Group Blog
 
 
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
เฉพาะแฟน ชิงชัง # 1

ปกติไม่ดูละคร เพราะถ้าดูจะเกิดสงครามขนาดย่อมกับคนที่บ้าน
เราก็เลยต้องมีทีวีคนละเครื่อง เพื่อเป็นเอกเทศในการดูช่องโปรดของเขาของเรา

สำหรับ"ชิงชัง" ต้องบอกว่าไม่ดูไม่ได้หรอก
เพราะเป็นนิยายของคุณเฟื่องที่เราอ่านตั้งแต่ยังไม่เป็นเล่ม
หรือจะเรียกว่ายังไม่ได้แก้คำผิดด้วยซ้ำ

ตอนนั้นอ่าน สงสารผู้ใหญ่แก้วมากกกกกกกกกกกกกกกก
สงสารที่แกมีลูกสาวตั้งหลายคน แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะทำให้แกชื่นใจ
หรือไม่ต้องร้องไห้เสียใจอย่างที่แกเผชิญอยู่ตอนนี้

สรพงษ์ รับบทผู้ใหญ่แก้วได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่ฉากแรก
จนมาถึงฉากเมื่อคืนที่นั่งทุกข์ใจกับการไปจากบ้านของแม่อิ่ม
จะเห็นว่าความทุกข์ ความผิดหวังออกมาทางสีหน้าและแววตา
น้ำตาที่ปริ่มและค่อย ๆไหลลงมานั้น ทำเราอึ้งนึกเห็นใจคนเป็นพ่อมากที่สุด

ฉากนี้ต้องตบมือให้สรพงษ์ สมกับตำแหน่งนักแสดงชายยอดเยี่ยมสามปีซ้อนจริง ๆ


ส่วนตัวละครที่เราเห็นใจอีกคนก็คือทิดอิน
ความรักที่ถูกแย่งไปต่อหน้าต่อตา มันเสียศักดิ์ศรีมากจนยากเกินให้อภัย

ตอนแรกไม่คิดว่าเปบเปอร์จะทำได้นะ เพราะเราวาดภาพทิดอินไว้อีกแบบ
แต่บทเมื่อคืนตอนเถียงกับแม่อิ่มในห้อง ยอมรับว่าทิดอินมาแรงขอรับ

ส่วนไอ้ยอด ยอมรับว่าน่าสงสาร และน่าเห็นใจมาก
กัปตันทำให้ไอ้ยอดมีชีวิตขึ้นมาจริง ๆ
ตอนนี้เราอยากดูฉากที่แม่อื่มรู้ว่าโดนยาเสน่ห์มากเลย
บทจะส่งจะรับกันมากน้อยแค่ไหน คงต้องตามกันแบบช็อตต่อช็อตเลยทีเดียว

ส่วนคู่ที่กำลังมาแรงอีกคู่ก็คือ "ไอ้ยิ่ง กับอีอุ่น"
สุดยอดขอรับคู่นี้ อยากบอกว่าเป็นตัวขโมยซีนไปแบบเต็ม ๆ
มีหวังปลายปี นักแสดงในเรื่องต้องมีลุ้นกับรางวัลใดสักรางวัลอย่างแน่นอน

ก็ดีใจกับคุณเฟื่องด้วยอีกครั้ง ไม่มีอะไรจะดีใจภูมิใจเท่า
ที่ตัวละครที่เราสร้างขึ้นมา มีชีวิตมีลมหายใจโลดแล่นอยู่ในจอทีวีหรอก

ตอนเป็นหนังสือเราก็ว่าดีใจมากที่สุดแล้วนะ
แต่นี่เป็นละครฟอร์มยักษ์แห่งปีของเอ็กแซ็กท์
ถ้าตอนนี้คุณเฟื่องจะยิ้มหน้าบานเหมือนจานดาวเทียม ไม่มีใครว่าหรอก
เราเองก็ยังอิจฉาเลย

โดย: โมริสา IP: 125.24.13.138 วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:11:37:34 น.




**********************************************
"ใครไม่รักไม่รู้...ถ้าใครไม่อยู่ตรงนี้"

เนื้อเพลงท่อนนี้ดังขึ้นมาทันทีที่นังอุ่นเอามือรับปืนพ่อไว้ตรงอกตัวเอง เพื่อช่วยชีวิตคนที่มันรัก

ไม่ต้องพูดหรือมีคำอธิบายก็เข้าใจได้ทันทีว่าชีวิตนี้อีอุ่นพลีให้ไอ้ยอดคนได้อย่างไม่เสียดาย

