Group Blog
 
<<
เมษายน 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 เมษายน 2548
 
All Blogs
 

แมวปิลาร์...(ลูกหมาหน้ามอม)



แมวปิลาร์
ตอน ลูกหมาหน้ามอม

by : GTW

+++++++

เช้าวันนี้อากาศแจ่มใส แมวปิลาร์นอนหางห้อยอยู่บนหลังคาบ้าน แต่ทำไมอารมณ์ไม่สดชื่นตามบรรยากาศไปด้วยนะ...... แปลกจัง

เสียงลูกเห่าบ๊อกๆๆ ดังขึ้นมาจากลานหน้าบ้านเหมือนจะเป็นคำตอบอย่างดี นั่นลูกหมาสีขาวปนสีน้ำตาลตัวหนึ่งกำลังวิ่งเล่นไปมาอยู่ไปตามพื้นหญ้าอ่อนนุ่ม สนามหญ้าที่ปิลาร์เคยเดินเล่นบ่อยๆ และนั่นก็ทางเท้าซึ่งเคยเล่นบ่อยๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าลูกหมาตัวนี้มายึดครองพื้นที่ไปเสียแล้ว

สามวันก่อน ลูกหมาตัวนี้เดินวนเวียนอยู่แถวนั้นด้วยท่าทางหิวโหยและอ่อนล้า คุณนายเจ้าบ้านไปเจอเข้าพอดี ด้วยความน่ารักของมันทำให้ไม่ยากเย็นในการเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังนี้

น่ารักอะไรกัน ...ก็แค่ลูกหมาตาใสแจ๋วใสซื่อตัวหนึ่ง ที่พร้อมจะกระดิกหางและเป็นมิตรกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รายรอบเท่านั้น...
ปิลาร์รู้สึกว่าความสงบสุขที่เคยมีหายไปหลายส่วน

ลูกหมาตัวนี้แบ่งผ้าห่ม(ที่มีอยู่หลายผืน)ของปิลาร์ไปห่ม แบ่งถ้วยจานอาหาร(ที่มีอยู่หลายชุด)ปด้วย นั่นตะกร้าตัวโปรดที่เคยนอนครั้งสุดท้าย เมื่อสามเดือนที่แล้วก็ยังถูกแย่งเอาไปนอนอีก ยังดีที่ลูกหมาตัวนี้ไม่ปีนขึ้นไปนอนบนโซฟาตัวโปรดด้วย ไม่งั้นปิลาร์คงไม่มีเหลือพื้นที่ให้ภาคภูมิใจ

มันน่าแกล้งจนหนีออกไปจากที่นี่จริงๆ ปิลาร์มองลงมาจากหลังคาอย่างแค้นใจ

ลูกหมาตัวนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเจอแมวเธอเข้าโดยบังเอิญ เลยอ้าปากเห่าทักทาย หางสั้นๆกระดิกไปมาถี่เร็ว


“บ๊อกๆๆๆๆๆ..!!!!!!”



“เชอะ..!!!”



แมวปิลาร์แยกเขี้ยวสวนทันควัน หมุนตัวหน้าหน้าไปอีกทางหนึ่ง ไม่ต้องมาเห่าประจบทักทายหรอก จ้างให้ก็ไม่ดีด้วย เราไม่ใช่แมวข้างถนนสักหน่อย จะได้ลดตัวลงไปคบกับหมาข้างถนน ไม่มีวันเสียหรอกจะบอกให้ ลูกหมาอะไรก็ไม่รู้ หน้ายังกับหมาไม่มีผิด...

นอนหางห้อยอยู่ครู่หนึ่ง ก็ค่อยๆเอียงคอหันไปมองอีกอย่างมีชั้นเชิง อ้าว.. ยังไม่หนีไปไหน ยืนอ้าปากส่ายหางอยู่ที่เก่ามองมาด้วยความสนใจ เอาใจและผูกมิตร


“แหวะ..”


