก็เพราะอาตมาเป็นคนทำร้ายโยมเอง”…. (สุดยอดของการแสดงของทั้งคู่)

“ในตอนนั้น อาตมาได้คิดว่าโยมได้ตายไปแล้ว ต่อมาสำนึกผิดอาตมาจึงตัดสินใจบวชตลอดชีวิตเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่โยม ...ในวันนี้ เราได้มีโอกาสพบกัน นับเป็นโชค สิ่งใด ๆ ที่อาตมาเคยทำผิดแก่โยม อาตมาขออโหสิกรรม...”

“ฉันขออโหสิกรรมให้ท่าน สิ้นเวร สิ้นกรรม แต่เพียงเท่านี้เถอะนะขอรับ”



“ช่วยเล่าให้ฉันฟังเถอะนะว่าเราเคยรักกันมาอย่างไร”

“เรื่องราวระหว่างคุณกับฉัน มันเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน มีทั้งเรื่องดี เรื่องร้าย ฉันไม่รู้จะเล่าอย่างไง”

“งั้นก็เริ่มเล่าตั้งแต่ วันแรกที่เรารู้จักกัน”

“เราทั้งสามคน ฉัน คุณ และหลวงพี่อิน เรารู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก เราสามคนโตมาด้วยกัน คุณชอบต่อยตี ตีรันฟันแทง พ่อของฉันไม่ชอบคุณ เลยจะยกฉันให้หลวงพี่อิน ตอนนั้นคุณเสียใจมาก...คุณเลยทำเสน่ห์ยาแฝดใส่ฉัน และฉันหนีตามคุณไป”

“ฉันขอโทษนะ ตอนนั้นแม่อิ่มคงจะเสียใจมาก”

“ตอนนั้น ฉันทั้งโกรธ ทั้งเสียใจมาก ...แต่คุณก็พยายามทำดีทุกอย่าง ทำตัวจนฉันรู้ว่าคุณรักฉันด้วยความจริงใจ แต่ยิ่งคุณทำดีมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนมีมารมาผจญมากขึ้นเท่านั้น ตอนนั้น คุณถูกหลวงพี่อินทำร้ายตกน้ำไป ฉันคิดว่าคุณ ได้ตายจากฉันไปแล้ว และทุกคน ก็คิดว่าคุณได้ตายจากไปแล้ว”
“ถึงฉันจะลืมเรื่องราวในอดีตทุกอย่าง แต่มีอยู่สิ่งหนึ่ง ที่ฉันไม่เคยลืม คือคำสาบาน ที่ฉันได้ให้ไว้กับแม่อิ่มต่อหน้าพระ และใบหน้าของแม่อิ่มในความฝัน ในตอนนั้น ฉันคงต้องรักแม่อิ่มมากใช่ไหม...”

“ใช่ คุณฉันรักฉันมาก เท่ากับที่ฉันรักคุณ..”

“แม่อิ่ม”

“พี่ยอด”

“ขอให้ฉันได้กอดแม่อิ่มสักครั้งได้ไหม”

เพลง...‘ความรักทำให้คนสุขสม ความรักทำให้คนหลั่งน้ำตาฯ




“ในเมื่อโยมมาแล้วทำไมไม่เข้ามาซะล่ะ”

“หลวงพี่เจ้าคะ..ฉันมีเรื่องจะสารภาพ”

“ เรื่องอะไรรึ"

" เรื่อง เรื่องยงชัย ยงชัยเป็นลูกของพี่ยอดเจ้าค่ะ”

“โยมว่าอย่างไรนะ”

“เป็นเรื่องจริงเจ้าค่ะ ฉันท้องกับพี่ยอด ไม่ใช่ไอ้ยิ่ง..”

“แล้วนี่โยมอิ่มรู้หรือเปล่า”

“ไม่มีใครรู้เลยค่ะหลวงพี่ ที่ยงชัยเกิดมาเป็นเพราะว่าฉันวางยาพี่ยอด พี่ยอดเขาไม่รู้ตัว ในตอนนั้น ฉันแค่ต้องการเอาชนะพี่อิ่ม..ตอนที่ฉันรู้ว่าฉันท้อง ฉันได้ข่าวว่าพี่ยอดเขาตายแล้ว ฉันก็เลยไม่อยากทำร้ายน้ำใจพี่อิ่ม แล้วฉันไม่อยากให้ลูกฉันรู้ว่าฉันเคยทำชั่วช้ามาแค่ไหน ฉันก็เลยไม่ได้บอกใคร ทุกคนก็เลยเข้าใจว่า พระยงชัยคือลูกของไอ้ยิ่ง หลวงพี่เจ้าค่ะ แต่ว่า ตอนนี้พระยงชัยกับหนูก้อยมารักกัน อิฉันฉันจะยอมให้พี่น้องสายเลือดเดียวกันมารักกันไม่ได้ ฉันยอมไม่ได้..หลวงพี่ช่วยฉันด้วยนะเจ้าค่ะ”

“ที่แท้พระยงชัยเป็นลูกของโยมกับโยมยอด...ที่หลวงลุงทำนายเอาไว้ ที่พลัดพรากจะได้พบ ที่ได้พบต้องพลัดพรากมันหมายความอย่างนี้นี่เอง”

“ถ้าอิฉันบอกความจริงกับพระยงชัย พระจะต้องเสียใจเป็นที่สุด..อิฉันจะทำอย่างไรดีหลวงพี่ อิฉันจะทำอย่างไรดี”

“โยมสิ่งใดจะเกิด มันก็ต้องเกิด มันเป็นวิบากกรรมของเขาทั้งคู่ โยมทำอะไรไม่ได้หรอก”

“แต่พระยงชัยไม่ได้ผิดอะไร อิฉันเป็นคนผิดเอง ..อิฉันได้พี่ยอดมาด้วยวิธีสกปรก..แต่ลูก แต่ลูกที่เกิดมาเป็นผู้บริสุทธิ์นะคะ ทำไมลูกต้องมารับกรรมแทนอิฉันด้วย ทำไม ทำไม”

“โยม คนเราน่ะ เลือกไม่ได้หรอกว่าอยากใช้กรรมด้วยวิธีใด...โยมเคยพรากคู่เขามา คนที่ถูกพราก เขาย่อมเจ็บปวดทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพียงใด ต่อเมื่อมันเกิดกับคนที่โยมรัก เมื่อนั้นแหละโยมจะรู้ซึ้งแก่ใจ..”

