Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

เฉพาะแฟนชิงชัง (ตอนที่ 45 ไม่มีวันไหนที่คนแก่จะสบายดีหรอก)



ละคร ชิงชัง
บทประพันธ์ จุฬามณี
บทโทรทัศน์ ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์
กำกับการแสดง สันต์ ศรีแก้วหล่อ

ตอนที่ 45


โอยยยยยยยยยยยยยยย อะไรกันนักหนา ยืดดดดด ยืดยาด ยืดเป็นตังเม ทำไมต้องยืดเป็นตังเม ?

เพราะตังเมมันเหนียว มันหวานไง ยืดยังไงก็ยังเกาะติดไม่ยอมเปลี่ยนช่องไปไหน

หลังจากที่รอมาสามวัน เพื่อให้ถึงวันจันทร์อย่างใจจดจ่อ เพราะตัวอย่างคราวที่แล้ว เหมือนจะบอกว่าแม่อิ่มกำลังจะได้เจอกับคุณชลาชล แต่วันนี้หลังจากนั่งลุ้นระทึกกับการไปบางกอกของ รอบครัวแม่อิ่ม กับคุณชลาชลที่เฝ้ารอการมาถึงของคนที่เขาอยากเห็นหน้ามากที่สุด

แต่หลังจากที่เวลาจริง ๆ เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่เวลาในละครกลับเดินหน้าไปอย่างเชื่องช้า อืดอาด ยืดยาด จะไปไหนก็ไม่ไป เหตุการณ์แค่วันเดียวตัดกลับไปกลับมาจนหมดเวลา แค่ฉากแม่อิ่มจะรับโทรศัพท์มาอธิบาย พิรี้พิไรทำเอาคนดูอึดอัด หากเราเป็นทางปลายสายก็คงจะวางหูไปแล้ว อะไรกันนักหนาวุ้ย เฮ้อ.... ไอ้ที่เฮ้อ...นี่เหนื่อยนะ เหนื่อยตรงลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่องนี่แหละ ลุ้นว่าเมื่อไรมันจะเจอกันฟะ สุดท้ายไม่เจอจนได้ แล้วอารมณ์ที่จะพูดถึงเหตุการณ์ในเรื่องก็พาลหายไปด้วย เพราะตามลุ้นตัวละครนี่แหละ เหนื่อยจริง ๆ


ขอพูดถึงอารีย์ก่อนก็แล้วกัน ความจริงก็พูดกันมาตั้งแต่อารีย์เป็นสาวจนลูกโตเป็นหนุ่ม อารีย์ก็ยังไม่เปลี่ยนนิสัย ยังคงเห็นแก่ตัว ใจดำ และเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของความสุขทั้งมวล โดยไม่สนใจกับความรู้สึกของคนรอบข้างที่รักเธอ ก็สมควรที่เสมอพงษ์จะพูดนั่นแหละที่ว่า ไม่มีใครช่วยอารีย์ได้นอกจากตัวของเขาเอง

วันนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคือก้อย "ความรักไม่ได้มีแต่ความหอมหวาน ขณะเดียวมันเจือปนไปด้วยความเจ็บปวดเสมอ" ข้อความนี้ดูจะใช้ได้กับทุกคู่รักเลยทีเดียว เพราะบางครั้งความรักก็ทำให้เราหัวเราะ ยิ้มสดใส ผ่านไปอีกวัน เรากลับร้องไห้เพราะความรักทำให้เราเจ็บช้ำ

คำทำนายจากใบเซียมซีทำให้ก้อยวิตกกังวลอย่างหนัก เธอเฝ้ารอแม่อิ่มกับครอบครัวเดินทางมาถึง เพื่อหมั้นหมายสู่ขอ ราวกับจะใช้มันแทนคำมั่นสัญญาว่าความรักจะไม่แปรเปลี่ยน วันนี้ต้องขอชม เต้ย กับสีหน้าและแววตาที่แสดงออกถึงความเสียใจ และผิดหวังกับการรอคอยที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด

แม่ทองคำก็เช่นกัน แก่ได้ใจและป่วยได้อารมณ์จริง ๆ เธอยอมรับชะตากรรมที่เดินมาถึงโดยดุษณี เพียงแต่ใจยังอยากทำหน้าที่ของตนให้เสร็จสิ้นก่อนจะไม่ได้ทำอีก ก็จริงนะแม่ทองคำ ชีวิตคนเรามันสั้น ไม่มีเวลาให้เราผัดวันประกันพรุ่งอีก ในยามมีชีวิตอยู่ หากคิดอยากทำอะไร โดยที่ผู้อื่นไม่เดือดร้อนแล้วละก็ เราสมควรทำให้จบสิ้น เผื่อว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีโอกาสได้ทำอีก