ปิลาร์แสยะเขี้ยวให้อีกทีหนึ่ง ลุกขึ้นค่อยเดินเลี่ยงไปหลังคาทางหลังบ้าน

พลันมีเสียงประตูหน้าบ้านเปิดออก คุณนาย คงกลับมาจากเดินเล่น พูดคุยคุยกับเพื่อนบ้าน

ปิลาร์ต้องไปต้อนรับเจ้านายสักหน่อย ไวเท่าความคิด เท้านุ่มๆรีบวิ่งเลาะไปตามริมหลังคาไปทางหน้าบ้าน และภาพที่เห็นบาดตาบาดใจเหลือเกิน

ลูกหมาตัวนั้นกำลังกระโดดโลดเต้น ไปรอบๆคุณนายคนงามของปิลาร์ ปากก็ส่งเสียงเห่าดังมากกว่าตอนที่เห่าทักปิลาร์เมื่อครู่เสียอีก หางก็กระดิกเร็วกว่า

นั่นคุณนายก้มตัวลงอุ้ม มือที่เคยอุ้มปิลาร์กำลังอุ้มเจ้าลูกหมาตัวแสบนั่น แก้มขาวใสที่ปิลาร์เคยหอม ก็ถูกปากมอมๆของลูกหมาขึ้ประจบนั่นเลียไปมา

แง่ง.....

ปิลาร์ร้องไม่เป็นภาษาแมว... มันจะมากไปแล้วนะ นั่นมันคุณนายของปิลาร์นะไม่ใช่ของลูกหมาข้างถนนสักหน่อย หนอย .. ข้ามหน้าข้ามตากันเกินไปแล้ว ต้องลงไปสั่งสอน

ข้างบ้านมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเส้นทางในการขึ้นลง ปกติแมวปิลาร์จะปีนขึ้นลงแบบสวยงาม แต่วันนี้เพราะความร้อนใจทำให้เธอกระโจนพรวดเดียว ข้ามกิ่งก้าน ตรงไปเกาะลำต้น กางเล็บตะปบเต็มที่


พลั่ก!!!

หัวของปิลาร์โหม่งต้นไม้อย่างจัง ดาวดวงเล็กดวงใหญ่กระจายเต็มหน้า แต่มือเท้ายังไวพอจะตะกายต้นไม้ไว้สุดชีวิต

ท่ามกลางเสียงดังแคว่กๆๆๆ ถี่ยิบ แมวปิลาร์หล่นระกิ่งไม้ลู่ระเนระนาดลงไปตามต้นไม้ด้วยความเร็วคงที่ ไม่ตกลงมาด้วยค่าความเร่งตามแรงโน้มถ่วงของโลกอย่างที่ควรจะเป็น โดยทิ้งรอยเล็บสับสนบนเปลือกไม้เพื่อสร้างแรงเสียดทานตามแนวการหล่นเป็นทาง

ตุ๊บ...!!!

ลงมานอนกองบริเวณโคนต้นไม้ น้ำตาไหลพราก จุกก็จุกจนลุกไม่ขึ้น

“ว้าย!! ตายแล้ว ปิลาร์ทำไมตกลงมาอย่างนี้ล่ะ” เสียงคุณนายร้องเสียงหลง เมื่อมองมาเห็นแมวตัวโปรดตกลงมาจากหลังคาเข้าพอดี และวิ่งอุ้มลูกหมาเข้ามาดูอย่างตกใจ

“ โถ. ทำท่าไหนถึงตกลงมาจ้ะ เจ็บไหมนี่ “ จับแมวปิลาร์ขึ้นมาลูบหัวไปมา และพลิกดูอาการอย่างเป็นห่วง ต้องอย่างนี้สิ แอบยิ้มในใจเมื่อเห็นลูกหมาตัวนั่นถูกวางอยู่บนพื้น แต่มันก็ยังกระดิกหางเห่าบ๊อกๆ ไม่รู้ว่าเห่าทำไม ต่อให้ฉลาดแสนรู้ขนาดไหน เธอก็ยังฟังภาษาหมาไม่ออก

เห็นไหมล่ะ ในที่สุด คุณนายก็เลือกปิลาร์ เขาเรียกว่าตกต้นไม้วัดใจ เลยลืมเจ็บ... เลยจัดการร้องเหมียวๆเป็นการบอกว่าไม่เป็นไรหรอกคุณนายคนดีของปิลาร์ แถมเลียหน้าตาให้อีกต่างหาก

“ค่อยยังชั่ว ไม่เป็นไรนี่ ทีหลังอย่าซนอีกนะจ้ะ”