อุ่นนังร้องไห้หันหลังให้พระ ..แล้วเพลง..ผิดเพราะรักก็ขึ้นมา..".ผิดถูกที่ฉันทำทำลงไป สายตาใครอย่างไง ฉันไม่มองไม่เห็นไม่รับรู้อะไรรรรรรรรรรรร รู้เพียงว่าทำเพราะรัก..ทำเพราะเธอที่รักก็พอ...เธอคือรักแท้ คือใจดวงดวงที่รอ ไม่อาจยอมเสียเธอไป.."

ครับ...ผมคงไม่ต้องบรรยายหรอกว่า ฉากเหล่านี้ขยี้อารมณ์และหัวใจคนดูขนาดไหน.เนอะ..ส่วนนักแสดง ถ้าผมเป็นกรรมการ ไม่รู้จะกดคะแนนให้ใครก่อนเลยจริง ๆ //ทุก ๆ คนมีมิติ สวมบทบาทจนเราเชื่อว่า เขาคือ ตัวละครตัวนั้นจริง ๆ //คือตัวละครที่ผ่านกาลเวลา ผ่านสุข ผ่านทุกข์ มาแล้ว พวกเขาแสดงออกมาได้ตามนั้นจริง ๆ...

และถ้าถ้าถ้า...ยอดกับอิ่มจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตอนจบ อย่างที่หลาย ๆ คนเคยอยากให้อยู่..ก็น่าจะเข้าใจ น่าจะบรรลุแล้วใช่ไหมว่า วัย ประมาณนี้ อะไรคือเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต...





สุดยอดของนักแสดงอีกคน...ซีนนี้ผมชอบมาก ๆ เลยครับ น้ำตาไหลมาเป็นทาง และแป้งเองก็มีน้ำตาไหล ๆ ออกมาแบบนี้ได้หลายฉาก..สุดยอดจริง ๆ....



จุดจบของอารีย์ จบได้สวย สมหวัง มีสามี มีลูก...
บังอรนั้นก็คงเป็นม่ายอยู่อย่างนั้น..
แต่อิ่มกับอุ่นนี่สิ คืนนี้คงต้องลุ้นกันต่อไป...

ที่ผมคัดดบทสนทนาของตัวละคร ออกมาวาง ส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ดูละครเรื่องไหนแล้วประทับใจ ผมจะหาหนังสือมาอ่าน อย่างในอดีต ผมชอบเรื่อง ญาติกา มาก ๆ ผมก็หาอ่านวรรคที่ผมชอบอยู่แค่ประโยคเดียวนั่นแหละมาอ่าน// ตะวันลับฟ้า ของโสภาค //เก้าอี้ขาวในห้องแดง ของ สุวรรณี สุคนธา ฯลฯ แม้จะเป็นคนไม่อ่านหนังสือซ้ำได้ แต่ว่า แค่เห็นปก มันก็ความสุขแล้วอ่ะ มีใครเป็นอย่างนี้บ้างเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย....

แต่ว่าก็มีแล้วนะ...
ดังหลักฐานนี้..




โฉมหน้าแฟนคลับ ชิงชัง ณ ห้องบริจาคโลหิต รพ.สวรรค์ประชารักษ์..
ลลดา มยุรีย์ หทัยรัตน์ ขวัญล่า และการัณย์กรณ์ ซึ่งชื่อเหล่านี้..จะถูกนำมาตั้งเป็นชื่อตัวละครในเรื่องหน้าของผมด้วย...

โอ้วววววววววว // ตกลงซื้อชิงชังเพราะชิงชังหรือซื้อเพราะข้อเสนอเรื่องชื่อหว่า.. แต่อย่างไรก็ขอบคุณกันทุก ๆ คนนะครับ...

และก็ขอบคุณแฟนชิงชังที่ซื้อนวนิยายชิงชังผ่านทางผมด้วย..

และจะขอบคุณอีกครั้ง หากว่า สะสม ชิงชัง ดีวีดี บ็อกเซ็ท ของแท้จาก exect ซึ่งกำลังจะวางแผงเร็ว ๆ นี้ด้วย.....




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2552
13 comments
Last Update : 4 มีนาคม 2553 13:37:19 น.
Counter : 2443 Pageviews.

 

สรุปว่า อุ่น เลวร้ายสุดในชิงชังสินะ

บังอร จุดเด่น(ร้าย)คือ ปากเสีย
อารีย์ จุดเด่น(ร้าย)คือ ทิ้งลูก ทะเยอะทะยาน
แต่อุ่น ก็อปปี้ทั้งสองคนมา ปากเสียบ้าง ถึงไม่เท่าบังอร และทิ้งลูกให้อิ่มเลี้ยง แม้จะไม่หนักเท่าอารีย์

แต่อย่างไรก็ตาม อุ่นหนักสุดเพราะ แย่งผัวพี่ ทรยศต่อความรักของยิ่ง นี่กระมังที่เป็นผลตอบแทนที่อุ่นจะได้รับจากการพลัดพรากคนที่เป็นที่รักของผู้อื่น น่าสงสารยงชัยที่ต้องรับวิบากกรรม จากการที่ทำอะไรโดยไม่คิดของอุ่นในหลายครั้งๆ

 

โดย: คนรักชิงชัง IP: 192.168.0.70, 58.8.102.216 29 ตุลาคม 2552 11:43:26 น.  

 

รอลุ้นชิงชังวันนี้

อยากเขียนนิยายแนวนี้มาก ๆ

ไม่ทราบว่า คุณเฟื่องมีเทคนิคอะไรแนะนำบ้างคะ

แต่คุณเฟื่องคงยุ่งมากมาย

หวังว่าซักวัน คงได้มีโอกาส โขมยความรู้

เอ้ย แลกเปลี่ยนความรู้ด้านงานเขียนกันบ้างนะคะ ^_^

 

โดย: เงาหงษ์ IP: 192.168.2.163, 58.8.70.51 29 ตุลาคม 2552 14:11:03 น.  