แต่ไอ้ยอดหรือก็ช่างกระไร จะเห็นความรักความภักดีที่อีอุ่นทุ่มเทให้หรือก็เปล่า

น้ำตาอีอุ่นจึงปริ่มล้นอยู่ตรงขอบตา แล้วไหลรินด้วยความน้อยใจ

เท่านั้นยังไม่พอ ความเจ็บช้ำยังตอกย้ำด้วยการให้ไอ้ยอดก้มเก็บธูปเทียนแพใส่ถาดใบเล็ก
โดยไม่สนใจในสิ่งที่นังอุ่นที่ทำก่อนหน้านี้ คำขอบใจไม่มีให้ นอกจากอาการเฉยเมยที่มีให้
แล้วหัวใจนังอุ่นมันไม่ได้มีเลือดเนื้อ ชีวิตจิตใจหรือไง ?
มันถึงจะได้ไม่รู้สึกสะเทือนใจ น้อยใจกับสิ่งที่ไอ้ยอดทำกับมัน
ฉากนี้นังอุ่นเอาคนดูอยู่ ขอบอกว่าสะเทือนใจ กินใจมากกกกกกกกกกกกกกกกก
ขอปรบมือให้น้องพิมพ์ดัง ๆค่ะ รางวัลตอนสิ้นปีคงไม่หนีไปไหนกับการแสดงที่ทุ่มเทขนาดนี้

ไม่ลืมผู้ใหญ่แก้วที่สวมบทบาทโดยคุณสรพงษ์ ชาตรี
บทพ่อผู้เจ็บปวดกับการกระทำของลูกสาวทั้งสี่ไม่มีใครเหมาะเท่าอีกแล้ว
ทั้งสีหน้าและแววตาที่แสดงออกให้คนดูรู้ว่า ทั้งรักทั้งแค้น ชิงชังเจ็บปวดนั้น
อยากบอกว่าคุณสรพงษ์เกิดมาเพื่อบทผู้ใหญ่แก้วโดยเฉพาะ

บทของทิดอินก็เช่นกัน ทั้งรักทั้งแค้นที่ออกมาทางแววตาโดยมีน้ำตาคลอดวงตานั้น
ถ้าเป็นกรรมการตัดสินรางวัล เราคงหนักใจกับการแสดงที่เยี่ยมยอดของคุณเปบเปอร์

ส่วนคุณกัปตันผู้สวมบทไอ้ยอดนั้นไม่ต้องพูดถึง เล่นได้สมกับบทที่ได้รับ
ฉากตอนไอ้ยอดจับตุ๊กตาแฝดที่มัดติดกันขึ้นมาถือนั้น มันก็ดูจะรู้ตัวดีว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้มันผิด
แต่เพราะความรักเพียงอย่างเดียว ไม่มีอะไรที่ไอ้ยอดทำเพื่อความรักไม่ได้
แม้รู้ว่าผิด ก็นะ ผิดก็เพราะรักเท่านั้นเอง

ดูไปก็สงสารไอ้ยอดไป หวังว่ามันคงไม่ลืมนะว่าที่แม่อิ่มรักมัน เป็นห่วงมันได้ขนาดนี้
เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะเสน่ห์ยาแฝดหรือไง แค่คิดถึงตอนแม่อิ่มรู้ความจริง ก็เศร้าแล้วค่ะ

ส่วนแม่อิ่มที่รับบทโดยคุณเจี๊ยบ โสภิตนภา แม่อิ่มน่าสงสารมากเช่นกัน
เพราะได้สามีในขณะที่ตนไม่มีสติ ด้วยฤทธิ์ยาเสน่ห์ของหมอเกริง
เรียกว่าตกเป็นเหยื่อของความรักท่ามกลางผู้ชายสองคนที่ห้ำหั่นกันเพื่อศักดิ์ศรีของความรักค่ะ

หลังจากฉากนังอุ่นขวางทางปืนของพ่อเพื่อคนที่ตนรักแล้ว ได้โทรคุยกับคุณเฟื่อง หรือจุฬามณี
บอกเขาว่าแทบไม่อยากดูชิงชังต่อแล้ว เพราะสงสารตัวละคร
ด้วยรู้ว่าบทสรุปของทุกคนจะไปอยู่ตรงไหน
แต่ก็มาคิดว่า การแสดงที่เยี่ยมยอดของนักแสดงทุกท่านในเรื่องนี้
คงทำให้เราทำอย่างที่บอกคุณเฟื่องไม่ได้ แม้จะต้องเสียน้ำตากับอีกหลายฉากก็ตาม

สุดท้ายนี้ ขอบอกว่า สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ขอปรบมือให้กับทีมนักแสดงทุกท่านค่ะที่รับส่งบทบาทกันได้อย่างยอดเยี่ยม
ไม่ลืมปรบมือให้กับผู้เขียนบทที่เก็บรายละเอียดของบทประพันธ์ได้อย่างลงตัว
ผู้กำกับที่ไม่อาจลืม ต้องปรบมือให้เช่นกัน
สุดท้ายปรบมือให้เจ้าของบทประพันธ์ค่ะ คุณจุฬามณี
โดย: โมริสา IP: 125.24.73.133 วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:15:01:41
น.