วันนี้ความคิดเห็นหลังดูชิงชังจบ อาจไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะหงุดหงิดกับการเกาะติดสถานการณ์ของตัวละคร ที่ช่างแสนอืดอาด ยืดยาด เฉไฉออกนอกเรื่องมากไปหน่อย ก็ยังดีนะที่เขาเอาตัวเอกของเรื่องมาทำยืดยาดเสียเอง เลยทำให้เราคนดูต้องลุ้นระทึกตามไปด้วย นี่ถ้ามีคนรับใช้เข้ามาช่วยกันหาขวดน้ำพริกแม่อิ่มอีกคนละก็ เฮ่อ... อาจมีเปลี่ยนช่อง โชคดีไปที่ชลาชลเข้ามาหาซะเอง...

โมริสา

คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูละครจบ ..โปรดใช้วิจารณญาณ
โดย: โมริสา IP: 125.24.72.14 19 ตุลาคม 2552 22:52:53 น.



ช่อง 5 ปลื้ม เรตติ้ง “ชิงชัง” พุ่งอันดับ 1 สองสัปดาห์ต่อเนื่อง

ส่วนวิเคราะห์ประเมินผล ฝ่ายรายการ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก รายงานว่าตัวเลขความนิยม เรตติ้งละครภาคค่ำเรื่อง “ชิงชัง” มีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเมื่อ 30 ก.ย.-14 ต.ค.ที่ผ่านมา เรตติ้งเฉลี่ยรวมสูงสุดถึง 10.03 และเรตติ้งในกรุงเทพฯ สูงถึง 15.0 โดยสามารถดึงส่วนแบ่งกลุ่มผู้ชมรายการในช่วง 20.15-21.10 ได้กว่า 33% นอกจากนี้กลุ่มผู้ชมนิยมละครชิงชังสูงสุดคือ กลุ่มสตรีวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี และกลุ่มสตรีวัยทำงาน 45-49 ปี โดยกลุ่มสุภาพบุรุษที่ชื่นชอบละครชิงชังสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 40-44 ปี และกลุ่มอายุ 30-34 ปี

โดยจำนวนผู้ชมละครชิงชัง เมื่อ 14 ตุลาคม 2552 รวมทั้งสิ้น 5,740,000 คน

ที่มา : ททบ.5 (www.tv5.co.th) | 16 ตุลาคม 2552

ที่มา ซ้อ8 ตามเข้าไปอ่านความเห็นเกี่ยวกับชิงชังกันเลยครับ


//www.oknation.net/blog/dramaaholic/2009/10/18/entry-1

//www.oknation.net/blog/dramaaholic/2009/10/08/entry-1

//www.oknation.net/blog/dramaaholic/2009/09/04/entry-1



สรุปว่า เรา อยู่ในกลุ่มผู้ชมไหนน้า..สำหรับผมนะเหรอ กลุ่มอายุ 30-34 ปี ส่วนคุณลี ต้องรอให้เจ้าตัวมาบอกเอง เพราะถ้าผมบอก ก็..

มีคนถามว่า ผมกับคุณลีเป็นแฟนกันเหรอ ถึงอยู่บ็อกเดียวกัน แถมเขียนเชียร์ชิงชังร่วมด้วยช่วยกันทำมาหากิน(เต็มที่)

ตอบ ผมเป็นแฟนกับลูกเขาครับ 5555555555+ (แฟนนอกหัวใจ)





1) “ไม่มีวันไหนที่คนแก่จะสบายดีหรอก.. มีเวลาจะทำอะไรก็ต้องทำให้สำเร็จซะก่อน จะไปจะได้ไม่มีห่วงไม่มีกังวล”


2) “เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อย่าไปคาดหวังอะไรมากมายนัก พวกเอ็งทุกคนก็ล้วนเจอะเจอแล้วไม่ใช่รึ”



3)“โตกันจนเป็นแม่คนแล้วไม่เลิกทะเลาะกันเสียที”

วันนี้ขอนำ "วลี" เด็ดของยายทองคำ (เรียงตามลำดับความชอบ) มาไว้ให้ได้อ่านซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ แล้วกัน

เพราะ..