 

ความรักทำให้คนสุขสม
แต่ความรักทำให้คนหลั่งน้ำตา
จริงไหมคะ ?

ความรักนำพาให้พวกเขาทั้งหมดมาพบเจอกัน
แต่ก็นำพาให้พวกเขาเหล่าันั้นพลัดพรากจากกัน
เป็นดังที่พระอินทำนายไว้
ที่พบต้องพลัดพราก แต่ที่จากจะหวนคืน

เรื่องนี้ ทำให้คิดได้หลายอย่างนะคะ
มันทำให้นึกย้อนดูตัวเอง
หากเราเคยใช้ชีวิตเป็นแม่อิ่ม เมื่อคนรักเก่ากลับมา
เราจะทำอย่างไร ในเมื่อเวลามันก็ผ่านล่วงเลยไป ๒๐ ปีแล้ว
เราจำเขาได้ จำอดีตที่ผ่านทุกข์สุขกับเขาได้
แต่เขาจำไม่ได้
มันคงพิลึกน่าดู หากจะกลับไปใช้ชีวิตด้วยกันอย่่างวันวาน

แล้วถ้าหากเราเป็นอุ่นล่ะ ?
คนที่เคยช่วงชิงมาจากพี่สาวแท้ๆด้วยวิธีสกปรกย้อนคืนกลับมา
จะแก้ปัญหาความรักที่เป็นได้แค่เส้นขนาน
ของพระยงชัยกับหนูก้อยด้วยวิธีไหน
แต่ .. แม้อุ่นจะเลือกที่จะปกปิดความจริงนั้น
สุดท้าย ความลับก็ถูกเปิดเผยอยู่ดี (โดยบังอร ๕๕)

เรื่องราวของบังอรและอารีย์ปิดฉากลงอย่างสวยงาม
เรื่องของบังอรจบลงด้วยการเป็นม่ายต่อไป
คงเป็นกรรมที่เธอเคยทำไว้กับอุ่น
(จะว่าไปแล้ว บังอรก็น่าสงสารมากอยู่เหมือนกัน รักคนที่เขาไม่รัก มันเจ็บนะ)
เรื่องของอารีย์จบลงตรงที่เธอสำนึกผิด
และเปิดใจยอมรับอาทิตย์เป็นลูก
มีครอบครัวที่แสนอบอุ่นเหมือนเดิม กับเสมอพงษ์และอาริสา
พูดถึงอารีย์ แล้วอดนึกถึงปิงไม่ได้
ยอมรับเลยค่ะว่าสงสารมากกกกกกกกกกกก
ปิงเป็นคนดี แต่ไม่เคยได้รับสิ่งดีๆตอบแทนความดีของเขาเลย
จนกระทั่งตัวตาย (ตายเพราะรักอีกนั่นแหละ รักลูกไงคะ)
น่าสงสาร .. ความรักที่ปิงมีให้อารีย์ แลดูไม่มีค่่า
จนวินาทีสุดท้ายของกรรมกรผู้นี้ แม่ดอกฟ้าของเขาจึงได้เห็นค่่าของมัน
แต่ปิงก็ไม่เคยถือโทษโกรธอารีย์
เหมือนอาทิตย์ที่ไม่เคยโกรธแม่ของตนเลย
(ทีนี้อาทิตย์ตอบยงชัยได้หรือยังจ๊ะ ว่าอาทิตย์น่ะใจดีเหมือนใคร)

ตอนนี้ ทุกอย่างกำลังจะคลี่คลาย
ชีวิตของพระยงชัยกับก้อยจะเป็นอย่างไรต่อไป
วันนี้ ก็คงได้ทราบกัน

ไม่อยากให้เรื่องนี้่จบ
ไม่อยากเลย
แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
น่า่จะมีตอนพิเศษนะคะ ว่าไหม ?

ต้องขอบคุณพี่เฟื่องนะคะที่แต่งนิยายดีๆ (ซึ่งทุกวันนี้ หานิยายดีๆแปลกๆแบบนี้ไม่ได้แล้ว) ให้กระต่ายอ่าน
ขอบคุณคุณศิริลักษณ์ ผู้เขียนบทละคร ที่นำไปสร้างเป็นละครแล้ว สนุกไม่แพ้นิยายเลยค่ะ
ขอบคุณ exect ที่ซื้อลิขสิทธิ์ "ชิงชัง" ไปทำเป็นละคร
ขอบคุณช่อง ๕ นะคะ ที่ฉายชิงชังให้ดู แหะๆ

ปล. ชอบนักแสดงทุกคนชิงชังทุกคนเลยค่ะ เด่นทุกตัวละครเลย โดยเฉพาะยงชัย (พี่บอล) กับก้อย (พี่เต้ย) น่ารักได้ใจ อิอิ รุ่นพ่อรุ่นแม่ก็ชอบนะคะ ชอบอุ่นที่สุด (พี่พิม) ชอบอารีย์ (พี่แป้ง) อิ่ม (พี่เจี๊ยบ) บังอร (พี่แอน) ก็ชอบ แต่ฝ่ายชาย ชอบหน้าตา+นิสัยพระอิน (พี่เปปเปอร์) ที่สุด ยอด (พี่กัปตัน) ยิ่ง (พี่ภูริ) ปิง (พี่หนุ่ม) ชอบเท่าๆกัน สรุปชอบทุกคนค่ะ ฮ่าๆ
ปล.2 ดูเรื่องนี้ แล้วร้องไห้ตลอดเลยกับหลายๆฉาก แบบมันอินอ่ะค่ะ นักแสดงถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครดีมาก
ปล.3 รักชิงชัง
ปล.4 เพลงผิดเพราะรักเพราะมากกกกกกกกก

 

โดย: RaBBiT IP: 113.53.168.126 29 ตุลาคม 2552 14:26:43 น.  

 

น้องกระต่าย ตกลงเอ็นติดที่ไหนครับ.. มายาวเลยนะ มีแววเป็นนักประพันธ์นะเนี่ย..

คุณเงาหงษ์ เคล็ดลับ..

..ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ตรงไหน..
..คงเป็นพรสวรรค์+พรแสวงมากกว่าครับ..


ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ..
สำหรับเวลานั้นมี มีอะไรปรึกษาทางเมล์ได้ครับ..
ยินดีให้รบกวนครับ..