แล้วมืออีกข้างก็เอื้อมไปอุ้มลูกหมาตัวนั้นขึ้นมาจากพื้น จับมาใกล้กับปิลาร์เสียด้วย ทำเอาเธอตาค้าง อาการบาดเจ็บที่หายไปเมื่อครู่กำเริบโดยกะทันหัน คอพับคออ่อน โธ่ ...คุณนายของปิลาร์

ทำไมทำแบบนี้...ไม่เอา... อุ้มขึ้นมาคู่บารมีกันได้อย่างอย่างไร ลูกหมาหน้ามอม หมาข้างถนนไร้สังกัดไม่เอาไม่รู้ไม่สน เธอพยายามเอาขาข้างหนึ่งยันหน้าของลูกหมาตัวนั้นห่างออกไปเวลาคุณนายเผลอ ไปห่างๆชิ้วๆ..

“อ้าว อยากคุยกับเพื่อนใหม่หรือจ๊ะ”

เวรกรรม... คุณนายมองเห็นเท้าของแมวตัวยุ่งที่กำลังแหย่เหยงๆ อยู่พอดี พาลนึกไปว่าปิลาร์ต้องการจะตะกายไปหาอีกฝ่าย เลยยกทั้งหมาและแมวเข้าไปคู่จนชิดกัน



“อ๊าก..เหมี๊ยวๆ แง่ง...” ปิลาร์ร้องลั่น แต่พอนึกได้ว่าถูกสังเกตการณ์อยู่ ขืนทำผิดฟอร์มผิดอิมเมจ มีหวังค่าคะแนนความรักความเอ็นดูติดลบแหลกลาญ เลยทำเป็นเฉย หันหน้าหนีอีกทาง ฮึ.. จะจ้างสักพัน ฉันก็ไม่หันไปมอง

อ้าว.... ลูกหมาตัวนั้นเห็นปิลาร์หันหน้าหนีเลยทักทายด้วยการยื่นหน้ามาเลียหัวหูเธอเป็นการใหญ่ เธอดิ้นด๊อกแด๊กไปมาแต่ไม่กล้าหลุดมือลงไป ขืนเป็นอย่างนั้นเจ้าลูกหมาหน้ามอมต้องถูกอุ้มตัวเดียวเด่นเป็นสง่าแน่แท้

“อุ้ยตาย สนุกสนานกันใหญ่เลย” คุณนายหัวเราะชอบใจ นึกว่าทั้งคู่เล่นกันตามประสาหมาแมว


“เข้ากันได้แบบนี้ด้วยจะให้รางวัลเป็นไก่ย่างเนื้อนุ่มกินกัน”

ว่าแล้วก็อุ้มทั้งคู่เข้าไปในบ้านโดยมีแมวปิลาร์หน้าหงิกอยู่ตลอดเวลา พอได้ทีก็จะเอาเท้าแอบยันอีกฝ่ายหนึ่งแต่ดูเหมือนว่าเจ้าลูกหมาตัวนั้นจะไม่ถือสาสนใจเท่าไรนัก ไหนๆเขาก็เป็นลูกพี่ อยู่มาก่อน ต้องยอม



++++


“เอ้า ไก่นุ่มๆ”

คุณนายเอาจานใส่ไก่ย่างสับเป็นชิ้นๆพองาม วางให้ทั้งคู่ในห้องครัวหลังบ้าน เออนะ ทำไมต้องวางใกล้ๆกันด้วย เห็นหน้ากันแบบนี้กินไม่อร่อยแน่ ปิลาร์เลยคาบจานไก่ย่างส่วนของตัวเองค่อยลากออกมาอย่างมีชั้นเชิง

“อ้าว จะลากจานไปไหน”

คุณนายเห็นเข้าก็จัดการลากจานกลับมาอยู่ตำแหน่งเดิม แล้วสั่งสอนปิลาร์เป็นการใหญ่


“เป็นเพื่อนกันต้องกินด้วยกัน รู้ไหม ต้องรักกัน ไม่รังแกกันด้วยนะจ้ะ เขาเป็นหมารู้ไหมจ้ะ ส่วนปิลาร์น่ะเขาเรียกว่าแมว แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ อย่าทะเลาะกัน อยู่บ้านเดียวกันต้องมีความรักสามัคคีกันเข้าไว้”


เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้นจากในห้องนั่งเล่น คุณนายเลยลุกไปรับสาย ปิลาร์ถอนใจเฮือก ขอบคุณสวรรค์ที่มาขัดจังหวะไม่อย่างนั้นโดนเทศนาอีกนาน

เจ้าลูกหมาตัวนั้นเพราะความที่เป็นลูกหมา ตัวใหญ่พอๆกับแมวปิลาร์ ตอนนี้ไม่กล้ากินไก่ย่าง ได้แต่คู้ตัวหมอบอยู่กับพื้นพื้นมองดูอย่างเกรงใจ ทำให้เกิดวิญญาณแห่งความเป็นพี่ใหญ่วิ่งพล่านทันที แยกเขี้ยวขู่ทีหนึ่งก่อนเป็นการตัดไม้ข่มนามก่อนวางท่าเชิดหน้าชำเลืองดูฝ่ายตรงข้ามอย่างวางมาดแกมข่มขู่

ลูกหมายิ่งกระดิกหางเร็วขึ้น เป็นการบอกถึงความยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขและเจียมเนื้อเจียมตัว....แน่ล่ะ..ก็เราเป็นเพียงลูกหมามาทีหลัง ต้องยอมตัวที่อยู่มาก่อนอย่างไม่มีเงื่อนไข

ปิลาร์จ้องหน้าข่มขวัญลูกหมาอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดค่อยเดินไปคาบไก่ย่างชิ้นย่างชิ้นใหญ่ที่สุดออกมาจากจานของอีกฝ่ายหนึ่ง มาวางไว้ในจานของตัวเองอย่างหน้าตาเฉย ก่อนหันไปมองอย่างกวนๆ

สมน้ำหน้า ...โดนแย่งเลย อยากเข้ามาอยู่ในบ้านปิลาร์ทำไม

ลูกหมานั้นยังคงหมอบและกระดิกหางไม่ว่าอะไร ท่าทางเกรงอกเกรงใจเต็มที

แล้วปิลาร์ก็เชิดหน้า ลงมือกินไก่ย่างชิ้นนั้นอย่างช้าๆ จงใจเคี้ยวโชว์เยาะเย้ย ทำหน้าตาอร่อยเหลือประมาณ

ลูกหมาตัวนั้นค่อยๆลุกขึ้นอย่างเกรงอกเกรงใจ และคาบไก่ย่าง “ชิ้นที่ใหญ่ที่สุด” ในจาน มาบรรจงค่อยวางลงในจานของปิลาร์ด้วยท่าทางผูกไมตรีเต็มที

ปิลาร์ตะลึง...

นี่มันจะทำประชดเราเปล่าฟะ ?

แต่พอมองหน้ามอมนั่นและคิดได้ว่าลูกหมาคงไม่มีอะไรแอบแฝง และยังคงไม่ติดนิสัยมาจากมนุษย์หรอกน่า ตาใสๆคู่นั้นไม่มีอะไรเจือปนนอกจากคำว่าฉันยอมเธอแล้วนะ เรามาดีกันนะ

ใช่ เป็นลูกน้องก็ต้องทำตัวอย่างนี้ ต้องยอมลูกพี่ เอาล่ะ เพื่อแสดงน้ำใจเล็กๆน้อยๆของลูกพี่ เราก็ต้องแสดงออกซึ่งความมีน้ำใจบ้าง ดังนั้นปิลาร์จึงเลือกไก่ย่าง “ชิ้นเล็กที่สุด” ในจาน คาบไปวางลงในจานของเจ้าหมาหน้ามอมนั่น



ลูกหมากระดิกหางอย่างดีใจ(ลูกพี่อุตส่าห์แบ่งชิ้นเล็กที่สุดมาให้) และส่งเสียงในลำคอ ทำท่าจะเลียหน้าเลียตาปิลาร์ เป็นการแสดงความขอบคุณและจงรักภักดี แต่พอโดนเสียงขู่ก็ถอยออกไปอย่างเจียมตัว ค่อยๆ ก้มหน้าก้มตากินไก่ย่างชิ้นน้อยชิ้นนั้นอย่างสุภาพเรียบร้อย