*****************************************************

เมื่อคืนน้ำตาไหลกับฉากแม่ลูกบอกลากันตรงศาลา
นึกถึงหัวอกคนเป็นแม่ ไม่ว่าลูกจะทำให้อับอายขายหน้าแค่ไหน
ลูกก็ยังเป็นลูก แม่ยังคงรักและห่วงใยความเป็นอยู่และความรู้สึกของลูกเสมอ
จะยากดีมีจน อดมื้อกินมื้อแม่ก็ยอม ขอเพียงให้ลูกมีความเป็นอยู่สุขสบายเป็นพอ
แง ๆ ดูแล้วคิดถึงคนเป็นแม่ กับคิดถึงคนเป็นลูก
แล้วก็คิดถึงตัวเอง แง ๆ

ฉากนังอุ่นกอดเสาร้องไห้ สงสารจับจิตจับใจ
ไม่มีใครรู้ว่านังอุ่นมันอัดอั้นตันใจแค่ไหน
กับการไอ้ยอดจะไปจากท่าน้ำอ้อย
จะรั้งจะบอกไม่ให้ไป ก็ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไม
ฉากไอ้ยอดพาแม่อิ่มลงเรือไปจากท่าน้ำอ้อย มันไม่ได้แค่พาแม่อิ่มไปเพียงคนเดียว
แต่มันเอาหัวใจของนังอุ่นไปด้วย กลับทำหัวใจของทิดอินยับเยินจนกลัดหนอง

ผู้ใหญ่แก้วยังคงมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัว เมื่อเสียหน้าไปแล้วก็ต้องกู้คืน
ไม่ใช่กู้แค่ความอัปยศอดสู แต่เป็นการกู้ศักดิ์ศรีของความเป็นพ่อ
เป็นผู้ใหญ่บ้านที่มีคนนับหน้าถือตากลับคืน
คุณสรพงษ์ยังทำหน้าที่ผู้ใหญ่แก้วได้อย่างไม่มีที่ติ

อีกหนึ่งคนที่ต้องพูดถึงก็คือ คุณเจ็ค ศตวรรษ ดุลยวิจิตร
ต้องขอชื่นชมว่าบทน้าเขยจอมเจ้าชู้ทำเอาคนดูอย่างเราเชื่อสนิทใจ
ลวดลายนักแสดงรุ่นพี่ยังแพรวพราว ไม่ทำให้คนดูผิดหวัง
ฉากแรกที่เปิดตัวก็กินขาด ออกมาก็รู้เลยว่าผู้ชายคนนี้อันตรายสำหรับผู้หญิงทุกคน

แต่เมื่อคืนนี้ขัดหูขัดตากับทิดอินที่เก๊กแมนจนอยากหยิกขาให้พ่อทิดอินลุกหนีไปจากตรงนั้นซะก็ได้

รู้ละว่าตัวเองก็เศร้า สะเทือนใจกับความรักที่โดนเพื่อนทรยศ
ก็คนอื่นเขากำลังคร่ำครวญ พ่อทิดอินยังไม่เลิกเก๊กหล่อ (ฮา)

สรุปว่ายังคงความเข้มข้นได้ทุกตอน
น้ำตายังต้องเสียอีกหลายกระปี๊บตามสำนวนแบบบ้าน ๆ ของพ่อเฟื่องเขา
จากนี้ไปจะยิ่งรันทดมากขึ้น แต่รันทดยังไง ก็คงต้องหาคำตอบกันเอาเองจ้า
เล่าแล้วไม่หนุก แต่ดูแล้วมาเล่าด้วยกันจะหนุกกว่า ขอบอก


ป.ล.คุณเฟื่องถามว่าใครเคยกอดเสาร้องไห้ให้ยกมืออขึ้น
เรา ๆ เราเคยกอดเสาร้องไห้เหมือนกันนะ
เชอะ แต่ไม่อยากเล่า เดี๋ยวไม่จบ !!!
โดย: โมริสา IP: 125.24.87.244 วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:14:46:52 น.






-----------------------------------ตอนที่ 7---------------------------------

ชังตอนเมื่อคืน ต้องบอกว่าเป็นอีกตอนที่สุดยอดเกินคำบรรยาย
ฉากหมอเกริงถอนเสน่ห์ทำได้ตื่นเต้นระทึกขวัญมาก
คาถาอาคมที่ท่องออกจากปากของหมอเกริงดูขลัง น่ากลัว
และทำให้เชื่อสนิทใจว่าน้ำมันที่ไอ้ยอดได้ไปนั้น มันมีอานุภาพรุนแรงเพียงใด

แต่ปลาหมอตายเพราะปากฉันใด หมองูก็ตายเพราะงูฉันนั้น
ไม่ผิดอะไรกับหมอเกริงที่คำก็ว่าเอาหัวเป็นประกัน สองคำก็หัวเป็นประกัน
แล้วออกปากประกันกับใครก็ไม่เท่าออกปากกับทิดอินหรอกจริงไหม ?