 

โดย: F_nakhon 29 ตุลาคม 2552 14:36:31 น.  

 

นอกจาก cd boxset แล้วอยากให้ทำ
soundtrack เดี่ยวๆ ที่มีเพลง
ผิดเพราะรัก
รักเจ้าเอย
แล้วก็เป็นพวกดนตรีผิดเพราะ
รักเจ้าเอย
ที่เป็นแบบ เสียงไวโอลีน เสียงขลุ่ยประมาณว่า
ออเครสต้า เวอร์ชั่น อคูสติก ไม่ก็ทำนองดนตรีไทย
เหมือนที่มีอยู่ในละครอ่ะ
เราว่ามันเพราะดีมากๆ

 

โดย: น้องจิน IP: 124.121.20.105 29 ตุลาคม 2552 14:48:33 น.  

 

ขออนุญาตลองวิจารณ์ความรักของตัวละคร เพื่อเป็นการฝึกฝนนะคะ

ผู้ใหญ่แก้ว - รักศักดิ์ศรี รักลูกเมีย แต่น้อยกว่าอย่างแรก กว่าจะรู้ว่าสิ่งไหนที่ควรจะมาเป็นที่หนึ่ง ก็ถึงเวลาอันสายไปเสียแล้ว

แม่ทองคำ - รักลูกเป็นที่หนึ่ง (เป็นแม่ที่ดี) แต่ไม่มีความกล้าพอ ที่จะทักท้วงการตัดสินใจที่เด็ดขาดเกินไปของผู้ใหญ่แก้ว

อิ่ม กับ ปิง - คล้ายกันมาก รักเดียว ใจเดียว และฝังใจ อภัยให้ไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมที่จะเสียสละทุกอย่าง กับคนอันเป็นที่รัก จนดูเหมือนคนโง่

อุ่น กับ บังอร - นี่ก็คล้ายกันอีก รักจริงแต่เห็นแก่ตัว ไม่รู้จักปล่อยวาง ทำทุกทางเพื่อให้ได้มาซึ่งการครอบครองคนที่รัก โดยไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน และอีกฝ่ายจะรักตนหรือไม่ สุดท้ายแล้ว สิ่งที่ได้คือความทุกข์

อารีย์ - รักสบาย ยินดีที่จะทิ้งทุกอย่าง และใช้ชีวิตอยู่กับการโกหกตัวเอง (โกหกคนอื่นยังไม่พอ) เพียงเพื่อขอให้พ้นจากความลำบาก

ยอด กับ ยงชัย - นี่ก็เลือดพ่อมันแรงจริง ๆ รักจริงจัง จริงใจ แต่ปนไปด้วยความรักแบบดันทุรัง ทุ่มไปทั้งตัว ทั้งใจ ยอมร้ายเพื่อรัก (ทำเสน่ห์) หรือจะดีเพื่อรักก็จะทำ (รักษาศีล 5) พยายามทุกทางให้ได้มาครอบครอง แต่ยังดี ที่เมื่อสมหวังแล้วก็ไม่ทิ้งขว้าง

ยิ่ง - รักเจียมตัว ถึงแม้จะรักมาก แต่รู้ดีว่าควรจะอยู่แค่ไหน ทำเพื่อนังอุ่นอันเป็นที่รัก แต่ยังรู้จุดยืน ไม่ช่วยเหลือในสิ่งผิด

อิน - รักแรง แค้นแรง ในเมื่อตนเองไม่สมหวังในตัวคนรัก คนอื่นที่ได้ไปก็อย่าหมายที่จะครองคู่อย่างราบรื่น ทุ่มเททุกอย่าง ยอมเสียเงิน เสียเวลา เสียงานเสียการ เพียงเพื่อตามจองเวรคนที่มันย่ำยีหัวใจ

อาทิตย์ - รักดี รักที่จะทำดี ใฝ่ดี (คนแบบนี้มีจริง ๆ เหรอ) เหมือนพ่อปิงไม่มีผิด (นี่ก็เลือดพ่อแรงเหมือน ยงชัย) ต่างกันตรงที่ อาทิตย์ฉลาดกว่าปิง เป็นคนดีก็จริง แต่ไม่ยอมโง่เพื่อใคร นอกจากแม่อารีย์

ก้อย - รักใส ๆ (ไม่ใช่หัวใจ 4 ดวงนะ) มองโลกเป็นสีชมพูไปซะหมด จนลืมนึกไปว่า โลกแห่งความเป็นจริงมันมีสีที่หลากหลาย แม้กระทั่ง "สีดำ"

กิ่ง - รักแบบมีสติ บางครั้งอาจจะดื้อรั้นไปบ้าง แต่อยู่บนรากฐานแห่งความเป็นจริง ถ้าอาทิตย์ไม่มีใจ ก็คงไม่ยื้อยุด ให้วุ่นวาย แต่ในเมื่ออาทิตย์มีใจให้ ก็สมปราถนา แต่ไม่หลงระเริง

เสมอพงษ์ - รักเป็น (ดูท่าจะฉลาดสุดในเรื่องของความรักนะ) รักที่จะเทิดทูน ให้เกียรติคนที่รัก แต่เมื่อรู้ความลับที่น่ารังเกียจของอารีย์ ก็ไม่อาจดื้อรั้นหลับหูหลับตาให้ท้ายต่อไปได้ ตัดคน ตัดใจได้ แต่ก็ให้โอกาส และอภัยให้เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคิดได้แล้ว ให้เกียรติในความรักของผู้อื่น ถึงแม้อาริสา จะรักกับอาทิตย์ ก็ไม่รังเกียจ ในเมื่ออาทิตย์ เป็นคนดี หรือแม้แต่ เมื่อรู้ว่าอาทิตย์เป็นลูกอารีย์ เสมอพงษ์ก็ให้เกียรติในความรักความผูกพันของสายใยแม่-ลูก นอกจากไม่กีดกันแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อารีย์คิดได้ ว่าควรกลับไปทำหน้าที่แม่ให้อาทิตย์บ้าง

ปลัด (ลืมชื่อ) - รักสนุก มองเห็นแค่นั้นจริง ๆ นอกนั้นบรรยายไม่ถูก ก็คุณสมบัติมันมีแค่นั้นจริง ๆ 555

Ps. ความคิดในมุมมองของ เงาหงษ์ ผิดแปลกไปจากความคิดใคร ขออภัยล่วงหน้า นะคะ

 

โดย: เงาหงษ์ IP: 192.168.2.163, 58.8.70.51 29 ตุลาคม 2552 17:52:30 น.  

