Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
เฉพาะแฟนชิงชัง (ตอนที่ 47 คุณแม่ใจร้าย ปะทะ คุณป้ามหาภัย)



ละคร ชิงชัง
บทประพันธ์ จุฬามณี
บทโทรทัศน์ ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง สันต์ ศรีแก้วหล่อ


นี่ถ้ารู้ว่าอารีย์จะหายใจดำเพราะโดนบังอรตบสักสองทีละก็ใครหลาย ๆ คนอาจส่งบังอรมือตบมาปราบนานแล้วก็ได้ จริงไหม ฮ่าๆๆ

วันนี้ต้องบอกว่าตลอดหนึ่งชั่วโมง ร้องไห้ให้กับชะตาชีวิตของตัวละครตลอด เริ่มตั้งแต่อาทิตย์กับอารีย์ผู้เป็นแม่ ดูไปวิเคราะห์ไปว่าทำไมอารีย์ถึงใจดำกับลูกมากขนาดนี้ แล้วก็ได้คำตอบให้ตัวเองว่า อาจเป็นเพราะอารีย์ถือสิทธิ์ว่าตนเป็นแม่ แม่ที่คิดว่าความคิด การกระทำของตนถูกเสมอ และอาทิตย์ไม่มีสิทธิ์มาพูด หรือก้าวก่ายกับการตัดสินใจในแต่ละเรื่องของเธอ

ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อเธอเชื่อว่าอาทิตย์ทำให้ครอบครัวของเธอต้องแตกร้าว มากกว่าจะมองว่านั่นเป็นเพราะการกระทำในอดีตมันส่งผลมาถึงแล้ว

คนเรา บางครั้งก็ต้องได้รับบทเรียนราคาแพงเสียก่อน แล้วบทเรียนนั้นมันจะเป็นกระจกสะท้อนเงาความผิดให้ตนเองได้เรียนรู้เป็นประสบการณ์ชีวิตต่อไป

ความจริงแล้ววันนี้ยังมีอีกคนที่น่าสงสาร คือบังอร

วาสนาในแต่ละเรื่องของคนเราไม่เคยเท่ากัน นี่ละมั้งที่เขามักเปรบเปรยกันว่า "แข่งเรือแข่งพายนั้นแข่งกันได้ แต่บุญวาสนานั้นอย่าแข่ง" ในขณะที่บังอรอยากมีลูก แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับเธอไม่มีลูกไว้เชยชมอุ้มชูเหมือน อุ่นกับอารีย์ผู้เป็นพี่และน้อง ความในใจต่าง ๆ ที่ไหลพรั่งพรูออกจากปากของบังอรในวันนี้จึงเหมือนเป็นการเปิดสิ่งที่ค้างคาใจของเธอมาเนิ่นนานให้ใครสักคนได้รับรู้ และคนที่สมควรจะได้ฟังก่อนใครเพื่อนก็คืออารีย์ น้องสาวใจดำของบังอรนั่นเอง

บอกตรง ๆ ตอนแรกที่บอกว่าควรมีใครสักคนจะไปตามอารีย์ เราคิด หรือใครหลายคนอาจคิดเหมือนเราก็ได้ คือคนคนนั้นควรเป็นแม่อิ่ม แม่อิ่มผู้ใจเมตตา และใจเย็นดังแม่น้ำ คำพูดของเธอดูจะเชื่อถือได้ว่า ไม่มีทางที่จะทำให้คนรอบข้างช้ำใจ


แต่เราก็ลืมคิดไปว่า คนอย่างอารีย์ ขืนส่งแม่อิ่มไปตาม ก็คงจะมีแต่น้ำตากลับมา เพราะฉะนั้น ตอนที่เห็นหน้าบังอร เราเองถึงกับช็อค !!!!!
โอ้ มายก๊อด !!!นางมารมาลุยด้วยตัวเอง มีหรืองานนี้จะไม่สำเร็จดังเป้าหมายที่วางไว้ เธอแน่มากจ้ะ บังอร ปรบมือให้ สุดยอดไปเลย

ยัง ยังไม่จบ ยังมีคนที่อยากพูดถึงอีกหนึ่งคือเสมอพงษ์ สามีที่แสนดีของอารีย์ เออ จริงซินะ จริงอย่างที่บังอรพูดไว้ อารีย์นั้นมีวาสนาตั้งแต่ได้ผัวดีทั้งสองคน แถมยังมีอาทิตย์เป็นลูกที่ดีอีก แต่อารีย์ไม่รู้จักรักษาเพชรที่อยู่ในมือไว้ ทั้งลูก ทั้งผัวจึงช้ำใจเพราะความเห็นแก่ตัวของเธอเอง อยากบอกว่าเสมอพงษ์ หรือคุณแมน ศุภกิจ ออกมาแค่ไม่กี่ฉาก แต่ในไม่กี่ฉากของเขานั้นก็ทำให้น้ำตาซึมเช่นกัน เมีย..ไม่ใช่ไม่รัก เพราะร่วมหอลงโรงกันมาสิบกว่าปี แต่ความผิดที่เธอทำมันก็ยากเกินให้อภัย เมื่อชีวิตคู่มันต้องประกอบด้วยความซื่อสัตย์ที่มีต่อกัน แต่อารีย์ทำเหมือนเสมอพงษ์กินหญ้าเป็นอาหารมื้อประจำวัน เรื่องนี้เสมอพงษ์จึงทำใจลำบากหน่อย

เรามาน้ำตาร่วงกับแม่อิ่มกับคุณชลาชลอีกหนึ่งฉาก แม่อิ่มกับการพูดโทรศัพท์ครั้งแรกกับคุณชลาชล แม้จะรู้จากอุ่นอยู่แล้วว่า เขาเหมือนพี่ยอดของเธอมากก็ตาม น้ำเสียงที่ได้ยินเปรียบเสมือนเข็มแหลมทิ่มแทงใจเธอให้เป็นแผลมากขึ้น ทั้งที่ใจมันบอกว่าเป็นพี่ยอด พี่ยอดอย่างไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว แต่อีกใจหนึ่งก็ย้ำว่าไม่ใช่ จะเป็นไปได้อย่างไรกัน ?

ในเมื่อพี่ยอดของเธอตายไปแล้ว

แต่ด้วยสำเนียงที่คุ้นเคยจะมีใครรู้ดีเท่ากับตัวของแม่อิ่มอีกเล่า น้ำตาจึงเป็นเพื่อนที่แสนดีและ ซื่อ สัตย์ในยามสับสนกับความรู้สึกของตน

วันนี้ได้คุยกับคุณเฟื่อง ความจริงก็คุยกันทุกวันอยู่แล้ว และก็ไม่มีเรื่องไหนที่เราคุยกันนั้นจะพ้นเรื่องของชิงชังไปได้ ในนิยาย คุณเฟื่องเขียนให้แม่อิ่มหันหน้าเข้าหาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ให้ยงชัย กับก้อยต้องจากกันไกลคนละสุดขอบฟ้าเลยทีเดียว ในขณะที่อาทิตย์กับกิ่งเป็นคู่เดียวที่สมหวังกับความรัก

เราบอกว่าบางทีทางผู้เขียนบท อาจเขียนให้แม่อิ่มลงเอยกับชลาชลก็เป็นได้ เพราะคนดูลุ้นกับการรอคอยให้คนทั้งคู่ได้พบเจอกันเสียที หลังต้องพลัดพรากจากความรัก เพราะฝีมือของผู้อื่นมานานถึง 18ปี และการตามดูชิงชังมาตลอดสามเดือนนี่ก็เช่นกัน มันถึงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองความสุขแล้วมิใช่หรือ ?

พอพูดไปแบบนี้ คุณเฟื่องก็แย้งว่าจะเอานังอุ่นไปไว้ไหน เราก็ตอบเขาว่า นังอุ่นควรพิจารณาตัวเองว่าสมควรอยู่ตรงไหนมากที่สุด เมื่อเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา เธอได้ทำตัวให้มีคุณค่าเทียบกับคนเป็นพี่สาวได้หรือไม่ รวมไปถึงอดีตสามีด้วยเช่นกัน

ถูกละ ถึงแม้จะไม่มีใครคาดคิดว่าไอ้ยอด หรือคุณชลาชลจะกลับมาอีกครั้ง ตรงนั้นไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่านังอุ่นต้องไม่ไหลไปตามกระแสอารมณ์ของตน เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น และไม่มีใครคาดเดาได้ เราจึงต้องทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตดี ๆ ทื่มันจะรอเราอยู่ข้างหน้านั่นเอง


โมริสา

คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูละครจบ
โปรดใช้วิจารณญาณ


----------------------------------------------
โดย: โมริสา IP: 125.24.14.170 21 ตุลาคม 2552 22:47:03 น.