คนมีความแค้นเพราะความรักโดนเพื่อนทรยศหักหลัง
ถ้าจะเล่นกันแบบลูกผู้ชาย วิสัยนักเลงก็คงยอมให้กันได้
แต่เมื่ออีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อ เอาเสน่ห์ยาแฝดเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อรู้แหล่งที่มา และผู้มีส่วนรู้เห็นทำให้เกิดโศกนาฏกรรมรักครั้งนี้ขึ้นแล้ว มีหรือทิดอินจะนิ่งดูดาย แค้นนี้ต้องชำระจึงถูกหยิบออกมาใช้ในทันทีที่มีโอาส

คุณเปบเปอร์เมื่อคืน เป็นทิดอินได้นิ่งมาก
ไม่ต้องแสดงสีหน้ายียวนกวนประสาทว่าข้านี้ละเว้ยผู้ร้าย
แค่บอกให้รู้ทางแววตาว่าโทษครั้งนี้ของหมอเกริงถึงตาย
แค่นั้น แค่นั้นจริง ๆ!!

แม่อิ่ม เมื่อคืนตีตื้นคะแนนความเห็นใจมาเป็นอันดับต้น ๆ
บทรู้ความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนนั้น มันปวดร้าวจนยากเกิน
บรรยาย
ลองคิดดูซิว่า พอมีสติรับรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างนั้น
ทุกอย่างก็สายเกินแก้ไข

ความสาว ความดีที่สั่งสมทำมา พังทะลายลงเพราะการกระทำของไอ้ยอดที่ได้ชื่อผัว

ผิด ผิดเพราะรัก ไอ้ยอดมันผิดเพราะรัก แล้วสิ่งที่แม่อิ่มสูญเสียไป จะเรียกคืนได้จากใคร ?

พ่อแม่ต้องอับอายขายขี้หน้า ส่วนตนเองเสียใจ เสียความรู้สึก เสียความสาว

ฉากแม่อิ่มอาละวาด ทุบตี ตบหน้าไอ้ยอดเมื่อคืนนั้น
เป็นการแสดงที่โดดเด่นของคุณเจี๊ยบ โสภิตนภา
ยิ่งไอ้ยอดที่รับบทโดยคุณกัปตัน แสดงออกว่ายอมรับผิดโดยดุษฏีนั้นทั้งสองก็ยิ่งแสดงได้อย่างไหลลื่น สุดยอดจริง ๆ

อีกสองคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้หรอก นังอุ่นกับไอ้ยิ่ง
อยากบอกว่าฉากนังอุ่นนุ่งกระโจมอกถูกล่ามโซ่นั้นดูแล้วเซ็กซี่ชะมัดเลย (นึกอยากเป็นโซ่ ฮา)
ฉากไอ้ยิ่งเป่าขลุ่ยก็น่ารักไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
แต่บอกตรง ๆว่าดูแล้วเศร้า แม้ผิวหน้าจะเคลือบด้วยรอยยิ้มของทั้งคู่

แต่ใครเห็นบ้างว่าเป็นรอยยิ้มที่กระอักกระอ่วนของนังอุ่น
ขณะเดียวกัน รอยยิ้มของไอ้ยิ่งนั้นขัดเขินกับความรู้สึกของตน
จะพูดก็กลัวโดนนังอุ่นด่า เพราะสบประมาทกันไว้เยอะ
ส่วนนังอุ่นไม่มีตาจะมองเห็นความรักของใคร แม้แต่ไอ้ยิ่ง
เปรียบเหมือนบานหน้าต่างที่นังอุ่นปิดนั่นไง

ปิดตา ปิดใจ ไม่รักใคร
เมื่อดวงตา ดวงใจของนังอุ่นอยู่กับพี่ยอดของมันเพียงคนเดียว


ความรักมักเป็นเช่นนี้ แลเอย.....
โดย: โมริสา IP: 125.24.18.23 วันที่: 13 สิงหาคม 2552 เวลา:12:07:29 น.



----------------------- ตอนที่ 9 ---------------------


การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรัก ย่อมทำให้เกิดปัญหาตามมาไม่ว่าจะก่อนหรือหลัง

ชิงชังตอนที่เก้า บอกให้รู้ว่าการฝึนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ ย่อมส่งผลต่อคนรอบข้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผู้ใหญ่แก้วผู้สวมบทบาทโดยคุณสรพงษ์ ยังคงเป็นหัวหน้าครอบครัวที่เอาแต่ใจ ตัดสินทุกอย่างด้วยคำสั่ง แต่ด้วยหัวใจของพ่อผู้เจ็บช้ำและผิดหวังจากลูกสาวซ้ำแล้วซ่ำเล่า

คนเป็นแม่อย่างนางทองคำผู้สวมบทบาทโดยคุณเดือนเต็ม จึงเจ็บปวดไม่แพ้กัน และยังต้องคอยรองรับอารมณ์จากสามีอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