 



ดีใจครับที่มีเพื่อนมาร่วมแสดงความคิดเห็นนนนนนน...

บอกตามตรงกว่าก่อนเขียน และระหว่างที่เขียน ผมไม่ได้แยกความรักของใครเป็นยังไง แบบไหนหรอกครับ เขียนไปเรื่อย ๆ แบบนั่งดูพฤติกรรมเหตุการณ์และให้ตัวละครเป็นคนพาไป...



จริง ๆ นะ..

 

โดย: จุฬามณี IP: 222.123.175.30 29 ตุลาคม 2552 18:43:31 น.  

 

วันนี้ยุ่ง เพิ่งมีโอกาสแวะมาบล็อกก็ตอนตลาดวายซะแล้ว
ขอพูดถึงละครตอนจบเลยละกัน วันนี้ซึ้งฉากเดียวค่ะ ฉากที่แม่ทองคำพูดกับรูปผู้ใหญ่แก้ว รู้สึกว่าถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีที่สุด

 

โดย: YesterdayOnceMore 29 ตุลาคม 2552 23:07:49 น.  

 

ก่อนอื่น
ขอตอบคำถามพี่เฟื่องก่อนนะคะ
จะสอบรับตรงอาทิตย์นี้แหละค่ะ
อาทิตย์นี้ สอบศิลปากร
อาทิตย์หน้า สอบม.ขอนแก่น
อาทิตย์หน้าๆอีก สอบมหิดลค่ะ
ส่วนแอดมิชชั่นกลางก็ช่วงกุมภา-มีนาปีหน้าค่ะ
อยากสอบตรงให้ติด จะได้สบาย (ไม่อยากลุ้นแอดกลาง)
จะได้ไปช้อปปิ้งลั้ลลา อิอิ
แต่ได้ข่าวว่ายังอ่านหนังสือไม่จบเลย ๕๕๕๕+
แวะมาคอมเม้นต์ยาวๆชดเชยที่หายไปนานไงคะ
กระต่่ายเคยอยากเป็นนักเขียนนะ
ตอนนี้ ก็ยังอยากเป็นอยู่เลย แต่คงจะไม่รุ่ง
แต่งนิยายไม่เคยจะจบ แหะๆ

เข้าเรื่องชิงชังกันดีกว่านะคะ เนอะๆ
วันนี้ ถือว่าจบอย่างสวยงาม (หรือที่เขาเรียก happy ending)
ทุกอย่างคลี่คลาย
ความชิงชังที่มีอยู่ในจิตใจหมดสิ้น
อิ่มแต่งงานกับชลาชล (หรือพี่ยอดของเรา)
ชอบฉากที่ยอดเข้ามาหาอิ่มในห้องแต่งตัวมากเลย
เหมือนสมัยยังเป็นวัยรุ่น ๕๕๕๕+
เขินแทนแม่อิ่ม กิ้วๆ

ในที่สุด อุ่นก็สำนึกผิด ยอมปริปากบอกความจริงกับลูกชาย
ดีแล้วที่ทำแบบนี้ ไม่เช่นนั้นหากยงชัยกับก้อยจะรักกันต่อไป
คงต้องเจ็บต้องปวดมากกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่า
(แง๊ๆๆๆๆๆๆ ยงชัยยยยยน่าสงสาร)

แต่ก็ถือว่าดีนะคะที่ยงชัยไม่ต้องบวชตลอดชีวิต
ก้อยยอมรับยงชัยเป็นพี่ชายได้

จะว่าไปแล้ว ดูชิงชังก็เหมือนคนบ้าจริงๆ

ร้องไห้กับฉากที่ก้อยคนสวยน้ำตาไหล
เมื่อรู้ความจริงว่าเธอและคนที่ตัวเองรัก
แท้จริงแล้ว เป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน

ร้องไห้กับฉากที่อุ่นทุบประตูวัด
หาทางเข้าไปขัดขวางการกระทำคิดสั้นของยงชัย

ขวยเขินกับฉากยอด ไม่สิ! ต้องเป็นชลาชล (ก็ยอดเขาขอมา ว่าอยากเป็นชลาชล ๕๕๕๕+) กอดแม่อิ่ม คำพูดคำจาของทั้งสอง เหมือนวัยรุ่นจีบกันไม่มีผิด
แม่อิ่มหน้าแดงด้วย น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกก

ร้องไห้กับฉากที่ยงชัยกับก้อยพบกันอีกครั้ง
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (บ้าไปแล้ว)
เจ็บปวดแทนทั้งสองคน ตอนที่มองหน้ากัน
ประโยคที่ยงชัยพูดกับก้อย
ระลึกถึงเรื่องเก่าๆ ว่าเคยลอกการบ้านกัน
แบบว่าน้ำตาไหลพรากๆ แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ยงชัยกับก้อยน่ารักที่สุด
๒ คนนี้จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป

เขินกับฉากอาทิตย์กับกิ่ง
น่ารักกุ๊กกิ๊กไป อีกแบบหนึ่ง
ชอบตอนกิ่งทำแก้มป่องๆ น่ารักดีค่ะ
ตลกด้วย

เรียกได้ว่าดูชิงชัง ได้ครบทุกอารมณ์จริงๆ
มีสุข ทุกข์ เศร้า ขำปะปนกันไป

ในที่สุด ก็จบลง
ชีวิตของลูกสาวผู้ใหญ่แก้ว ๔ คนดำเนินไปตามทางของแต่ละคน
บังอรกับอุ่น แม้จะเข้าใจกันแล้ว
แต่ก็ยังทะเลาะกัน ตามประสาคนกัดกันมาแต่เด็กๆ
ฉากนี้ แอบขำนิดหนึ่ง แหะๆ

หลายคนบอก ไม่อยากให้จบเลย
พี่เฟื่องจะมีต่อภาค ๒ ไหมคะเนี่ยย ?
๕๕๕๕๕๕๕๕+
สู้ๆนะคะ ขอให้มีผลงานดีๆแบบนี้ออกมาอีก

เออ .. กระต่ายสนใจเรื่อง "ไม่ต้องรักเท่าฟ้า" อ่ะค่ะ
พอจะแนะนำได้ไหมคะ ว่าเป็นเรื่องแนวไหน
เห็นชื่อเรื่องแล้ว โรแมนติกสุดๆ

Ps" รักชิงชังล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครั้ง

 

โดย: RaBBiT IP: 125.26.145.189 29 ตุลาคม 2552 23:18:46 น.  