วันนี้ขอตั้งชื่อ ตอนที่ 47 ว่า..

คุณแม่ใจร้าย ปะทะ คุณป้ามหาภัย

เฮ้ย ช่วงนี้ดูชิงชัง แล้วบอกกง ๆ เลยว่า คะคะเครียด แต่ถ้าไม่ดูก็คะคะคลั่งอีก คะคะใครเป็นเหมือนกันบ้างครับ ยกมือขึ้น ขอเสียงกรี้ดหน่อย...

(เผลอกรี้ดละก็หันไปดูคนข้าง ๆ ด้วยนะครับ)..

href="//www.bloggang.com/data/j/julamanee/picture/1256173043.jpg" target=_blank>



วันนี้ริโย่ เอ้ย จุ ขอเอา เรตติ้งยอดคนเข้าบล็อกเมื่อวาน(21/10/52) ซึ่งสร้างความกดดันให้จุกับโม (จุฬามณีกับโมริสา) ออกมาให้ดู..

ยอดรวมทะลุเพดานเดิมที่เมื่อวันศุกร์ 9 10 52
ยอดคนเข้า ณ เวลานั้นซึ่งบังเอิญเดินมาเจอ ก็ปาเข้าไปร้อยกว่าท่าน...(หลังละครจบ)

ซึ่งมันเป็นอะไรที่แบบว่า..ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันครับ

แต่ว่ามันก็เป็นไปแล้ว ติดลำดับ ที่ 11 ของบล็อกสองหมื่นกว่าบล็อก..

ปลื้มมมมมมมมมมมม จังเลย.........

ครับ ผมมั่นใจว่าที่เข้ามาก็เฉพาะแฟนชิงชัง เท่านั้น นะ..
ส่วน คนที่แอนตี้ชิงชังหากเข้ามาแล้ว ทำให้ตาร้อนผะผ่าว หมั่นไส้จุกับโม ก็ขออำภัยด้วยนะครับ..

หนูเปล่าน้าเขามาเองงงงงงงงงงงง
หนูเปล่าชวนน้าเขามาเองงงงงงงงงงง
(ต๊องใหญ่แล้ว)


ขอเริ่มต้นภาพของคุณแม่ใจดำกับคุณลูกกตัญญูแห่งปีนี้แล้วกัน..
พับผ่าเถอะ คนอย่างอาทิตย์นี่จะหาเจอได้ง่าย ๆ ไหมเนี่ย..ซึ่ง พอ ๆ กับคุณแม่อย่างอารีย์..สุดยอดเลยยยยยยยย ดูเถอะ เอามือปิดหูเสียอีก..









เดาว่า คงมีคนเสียน้ำตาให้กับฉากนี้ที่มีอยู่ทั้งตอนบ้างนะครับ..แต่ผมไม่เสีย..เพราะครั้งหนึ่งผมเคยเสียให้กับชีวิตตัวเองไปแล้ว(เมื่อตอนบวชพระ)

กรรมใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินไว้ต่อท่าน ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าท่าน และทั้งลับหลังท่าน ทั้งที่ข้าพเจ้าตั้งใจ และทั้งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ตั้งใจ..... เพื่อความบริสุทธิ์แห่งเพศพรหมจรรย์ ขอให้ท่านโปรดจงอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า..ตั้งแต่บัดนี้ ตราบจนเข้าพระนิพพานเทอญ

ก็ถือว่าเป็นบุญของบุรุษเพศอย่างหนึ่งที่ได้กล่าวคำนี้ ตอนที่ผมบวช ผมก็พนมมือถือขันน้ำต่อหน้า ยาย ย่า พ่อ แม่และญาติผู้ใหญ่ พอเรากล่าวคำว่า กรรมใด..น้ำเสียงก็สั่นเครือทันที เพราะ เพราะว่า ตลอดชีวิตของเรากับท่านทั้งหลายนั้น โดยเฉพาะพ่อกับแม่ ย่อมมีจริง ๆที่ล่วงเกินกันทั้งกาย วาจา และใจ ซึ่ง บางทีเราก็สำนึกได้ แต่ว่าเราก็ไม่เคยที่จะเอ่ยขออโหสิกรรม เพราะว่า เราไม่รู้จะใช้วาระไหน บ้างอาจจะใช้วาระ สงกรานต์ บ้างอาจจะใช้ตอนที่ท่านจะวายชนม์ แต่ผมได้มีโอกาสใช้ตอนบวช จึงเข้าใจหัวอกอาทิตย์ในวันนี้ระดับหนึ่ง และก็เข้าใจอีกระดับถึงคนที่มีแม่ อย่างอารีย์.. สุดยอดของแม่ใจร้ายเลย ในนิยายผมก็เขียนให้เธอใจร้าย แต่ในละคร ความใจร้ายถูกขยี้เสียจนอารีย์นั้น ไม่ควรที่จะใช้ชื่ออารีย์เสียเลย เป็นอะไรดี...(ตอนนี้คงมีประมาณ ล้านกว่าชื่อละนะ ที่ส่อไปในทางเสียหาย...ว่าไหม)

ตอนนั้นน้ำหูน้ำตาผมก็มาเเบบนี้แหละ ตื้นตัน สะอื้นฮัก ๆ ยิ่งพอเอาน้ำไปล้างเท้าให้พ่อกับแม่ด้วย ..มันบอกไม่ถูกเลยจริง ๆ

ดังนั้น หนุ่มน้อยเอ้ยยยยยยยย ถ้ามีโอกาสบวชให้พ่อให้แม่ได้ก็อย่าเสียดายทรงผมเลยนะลูกนะ..(เข้าหมวดคนแก่) และถ้ามีโอกาสบวชก็ยืมคำพูดของน้าบังอรเข้าไปกรองสักหน่อยเถอะ..

"จัดงานทำไมเปลืองเงินเปลืองทอง แค่โกนหัวเข้าวัดก็ดีแล้ว"..





วันนี้รู้สึกสับสนไปหมด ด้วยแบบอยากทำให้บล็อกออกมาดี แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มเรื่องจากอะไร

วันนี้ผมขอใช้คอนเซ็ปที่ว่า

ชิงชังในเวลาเมื่อคืนนั้นมีหลากอารมณ์..

เริ่มจากเศร้า/
ก็อย่างตอนที่อาทิตย์ไปขอขมาอารีย์แล้ว เธอไม่ให้อภัย แถมบอกเหตุผลเสร็จสรรพด้วยนะ..

ต่อจากนั้นก็เป็นฉาก ขำ ๆ ยิ้ม ๆ ตามด้วยซึ้ง ๆ สะเทือนใจ

ตอนที่อุ่นปะทะกับบังอร เรื่องการจัดงาน

“พี่อิ่ม..ฉันไปถามมาแล้วนะ เขามีหมอทำขวัญนาคชื่อดังอยู่ที่ท่าเรือเสียงนี่หวานจับใจเลย ไม่ว่าใครได้ฟังนะน้ำตาไหลพราก ๆ เชียว..”

“น้ำตาไหลพราก ๆ นะเสียดายเงินนะสิ...”

บังอรมาเรียกรอยยิ้ม ยิ้มทั้งน้ำตาขึ้นมาได้..

แล้วก็ทำให้เขิน ๆ หวาน ๆ กับฉาก สองสาว คุยกันเรื่องคนถือหมอน..