จะเห็นได้จากฉากที่รู้ว่าลูกหนีลงเรือนไป
คนเป็นแม่อย่างนางทองคำยังต้องนึกว่าจะเรียบเรียงคำพูดอย่างไร
นางจึงจะไม่ทำให้สามีโมโหมากไปกว่าที่เป็นอยู่
ยอมรับเลยว่าการแสดงของคุณสรพงษ์กับคุณเดือนเต็มรับส่งกันได้อย่างยอดเยี่ยม

บทพ่อแม่ผู้ผิดหวังซ้ำรอยเดิมทำให้คนดูอย่างเราอึ้ง ตีบตันในลำคอและต้องทบทวนตัวเองว่าที่ผ่านมาเราทำให้พ่อแม่ร้องไห้เสียใจบ้างหรือเปล่า

แม้ในเรื่องคนเป็นพ่ออาจเอาแต่ใจ ออกคำสั่งโดยไม่ฟังคำทัดทานของลูกกับเมียแต่หากจะสัมผัสลงไปในจิตใจของผู้ใหญ่แก้ว ก็จะเห็นว่า ทุกสิ่งที่ทำนั้นเกิดจากความรักทั้งสิ้น

รักที่จะปกป้องสักดิ์ศรีของลูกสาวไม่ให้ทำผิด ผิดที่ว่านี้ประพฤติผิดในกาม ดังที่แกลั่นวาจาว่า

"ตั้งแต่เกิดมา กูไม่เคยเห็นพี่น้องริจะมีผัวคนเดียวกัน"

นี่คือจุดเริ่มของความวุ่นวายครั้งที่สอง

นังอุ่นรับบทโดยคุณพิมพ์มาดา
ฉากพายเรือหนีพ่อ เป็นอีกฉากที่บีบคั้นอารมณ์
บอกให้รู้ว่านังอุ่นไม่ได้อยากทำแบบนี้ ไม่คิดจะทำให้พ่อแม่ต้องอับอายแต่ในเมื่อคำประกาศิตของพ่อ
เป็นดังลิขิตของโชคชะตาที่นังอุ่นมิอาจหลีกเลี่ยง
การลงเรือหนีของนังอุ่นจึงเปรียบเสมือนชีวิตที่พร้อมจะลอยไปข้างหน้าแม้ยังไม่เห็นฝั่งว่าจะไปจบลงตรงไหน
แต่ในเมื่อนังอุ่นเป็นผู้ถือพายด้วยตัวเอง ทุกสิ่งที่เกิดย่อมยอมรับในการตัดสินใจของตนเอง

ทิดอิน ผู้เจ็บปวดซ้ำรอยเดิมเช่นเดียวกับผู้ใหญ่แก้ว และนางทองคำแผลเก่ายังไม่ทันตกสะเก็ด แผลใหม่บาดลึกลงที่เดิม
จะมีใครสะสมความแค้นไว้ในอกได้เท่าทิดอินอีกเล่า

ดังนั้นหากทิดอินจะแสดงความร้ายกาจให้ทุกคนได้รู้ว่า แค้นนี้ต้องเอาคืน มันไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยสักนิดเดียว

ต้องขอพูดถึงคุณเปบเปอร์นิดนึงว่า ก่อนหน้านี้พอรู้ว่าคุณเปบเปอร์จะรับบททิดอิน เรารู้สึกผิดหวังนิด ๆ เพราะทิดอินในจิตนการนั้นต้องเข้มกว่านี้ เพราะทิดอินไม่ใช่ผู้ร้ายแบบหนังไทยทั่วไป
แต่พอได้ดูบทบาทการแสดงของทิดอินมาเรื่อย ๆ เขาเริ่มทำให้เชื่อได้ว่านี่แหละทิดอินของคุณจุฬามณี
แค่บทกรีดเลือดสาบาน มีน้ำตาคลอเบ้า
นัยน์ตาคู่นั้นมันบอกคนดูอย่างเราว่า มันแค้นจนยากที่จะอภัยให้เลยทีเดียว


วันนี้ต้องพูดถึงอีกหนึ่งตัวละคร หลังจากที่ยังไม่มีโอกาสได้พูดถึงเท่าไรเพราะยังไม่ถึงเวลาที่จะให้คนดูรู้ว่าความร้ายกาจของใครหลายคนในเรื่องนั้นยังมีอีกหนึ่งที่รอจังหวะเวลาเพื่อให้ตนเองสมหวังในความรัก ความรักในแบบที่นังบังอรมั่นใจว่าสามารถจะเอาชนะความแค้นของทิดอินที่มีต่อไอ้ยอด และไอ้ยิ่งน้องชายได้
แต่บังอรคงลืมไปว่าทิดอินไม่ได้มีแค่ความแค้นที่รอวันชำระ
ทิดอินยังสะสมความชิงชังไว้กับวันเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวัน ตราบใดที่ยังไม่ได้คลายปมแค้นในใจออก

คุณอลิชา ไล่ศัตรูไกล เธอแสดงได้นิ่งและร้ายลึกอย่างที่ใครก็นึกไม่ถึง เธอพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ความรักสมปรารถนา
และความรักจะพาบังอรไปในทิศทางใด

นี่คืออีกหนึ่งบทบาทที่ต้องติดตาม

โดย: โมริสา IP: 125.24.5.146 วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:22:30:03 น.