ต้องอย่างนี้สิ ปิลาร์คิดในใจ มาทีหลังต้องยอม ให้รู้บ้างว่าใครเป็นใคร

ปิลาร์กินไก่ย่างไม่หมดหรอก มันเหลืออยู่ในจานหลายชิ้น มองลูกหมาเป็นการบอกว่าอย่ามายุ่งกับอาหารฉันนะ ไม่งั้นเจ็บตัว ลูกหมานั่นก็เชื่อฟังอย่างดีไม่กล้ายุ่งอาหารที่เหลือ

อิ่มแล้ว ไปนอนเล่นบนโซฟาดีกว่า

ค่อยๆเยื้องกายนอนบนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น นั่นคุณนายกำลังจ้อกับโทรศัพท์อยู่อย่างเมามัน แบบนี้รับรองอีกสองชั่วโมงก็ไม่จบ เพราะคุณนายถ้าหากคว้าโทรศัพท์แล้ว ไม่เคยน้อยกว่าสองชั่วโมงเลยสักครั้ง สถิติที่เคยทำเอาไว้สูงสุดประมาณหกชั่วโมงขนาดหลับคาโทรศัพท์ก็ยังเคย คงไม่มายุ่งกับปิลาร์แล้วล่ะ

ลูกหมานั้นเดินตามมาอีก ไม่รู้เดินตามมาทำไม มานั่งจ้องตาแป๋วอยู่อย่างนั้น น่ารำคาญชะมัด

เมี๊ยวววว..................!!!!

ปิลาร์ร้องไล่ เจ้าหน้ามอมเผ่นจู้ดออกไปหน้าห้องอย่างตกใจ แต่พักหนึ่งก็โผล่หน้าเอียงคอมาดูอยู่ตรงประตูครัว

การที่ทำอะไรสักอย่างไม่ว่าจะนอนจะนั่ง มันเป็นเรื่องน่ารำคาญเหลือเกิน ขาดความเป็นส่วนตัวและอิสระทางใจอย่างบอกไม่ถูก ปิลาร์หมดอารมณ์จะนั่งดูทีวี จึงเดินหลบออกมาทางหน้าบ้าน กระโดดแผลวขึ้นไปบนกำแพง

เจ้าหน้ามอมตามออกมาติดๆ เอาเท้าเล็กๆ ตะกายกำแพงครู่หนึ่ง ทำท่าเหมือนจะตะกายขึ้นมาให้ได้ ก่อนยอมแพ้แหงนหน้ามองด้วยสีหน้าระห้อย เพราะปีนกำแพงไม่ได้ จุดนี้ล่ะที่ทำให้แมวปิลาร์รู้สึกว่าตัวเองเก่งกว่าหมา เลยปีนต้นไม้โชว์ขึ้นไปอยู่บนหลังคาอีกสามรอบ หามุมสงบนอนหลับอย่างมีความสุขไม่ต้องมีแมวหรือหมาตัวไหนมาคอยมอง




“ปิลาร์จ๋าอยู่ไหน มากินข้าวเร็ว “


เสียงหนูแจ๋ว คนรับใช้ที่บ้านคุณนายร้องเรียกอยู่ข้างล่าง ช่วงบ่ายแล้วนี่นา ปิลาร์ตื่นขึ้นมาจากการพักผ่อนประจำวันตามประสาที่เกิดมาเป็นแมวไม่ต้องทำการทำงาน สงสัยคุณนายคงออกไปทำธุระข้างนอกบ้านเพราะบ้านดูเงียบสงบเหลือเกิน จะมีก็แต่เสียงแจ๋วๆของหนูแจ๋วนี่ล่ะที่กวนประสาท

ปิลาร์ไต่ลงมาอย่างคล่องแคล่ว เพราะดูหนังเรื่อง Mission impossible 2 มาแล้วหลายรอบ ตรงมายังห้องครัว รู้สึกโล่งใจที่ไม่มีเจ้าหน้ามอมมาสังเกตการณ์ และจัดการอาหารบ่ายอย่างสบายใจ

เสร็จธุระ เดินตรงไปยังห้องนั่งเล่น

นั่นคุณนายกำลังหลับคาโทรศัพท์พิงอยู่กับโซฟาอีกตามเคย โดยมีเจ้าลูกหมาหน้ามอม นอนอยู่บนตักอย่างแสนสบาย

เลือดขึ้นหน้าทันที นั่นมันเป็นบทของปิลาร์นี่นา ไม่ใช่บทของเจ้าหมาหน้ามอมสักหน่อย อย่างนี้อย่าอยู่ร่วมบ้านกันเลย ตายซะเถอะ.....