จะว่าไปนะ ชอบที่เขาเล่นกับ ธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม ที่เราคุ้น ๆ กันอยู่แล้ว อย่างตัวก้อยกับกิ่งเองถึงแม้จะสะท้อนภาพของคนยุคใหม่ในยุคนั้น แต่ว่า เธอก็พอรู้เรื่องราวอะไรที่เป็นไทย ๆ บ้าง ไม่ได้ตามแฟชั่นเสียจนไม่รู้อะไรเลย เมื่อวานก้อยบอกว่า ถ้ายงชัยบวชเป็นพระมาพายเรือให้สีกานั่งได้อย่างไร แนะรู้จักคำว่าสีกาเสียอีก หรือ อย่างที่บอกว่า คนถือหมอนนั้น ชาวบ้านทั้งบางจะจ้องดู ดูว่าใครเป็นแฟนของนาค ซึ่งตรงนี้เราก็ยังได้ยินอยู่ และก็ยังทำกันอยู่ ไปงานบวชทีไร จะมองหาคนถือหมอนด้วย ว่าใครหว่า มาเปิดตัวแฟนไหมเนี่ย อะไรแบบนี้ พอเรานั่งดูมันก็เลยพลอยคิดอะไรยืดยาวไปเสียอีก ..

และก็ยอมรับว่า แอริน ขโมยซีนได้ทุกครั้งที่ออกมาพร้อมกับก้อย แม้เธอแปลกแต่ยอมรับว่า แอรินน่ารักจริง ๆ (เอหรือว่าเริ่มชอบของแปลกละนี่ตรู)


ต้องยอมรับอีกข้อว่า แม้ตัวละครในชิงชังจะเยอะ แต่ว่าตัดไปหาใคร เราก็อยากดูตลอด ไม่มีคนใช้ ไม่มีตัวตลกมาดึงเรื่องให้ยืดยาว.. ฉากใหญ่ คนเยอะอย่างฉากบนเรือน ตอนที่คุยกันเรื่องงานในตอนแรก ก็ถือว่าทำได้ดีนะครับ..

เปิดมาที่อุ่นบอกเรื่องงาน บังอรขัด อิ่มนิ่งฟัง ห้ามไม่ให้ทะเลาะกัน แล้วอาทิตย์กับยงชัยก็กลับมา อุ่นรีบถามว่ามากันได้อย่างไร (ก็เรียนหนังสือไม่ใช่เหรอ) ยงชัยนั้นต้องการปิดเรื่องที่ไปตีกับเขามา ก็เลย พูดเรื่อง ทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรเสียงดังถึงหน้าบ้านเลย (บ้านนี้ทะเลาะกันทุกวัน) ดึงกลับมาที่เรื่องเดิม อิ่มก็เลยได้ทีห้ามปรามเรื่องงานบวช และอุ่นก็ถือจังหวะแขวะบังอรซะ บังอรเก๋ไก๋แก้หน้าตัวเอง ไปถามอาทิตย์เรื่อง บอกแม่ตัวเองหรือยัง บอกตรง ๆ นะว่า ได้เห็นคาแลคเตอร์ที่ชัดเจนของบังอร ตอนแรกก็หวั่น ๆ ว่า บังอรจะพูดให้อาทิตย์เสียใจอีก..น้ำเสียงเธอนะ อาทิตย์แล้วเอ็งละบอกแม่หรือยัง แล้วแม่เอ็งว่าอย่างไร อาทิตย์อึกอัก แต่อิ่มนี่สิ นี่คือแม่ที่เลี้ยงลูกมาย่อมรู้ใจลูกว่า อาทิตย์นั้นต้องประเหลาะ (ผมก็ชอบแม่แบบประเหลาะนะ) น้ำเสียงของอิ่มนั้น เย็น มีความอารีย์และพร้อมจะเข้าใจ และเสียงที่ถามนั้นก็ยังก้องอยู่ในหูผมอยู่เลยครับ ช่วงหลัง ๆ นี้ยกนิ้วโป้งให้คุณโสภิตนภาอยู่บ่อย ๆ ยอมรับว่าเธอเล่นบทคุณแม่ได้ดีมากทีเดียว เหมื้อนเหมือน..พออิ่มถามอาทิตย์ตอบสั้น ๆ แล้วผละเข้าห้อง ยงชัยก็เลยต้องตอบแทน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเห็นใจและที่ชอบอีกอย่าง คือปิงไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแต่ใช้สีหน้าเท่านั้น...สีหน้าเท่านั้นจริง ๆ แต่มุมกล้องนั้นเก็บรายละเอียดได้ทุกคนจริง ๆ ครับ....












และวันนี้น่าจะเป็นวันทีทุกคนรอฉากนี้นะครับ ฉากที่ยอดกับอิ่มจะได้ยินเสียงกัน มันเป็นอะไรที่คลาสสิกมาก ๆ เลยยยยยยยยยยย...

แล้วมันก็สะเทือนใจ จึงไม่แปลกใจหากจะมีใครสักคนร้องไห้บ้าง นั่งดูไปก็นึกถึงตัวเองไปด้วย ถ้าเราเป็นอิ่มละ เสียง เสียง เสียง เราจะจำเสียงเขาได้ไหม น้ำเสียงแบบนี้มันคุ้นหู มีรึจะไม่ใช่ แต่อิ่มปลงใจแต่แรกว่าไม่ใช่ยอด ปลงใจว่ายอดตาย ยิ่งอุ่นเกริ่นไว้แล้วว่า เหมือนยอดกระทั้งเสียง แต่ว่า ที่อิ่มไม่กล้าด่วนสรุปว่าเป็นยอดก็ตรงที่ ถ้าเป็นยอดจริง ๆ ทำไมเขาจำเสียงเธอไม่ได้ ทำไมเขาไม่รู้จักเธอ ไม่รู้จักผู้หญิงชื่ออิ่มคนนี้ ..ทำไมเขาไม่รู้จักเธอ แต่ทำไมเสียงเขาเหมือนยอด แม้แต่วิธีการทอดเสียงงงงงงงง

ยกนิ้วให้คุณโสภิตนภาจริง ๆ เลยครับ น้ำตาของเธอสั่งได้จริง ๆ สั่งได้จริง ๆ


ถัดมาถ้าจะไม่เอ่ยถึงก็คงไม่ได้ เพราะเป็นตัวเดินเรื่องสำคัญ...
คุณยายทองคำ..

มีหิ้งกระดูกผัว มีโต๊ะหมู่พระที่เรียงลำดับกันมา แล้วก็มาถึงที่นอนของตน..



“เจ้าพ่อคู้น ขอให้บุญกุศลของลูกที่หลานชายจะได้บวชเป็นองค์ ช่วยส่งผลให้พ่อแม่ลูกได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ขอให้ความแตกแยกชิงชังในบ้านเรานี้จงจบสิ้นลงก่อนที่ลูกจะหมดลมด้วยเถิด”

“แม่คงจะอยู่กับพวกเอ็งอีกได้ไม่นานนัก พวกเอ็งเลิกทะเลาะกันสักทีได้ไหม แม่ขอ... หากแม่ได้ไปเจอพ่อเอ็งบนสวรรค์จะได้บอกพ่อเอ็งได้ว่าลูกหลานรักใคร่ปองดองกันดีแล้ว ไม่ต้องมีห่วงอะไรอีก”


หัวอกของคนเป็นแม่ที่มีอำนาจน้อยกว่าพ่อ แม้จะแสดงอำนาจของตัว หลาย ๆ หน แต่ว่า แม่ทองคำก็ยังเป็นแม่ แม่ที่ลูกไม่กลัว ยายทองคำจึงใช้เพียง สถานะแม่ให้ลูกดี ๆ เกรงเท่านั้น..แต่ถึงแม้ลูกๆจะทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่ปรองดองรักใคร่กลมเกลียว แต่ผมว่านะ ยายทองคำก็น่าจะดีใจที่อย่างน้อยลูก ๆ ก็รักและไม่คิดทอดทิ้งนางเหมือนลูกบางบ้าน(บ้านไหนหว่า)

และเมื่อยายทองคำได้รับความรักจากลูก ดังนั้น บุญที่จะเกิดขึ้น เน้นว่าที่จะเกิดขึ้น จึงถูกนำมาใช้ ใช้บุญ อธิษฐาน ให้ช่วย พึ่งสิ่งที่มองไม่เห็นตามประสาคนมีอำนาจน้อย..แต่ว่าอย่างไรเสียนางก็ยังมีอำนาจของแม่ ซึ่งมันก็ต้องใช้ด้วยเช่นกัน และแม่หลาย ๆ คนก็ใช้ได้มานักต่อนัก นั่นก็คือ ใช้เวลาที่ใกล้ตายนั้นเอง..