เมื่อ..
(กำลังจะเขียนกระทู้นี้ พอดีบุรุษไปรษณีย์พามอเตอร์ไซด์มาล้มข้างบ้านซะอีก..(บ้านหัวมุมมีถนนสองเส้นขนาบ)) เราก็รีบเปิดหน้าต่างไปดู..โถ่ ชิงชัง ของฉัน ..กระเด็นไปตรงโน้น(สั่งให้เขาส่งมาจากกทม 6 ชุด...5555+ อาถรรพ์จริง ๆ )))

สรุปว่า หนังสือมาแระ ใครจะซื้อบ้าง.

2 เล่มจบ ราคา 420 เหลือเพียง 330 บาท เท่านั้น พร้อมลายเซ็น อิอิ

เมล์มาถามแล้วกันครับ..

f_nakhon@hotmail.com

อ้าว...
มาที่กระทู้ชิงชัง ที่เปิดให้คุณลีได้ ตีความกันให้เราได้ดูสนุกยิ่งขึ้น..



เมื่อวานนี้ หลานบอก น้า เพื่อนหนูมันถามว่า ชิงชัง แปลว่าอะไร..

(ความสงสัยเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา+ถ้ามันไปค้นต่อละนะ)

ตามพจนานุกรม..

ชิงชัง : เกลียดชัง, เกลียดมาก

แต่นัยยะของผมเอง ก็คือ..
เกลียดแต่ไม่ถึงกับแค้นจนเอาให้ตาย แต่ก็ไม่รัก
จะรวม ๆ ว่าทั้งรักและเกลียดด้วยก็ได้นะ..

เหมือนอย่างนังบังอร (เออ ดีนะ ยังเป็นแค่นัง ไม่เป็นอี))
พอพี่สาว(นังอุ่น)จะฆ่าตัวตาย หล่อนก็มาห้ามด้วยหลักพุทธธรรมเชียว (รักไหม รัก) แต่ว่า ถ้าไม่มีมึงก็จะได้ดี ดังนั้น มึงต้องไป..แล้วถ้ามึงไปแล้วกลับมาอีก กูจะเป็นอย่างไร ..ไม่รู้.. ก็เลยหาผัวให้ซะเลย..พี่ยิ่งตามไปซิจ๊ะ...บังอรฉลาด แยบคาย

เมื่อคืน รวมถึงหลาย ๆ วันที่ผ่านมา ยอมรับว่า แอน อลิชา เล่นบทบังอรได้ดีมากกกกกกกกกกกกกก ครับ..

รู้ว่าเธอร้ายแต่ผมไม่เกลียด ไม่เกลียด.. เพราะอาจจะรู้ว่า สุดท้าย ร้าย ๆ แบบนี้จะไปเจออะไร (ฮึ ดีสมน้ำหน้า) 5555+

แต่ยอมรับว่า บังอรเล่นดี ใช้สายตาสีหน้า..ไม่มากไม่น้อยเกินไป (เหมือนที่เคยแอนตี้กับละครบางเรื่อง)))

-------------
อีกตัวที่ต้องยกนิ้วให้คนเขียนบท นั่นก็คืออารีย์ 9 ตอนที่ผ่านมา อารีย์มีบทบาทไม่ด้อยเลย เล่นได้เป็นธรรมชาติ(เหมือนไม่ได้เล่น555)+

ถ้าชอบกลิ่นของละครเรื่องนี้ ก็คือ มันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง อย่างอารีย์เอง ตกที่นั่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นกัน รู้อยู่เต็มอกว่า บังอร เปลี่ยนจดหมาย แต่ว่า ถ้าพูดออกไป อะไรๆ มันจะเลวร้ายยิ่งขึ้น..อารีย์รู้ว่าบังอรร้าย แต่ว่า ก็พี่สาวกูอีก ทำไงดีละ..เห็นไหมว่า ชิงชังไหม?..


--------------
สำหรับบทแม่ทองคำเมื่อคืนนี้..
ตอนที่รู้แล้วว่าลูกสาวหนี..พอน้องสาว ทองแดงจะไปบอกพี่เขย คนเป็นเมียรั้งไว้ก่อน ตอนนี้นึกถึงแม่ตัวเองเหมือนกัน ช้างเท้าหลังจริง ๆ คือผัวมีอำนาจเหนือหัว แล้วก็จะหาวิธีดับไฟเสียแต่ต้นลมอย่างไร ถ้านางทองคำไปอย่างพายุ ผู้ใหญ่แก้วจะร้อนยิ่งกว่า แต่นี่ รู้ว่าอย่างไร ๆ ผัวร้อนเป็นไฟ แน่ จึงคิดหาถ้อยคำเพื่อให้ไฟไม่ติดลมมากกกกกกกกกกกกกกกกนัก..