แมวปิลาร์กางเล็บ แยกเขี้ยว แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรไปมากกว่านั้น เจ้าลูกหมาหน้ามอมก็กระโดดผลุงลงมา เลียหน้าเลียหน้าแมวปิลาร์เป็นการใหญ่

“แง่ง..!!!!”

พอได้สติแมวปิลาร์ก็ร้องขู่ไว้ก่อน ทำนองว่า อย่าลามปาม....อย่าลามปาม... เจ้าหน้ามอมรีบถอยกรูด ย่อตัวหมอบลง ก่อนพลิกตัวกลิ้งหงายท้องขาชี้ฟ้า ปลายขางอเต็มที่ อันเป็นการแสดงท่าทางมาตรฐานในการยอมแพ้แต่โดยดี ซึ่งการกระทำแบบนี้หมาตัวที่เก่งกว่ามักจะไม่ทำร้ายฝ่ายที่ยอมแพ้ อาจจะเห่าสั่งสอนแล้วเดินหนีไป มีน้อยตัวที่จะกัดต่อ (ตรงนี้ดีกว่าคนหลายคนที่พออีกฝ่ายยอมแพ้ยังรุมต่อ) เฮ้อ... แล้วอย่างนี้จะทำอะไรต่อไปได้เล่า ก็เขายอมแพ้ ไม่สู้แล้ว จะรังแกต่อไปก็ผิดวิสัยแมวไปหน่อยแล้ว สุดท้ายต้องล่าถอยออกมา

สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้ตามเคย เพราะความเป็นแมวใจดีนี่เอง

++++

วันต่อมาชาวบ้านแถวนั้นชินกับภาพแมว ลูกพี่แมวตัวหนึ่ง เดินวางท่าเป็นลูกพี่ นำหน้าลูกหมาน่ารักตัวหนึ่ง อยู่ภายในซอยแห่งนั้น และจัดว่าเป็นภาพที่แปลกตามาก เพราะปกติแมวกับแมวไม่ค่อยถูกกันตามสัญชาติญาณอยู่แล้ว

แมวปิลาร์รู้สึกยืดมาก เมื่อมีน้องหมาติตตามเป็นบริวาร ให้ความรู้สึกดีจริงๆ

ไม่ไกลไปจากบ้านของคุณนายมากนัก มีบ้านใหญ่อยู่หลังหนึ่ง เจ้าของบ้านเลี้ยงหมาสีดำตัวใหญ่หน้าดุราวกับเพชฌฆาตหน้าหมาอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าหมาหรือคนเดินผ่านหน้าบ้าน มันจะเห่ากรรโชกดุเดือด เหมือนจะพังประตูบ้าน และรั้วบ้านออกมากินคนซึ่งเดินผ่านไปมาเป็นอาหาร จัดการกับทุกสิ่งที่ขวางหน้า แต่ตัวมันใหญ่เกินไปที่จะลอดลูกกรงเหล็ก ตรงบานประตูออกมาได้

แมวปิลาร์ชอบที่จะเดินไปยั่วยวนกวนประสาทหมาตัวนี้เล่นแก้กลุ้ม เพราะรู้ว่าหมาตัวใหญ่หน้าโหดตัวนี้ออกมาไม่ได้ จึงไปนั่งๆ นอนๆอยู่หน้าประตูบ้านอย่างกวนประสาท เรื่องกวนประสาทชาวบ้านล่ะก้อ..ถนัดมาก

หมาตัวนี้บางทีอาจเป็นหมาพันธุ์กินแมว มันจึงมีอคติกับแมวทุกชนิดในโลก พอเห็นปิลาร์ทีไรต้องเขย่าประตูบ้านครืนๆเห่าสนั่นหวั่นไหว ปานฟ้าจะถล่มทลาย