ในความยืดยาด..ลุ้น เรื่องโลกีย์ ๆ นั้น ระหว่างทาง

ประโยคที่ 1 ทำให้อึ้งไปเลยทีเดียว สั้น ๆ ได้ "สติ" เชียวละ

"ไม่มีวันไหนที่คนแก่จะสบายดีหรอก"

น้ำเสียงสีหน้าของยายทองคำนั้น ทำให้นึกถึงคนแก่ที่รู้จักมากมาย กริยาท่าทางของยายทองคำนั้นเหมือนคนแก่จริง ๆ เหมือนตรงที่ กลัวว่าลูกหลานจะไม่สบายใจกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บของตัวเอง กับ เหมือนตรงที่คนแก่หลายคนกลัวหมอ กลัวยา กลัวการรักษาตัว เหมือนตรงที่รู้จิตใจลูกหลาน รู้ว่าใครควรจะพูดด้วยอย่างไร รู้ว่า อีนี่(บังอร) ว่ามันแรง ๆ มันก็ไม่โกรธ และบางทีก็ควรจะว่าด้วย แต่ที่ยายทองคำรู้ดีนั่นก็คือ ยายทองคำไม่หลอกตัวเองว่า ฉันจะอยู่ยงคงกะพัน ยายทองคำเป็นชาวพุทธที่เข้าใจ สังสารวัฏดี เกิด แก่ เจ็บ และตาย..และยายทองคำก็เตรียมตัวตายด้วย "มีเวลาจะทำอะไรก็ต้องทำให้สำเร็จซะก่อน จะไปจะได้ไม่มีห่วงไม่มีกังวล"

แล้วเราละ ทำอะไรสำเร็จหรือยัง หรือมีห่วงมากน้อยแค่ไหน..

เห็นผมอย่างนี้ ๆ นะ ผมเตรียมตัวเสมอ ตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว มันจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ก็ได้ หายใจเข้าไม่ออกก็ได้ ตายไม่อยาก ระลึกนึกถึงความตายไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่ทางพระ เขากเรียกว่า "มรณานุสติ"

เทศน์อีกแล้ว..

อย่างไร ก็อะนะ จะพบตัวจุฬามณี เป็นๆ ได้ในงานหนังสือ ก็วันที่ 24 ตุลาคม ครับที่บู๊ธ ณ บ้านวรรณกรรม หากว่า ไปแล้วไม่เจอ(เผือไปไหน ๆ) แต่อยากได้ลายเซ็นพร้อมรูปถ่าย+รอยยิ้ม ก็โทรหาละกัน 0869299779 (อนุญาตให้หยิกได้สองทีกรณีหมั่นไส้)

และถ้าอยากเจอกันก็ทริปกระชับมิตรย้อนรอยชิงชังครับ วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม รถตู้(เท่านั้น)ออกจาก อนุสารีย์ชัย 06.00 น. พาแวะบ้านท่าน้ำอ้อย บึงบรเพ็ด ขึ้นเขาไหว้พระ ทานอาหารอันแสนอร่อยของนครสวรรค์ ราคา 1000 บาท/ท่าน ขอลายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ f_nakhon@hotmail.com หรือโทรถามก็ได้ครับ เบอร์โทรข้างบน



2) “เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อย่าไปคาดหวังอะไรมากมายนัก พวกเอ็งทุกคนก็ล้วนเจอะเจอแล้วไม่ใช่รึ”


ต่อ..ประโยคที่สองของยายทองคำนั้น ทำให้ลูกสาวทั้งสามคนถึงกับอึ้งไปเลย แม้แต่ผมก็อึ้ง เพราะว่า ตรงนี้มันมีมากกว่าละคร ละครทุกเรื่องมีรักเป็นตัวเดินเรื่อง แต่น้อยเรื่องมากที่จะมีอะไรได้ล้ำลึ้ก ขนาดนี้ (โอ้ววววววววววว)

บางเรื่องก็มีเยอะ แต่ว่า การเดินทางพาให้จิตใจเราหยั่งไปถึงตรงนั้นมันไม่ได้..เหมือนฟังเทศน์แล้วมันไม่เข้าสมอง ไม่เข้าเพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่าง นั้นก็คือ ตรงอื่น ๆ อาจจะเด่นกว่าเสียงพระฯลฯ

(ออกจากวัดก่อน)