สุดท้ายของวัน นั่งดูอยู่ก็คิดว่า แม้มันไม่ยืดยาดอย่างวันจันทร์ แต่ว่า มันก็เนือย ๆ นะ เหี่ยว ๆ ด้วย ไม่ค่อยจี้ดจ๊าดเท่าไหร่..เริ่มหนัก ๆ อึ้ง ๆ เบลอ ๆ อินจนเบลอ แล้วก็ช็อคและช็อคไม่ต่างจากนังอารีย์เลยยยยยยยยยยยย...

คุณนายบังอร..มาแบบไม่ได้เตรียมใจเลยยยยยยยยย.......


“ต้องมีใครสักคนไปตามอารีย์มา..”
(ใครสักคน)

“คุณนายคะมีแขกมาหา”

“ใครอีกละ”

“ข้าเอง”

“พี่บังอร”

“เดี๋ยวดิฉันจะเอาน้ำมาให้นะคะ”

“ไม่ต้อง จะไปไหน ก็ไปไป..”

เดินมาวางกระเป๋า

“พี่บังอรมีธุระอะไร”

(ตบ!!!!!)

“นี่มันอะไรกัน”

“นังคนใจดำ เอ็งเป็นแม่คนประสาอะไรหะ ลูกมันมาขอลาบวชเอ็งก็ไม่อโหสิกรรมให้มัน”

“ถ้าพี่บังอรจะมาพูดเรื่องอาทิตย์ละก็ออกไปเลยดีกว่า”
(อารีย์พยายามใช้อำนาจคุณนายของตนบ้างแต่ว่า)

“ที่ข้ามาวันนี้ไม่ได้มาพูดเรื่องนี้ มันไม่ใช่ลูกข้า ขนาดแม่มันเองแท้ ๆ ยังไม่สนใจ แล้วข้าจะสนใจทำไม ที่ข้ามาวันนี้เพราะจะบอกเรื่องแม่ให้เอ็งฟัง”

“แม่ แม่ทำไม”

“แม่เป็นมะเร็ง แม่เป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย แม้กำลังจะตาย เอ็งรู้บ้างไหม”

“อะไรนะ แม่กำลังจะตายเหรอ”

“ใช่”

“แล้วแม่ก็อยากจะเห็นชายผ้าเหลืองก่อนตาย แต่เอ็งไม่ยอมอโหสิกรรมให้อาทิตย์มัน เอ็งไม่ยอมไปงานบวชลูกชายแท้ ๆ ของตัวเองเอ็งเป็นแม่ที่เลวที่ใจร้ายที่สุด เอ็งจะทำให้แม่นอนตายตาไม่หลับ”

“นี่พี่บังอร”

(ตบ!!!!!)

“ไม่ต้องมาเถียงจะดีจะชั่วอย่างไรเอ็งรู้อยู่แก่ใจ ไอ้อาทิตย์มันดีกับเอ็งสารพัด ข้าเอ็งมีลูกไม่ได้อ่ะข้าเห็นแล้วก็ยังอดอิจฉา ..แล้วทำไมคนใจดำอย่างเอ็ง ถึงเกิดมามีวาสนามีลูกดีอย่างมัน ที่ข้ามาวันนี้ เพราะว่าเป็นตัวแทนพี่อิ่มพี่อุ่นมาพูดกับเอ็ง เอ็งจะใจจืดใจดำไม่รักลูกของเอ็งก็ตามใจ แต่ข้าขอให้เอ็งเห็นแก่แม่บ้าง...พี่อิ่มฝากมาให้อ่ะ”

“นี่มันพระนางพญาของพ่อ ที่ฉันฝากพี่อิ่มไว้ให้..”

“ใช่ พี่อิ่มเขาว่าจะให้อาทิตย์ตอนที่มันเรียนจบ แต่พี่อิ่มเขาให้ข้ามาให้เอ็งแทน เผื่อจะเตือนใจแกได้บ้าง ว่าก่อนพ่อตาย พ่อสั่งไว้ว่าอย่างไร”

“พวกเอ็ง เป็นพี่เป็นน้องกัน พ่ออยากให้พวกเอ็งรักกันไว้นะลูกนะ รักให้ถูกลูก รักให้เป็น ให้อภัยซึ่งกันและกันนะลูก อย่าให้เป็นเหมือนพ่อ ที่พ่อเคยทำผิดพลาดมา...”



สรุปว่า จบตอนที่ 4 ของวัน แบบต้องรีบลุกขึ้นนั่งดู ด้วยเสียงหัวเราะและคาบน้ำตา แบบต้องหัวเราะทั้งน้ำตาจริง ๆ ละครจบแล้วก็ยังขำ แบบว่ามันสาแก่ใจดีนัก สมควรจริง ๆ สมควรมากกกกกกกกกก มันขำบังอรเป็นอย่างยิ่ง ...

แบบหล่อนมา แย่งซีนกระชากอารมณ์ เรียกเรตติ้งได้จริง ๆ ..

ถึงต้องบอกว่า เมื่อคืน ชิงชัง หลากอารมณ์ดีแท้...

และคืนนี้...ฉากใหญ่อีกฉากที่ต้องรอดูว่าจะเหมือน 2499 อันธพาลครองเมืองไหม..

(ปกพิมพ์ครั้งที่ 1)

แต่ ณ เวลานี้ ผม จุฬามณี คนใจดี้แอนน่ารัก ขอหยิบ บทประพันธ์ท่อนหนึ่งมาให้อ่าน เพื่อดูว่า ในละครจะมีไหมนะ มาให้ได้ลิ้มรสกัน..

จาก ชิงชัง เล่ม 2 หน้า 566

กำหนดการนั้น เย็นวันนี้จะมีทำขวัญนาค หลังจากนั้นก็มีการละเล่นเป็นแตรวงบรรเลงเพลงทันสมัยพร้อมกับกินเลี้ยงตั้งโต๊ะปูผ้าแดงมีเหล้ายาอาหารขึ้นโต๊ะบริการตามสมัยนิยม

“เมื่อก่อนไม่มีหร็อก ใครมา ก็เข้าครัว หรือไม่ก็หาให้กินเป็นวงกินอิ่มก็กลับ ไม่เหมือนเดี๋ยวนี้หรอก..ต้องมีโต๊ะจงโต๊ะจีน..ไม่เห็นได้ความ”

“ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วยาย แถวในเมืองนะเขามีวงดนตรีสากลมาเล่นสนุกสนาน”

“มันจะได้บุญหรือ” คนแก่ยังกังวล แต่ครั้งนี้การจัดงานต้องพบกันครึ่งทาง..

พอถึงตอนบ่าย ๆ มีขบวนแตรวงแห่จากบ้านไปรับนาคที่วัดมาขอขมาพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ ก่อนจะปลงผมลงขมิ้น..สวมชุดครุยสีขาวขลิบทองกระจ่างตา..คนเป็นแม่เลี้ยงแม่ตัวยิ้มปลาบปลื้มกับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ด้วยไม่ได้เพศบุรุษไม่ได้พบพระพุทธศาสนาเห็นจะไม่มีทางห่มผ้ากาสาวพัสตร์
สำหรับนาคอาทิตย์นั้นใบหน้าเรียบเฉยคล้ายไร้ความรู้สึกรู้สมผิดกับนาคยงชัยที่ระริกระรื่น ด้วยเพื่อนชายที่มาล่วงหน้า แถมบอกว่าคืนนี้ สองศรีพี่น้องจะตามมากับคุณพ่อของพวกเธอ..

แม้จะเป็นข่าวที่น่ายินดี แต่อาทิตย์ก็ตั้งจิตไว้ที่ความจริง..อย่างไรเสีย เขากับผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพียงจุดตัดของเส้นตรงซึ่งวันหนึ่งก็จะต้องแยกจากกันไปตามวาระเวลา

หลังจากสวมชุดครุยแล้ว ขบวนก็แห่นำนาคกลับไปที่วัดรับศีลห้าจากพระ ก่อนจะแห่กลับมาที่บ้านเพื่อเข้าพิธีทำขวัญนาค..