ปิลาร์แกล้งทำเป็นยืนสะบัดคออ้าปากหาวอย่างอารมณ์เย็น เดินวนทวนเข็มนาฬิกาสามรอบ นอนลง แล้วลุกขึ้น เดินวนตามเข็มนาฬิกาสามรอบ แล้วนอนลงใหม่ โดยมีลูกหมาหน้ามอมรับมุขมาแจมด้วย นอนกลิ้งไปกลิ้งมา ห่างจากประตูไม่ถึงสองฟุต ลูกพี่ลูกน้องเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย



หมาหน้าโหดคำรามด้วยความแค้น มันจะหยามหน้าหมามากไปแล้ว


เอ้อ... มีความสุขจริงๆกับการกวนประสาทชาวบ้านเล่นนี่ มีความสุขบนความโกรธของผู้อื่นสนุกจริงๆ พูดไม่ออก บอกไม่ถูกว่าสนุกขนาดไหน ยิ่งเห็นหมาหน้าดุจะเป็นจะตายเพราะความอยากกัดยิ่งสนุก

แต่ทันใดนั้นประตูพลันเปิดออก เจ้าของบ้านหลังนี้คงรำคาญปิลาร์เต็มที หรือไม่ก็คงออกมาทำธุระนอกบ้าน เจ้าหมาหน้าโหดได้ทีกระโจนพรวดออกมา

ปิลาร์พลันรู้สึกเหมือนโลกถล่ม...สองหูลั่นเปรี้ยะด้วยเสียงร้องสนั่นหวั่นไหวของหมาหน้าโหด เงาทะมึนซึ่งกำลังกระโจนออกมาถูกรั้งไว้ด้วยโซ่จนร่างยักษ์หงายหลังฟาดโครมลงกับพื้น เท้าของมันเฉียดใบหน้าของแมวปิลาร์ไปเพียงเส้นยาแดงผ่าสามสิบสอง



พอได้สติ ทั้งแมวปิลาร์และหมาหน้ามอมก็เผ่นสุดชีวิต เสียงโซ่สะบัดเกรียวกราวด้านหลังติดตามด้วยเสียงร้องไม่ได้ศัพท์ของเจ้าของ ในที่สุดเจ้าหมาเพชฌฆาตตัวนั้นก็ดึงโซ่จนหลุดออกมาจากมือเจ้าของ กวดตามปิลาร์มาด้วยความเร็วเต็มแรงแค้นโดยมีโซ่เหล็กสะบัดกวัดแกว่งลากพื้นตามมาโครมครามปานโลกาจะวินาศ

เห็นจวนตัวปิลาร์เลยกระโดดขึ้นไปบนหลังคารถเก๋งคันหนึ่ง โดยมีฟันคมๆงับเฉียดหางไปนิดเดียว พร้อมกับร่างของหมาพันธุ์อสูรสงครามพุ่งกระแทกรถจนสะเทือน พอลุกขึ้นได้ก็เห่าเสียงดังแสยะเขี้ยวทำท่ากระโจนขึ้นมาบนหลังคา แต่อาจเป็นเพราะความมึนจากแรงกระแทกและโซ่ที่ยังติดคออยู่ก็ไม่ทราบได้ ทำให้มันทำได้เพียงกระโดดขึ้นมาไม่ถึง

ปิลาร์ตอนนี้ไม่เห็นอะไรอีกแล้วนอกจากปากทีเต็มไปด้วยเขี้ยวเรียงรายอ้ากว้างเต็มฟ้าและเสียงเห่าดังจนหูจะแตก

เจ้าหมามอมเห็นลูกพี่จวนเสียท่า ด้วยวิญญาณแห่งความเป็นลูกน้องที่ดี วิ่งเข้ามางับหางเจ้าหมานั่นเต็มแรงก่อนหันกลับวิ่งหนีไม่คิดชีวิต

เจ้าหมานั้นสะดุ้งโหยง หันหน้าไปมองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง หนอย...ตัวเท่าลูกหมา บังอาจมากัดหางที่แสนหวงแหนอันแสดงถึงศักดิ์ศรีและเกียรติยศของหมา อย่างนี้ต้องเขมือบ ว่าแล้วเจ้าหมาอสูรสงครามก็ลืมปิลาร์ไปชั่วณะ คำรามครืนก่อนวิ่งไล่เจ้าหมามอมไปทันที