 

ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา ในที่สุดชิงชังก็มาถึงบทอวสาน
อาจเป็นบทอวสานที่ถูกใจใครหลายคนที่ชอบที่จะให้ตัวละครพบกับความสุข
หรือแฟนนักอ่านของคุณเฟื่องอาจบอกว่าอยากให้จบเหมือนในนวนิยาย
แต่สำหรับเราแล้ว ดังที่เคยคุยไว้กับคุณเฟื่อง
ว่าถ้าหากผู้เขียนบทและผู้กำกับ เขาอยากให้คนดูมีความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง
เขาต้องให้แม่อิ่ม กับคุณชลาชลลงเอยกันด้วยดี
เพราะตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ละครชิงชังทำให้คนดูเสียน้ำตาเยอะมาก
ถ้าเอาน้ำตาของคนดูทั้งประเทศมารวมกัน ป่านนี้อาจท่วมกทม.ไปแล้วก็ได้
ไม่อยากบอกว่าท่วมทั่วประเทศ กลัวโดนด่าหาว่าเวอร์ซะ

อีกอย่างในละครเขาปูพื้นมาว่า แม่อิ่มนั้นยังรักพี่ยอดอยู่เสมอ
ไม่ได้ปูพื้นว่าเธอจะบวชโกนหัวเข้าวัด จึงไม่แปลกที่จะมีฉากแต่งงานในวันนี้
เพราะเวลาที่คนทั้งสองรอคอยสิ้นสุดลงแล้ว มันจึงเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง

หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งปี กิ่งกับอาทิตย์มีความสุขกับความรักของตน
อารีย์มีความสุขกับครอบครัว โดยครั้งนี้อาทิตย์ไม่ได้เป็นส่วนเกินอีกต่อไป
บังอรกับอารีย์ก็ยังคงถกเถียงกัน ทะเลาะกัน แต่ในการทุ่มเถียงกันนั้น
มีเยื่อใยของความเป็นพี่น้อง เป็นสายเลือดเดียวกันหล่อเลี้ยง
บอกให้เธอทั้งสองรู้ว่าในยามทุกข์ยากจะไม่ทิ้งกัน

แต่มีอยู่คู่หนึ่งที่ต้องหวานอมขมกลืนกับความรู้สึกของตน
ยงชัย กับน้องสาวคนใหม่ ก้อย
แม้คนทั้งสองจะพยายามปรับความรู้สึกกันใหม่ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพี่น้อง
แต่ความรักเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เหมือนเนื้อเพลง "รักเจ้าเอย"นั่นแหละ

"ใครไม่รักไม่รู้ ถ้าใครไม่อยู่ตรงนี้ สิ้นไร้พลังต้านความเสน่หา
ถ้าใครได้รักจะรู้ รักคือยอดปรารถนา
ชาตินี้จะคลาดคลา สิ้นรักไปดวงชีวาจบสิ้นกัน"

มันเจ็บนะ รักก็รักไม่ได้ แม้คนทั้งสองจะรักกันแค่ไหน
ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเจ็บ เพราะใบหน้าของคนคนนี้คือคนที่เคยรัก และไม่เคยเลิกรัก
แต่ถ้าจะให้ทำใจเลิกรัก แล้วเปลี่ยนความรักฉันหนุ่มสาวเป็นความรักในสายเลือดเดียวกัน
เป็นเราคงขอไปทำใจไกล ๆ เหมือนกับก้อยที่ต้องบินไปรักษาแผลใจไกลถึงอเมริกา
คำพูดของยงชัยที่ว่า "ก้อยยังคงงดงามอยู่ในใจของพี่เสมอ "
เปรียบเสมือนเข็มแหลมตอกย้ำให้แผลในใจนั้นเป็นรอยลึกมากกว่าเดิม

ความจริง อาการอกหักรักไม่สมหวัง
มันเหมือนเป็นเรื่องปกติมากสำหรับหนุ่มสาวไม่ว่ายุคสมัยใด
เชื่อว่าน้อยคนที่จะมีความรักโดยไม่เคยอกหัก แต่การอกหักมีหลายรูปแบบ
เรารักเขา เขาไม่รักเรา หรือรักของเราแอบปันใจให้คนอื่น
หรือเขาเห็นเราเป็นรักเผื่อเลือก เป็นตัวสำรอง เป็นรักที่หลอกลวง
เมื่อทนกันไม่ได้ความรักจึงต้องมีเส้นขนานเข้ามาขีดคั่น

แต่ในกรณีของยงชัย กับก้อย เป็นหนึ่งในพัน หรือหนึ่งในหมื่นแสนล้านก็ตาม
เป็นกรณีที่หากทุกคนจะต้องอกหักแล้วละก็ ขอเรื่องนี้อย่าเกิดขึ้นกับตนเองเลย
เพราะจากคนรักจะต้องแปรเปลี่ยนเป็นพี่ชายกับน้องสาว
มันเจ็บ...มันปวด ...มันรวดร้าว เมื่อยังต้องเห็นหน้ากันอยู่ทุกคืนวัน

วันนี้ชอบบทบาทการแสดงของก้อย หรือเต้ยมาก
อาการกระอักกระอ่วนในสีหน้า มันบอกเลยว่าเธอยังทำใจไม่ได้
แม้จะพยายามยิ้มแย้มทำสดใสร่าเริงให้พี่ชายต่างมารดาเห็น
ก็บอกแล้วว่ายิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ อาการนี้แหละที่เต้ยแสดงได้เนียนมาก
เนียนจนเหมือนว่าเธอเคยอกหักแบบประเภทนี้มาก่อน
สุดยอดค่ะ เต้ย