ผมสรุปตามความรู้สึกของผมเอง นั่นก็คือ ชิงชัง ปูพื้นด้วยทุกข์ และน้ำตาของตัวละครจนเข้ามาสิ่งอยู่ในใจของเราด้วย(คนที่ดูตั้งแต่แรกนะ) พอยายทองคำพูดปุ๊บ ตัดไปหาสีหน้าของแต่ละคน เรา(ผม)ก็เลยเห็นใจ(เพราะรู้จักพวกหล่อนดี) ซึ่งก่อนหน้านั้นที่เห็นชุดอยู่บ้านของบังอร ซึ่งจะว่าไปนั้น บังอรก็ยังสาวและหุ่นดีหน้าตึงอยู่ ถ้าหมดวาสนาต่อนายอำเภอแล้ว ถ้าจะเขียนให้บังอรมีผัวอีกก็ย่อมได้ เรื่องของบังอรเองก็น่าสนใจ แต่ว่าบังอรก็มีแผล เคยเจอะเจอ ความรักที่ไม่สมหวังมาแล้ว รักของบังอรเป็นรักที่ไม่สมหวัง อุ่นเอง ได้อย่างที่หวัง แต่ก็ได้ไม่ทั้งหมด อิ่มเองก็รักกันแต่ว่าก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน บางครั้ง บางที เราเห็นละครที่ผู้ใหญ่ที่วุ่นวายอยู่กับเรื่องหาครอบหาครัวให้ลูกหลานเสียจนลืมสังขารของตัวเองรู้สึกขันและยิ้มแห้ง ๆ ไป แต่พอมาเจอยายทองคำนี่ อึ้งไปเลยยยยยยยยยยยยยย ใช่เลย นี่แหละ แก่ของแท้จ้า

3)“ โตกันจนเป็นแม่คนแล้วไม่เลิกทะเลาะกันเสียที”

ตรงนี้ พลอยทำให้นึกถึงย่ากับแม่ของผม ย่าเคยบอกแม่ผมว่า "อีหนูเป็นแม่คนนั้นไม่ง่ายหรอกนะ"
-เป็นแม่ต้องรู้จักแบ่ง
-เป็นแม่ต้องรู้จักตัดสิน
-เป็นแม่ต้องรู้จักให้
-เป็นแม่ต้องอดทน
-เป็นแม่ต้องเสียสละ
-เป็นแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี
-
-
-
ฯลฯ
ใส่กันได้ตามใจชอบ จะใส่เป็นคอมเม้นท์ไว้ข้างล่างก็ได้นะครับ
ผมชอบตรงนี้เช่นกัน...ชอบมากด้วย..

ดังนั้น ตอนที่ 45 ผมจึงขอยกให้เป็นตอนของยายทองคำแล้วกัน..





ครับ เรื่องชิงชัง ยืดยาดนั้น เห็นด้วยอย่างแรงงงงงงงงงง แต่ว่ามันก็ยังดูได้ รวม ๆ แล้วมันก็ยังมีอะไร อย่างที่บอกข้างบน..กับข้างล่าง ..ไดอะล็อกนี้ก็สนุกดีน..

“จะดีหรือค่ะคุณพ่อ ถ้าเกิดแม่ของยงชัยเขาชิมแล้วเขาเปลี่ยนใจไม่ขอยายก้อย คุณพ่อจะทำอย่างไรคะ”

ส่วนอันนี้ก็ต้องตามลุ้นกันต่อไป..

"ผู้ชายคนนี้คุ้นกับสร้อยที่ยงชัยใส่อยู่..แถมยังมีหน้าเหมือนพี่ยอดอีกด้วย..มันจะมีเรื่องบังเอิญแบบด้วยหรือ ..หรือผู้ชายคนนี้คือ!



แล้วเสียงเรียกของปิงก็ตามมา "พี่อิ่มพี่อิ่ม"

พออิ่มจะรับโทรศัพท์ก็ "แม่แม่แม่" แล้วเสียงพ่ออาทิตย์ก็ดังซะ (ผมตกใจเลย)

สรุปว่า ใจหนึ่งก็อยากให้จบ รำคาญยืดยาด รำคาญโฆษณา แต่อีกใจ(ลึก ๆ ) อย่าเพิ่งจบได้ไหม อย่าเพิ่งให้รู้ความจริงเลย มันเจ็บปวดอ่ะ อยากเห็นเขารักกันนานๆ อยากดูคนจีบกันนาน ๆ น่ะ แบบ อีกมุมหนึ่ง ตัวละคร ชิงชัง รุ่นลูก มันไม่ได้ ตบตี แก้แค้น ปลุกปล้ำกันตอนต้น แล้วรักกันตอนปลายอ่ะ

มันเป็นธรรมชาติของคนมีความรัก มันก็เลย

อิอิ...น่าจะใช่
นะ แต่ว่าลึก ๆ เราก็รู้ว่า กุหลาบนั้นมีหนาม และน้ำหวานสีสวย ๆ ที่เรากำลังลิ้มรสกันอยู่คือยาพิษ และถ้า มันถึงจุดนั้นจริง ๆ เราคนดูจะเป็นประการใด ถ้าไม่ใช่



เพราะฉะนั้น..

ยืดยาดแบบนี้มันก็ดีกว่าตัดจบแล้วเหงา..