ช่วงนั้นผู้เป็นยายนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างนาคหลานทั้งสอง ข้างซ้ายของอาทิตย์มีแม่อิ่มประกบ ข้างขวาของยงชัยมีแม่อุ่นประกบให้ความรักความอบอุ่นเป็นครั้งสุดท้ายของความเป็นคนดิบ เมื่อถึงคราวที่หมอทำขวัญร่ายกลอนถึงพระคุณของแม่ของพ่อผู้ให้กำเนิด พ่อนาคหนุ่มอาทิตย์ก็ร้องไห้ออกมาอย่างเหลืออดเหลือทนกับความคับแค้นใจ..ไปไหน..แม่ไปไหน พ่อเขาอยู่ไหน..ทำไมต้องทิ้งเขาไว้ที่นี่..เขาซบหน้าลงกับหมอนที่วางไว้ตรงหน้าอย่างไม่รู้สึกอับอายผู้ใด ส่วนยงชัยแม้จะมีแม่อยู่เคียงข้างแต่เขาก็รับรู้ความเจ็บปวดใจทั้งหมดของอาทิตย์ พี่ชายที่เป็นมากกว่าพี่ชาย มันจะเจ็บปวดเพียงไหนที่หมอพร่ำพรรณนาพระคุณของแม่ แต่แท้จริงแล้ว แม่หรือผู้หญิงคนนั้น แม้ลูกตนก็จำไม่ได้..

อิ่มเองใช้ฝ่ามือลูบหลังเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดและปลอบประโลมใจ หญิงสาวนึกถึงพ่อของชายหนุ่ม ซึ่งยกผ้าไตรจรดศีรษะแล้วอนุโมทนาบุญ

“ผมคงไม่กล้าไปที่งานเขาหรอก พี่อิ่ม ผมดีใจกับเขาด้วยที่ได้พี่เป็นคนเลี้ยงดู ลูกผมน้ำใจประเสริฐแท้ บุญจากการบวชในครั้งนี้ผมจะมีส่วนมีบ้างในฐานะของพ่อ ผมยกให้พี่ทั้งหมด ให้บุญค้ำจุนพี่ให้มีแต่ความสุข ไม่ต้องบอกเขาหรอกครับว่าผมเป็นพ่อ แค่นี้ผมก็มีความสุข ผมดีใจและผมก็นอนตายตาหลับแล้ว ขอบคุณพี่ที่สุด ขอบคุณจริงๆ”

“พี่ก็ขอโทษพี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่รักเขามากนะปิง พี่อยากเห็นเขามีความสุข”

อิ่มเช็ดน้ำตา ก่อนจะกระซิบกระนาคอาทิตย์ว่า

“ลูกยังมีพ่อนะอาทิตย์ เอาบุญบวชในครั้งนี้อุทิศให้เขา นึกถึงเขา เพราะเขายังมีชีวิตอยู่” คำพูดของแม่อิ่มทำให้อาทิตย์จำต้องหันหน้ามามอง

“แล้ววันหนึ่งแม่จะพาลูกไปหาเขา”

อาทิตย์ซบหน้าลงกับหมอน..ร้องไห้จนตัวโยน


ปล. ขอไว้ไม่รู้จะจัดให้หรือเปล่า
ปล. 2 ใจดี้แอนน่ารักจริง ๆ นะ




(ปก พิมพ์ครั้งที่ 2,3)

เมื่อวานมีคนถามถึงลูกสาวคนที่ 5 ของ พ่อผู้ใหญ่แก้ว แม่ทองคำ วันนี้ผมเอามาลงไว้ให้ครับ ไม่อยากให้สงสัยจนต้องไปเสียเงินซื้อหนังสืออ่านน่ะ(ใจดี้ดี เห็นไหม)ซึ่งตรงนี้ผมก็ลงไว้ที่กระทู้พันทิพย์ด้วยครับ


เอื้องอรุณ ลูกสาว คนที่ 5 ของผู้ใหญ่แก้วแม่ทองคำ เป็นคู่หูกับอารีย์ ได้ไปอยู่กับน้าทองแดงเช่นกัน แต่ว่า ตอนที่อารีย์ถูกน้าเภาปล้ำ เอื้องอรุณไม่อยู่บ้าน กลับมาอารีย์ก็หายไปแล้ว

ตอนหลังทองแดง พาเอื้องอรุณไปอยู่หอพัก เอื้องอรุณได้รู้จักกับ ชาญชัย ลูกชายคนเล็กของคหบดีใหญ่ในจังหวัด ที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกา(กลับมาเพราะพี่ชายสองคนตาย คนแรกประสบอุบัติเหตุทางรถ คนที่สองถูกต้นไม้ล้มทับที่ลาดยาว)

เอื้องอรุณรักชาญชัย แต่ว่าฐานะของเอื้องอรุณนั้นด้อยกว่า พ่อแม่ของชาญชัยไม่ชอบ จึงบังคับให้ชาญชัยแต่งงานกับลูกคหบดีด้วยกัน ตอนหลัง พ่อแม่ชาญชัยหมดเนื้อหมดตัวจากธุรกิจ ทำให้ชาญชัยต้องเลิกกับเมีย (พ่อแม่เมียรังเกียจว่าจน) เอื้องอรุณ กลับไปหาชาญชัย(แต่ลึก ๆ ชาญชัยชอบอิ่ม)อีกรอบ ด้วยความหวังว่าจะได้ไปอยู่อเมริกากับชายหนุ่ม (เอื้องอรุณอยากไปอยู่เมืองนอกไม่ได้อยากเป็นคุณนายอย่างอารีย์) แต่ว่าชาญชัยก็ไม่มีเงินกลับไป เอื้องอรุณมาขอร้องให้ผู้ใหญ่แก้วขายที่ดินส่งตัวเองไปเมืองนอก แต่ว่าผู้ใหญ่แก้วไม่เห็นด้วย

พอผู้ใหญ่แก้วเสียชีวิต เอื้องอรุณกับอารีย์ ร่วมมือกัน ปะทะ กับอุ่นและบังอร ที่หิวเงินพอ ๆ กัน ตอนหลังเอื้องอรุณได้ไปเมืองนอกกับชาญชัยสมใจ แต่ว่าไปไม่นานชาญชัยก็ตาย เอื้องอรุณก็ได้แต่งงานกับฝรั่ง กลับมาเมืองไทยอีกทีตอนที่ ยายทองคำป่วย ด้วยอิ่มโทรไปบอก พอเอื้องอรุณมาถึงยายทองคำก็สิ้นลม...

เอื้องอรุณมีบทบาทตอนที่อิ่มไปอยู่ปากน้ำโพ เรื่องตอนนั้นจะยืดยาว แต่ในละครสรุปสั้น ๆ เริ่มจากตอนอิ่มไปผลัดหนี้แล้วอินพาอิ่มไปกินอาหาร หวังให้อิ่มปลื้มใจมีความสุข แต่ดันไปเจอเอื้องอรุณมากับชาญชัย อิ่มก็เลยถือจังหวะนั้นหนีอิน

แล้วตอนหลังยอดมีเรื่องกับมาลัย อิ่มจึงไปอยู่กับเอื้องอรุณ ทำงานในร้านค้า จนอารีย์กับปิงกลับมาจากลำปาง อิ่มก็มาเช่าบ้านอยู่กับปิงและอารีย์ขายขนมจีน

ช่วงนั้นตัวละครที่ชื่อ หมอประพัฒน์ กับเรวัตรจะมีบทบาทมาก หมอประพัฒน์มาชอบอิ่ม แต่เรวัตรซึ่งเป็นแฟนเก่าอารีย์มากันท่า กันไปกันมา มาหลงรักอิ่มอีกคน...

ตัวเรวัตรเองนั้น(เป็นหมอ) ตอนหลังมาหุ้นกับอิ่มเปิดปั้มน้ำมันในที่ของอิ่ม ช่วยดูแลยงชัยกับอาทิตย์ เป็นเพื่อนที่ดีของอิ่ม และได้แต่งงานกับพยาบาลมีลูกสองคน จะมีบทยืดยาวกว่าเอื้องอรุณเสียอีก..