ความจริงวันนี้ยังมีอีกหลายฉากที่ประทับใจ เช่นฉากที่พระทั้งสองรูปออกธุดงค์
แสงสีทองที่พระมุ่งหน้าเดินไปในทิศทางนั้น เปรียบเสมือนแสงนำทางที่ชี้นำจิตใจ
ให้น้อมรับเอาคำสอนของพระพุทธองค์มาสอนใจตนเอง ว่าโลกนี้ไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน
มีเกิดมีดับ มีทุกข์มีสุข ทุกสิ่งอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง เปลี่ยนแปรได้ตลอดเวลา
และมันไหลย้อนมาหาเราทุกครั้งที่เผลอไผล ฉะนั้นใจทุกคนจึงไม่ควรตั้งอยู่ในความประมาท

ข้อเขียนวันนี้ เป็นข้อเขียนสุดท้ายของข้าพเจ้าที่มีต่อละครชิงชัง
สามเดือน ห้าสิบสองตอนที่นั่งเฝ้าหน้าจอ เพื่อเฝ้าชื่นชมตัวละครที่เรารู้จักตั้งแต่ปี 48
ก่อนอื่นต้องบอกเหตุผลว่าทำไมถึงต้องดู
หนึ่งเพราะเป็นนวนิยายเรื่องแรกของเพื่อนร่วมฝันที่ร่วมประกวดโครงการเดียวกัน
แต่เขาเข้ารอบ แถมยังขายเป็นละครได้อีก ในขณะที่เราตกรอบแรก
สองเพราะคุณเฟื่องเป็นเพื่อนสนิทที่ช่วยผลักดันจนโมริสามีวันนี้
สาม ดูเพราะอยากรู้ว่าเขาจะสร้างอย่างไร ถึงจะคุมตัวละครทั้งหมดได้
และสุดท้ายดูเพราะโดนบังคับแกมขอร้อง เพราะปกติไม่ดูละครเรื่องไหนเลย
นอกจากรายการชิงร้อยชิงล้าน กับตีสิบ

แต่เมื่อดูแล้วก็อยากเขียน เขียนในสิ่งที่เราคิด
แม้เมื่อเริ่มต้นอาทิตย์แรกจะไม่ได้เขียนจริง ๆ จัง ๆ
แต่พอคุณเฟื่องบอกว่าเราเขียนดี (เพิ่งรู้ตัวว่าบ้ายอ)
"คุณลีเขียนเถอะ เขียนไป เขียนทุกวัน
เผื่อแฟนชิงชังจะมีหลงเข้ามาอ่าน" (อ้าวแล้วแฟนโมริสาล่ะ)
เขาบอกว่ามันต้องมีผลดีตอบกลับมาแน่นอน
หรือหากไม่มี มันก็ไม่สูญเปล่า เพราะมันช่วยฝึกฝีมือ ฝึกความคิดให้กับเรา
แต่พอเขียน เขียนไป ก็เลยต้องเขียนทุกวันที่มีละคร
กลายเป็นงานพิเศษที่แทรกเวลาของเราเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
บอกตรง ๆ ว่าตอนแรกนั้นไม่ได้คิดจะเขียนทุกวัน
แต่เมื่อขึ้นหลังเสือแล้วมันก็ต้องจับให้มั่น และทำต่อจนกว่าจะจบ (คุณเฟื่องบอก หรือหลอกใช้หว่า)
ทำให้งานเขียนของตัวเองต้องหยุดไปชั่วขณะ

บางครั้งยังเคยนึกอยากให้ชิงชังจบเร็ว ๆ
เพราะวิตกกังวล กลัวคิดไม่ออกว่าคืนนี้จะเขียนอะไร
จะดึงประเด็นไหนมาวิเคราะห์เจาะลึก เพื่อแฟน ๆ ของชิงชังจะได้มีอะไรอ่าน
แต่พอดูไปเรื่อย ๆ มันก็มีประเด็นให้เจาะลึกได้ทุกวัน แถมยังไม่ค่อยซ้ำกันด้วย

แต่พอวันนี้ ชิงชังเดินมาถึงบทอวสาน เรากลับใจหาย
เพราะรอยยิ้มอันน้อยนิดที่ได้จากชิงชังจะหายไปด้วย
คราบน้ำตาบนแก้มของนักแสดงจะไม่มีให้เห็น
รวมไปถึงคนดูอย่างเรา ๆ ก็จะไม่ต้องเสียน้ำตาให้กับชีวิตระทมทุกข์ของพวกเขาอีก

ขอพูดอีกนิดนึงว่า ระหว่างที่ดูคิดถึงคุณเฟื่องมาก
คิดถึงในแง่ที่ว่าเขาทำงานชิ้นนี้ออกมาได้อย่างไร ถึงสมบูรณ์เพียงนี้
ไม่ว่าจะในแง่ศาสนาศีลธรรม มันถูกสอดแทรกเข้ามาได้อย่างพอเหมาะพอควร
ในแง่ของการแก่งแย่งชิงดี ชิงเด่นระหว่างพี่น้อง และผลกระทบที่ตามมาทีหลัง
หรือจะในแง่ของความแค้นระหว่างเพื่อนที่โดนหักหลังก็ตาม
รวมไปถึงการวางตัวละครไปถึงรุ่นลูกที่ซาบซึ้งกินใจไม่แพ้รุ่นพ่อแม่
สิ่งเหล่านี้รวมกันเป็นหนึ่งอยู่ในเล่มเดียวกัน โดยผู้เขียนที่ใช้ชื่อ "จุฬามณี"

เพื่อนเอ๋ย เราภูมิใจในตัวเพื่อนจริง ๆ เลย


ขอบคุณทีมงานเอ็กแซ็กส์ที่ซื้อนวนิยายเรื่องนี้ไปสร้างละคร
ขอบคุณผู้เขีนบท ผู้กำกับที่เคี่ยวนวนิยายจนกลายเป็นบทละครที่เข้มข้น
ขอบคุณนักแสดงทุกท่านที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม
ขอบคุณผู้สร้างสรรค์เพลง "รักเจ้าเอย"
"ผิดเพราะรัก"ออกมาได้อย่างตรงกับเรื่องราวของนวนิยาย
ขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังทุกท่านที่มีส่วนร่วมกับละครเรื่องนี้ด้วยค่ะ



โมริสา


คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นหลังดูละครจบ
ใครจะเห็นอย่างข้าพเจ้าหรือไม่ ไม่ใช่ความผิด
ขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็ไม่ผิดเช่นกันที่จะมีความเห็นเช่นดังที่กล่าวมาแล้ว

โปรดใช้วิจารณญาณ





 

โดย: โมริสา IP: 125.24.40.153 29 ตุลาคม 2552 23:51:51 น.  