น้ำพริกเจ้าปัญหา..(ยังมี ขาดแต่น้ำพริกเผาอีกนะ เฮ้ยยยยยย)







บทสนทนานี้แม้จะยืดยาดไปบ้าง แต่ว่า ชอบอารมณ์ของคนสนทนา ที่แบบ คุณชลาชล เผลอ "จ้ะ" ตามอุ่นไปด้วย คือมัน ใช่เลย เวลาที่เราคุยกับใคร ถ้าอีกฝ่ายเขา เขามีบางถ้อยคำนำเราไป มันก็ต้องออกมาเป็นอย่างนั้น "ไม่ว่ากันนะจ๊ะ" "ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ"

ส่วนฉากที่บังอรยังยืนอยู่ อาทิตย์ก็ยืนอยู่ ตอนที่อุ่นสนทนานั้นตอนแรกก็งง ๆ ว่า เอ สองคนทำไมมันไม่วิ่งตามอิ่มไป เพราะเรื่อง ของยายทองคำสำคัญกว่า แต่ว่า ดูย้อนหลังอีกรอบ ก็อิ่มเขาสั่งบังอรไว้ให้ช่วยพูด บังอรก็ต้องทำหน้าที่ และก็ต้องยืนดูว่า อุ่นนั้นจะทำสำเร็จไหม ดังนั้น บังอรก็เลย ต้องยืนอยู่และขโมยซีนนี้ไปได้อีกครั้ง..(5555+

ชอบที่ละครใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างสีหน้าของบังอรตอนที่เห็นยงชัยมากอดแม่อุ่นและอาทิตย์มากอดอิ่มทักทายสวัสดี ดีใจ แต่ว่าตัวเองไม่มีใคร..และประสาปากเร็ว ..ก็เลยต้องโพล่งออกไป..แต่ว่าหลาน ๆ ก็รู้ว่าน้านั้นมีนิสัยอย่างไร มันเป็นความน่ารักระหว่างทาง (ว่าไหม)ยืดยาดที่ต้องยกนิ้วให้

และขอชม อิ่ม กับฉากสุดท้าย ปาดน้ำตาทิ้งตอนที่บอกกับน้อง ๆ ว่าแม่เป็นมะเร็งลำไส้ ถ้าเราเป็นอิ่ม ถ้าเราเป็น บังอร เป็นอุ่น แม่ทั้งคนเชียวนะ หาซื้อได้ที่ไหน ..เราจะทำอาการเยี่ยงไรล่ะ..

เพราะชีวิตคือชีวิต...

ครับ สุดท้าย ช่วงแมงโม้บินว่อน

เมื่อวันอาทิตย์ผมได้มีโอกาสไปทอดกฐินที่วัดปากน้ำ (ภาษีเจริญ) แล้วเลยไปเที่ยวที่ เจษฏา เทคนิค มิวเซี้ยม นครชัยศรี นครปฐม ก็ตามประสาอีนี่ละนะ

ทางเข้า มีโต๊ะ(เจ้าหน้าที่)สอบถามว่า เป็นใครมาจากไหน เขาไม่เก็บค่าเข้าชม แต่ขอทำสถิติ ประมาณนั้น..

ปรากฏว่า เขาก็ถามว่า มาจากนครสวรรค์น่ะ ในเมืองกันหมดทุกคนเหรอ
ผมก็บอกว่า

ในเมืองหมดแหละ (หน้าตาเมืองขนาดนี้ 55+)

ต่อจากนั้น

อ่อแล้วมีใครอยู่ตลาดบ่อนไก่ไหม พี่เคยอยู่แถวบ่อนไก่

ผมก็เลยบอกว่า ..

ผมอยู่ท่าน้ำอ้อยครับ

ได้ผล..

อุ้ย บ้านเดียวกับชิงชังเลย..

คนข้าง ๆ ผมก็บอกว่า .. "นี่ไง คนเขียนชิงชัง.."

ทุกครั้งและเหมือนกันหมดก็คือ สีหน้า ไม่เชื่อ ไม่ใช่ ไม่จริง ถูกอำแน่ ๆ เลย (อะไรแบบนี้)

ผมว่าพี่เจ้าหน้าที่เขาก็มีวิธีวัดดูว่า ใช่หรือไม่ใช่ "จุฬามณี" เขาก็สัมภาษณ์คืนและก็ถามเรื่องในเรื่อง

สรุปว่า มันใช่แน่ ๆ รู้ละเอียดขนาดนี้..

ตามมาด้วย

ขอลายเซ็น ถ่ายรูป เอาขนุนมาให้กิน น้ำดื่ม เก้าอี้..
ตามคนอื่นมาขอลายเซ็น..