และเหตุที่ตัดเอื้องอรุณออกเพราะไม่พัวพันถึงรุ่นลูก

ส่วนบังอรนั้น ในนิยายมีสามี 3 คน บังอรไม่ได้มีชู้ แต่เลิกกับอิน อินแบ่งตึกให้ บังอรค้าขายแล้วไปรู้จักกับครูประสิทธิ์ มีความสัมพันธ์กันจนท้องตอนหลังบังอรมารู้ว่าถูกหลอก เมียครูประสิทธิ์มาตามผัวกลับ บังอรได้ลูกชื่อประภา แล้วตอนหลังก็มาเจอปลัดสมชาย(คนเจ้าชู้) มีลูกอีกสองคน รวมบังอร ลูก 3 คน ประภานั้นโตมากับยงชัยและอาทิตย์ จะแก่นแก้วหน่อย(ถ้ามาเป็นละครก็ต้องเป็นตัวประกอบ)

ขอบคุณที่ให้ความสนใจนวนิยายครับ

บอกตรง ๆ ว่าบทโทรทัศน์เขากระชับตื่นเต้นและสนุกว่านิยาย แต่ถ้าอยากได้อรรถรสเรื่องศาสนาอารมณ์ตัวละครอย่างลึกซึ้งและความสมจริงเรื่องเวลาสถานที่ ในนวนิยายจะมีมากกว่า

จุฬามณี




Create Date : 22 ตุลาคม 2552
Last Update : 22 ตุลาคม 2552 9:44:46 น. 21 comments
Counter : 3501 Pageviews.

 

สนใจนวนิยาย ชิงชัง สองเล่มจบ ราคา 420 เหลือจากผม เหลือเพียง 330.- รวมค่าจัดส่ง

โอนเงินมาที่ ธ. กรุงไทย สาขา ถ.มาตุลี ชื่อบัญชี นายนิพนธ์ เที่ยงธรรม ออมทรัพย์ เลขที่ 642-0-02733-0

แล้วอีเมล์มาแจ้งที่อยู่ f_nakhon@hotmail.com

และถ้าจะหาซื้อในกทม. มีจำหน่ายที่แพร่พิทยา ร้านบีทูเอส(บางร้าน)น่าจะสั่งเคาน์เตอร์ได้ หรือสาขาของ ณ บ้านวรรณกรรม มีที่เดอะมอลบางแค บางกะปิ ซีคอน ท่าน้ำศิริราช
หรือสั่งซื้อได้ที่เว็บของ ณ บ้านวรรณกรรม (ครับ)

ขอบคุณล่วงหน้าครับ..




โดย: จุฬามณี (F_nakhon ) วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:9:30:11 น.  

 
มีคำหกตกหล่นก็ขออภัยด้วยครับ ต้องรีบอัพบล็อก เพราะต้องเดินทางเข้ากทม.ไปงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิตติ์..

อย่างไร สนใจนวนิยายชิงชัง+ลายเซ็นและรอยยิ้มของพ๊ม พบกันที่บู๊ธ ณ บ้านวรรณกรรม เสาร์และอาทิตย์นี้นะครับ หากไม่แล้วไม่เจอ ก็โทรตามได้เลย คงจะป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆทั้ง ทั้งวันครับ... 0869299779


โดย: จุฬามณี (F_nakhon ) วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:9:33:08 น.  

 
ขอบคุณ คุณซามูไร ณ บางกอก สำหรับรูปนะครับ


โดย: F_nakhon วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:9:46:40 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าจ้าพ่อยงชัย

เมื่อคืนดูชิงชังรึเปล่าจ้ะ ฉันกะไว้แล้วเชียว เคยนึกเล่นๆในใจ ว่าคนที่จะทำให้นังอารีย์สำนึกได้นี่ คงต้องเป็นเจ๊บังอร
เพราะเจ๊แกชอบพูดตรงๆ ไม่ไว้หน้าใครดี เผลอๆมีตบ ในที่สุดก็คิดไม่ผิดเลยจริงๆ เจ๊แกได้ใจฉันไปเต็มๆเลยพ่อเอ๋ย...
สะใจดี นี่เพราะสงสารหลานที่จะบวช และเห็นแก่แม่ที่จะไปวันไปพรุ่งหรอก ลองไม่ใช่ 2 กรณีนี่ซิ จ้างให้เจ๊คงไม่ยุ่ง
(อย่ามายุ่งกับฉันนะ ฉันคุณนายนายอำเภอนะ) 555 ฉันละแทบจะอดใจรอไม่ไหว ว่าคืนนี้มันจะสนุกขนาดไหนน้า..
ขอบคุณมากนะพ่อยง ที่เขียนนิยายดีๆมาให้อ่าน และขอบคุณ Xact และพี่ศิริลักษณ์ด้วยที่ทำละครดีๆ สนุกๆแบบนี้
ให้ดู ชิงชังถ้าดูให้ดีนี่ มีมากกว่าดราม่านะ บางตอนมันสอนคนไปด้วย คิดตามบางทีก็เข้าใจโลก เข้าใจคนขึ้นเยอะ
แค่นี้ละนะพ่อ..แวะมาบอกเล่าความรู้สึกเฉยๆจ้า

แม่กิ่ง(แฟนอาทิตย์ ลูกพ่อปิง) ณัฐเอง

---------
สำหรับแฟนคลับคุณณัฐครับ..


โดย: F_nakhon วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:10:08:02 น.  

 
ใครว่าแม่บังอรร้าย เมื่อคืนไม่ร้ายสักหน่อย ที่เธอพูดมาล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น ความจริงที่คนบางคนไม่ค่อยจะยอมรับกันสักเท่าไร่ มัวแต่ดูคนอื่น
นี่ถ้าบังอรเกิดช้าอีกนิด (สำหรับละคร) อาจได้เป็นนางเอกสมัยใหม่ก็ได้ ประเภทพูดความจริง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ฮู้...สะใจ 555


โดย: แอน_แฟนชิงชัง IP: 125.25.207.54 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:10:49:13 น.  

 
โอ้...เจอตัวจริงเลย ป้าละติดหนึบหนับ

ความจริง ไม่ได้ดูละครมานานแสน แล้ว เพราะเบื่อๆกะพล็อตเรื่อง และดาราบางคน

เมื่อกลางเดือนสิงหาไปนอนโรงแรม กะเพื่อน เค้าติดตามอยู่เลยดูกะเค้า

บอกแล้วว่าอย่าดูๆๆๆ มันจะติด
เป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วดูอยู่เรื่องเดียวนี่แหละ ดูโดยไม่ได้อ่านเรื่องด้วยนะ

ดูเพราะฉากเรื่องราวมันใกล้บ้าน ฮา ..

ยังคุยตลกกะลูกๆว่า เอ...ท่าน้ำอ้อย ปากน้ำโพ กะหนองโพ มันก็ไกลกันอยู่นา ฮ่ะๆๆๆแต่ในเรื่องนี่มันไปมาหาสู่กันแป๊บเดียวจริงๆ กร๊ากก

แต่ก็ดู ดู ดู แบบรีบอาบน้ำอาบท่า มาจับจองที่นั่งจริงๆ

ต้องชมว่าดาราทุกคนแสดงได้ดีมาก กำลังคิดว่า มีตัวละครคนไหนบ้างน๊า ที่ยังไม่ได้ร้องไห้เลย

ปลัด เคยร้องไห้ไหม ลืมๆ

มีนายเจิด กะหลวงพ่อวัดที่กรุงเทพฯ ไหม

นอกนั้นช่างร้องไห้กันได้ดีจริงๆๆ

คืนนี้จะต้องร้องกันอีกไหม







โดย: วันจัน วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:10:54:32 น.  

 
เมือคืนดูไปร้องไห้ไปเกือบทั้งเรื่องค่ะ


โดย: YesterdayOnceMore วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:11:27:59 น.  

 
จะเอาหนังสือๆๆๆๆ อิอิ


ป่านอีเมล์ที่อยู่ในการจัดส่งหนังสือไปแล้วนะคะ เดี๋ยวเที่ยงนี้จะให้ผู้มีอุปาระคุณ (สามีที่น่ารักนั่นเอง ห้าๆๆ) โอนเงินให้เลยนะคะ


ปล. สำหรับแฟนละคร ขอบอกว่าในนิยายจะมีอรรถรสอีกแบบที่ชวนให้ลองอ่านกันดูค่ะ สองเล่มจบในราคา 330 บาท ถูกมากจนตกใจ แต่คุณจุฬามณีบอกว่า "ผมขายถูกๆ เพราะกลัวรวย" แหม ขนาดนอนบริจาคเลือดอยู่ ยังมีอารมณ์ขันได้ีอีกแหนะ


โดย: ป่าน IP: 115.31.156.64, 117.121.208.2 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:11:51:45 น.  