ในขณะเดียวกัน..
มีอยู่ฉาก ตอนที่รู้ว่าเครื่องปั่นไฟมีน้ำตาลทราย..คนเป็นเมียคิดในทางไม่ดี แต่ว่า เห็นไหมละ ผู้ใหญ่แก้วเขาก็ปลอบเมียและให้กำลังใจเมียเขาเป็น...

ชมคนเขียนบทครับ ที่เก็บดีเทลพวกนี้ได้..(ซึ่งไม่มีในนิยายหรอก)

สำหรับฉาก อีนังอุ่น.. (มีทั้งอี ทั้งนัง)

ใช่เลย ตัวเองเคยทะเลาะกับพ่อแล้วหนีออกจากบ้าน อารมณ์หนึ่งก็อยากเอาชนะ อีกอารมณ์หนึ่งก็คือ กลัว กลัววันข้างหน้า ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่อุ่นจะจับพายแล้วน้ำตาตก ...แต่ว่าไหน ๆมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ถอยหลังกลับก็คงถูกไม้เรียวอีก ...ดังนั้นก็ต้องไป อะไรจะเกิดขึ้น ก็ต้องไป ดีร้ายก็ต้องไป หวาดกลัวแค่ไหนก็ต้องไป...ไปมันให้ถึงที่สุด...ดังนั้นฉากนี้ รวมถึงฉากที่อีนังอุ่นพายเรือ กลางคืนตามลำพัง จึงเรียกหยาดน้ำใส ๆ มาคลอที่หน่วยตาทั้งสองข้างของผม(แอบเอา หลาน ๆ มันนั่งอยู่ด้วย อิอิ)...


-------------------------
เมื่อวาน บอกเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นคอหนังแบบคุณลีเหมือนกันให้ดู..เขาบอกว่า ดูแล้ว เหมือน เเอ๊กติ้งละครเวที..
ตรงนี้ความเห็นเหมือนผม..

แต่ผมบอกไม่ใช่เวทีอินเตอร์แบบที่รัชดาลัยหรอก..

มันคือลิเกที่เราคุ้น ๆ นั่นเอง โดยเฉพาะฉากที่ นังอุ่นไปนั่งข้าง ๆ พี่ยอดที่หลับไหลอยู่..แล้วพรรณาความในใจ...

"พี่ยอด..ฉันพายเรือมาแทบไม่ได้หายใจ ทั้งกลัว ทั้งหนาว ทั้งหิว ได้เห็นหน้าพี่ เหมือนคนเรือแตกแล้วเห็นฝั่ง ขอฉันอยู่ใกล้ ๆ พี่ให้ชื่นใจสักคืนเถอะนะ วันพรุ่งนี้ชีวิตมันจะเลวร้ายอย่างไรค่อยว่ากัน"..

((ใครไม่รักไม่รู้ ถ้าใครไม่อยู่ตรงนี้..)))

เข้าใจความรู้สึกของอีอุ่นดี ..กูสงสารมึงเหลือเกินเลย อุ้นเอ้ยย...


เอาแค่นี้ละกัน..

คืนนี้มาลุ้นให้ใจไหว ๆ กับฉาก เจ้าบ่าวเมาหลับคาตั่งกันเถอะ ...ใครว่าผู้ชายใจสลายไม่ได้เนอะ..

กูสงสารมึงเหลือเกินไอ้อินเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย



Create Date : 18 สิงหาคม 2552
Last Update : 18 สิงหาคม 2552 11:34:02 น. 6 comments
Counter : 1859 Pageviews.

 
ผมเข้ามาผมนึกว่าชินจัง เราก็งง นึกว่าเขียนผิด อิอิ


โดย: rugby34 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:9:46:37 น.  

 
แต่เราเข้ามาเพราะเป็นแฟนชิงชังจริงๆ

ชอบเพลง กินใจจริงๆ ความรักนิยามได้มากมาย ใครไม่รักไม่รู้

ตัวละครเล่นแบบไม่เกรงใจกัน เต็มที่ๆ ไม่พลาดสักตอน


โดย: ลั่นทมขาว วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:10:02:49 น.  

 
เอ่อออ ไม่รู้ว่าสวนกระแสหรือป่าวนะคะ
จากตอนที่แรกๆ กิ๊งอยากดูใจจะขาด (ก่อนที่ชิงชังจะฉาก)
แต่พอดูแล้วกิ๊งไม่ประทับใจคะ
อาจจะเป็นเพราะมีอคติกับตัวแสดงหลักในบทอิ่มคะ หรืออาจเพราะว่าคาดหวังว่าจะเหมือนที่เราอ่าน

ที่ชอบคือบทของยิ่งกับอุ่น น่ารักดี อารีย์ก็แนวเด็กๆ ที่อยู่กับความสบายมาตั้งแต่เล็ก
บังอรแนวร้ายแบบใสซื่อ
สรุปคือ คนแต่งเรื่องนี้เก่งที่สุด


โดย: เจ้ากิ๊ง IP: 221.128.75.82 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:13:50:40 น.  