ประโยคที่ประทับใจมากก็คือ

นี่นะชิงชังจบจะไม่ดูละครไปอีกนานเลย//ร้องไห้ทุกวัน/ สองทุ่มครึ่งนี่ถนนโล่ง(พี่นี่เคยบอกผมแล้วว่านครชัยศรีดูกันทั้งตลาด) //เด็ก ๆ ก็บอกว่า หนูก็ดู หนูก็ดู..หนูก็ดู// และสุดท้าย ได้ยินเเว่ว ๆ ว่า นี่คนเขียนมาเรายังดีใจขนาดนี้ แล้วถ้า นักแสดงมาจะขนาดไหน...5555+ นั่นนะสินะ ผมแค่เป็นนักเขียนผมยังเขิน ๆ ขนาดนี้ ถ้าผมเป้นนักแสดงเสียเอง ผมจะเป้นอย่างไร 5555555555555555555+

อย่างไรมีเวลาก็แวะไปเที่ยว ที่ พิพิธภัณฑ์รถ ได้นะครับ รถเก่า ๆ เยอะ และไม่เก็บค่าเข้าชมด้วย และถ้าบอกว่า คนเขียนชิงชังแนะนำมา อาจจะมีขนุนเลี้ยงด้วยเช่นกัน 55555555555+

ปล. สรุปว่า วันนั้นผมยังไม่เข้าไปชมเลยนะ
ปล. 2 ไม่รู้พี่ ๆ เขาเคลียร์กับเจ้านายได้หรือยัง เรื่องเอาขนมมาเลี้ยงคนมาเที่ยวชม อิอิ (มีกล้องวงจรปิดจับอยู่ดีใจจนลืมระเบียบ)

เจอกันวันพรุ่งนี้ครับ




 

Create Date : 20 ตุลาคม 2552
12 comments
Last Update : 20 ตุลาคม 2552 10:38:28 น.
Counter : 4438 Pageviews.

 

ได้ดูเพราะพี่ที่ทำงานพากันดูเวลาทำงาน
ฮ่ะๆเลยได้ดูด้วย

 

โดย: RN.BELOVED 20 ตุลาคม 2552 9:11:41 น.  

 

แปลกใจที่เห็นบล็อกชิงชังมาแต่เช้า แต่ก็ดีค่ะ เผื่อวันนี้ยุ่งอาจไม่ได้แวะเวียนมาอีก

เมื่อวานละครยืดมาก ลุ้นให้แม่อิ่มเจอกับคุณชลาชลแทบแย่ สุดท้ายก็คลาดกันอีก ดูท่าว่าคงจะเจอกันในงานบวชที่ท่าน้ำอ้อย

ถึงบังอรจะร้ายแค่ไหนกับคนอื่น บังอรก็รักและเป็นห่วงแม่ คอยดูแลแม่เสมอ แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงเส้นคงคาในการเป็นคู่กัดกับอุ่น แม้จะลดดีกรีความแรงลงไปบ้าง ถึงจะดูปากเสีย แต่สิ่งที่บังอรพูดออกมา ก็เป็นเรื่องจริง แล้วก็แทงใจดำอุ่นซะด้วยสิ

ส่วนอารีย์... ยังคงเห็นแก่ตัวไม่เปลี่ยนแปลง

 

โดย: YesterdayOnceMore 20 ตุลาคม 2552 9:19:34 น.  

 

รู้สึกว่าจะยืดซะจน..... แบบว่าลุ้นนะตอนที่แม่อิ่มรับโทรศัพท์เนี่ย อะไรเนี่ย ไม่ได้คุยกันจนได้ เฮ้อเซ็งเลย เราไม่สบายนะรอดูรอลุ้นว่าเค้าจะได้เจอกัน แต่...เมื่อคืนไม่ไปไหนเลยอ่ะ
คืนนี้ก็จะรอลุ้นต่อแหละ

 

โดย: sakana's world 20 ตุลาคม 2552 9:25:54 น.  

 

สวัสดีครับ.. มีสมาชิกเพิ่มแล้วนะ บล็อกจะได้ไม่เหงา..

มีเรื่องเม้าท์ยังไม่จบ เมื่อวาน คุยกับคุณลีเรื่อง เว็บสนพ.อักษรศาสตร์ติดไวรัสชนิดร้ายแรงคุณลีบอกเอาคอมฯไปล้างสองรอบแล้ว ผมก็บอกว่า ของผมวันแรกเข้าไป ตัวสแกนร้องเสียงดังมากกก ผมก็เลย งง ๆ แต่ก็ ออกมา เมื่อวาน ดันลองใหม่ขอเข้าอีกสักครั้ง สรุปว่า เมื่อวานไม่ได้งานเลย เสียเวลารอให้ช่างมาซ่อม..เฮ้ยยยยยยยย เสียเงินอีกสองร้อย.. ดีนะที่ไม่เป็นวันนี้ ไม่งั้นก็ไม่ได้มาแต่เช้า...