 
ได้มีโอกาสไปซื้อ นวนิยาย"ชิงชัง" ในงานสัปดาห์หนังสือ ที่บูธ ณ บ้านวรรณกรรม ลด25% จาก 420 เหลือ 315 เท่านั้น คุ้มจริงๆเลย

ว่าแต่ไม่มีนวนิยาย ของคุณจุฬามณี ที่สำนักพิมพ์นี้อีกหรอครับ ว่าจะเหมา อ่านแล้วสนุกดี แต่เศร้าเกินไปจิงๆ ถ้าจะจบแบบในนวนิยาย ^^

ปล. คอมเม้นวันผิดเลยมาเม้นใหม่


โดย: รักชิงชัง IP: 192.168.0.50, 58.8.231.194 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:13:21:32 น.  

 
ตอบ คนรักชิงชัง

ฝีมือผม มีในนามปากกาอื่น ได้แก่ แจกันดอกหญ้า/ไม่ต้องรักเท่าฟ้า/สะบายดีหัวใจ/แสงดาวไอดินอินเดีย นามปากกา ชอนตะวัน

ส่วน องค์การบริหารส่วนหัวใจ/หัวใจไม่ใช้เส้นขนาน นามปากกา เฟื่องนคร ครับ


ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ..

อย่างไร สรุปว่า พรุ่งนี้ หรือ ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ พบ ผมได้ที่บู๊ธ ณ บ้านวรรณกรรม นะครับ ถ้าไม่เจอก็ 0869299779

อย่างไรตอนนี้ขอ เดินทางจากนครสวรรค์ นี่ยังลุ้นเลยว่า จะทันได้ดูชิงชังคืนนี้ไหม และจะหาเน็ตอัพบล็อกได้หรือไม่..

ไปละครับ..



ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ


โดย: จุฬามณี/เฟื่องนคร/ชอนตะวัน IP: 114.128.6.141 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:13:48:39 น.  

 
ตอนที่ 47 ยังหาดูไม่ได้เลยเนี่ย เฝ้าจอคอมพ์ ตั้งกะ 6 โมงเช้าแร้วค๊า......นี่มัน 8.48 ยังมะเจอเรยเชค ยูทูบ-กูเกิล ทุก 5 นาที ฮ่วย ยังมะมาเรย ไม่เป็นอันทำไรเลย ถ้ามะได้ดูชิงชัง.....


โดย: แม่บ้านบาเยิร์น IP: 217.227.28.184 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:13:51:35 น.  

 
รักบังอรที่สุดเลยเมื่อคืน 555+

เธอสุดยอดจริงๆ นึกว่าเธอจะมึนๆร้ายๆเป็นอย่างเดียว

ตอนที่ 47 ดูแล้วน้ำตาไหลพรากๆ


ปกติไม่ค่อยชอบดูละครค่ะเพราะสมัยนี้ละครมันไม่ค่อยมีสาระ
จะโฆษณาก้ต้องใช้ฉากพระนางล่อแหลมๆ มารีวิวกัน หลายเรื่องเลย ดูแล้วมันไม่ค่อยเมกเซ้นส์ซะเท่าไหร่

แต่เรื่องนี้ค่อนข้างสอนและให้แง่คิดเยอะพอสมควรค่ะ
แล้วก็สนุกด้วย เลยติดตาม

เดี๋ยวจะไปหาเวอร์ชั่นหนังสือมาอ่านบ้างนะคะ อิอิ


โดย: iNAN IP: 125.25.198.58 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:17:34:27 น.  

 
ตอนสุดท้ายของสัปดาห์นี้มันบีบหัวใจจริงๆ
ยิ่งดูตัวอย่างของวันจันทร์หน้าแล้วยิ่งไปกันใหญ่



โดย: ศุภสิทธิ์ IP: 58.8.121.231 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:21:46:17 น.  

 
อยากรู้ว่าจะจบยังไง
ใครพอชี้แนะได้บ้างง่ะ


โดย: aey IP: 58.9.247.65 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:21:51:02 น.  

 
หากไม่มีอะไรผิดพลาดคลาดเคลื่อน
อาทิตย์หน้า "ชิงชัง"ก็จะเหลืออีกสี่ตอนสุดท้าย
รวมกันแล้วเป็น 52 ตอน ซึ่งที่เคยคุยกับคุณเฟื่องทีแรกนั้น
เรารู้กันมาว่าประมาณ 40 ตอนก็อาจจะลาวิกททบ.5นี้ไป

แต่นับจากออนแอร์วันแรก 3 สิงหาคม 52
ณ ขณะนี้ 48 ตอนเข้าไปแล้ว
ต้องบอกว่าเป็น 48 ตอนที่ไม่เคยพลาดแม้เพียงช็อตเดียว
แม้จะไม่ได้เขียนแสดงความคิดเห็นในอาทิตย์แรกตอนชิงชังฉายก็ตาม
แต่หลังจากนั้นมา
ความคิดเห็นที่มาในรูปแบบดูละครแล้วย้อนดูตัวก็ไม่เคยขาดสักตอนเดียว

เคยคุยกับคุณเฟื่องว่า บางครั้งไม่รู้จะเขียนอะไร
เพราะคิดว่าแต่ละตอนที่ผ่านมาก็มีรายละเอียดให้พูดถึงเยอะแทบทุกตอน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรักระหว่างหนุ่มสาว ความรักของพี่น้อง
ความรักจากพ่อแม่สู่ลูก และคนในครอบครัว
ความกตัญญูรู้คุณ ความดีงาม เสียสละ อดทน
ความอิษฉาริษยา การแก่งแย่งชิงดี ความทะเยอทะยาน ใฝ่สูง
ความเคียดแค้น อาฆาต หลงผิดคิดชั่ว เอาชนะเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
ทุกสิ่งที่กล่าวมานั้น ล้วนพูดไปหมดแล้ว
ไม่เว้นแม้แต่ความชิงชังที่แฝงอยู่ในตัวละครทุกตัว เราก็เอ่ยถึง

วันนี้อีกเหมือนกัน ระหว่างที่นั่งดูก็นึกอยู่ว่าวันนี้เราจะดึงประเด็นไหนขึ้นมาพูดถึง
หรือจะว่าไปแล้ว เราดูอย่างเดียวไม่ได้ ต้องทำงานด้วย
เพราะไม่อย่างนั้นไม่มีการบ้านให้คุณเฟื่องลอก 5555

แต่จริง ๆ แล้วเคยบอกกับคุณเฟื่องว่า
มันเป็นช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ชีวิตเรา (หมายถึงคุณเฟื่อง)
ละครยิ่งใหญ่แห่งปีทำจากนวนิยายที่คุณเฟื่องปั้นเองมากับมือ
และเมื่อตัวละครเหล่านั้นมีชีวิตโลดแล่นให้เราได้อิ่มเอมมีความสุขไปกับมัน
หรือจะร้องไห้กับทุกช็อตทุกฉากก็ตาม

เราสมควรจะทำบางสิ่งเพื่อจารึกไว้ให้เราได้รำลึกถึง
การคอมเม้นท์จึงเกิดขึ้น แม้จะกระพร่องกระแพร่งบ้างในตอนแรก ๆ
แต่เราก็ตั้งใจทำเพื่อวันหนึ่งเราจะได้หันมองกลับมาเห็นความสำเร็จ
ด้วยรอยยิ้ม ด้วยความภูมิใจที่คุณเฟื่องมีวันนี้

เกริ่นทำไมก็ไม่รู้ยาวเชียว 55555
นี่กำลังนึกถึงวันสุดท้ายของตอนอวสานนะเนี่ย
วันนั้นต้องเขียนอะไรบ้างยังไม่รู้เลย
แต่ก็ช่างเถอะ อนาคตเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้
เราทำปัจจุบันให้ดีที่สุดเป็นพอไม่ใช่หรือ ?
แล้วอนาคตที่ดีก็จะรออยู่ข้างหน้า