 

ผมติดตามบล็อกนี้มาจนจบเรื่อง แต่ไม่เคยจะคอมเมนต์ซักที
วันนี้ได้โอกาสตอนจบ อยากจะบอกเหลือเกินว่า...
ไม่เคยเห็นบล็อกละครไหนที่น่าอ่านที่สุดเท่าบล็อกนี้ครับ

ทุกตัวอักษรของผู้แต่ง และผู้คอมเมนต์ คนวิเคราะห์วิจารณ์สนุกและทำให้ละคร ชิงชัง มีสีสัน ได้อารมณ์เพิ่มมากขึ้น

จริงอยู่ที่ แค่ดูละครก็มีความสนุกในตัวมันเองอยู่แล้ว แต่การที่ได้มาร่วมกันแสดงความเห็นต่างๆ นาๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าความสนุกที่เกิดขึ้นมันมีหลากหลายอารมณ์กว่าที่ตาเรามองเห็น หรือที่เราได้อ่านและฟัง ไม่เฉพาะความสนุก แต่แง่คิดต่างๆที่ได้ก็ยังแตกแขนงออกไปตามทัศนะของแต่ละคนอย่างไม่รู้จบ

เหมือนกับว่าดูละครจบแล้ว มาอ่านบล็อก ละครก็ยังคงดำเนินเรื่องต่อไป (เป็นภาคพิเศษที่มีฉากเก็บรายละเอียดมากมาย) อิอิ

บอกได้คำเดียวว่า ทั้งสนุกและอึ้งทึ่งไปพร้อมๆกัน

ผมขอชื่นชมผู้แต่งอย่างมากที่สามารถนำเสนอความซับซ้อนของเรื่องและอารมณ์ออกมาในรูปแบบของตัวอักษรได้ โชคดีที่ได้นักแสดงมืออาชีพของเอ็กแซ็กท์ ทำให้บทละครที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้วกลายเป็นละครที่ไม่ธรรมดาเข้าไปอีก

จะพูดว่าเป็นละครที่ผมติดมากที่สุด และรู้สึกว่าดีที่สุด สนุกและได้สาระมากที่สุดเลยก็ว่าได้ (จริงๆนะ)

ผมขอขอบคุณผู้แต่งมากครับที่แต่งบทละครดีๆ มาให้คนทั้งประเทศได้ชม ทั้งได้ความสนุก และยังช่วยเตือนสติใครหลายๆคนในสังคม ที่ยังคงทำตัวเป็นชิงชังรุ่นแม่กันอยู่ อิอิ

ขออภัยที่เป็นเพียงแค่ผู้อ่านเฉยๆนะครับ ไม่ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็นเลยครับ ถึงผมจะเรียนนิเทศศาสตร์ แต่ก็คิดว่าตัวเองยังไม่แน่พอที่จะแสดงความเห็นได้ (โดยเฉพาะเรื่องที่สุดยอดแบบนี้ กลัวว่าเขียนไปจะทำให้เสียอารมณ์เรื่องซะเปล่าๆ)

สุดท้ายผมหวังว่า จะได้ชมผลงานของคุณจุฬามณีบนจอแก้วต่อไปเรื่อยๆนะครับ ผมจะรอ......

"ความชิงชังเป็นสิ่งดีๆ ที่ทำให้คนได้เห็นคุณค่าที่แท้จริงของความรัก"

 

โดย: Obasu IP: 58.8.220.172 29 ตุลาคม 2552 23:51:57 น.  

 

ฉันอยู่โดยขาดรักไม่ได้ ให้ทำผิดเท่าไหร่ฉันคงต้องยอม. จริงเหรอ ?

รู้ว่าผิด แต่ทำเพราะรัก ?

ตอบได้เลยว่าทำได้ เพราะความรัก มันมีมากกว่าความรู้สึกผิดชอบ ชั่วดี

 

โดย: เงาหงษ์ (เงาหงษ์ ) 30 ตุลาคม 2552 1:23:15 น.  

 

เหมือนคุณ Obasu เลยค่ะ
อ่านมาตั้งนาน
เพิ่งมาคอมเม้นวันสุดท้าย อิอิ
ตอนช่วงที่ยังไม่ถึงรุ่นลูก ก้อว่าจะคอมเม้นแล้ว
แต่นึกว่าใกล้จบ (??)
จนแล้วจนรอด ไม่ได้คอมเม้นสะที
แต่วันนี้ คันปากจริงๆ นะ

จบแล้วเนาะ ถึงตอนจบจะผิดคาด แต่ก็เป็นไปตามที่ลุ้นก็ตาม
(เอ๊ะ ยังไง)
แต่สรุปว่า สี่สิบกว่าตอนนี้ พลาดไม่ได้ซักตอนเดียวเลยค่ะ

ขอบคุณคุณเฟื่องและคุณโมริสามากนะคะ
ที่ขยันอัพบล็อกอยุ่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ออ แล้วขอบคุณคุณเฟื่องอีกที ที่เขียนนวนิยายสุดยอดอย่างนี้

ปล. น่าจะเอาคอมเม้นต์ทั้งของคุณโมริสาและคุณเฟื่องใส่ในบ๊อกเซทด้วยนะคะ อาจจะเพิ่มอรรถรสให้คอละครที่ไม่ได้เข้ามาอ่านในบล็อกนี้ก็ได้เนาะ

ขอบคุณค่า

 

โดย: bluemango IP: 125.27.49.17 30 ตุลาคม 2552 4:05:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


F_nakhon
Location :
นครสวรรค์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




email ถึงผู้เขียน

เฟื่องนคร : f_nakhon@hotmail.com
ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อก เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน

-------------------


Friends' blogs
[Add F_nakhon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.