และที่มาแต่เช้า เพราะว่า ...เมื่อวานไม่ได้ทำงานอื่นเลยครับ ใจจดจ่ออยู่แต่ชิงชังนี่แหละ...



ใจหนึ่งก็รู้ว่ายืด แต่อีกใจก็กลัวมันจะจบ..
...

อาการหนักเลยผม...

ซิงซังฟีเวอร์..

และใครจะไปย้อนรอย บ้านท่าน้ำอ้อย ก็ยังมีที่ว่างนะครับ..นะครับ

 

โดย: F_nakhon 20 ตุลาคม 2552 9:40:10 น.  

 

ประเด็นที่เม้าท์กันกับพี่สาวอีกเรื่อง นั่นก็คือ..

เรื่องก้อยร้องไห้..

พี่สาวผมบอกว่า ร้องทำไม แสดงว่า...

แต่เขาก็เข้าใจอารมณ์สาว ๆ แหละ คือ..
อย่างกรณี เราเอง ถ้ามีใครมานัดแล้ว แล้ว..โทรมาบอกว่า ไม่มี แค่นั้นแหละอารมณ์หนึ่งมันปี๊ดไปแล้ว เหตุผลเหรอ ขอฟังทีหลัง

ตีความแบบนี้ใช่หรือเปล่านะ..


 

โดย: F_nakhon 20 ตุลาคม 2552 9:52:59 น.  

 

ประเด็นที่เม้าท์กันกับพี่สาวอีกเรื่อง นั่นก็คือ..

เรื่องก้อยร้องไห้..

พี่สาวผมบอกว่า ร้องทำไม แสดงว่า...

แต่เขาก็เข้าใจอารมณ์สาว ๆ แหละ คือ..
อย่างกรณี เราเอง ถ้ามีใครมานัดแล้ว แล้ว..โทรมาบอกว่า ไม่มา แค่นั้นแหละอารมณ์หนึ่งมันปี๊ดไปแล้ว เหตุผลเหรอ ...ขอฟังทีหลัง..น้ำตามาก่อน

ตีความแบบนี้ใช่หรือเปล่านะ..

แล้วอีกอย่างคุณเธอก็หวั่น ๆ กับคำทำนายอยู่เหมือนกัน


 

โดย: F_nakhon 20 ตุลาคม 2552 10:19:24 น.  

 

เมื่อไหร่สุดแค้นแสนรักจะทำเป้นละครนะ
คงจะสนุกเหมือนชิงชังแน่ๆเลย

 

โดย: ToM... IP: 58.97.37.61 20 ตุลาคม 2552 12:03:48 น.  

 

หลังจากทึ่ตามลุ้นกับตัวละครในเรื่องมาตลอดหนึ่งชั่วโมง
เรากลับประทับใจกับฉากสุดท้ายของวันนี้มากที่สุด
แม้จะมีอีกหนึ่งฉากที่ชอบเช่นกันคือระหว่างแม่อิ่มกับนางทองคำ

แต่ฉากที่อาทิตย์ถือพานดอกไม้ไปหาแม่ที่บ้าน
กลับทำให้นึกเห็นใจอาทิตย์มากที่สุดที่มีผู้หญิงใจดำอย่างอารีย์เป็นแม่

อารีย์ไม่ยอมเปิดตาเปิดใจ มองสายเลือดของตนเองด้วยความเมตตา
อารีย์จึงไม่เคยเห็นว่าตนเองมีเพชรเม็ดงามอยู่ในมือ
เพชรที่เธอไม่เคยได้เจียระไน แต่เพชรเม็ดนั้นกลับแวววาว งดงาม ใสสะอาด
เป็นเพชรที่อยู่ในโคลนตม เปื้อนดิน เปื้อนทราย
แต่ความดีงาม ความกตัญญูรู้คุณกลับส่องประกายออกมาให้ใคร ๆได้รับรู้
ยกเว้นคนคนเดียว คนคนนั้นคือแม่บังเกิดเกล้า
แม่ที่อาทิตย์ไม่เคยคิดโกรธเคือง หรือเคียดแค้นชิงชัง

ตรงกันข้าม อาทิตย์กลับมองแม่ในแง่บวก
กล้าที่จะเข้าใจในเหตุผลของคนเป็นแม่ที่ทิ้งเขาไป
แม้ลึก ๆ เขาจะน้อยใจ เสียใจ สารพัดจะคิดมาก

แต่สุดท้ายความคิดมันก็บอกอาทิตย์ว่า เขารักแม่มาก
รักจนกล้าที่จะให้อภัยกับความผิดของแม่
และกล้าที่จะยอมรับว่าผู้หญิงใจดำคนนี้คือแม่บังเกิดเกล้าของเขา