ฉากแรกของวันนี้ เชื่อว่าคุณชลาชลคงโดนด่าตรึม
เพราะไม่ฉลาดเอาเสียเลย กับการกระทำที่แสนซื่อจนเซ่อ
ขอโทษที่ต้องใช้คำนี้ เพราะไม่มีใครที่ไหนเขาทำแบบพ่อชลาชลหรอกนะ
เยาวชนดูอยู่หรือเปล่า ?
พ่อแม่ผู้ปกครองควรเตือนบุตรหลานด้วยว่าอย่าเอาเยี่ยงอย่าง
มีอย่างที่ไหน ได้ยินคนร้ายวางแผนการจะไปฆ่าคน
แทนที่จะไปแจ้งความ หรือหาวิธีป้องกันตัวอาทิตย์กับยงชัยแทน
กลับพูดเตือนสติให้เลิกทำชั่ว แถมยังบอกอีกว่าจะไปแจ้งความ

เฮ้อ..แล้วคนร้ายมันจะเอาคุณชลาชลไว้ทำพ่ออะไรอีกล่ะ?
ดีมันไม่ยิงเอาข้างหลัง จบเห่ตายกันพอดี ไม่ต้องเจอหรอกเมียเก่าน่ะ

เฮ้อ.. อีกรอบแต่ก็นึกไปนึกว่า
เพราะในชีวิตจริงเขาก็ไม่ทำกันแบบนี้อยู่แล้ว
แต่นี่มันคือละครเพราะเขาต้องการโยงให้ชลาชลโดนทำร้าย
แบบว่าต้องการให้สมองกระทบกระเทือน
เผื่อเอาไว้เรียกความทรงจำแต่หนหลังคืนมาก็ได้
อันนี้เดาใจคนเขียนบท หากต้องการให้ละครเรื่องนี้จบอย่างแฮปปี้

อ้าว แต่พอฟื้นขึ้นมา จำลูกสองคนได้อีก
เอ๊ มันยังไงหว่า ? พับผ่าเถอะเดาตอนจบยากจริง ๆเลย 555

มาพูดถึงฉากซึ้ง ๆ ที่ยังมีให้เห็นกันบ้างดีกว่า
แม้จะไม่มาก แต่ก็ประทับใจกับพ่อปิง หนึ่งในคนดีของโลกใบนี้
ปิงช่างเป็นพ่อที่แสนดี ดีด้วยเนื้อแท้ของตัวเอง
อาทิตย์เป็นเพชรที่ส่องประกายมาได้นั้น
ก็ต้องบอกว่าเพราะมีทองแท้อย่างพ่อปิงเป็นต้นแบบนั่นเอง

พ่ออย่างปิงมีความสุขอยู่กับการให้ ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
เขาขอเพียงให้ลูกมีความสุข แล้วเฝ้ามองชื่นชมอยู่ห่าง ๆ ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
ฉากที่แม่อื่มยื่นบาตรกับตาลปัตรให้ถือและสะพายนั้น
สีหน้าของปิงนั้นตื้นตัน อิ่มเอม ปลาบปลื้มกับความสุขใจที่ได้รับในชีวิตอาภัพของตน
แต่ความสุขของคนอยู่กับเราไม่นานหรอกนะ อย่าลืม !

อีกฉากก็คืออารีย์กับความจริงที่เธอเพิ่งยอมเปิดปากพูดออกมาครั้งแรก
แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่ใครหลายคนได้ฟัง ก็คงจะพากันปลื้มและโล่งใจที่อารีย์คิดได้
และยอมที่จะเปิดเผยความจริงให้ใครได้รับรู้ว่าเธอมีลูกชายกำลังจะบวช
ในที่สุดสำนึกดี ๆ ก็ดึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของอารีย์กลับมาได้
แม้จะช้าไปเกือบยี่สิบกว่าปี แต่มันก็ไม่สายที่จะเริ่มต้นมิใช่หรือ ?

เคยบอกคุณเฟื่องหลายครั้งแล้วว่า ตัวละครในเรื่องแม้จะร้ายแสนร้ายแค่ไหน
แต่เราก็ไม่เคยโกรธเกลียดพวกเขา ด้วยเข้าใจในเหตุผลของการกระทำของทุกคน
เพราะคนเราไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ และไม่มีใครเลวไปเสียทุกด้าน
ดังนั้นเมื่อตัวละครสำนึกได้ จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดี
เหมือนกับคู่ของพี่น้องสองสาว อุ่นกับบังอร ที่ผิดใจกันมาตั้งแต่ครั้งยังเป็นสาว
จวบจนอุ่นเป็นแม่ คนทั้งสองก็ไม่เคยคิดจะกล่าวคำขอโทษต่อกัน
เมื่อวันเวลาผ่านพ้น ต่างคนต่างผ่านช่วงที่ยากที่สุดของชีวิตมาแล้ว
และเรียนรู้ว่าการกล่าวคำขอโทษ ขออโหสิ
ให้อภัยซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งจำเป็นที่สมควรทำ
เพราะเมื่อถึงเวลานั้นมันก็อาจสายเกินไป

แล้ววันนี้ล่ะ คุณกล่าวคำขอโทษ ขออภัยกับใครบางคนหรือยัง ?


โมริสา

คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูละครจบ
โปรดใช้วิจารณญาณ




โดย: โมริสา IP: 125.24.70.206 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:22:51:05 น.  

 
อยากรุ้จังค่ะว่าอาทิตย์หน้าจะเป็นยังไง เสียงปืนนี่ยิงโดนใครรึเปล่า แฮ่ๆ

แต่แอบชอบตัวละคร บังอร นะคะ
ถึงแกจะดูร้ายๆ แต่ถ้าดูจากเริ่มเรื่องเลยเนี่ย
จะเห็นได้ว่าเขามีเหตุผลของเขาเหมือนกัน เหมือนตัวละครทุกตัว

ไม่สายที่จะเริ่มต้น ไม่สายเกินไปจะที่ขอโทษและสำนึกได้


แต่ก็ชอบที่ทางละครเขาเลือกเปปเปอร์มาแสดงเป็นอิน นะคะ
น่าร๊ากกกก


โดย: iNAN IP: 125.25.198.58 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:23:12:58 น.  

 
http:music.ohozaa.com/drama/show_ondemand_daily_new.jsp?channel=5&dateSelected=22-10-2009

ยอนหลังตอนที่ 48

http:music.ohozaa.com/drama/show_ondemand_daily_new.jsp?channel=5&dateSelected=22-10-2009

ย้อนหลังทุกตอน


โดย: anop IP: 192.168.2.30, 58.8.47.115 วันที่: 22 ตุลาคม 2552 เวลา:23:49:29 น.  

 
ชักอยากจะรู้เหมือนกัน ว่าใครถูกยิง

ในหนังสือนี่ใครที่ถูกยิงเหรอครับ ?

อุ่น หรือ ปิง เพราะดูจาก Preview ตัวอย่างแล้ว

น่าจะเป็น 2 คนนี้ ที่จะโดนยิง แต่ไม่รู้ว่าใครเหนี่ยวไก

ยงชัย หรือ สัญชัยกันแน่ ?

แต่ เจ้าสัญชัยนี่มันร้ายจริง ๆ ซ่าไม่เลือกที่จริง ๆ - -


โดย: C IP: 180.180.7.86 วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:1:37:38 น.  

 
อยากรู้มาก ๆ ว่าจะเป็นยังงัยต่อ

เกินจะคาดเดาจริง ๆ

ถ้าตามหนังสือแล้วเป็นยังงัยต่อคะ


โดย: np IP: 110.164.97.67 วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:8:32:44 น.  

 
รออ่านบล็อกวันนี้ค่ะ


โดย: YesterdayOnceMore วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:8:53:09 น.  

 
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะคะเกี่ยวกับเรื่องที่อารีย์ใจดำกับอาทิตย์ คงเป็นเพราะว่า อารีย์ไม่ได้รักปิง จึงทำใจไม่ได้ที่จะรักอาทิตย์ด้วย และด้วยความที่อารีย์อยากมีความเป็นอยู่ที่ดี จึงต้องทำแบบนี้
แต่เมื่อเทียบกับอุ่นที่รักยงชัย เป็นเพราะยงชัยเกิดจากคนที่อุ่นรัก
เพราะถ้าอารีย์รักปิง ก็คงจะรักอาทิตย์ด้วย


โดย: เอ๊ะ IP: 10.0.99.243, 10.0.99.243, 127.0.0.1, 202.28.23.196 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:13:22:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

F_nakhon
Location :
นครสวรรค์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




email ถึงผู้เขียน

เฟื่องนคร : f_nakhon@hotmail.com
ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อก เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน

-------------------


Friends' blogs
[Add F_nakhon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.