 
^ ^

เข้ามาเป็นแฟนคลับละครเรื่องนี้ด้วยคนได้ไหม๊ครับ

เห็นบรรยายแล้วอยากรีบไปหานิยายมาอ่านจริง


โดย: โซคุง IP: 58.11.81.115 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:21:47:45 น.  

 
โห มะเฟื่อง แฟนเพียบเลย


โดย: Jum IP: 118.174.106.126 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:22:52:21 น.  

 
ถ้าถามว่าชิงชังตอนที่ 10 ฉากไหนประทับใจที่สุดสำหรับคืนนี้
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวจริง ๆ แล้ว
ขอตอบว่าฉากไอ้ยอดกับแม่อิ่มบนเรือน
คำพูดที่ว่า "อย่าให้ฉันเกลียดพี่ยอดมากไปกว่านี้เลย"
หากเราเป็นไอ้ยอดคงเจ็บไปถึงเนื้อใน
เพราะแค่ฟังก็รู้ว่าแม่ยอดขมองอิ่มของมัน ไม่คิดจะรักไอ้ยอดสักนิดเดียว
แต่ที่อยู่ด้วยเป็นเพราะจำยอม ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่
ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจึงตกอยู่ที่แม่อิ่ม

ตอนนี้เรานึกไปถึงเจ้าบ่าวอย่างทิดอิน หากจะมีตาทิพย์มองมาเห็น
ก็คงรู้ว่าการเป็นผู้ชนะอย่างไอ้ยอดก็ไม่ได้มีความสุขไปมากกว่าทิดอินสักเท่าไร
และคงไม่ต้องกินเหล้าเมามายจนหลับตกตั่งน้ำสังข์อย่างที่เป็นอยู่ในวันแต่งงาน

อีกคนที่ปล่อยให้ความรักเป็นตัวกำหนดชีวิตคือบังอร
สิ่งที่ทำก่อนจะมาถึงวันวิวาห์ ได้ส่งผลให้เห็นทันตา ทันทีที่ประตูห้องหอปิด
คำละเมอของทิดอินที่บอกว่ายังรักแม่อิ่มอยู่นั้น
มันเจ็บยิ่งกว่าหวายของคนเป็นพ่อที่เคี่ยนลงบนหลังยิ่งนัก
แต่ในเมื่อตนเป็นผู้ก่อให้เกิด บังอรจะต้องยอมรับความจริงให้ได้
แต่ก็นะ ...

"ใครไม่รักไม่รู้ ถ้าใครไม่อยู่ตรงนี้
สิ้นไร้พลังต้านความเสน่หา
ถ้าใครได้รักจะรู้ รักคือยอดปรารถนา
ชาตินี้จะคลาดคลา สิ้นรักไปดวงชีวาจบสิ้นกัน"

ตั้งแต่เขียนแสดงความคิดเห็นมา ยังไม่มีโอกาสพูดถึงผู้เขียนเพลงประกอบละครชิงชังสักครั้ง
ก็ต้องขอปรบมือให้ดัง ๆ สำหรับสองเพลงเอกที่ใช้ในละคร
"ผิดเพราะรัก" และ "รักเจ้าเอย"
ผู้เขียนตีโจทย์ตัวละครได้ถึงแก่นของเนื้อในจริง ๆ
ต้องขอโทษด้วยที่ไม่มีข้อมูลว่าใครเป็นผู้แต่ง
แต่ยังไงพรุ่งนี้คุณเฟื่องคงหามาฝากกันนะคะ

ยังมีตัวละครอีกสองที่ยังไม่ได้กล่าวถึง
น้าสำเภาผู้มากด้วยตัณหาราคะ กับอารีย์สาวน้อยผู้กำลังตกที่นั่งลำบาก
บางครั้งโชคชะตาก็มักเล่นตลก ในขณะที่เราเผลอไผลหรือไม่ทันตั้งตัว
อารีย์คงไม่ทันคิดว่าหญิงสาวผู้ใฝ่เรียนอย่างเธอ
จะต้องมาพบเจอกับปัญหาที่แก้ไม่ตกเหมือนอย่างพี่สาวทั้งสาม
ก็คอยดูกันต่อไปว่า ชีวิตที่เธอไม่เคยคิดจะเลือก กับผู้ชายที่ไม่เคยอยู่ในสายตา
และพรหมลิขิตที่หักเห จะพาอารีย์ไปในทิศทางใด ?



เฮ้อ...สุดท้าย สงสารผู้ใหญ่แก้ว กับแม่ทองคำจริง ๆ

คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูละครจบ จึงย้อนดูตัว
ขอได้โปรดใช้วิจารณญาณ







โดย: โมริสา IP: 125.24.19.188 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:22:59:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

F_nakhon
Location :
นครสวรรค์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




email ถึงผู้เขียน

เฟื่องนคร : f_nakhon@hotmail.com
ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อก เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน

-------------------


Friends' blogs
[Add F_nakhon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.