มาถึงตรงนี้ต้องบอกว่าที่อาทิตย์เติบโตเป็นคนดีได้นั้น
ส่วนหนึ่งไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า เพราะเลือดของคนเป็นพ่อเปี่ยมล้นอยู่ในตัวเขา

อีกส่วนหนึ่งคือการอบรมดูแลมาจากแม่อิ่ม ผู้หญิงใจประเสริฐ
และส่วนสุดท้ายคือตัวอาทิตย์ที่ดีได้ ด้วยความคิดดี ๆ ในตัวเอง


อีกหนึ่งความรักที่ขอพูดถึงเช่นกันก็คือ
ความรักของนางทองคำที่มีต่อลูกสาวทั้งสาม
นางรู้ชะตาตัวเองดีว่าใกล้เข้ามาทุกขณะ
จึงไม่ยอมรักษาตัวดังคำขอของลูก
อาจเนื่องด้วยนางทองคำยินดีที่จะได้พ้นทุกข์
นางจึงไม่มีท่าทีทุกข์ร้อนกับอาการเจ็บป่วยของตน แม้มันจะปวดทรมานแค่ไหน

อยากบอกว่าเพราะนางทองคำมีใจที่แข็งแรง
แข็งแรงในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงพละกำลัง
แต่หมายถึงแข็งแรงในความคิด
คิดที่จะอยู่และตายอย่างไรให้เป็นสุขนั่นต่างหากเล่า


สำหรับสัญชัยยังคงทำตัวเป็นมารผจญได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
คือตรูเกิดมาเลว ตรูก็จะเลวแบบไม่มีที่ติ คือเลวบริสุทธิ์อีกคน
ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะสำนึกได้บ้างหรือเปล่า
แต่ที่รู้ ๆ สัญชัยคนนี้แสดงได้ดีจนนึกเกลียดขี้หน้าไปเลยก็แล้วกัน


วันนี้ยังมีความกุ๊กกิ๊กน่ารักสดใสของหนุ่มสาวสองคู่ให้ได้ยิ้มและหัวเราะ
แต่หลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
ก็คงต้องแล้วแต่โชคชะตาที่ขีดเส้นไว้ให้เขาเดินเท่านั้นเอง



โมริสา

คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูละครจบ
โปรดใช้วิจารณญาณ


 

โดย: โมริสา IP: 125.24.71.201 20 ตุลาคม 2552 22:17:57 น.  

 

รออ่านบล็อกวันใหม่ค่ะ

 

โดย: YesterdayOnceMore 21 ตุลาคม 2552 10:14:09 น.  

 

อารีย์ช่างเป็นผู้ที่มีจิตใจดำจริง ๆ ไม่เคยเหลียวมองคนอื่นเลย
แม้นคุณพงษ์ หรืออาทิตย์ จะพยายามช่วยเหลือ หรือให้โอกาส
ถ้าเปรียบ ก็คงเหมือนกับดอกบัวที่อยู่ในโคลนตม ไม่สามารถพัฒนาได้
อยากให้คนดู ดูแล้วกลับมาคิดทบทวน หันมองตนเองด้วย ถ้าไม่รู้จักสำนึกตัว คิดว่าแต่...คนอื่นผิด หลอกตัวเอง หลอกคนอื่น พาลแต่โทษคนรอบข้าง สังคมจะน่าอยู่ได้อย่างไรกัน...

อยากให้สังคมนี้มีคนที่จิตใจดีอย่างแม่อิ่ม อาทิตย์มาก ๆ

ตอนเมื่อคืนฉากที่มีหลวงพี่อิน..ประกอบกับเพลง...สีหน้า..
..แววตา..ท่าทาง..ของหลวงพี่ ช่างทำให้ขนลุกอย่างหน้าประหลาดใจ จะเกิดอะไรร้าย ๆ ขึ้นอีกหน้อ...

 

โดย: แอน_แฟนชิงชัง IP: 125.25.207.128 21 ตุลาคม 2552 10:24:29 น.  

 

ดูแล้วก็ลุ้น ๆๆ ตามค่ะ

คลาดกัน ทุกที เนอะ

คืนนี้รอชมอีก

 

โดย: ta (tookta_tt ) 21 ตุลาคม 2552 12:38:53 น.  

 

ดเพะ

 

โดย: หดเ IP: 61.7.185.54 23 มีนาคม 2554 13:37:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


F_nakhon
Location :
นครสวรรค์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




email ถึงผู้เขียน

เฟื่องนคร : f_nakhon@hotmail.com
ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อก เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน

-------------------


Friends' blogs
[Add F_nakhon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.