ปิลาร์พ้นวิกฤตการณ์อย่างหวุดหวิด กระโจนลงจากหลังคารถยนต์ วิ่งตามหมาพันธุ์โหดมาติดๆ ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะจะวิ่งกลับบ้านนั่นเอง

ลูกหมาตัวนั้นฉลาดพอที่จะวิ่งกลับบ้านโดยการลอดช่องเล็กๆใต้ประตูเข้าไป ก่อนหันหน้ามาเห่าบ๊อกๆ....อย่างกวนประสาทหาใดจะเสมอเหมือน

เจ้าหมาพันธุ์โหดก็ฉลาดพอที่จะไม่บุกตามเข้าไปในบ้าน เพราะรู้ว่านั่นเป็นการบุกรุกอาณาเขตของมนุษย์ แม้ว่าจะเป็นหมาแต่มันก็ไม่ได้โง่ จึงทำได้เพียงเห่ากรรโชกอยู่หน้าบ้านเท่านั้นเอง

ส่วนปิลาร์อาศัยวิชาตัวเบากระโดดพรวด ข้ามกำแพงเข้าไปด้วยลีลาอันสวยงาม แถมม้วนตัวกลางอากาศอีกหนึ่งรอบ แต่พอดีจังหวะที่ข้ามกำแพง ขาไปสะกิดขอบกำแพงนิดหนึ่ง ทำให้เสียศูนย์ แทนที่จะเอาขาลงแบบแมวทั่วไปกลับเอาหัวปักลงพื้นดังพลั่ก ก่อนกลิ้งไปตามพื้นอีกหลายตะลบ ดีที่เป็นพื้นหญ้า ไม่งั้นคงถูกหามเข้าโรงพยาบาลเป็นแน่แท้


“ว้าย ตาแล้ว คุณปิลาร์เป็นอะไรไปนี่”


หนูแจ๋วคนรับใช้ซึ่งทำความสะอาดหน้าบ้านอยู่แถวนั้นร้องโวยวาย ไหนจะตกใจกับเสียงเห่า ไหนจะตกใจที่เห็นปิลาร์เวอร์ชันโหม่งพสุธา เลยกลายเป็นตกใจยกกำลังสอง เพราะถ้าแมวสุดที่รักของคุณนายเป็นอะไรไปมีหวังโดนเล่นงานตาย

แต่หนูแจ๋วคนนี้เป็นโรคบ้าจี้ พอตกใจที่ไรต้องตีแหลก ไม้กวาดในมือเลยหวดซ้ายป่ายขวาอุตลุด ไม่สนใจว่าจะเป็นหน้าหมาหน้าแมว โดนลูกหมาหน้ามอมและปิลาร์เข้าไปหลายที ทำไมซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้นะชีวิต ยิ่งตีถูกแมวกับหมามากเท่าไรหนูแจ๋วยิ่งตกใจมาก พอตกใจมากก็ยิ่งตีมากขึ้นเท่านั้น


“โอ้ย ตายแล้ว อย่าเป็นอะไรไปนะคุณปิลาร์ งือๆๆ ช่วยด้วย หนูตีแมว ตีหมาด้วย ช่วยด้วย...”

ร้องไห้ไปตกใจไปตีไป แต่ปิลาร์จะตายเสียก่อนสิ ที่ด้วยความเป็นลูกพี่เลยกัดฟันวิ่งหลบไม้เท้าไร้เงา คาบคอเจ้าหน้ามอมวิ่งลากวิ่งหายเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว ขืนไม่ทำแบบนี้เจ้าหน้ามอมตายแน่ เห็นโดนเข้าไปหลายที และหนูแจ๋วก็ตกใจแรงขึ้นทุกที

นั่นล่ะ หนูแจ๋วจึงค่อยๆตกใจน้อยลง แล้วนั่งร้องไห้ คุณนายรู้มีหวังตายแน่ ดีที่เศร้าแล้วไม่ตีแหลก แต่กินแหลก ดังนั้นหนูแจ๋วจึงร้องไห้เสียใจวิ่งเข้าไปในครัว งัดเอาของกินต่างๆมานั่งกินอย่างไม่คิดชีวิตไม่เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหมด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

หมาและแมวนั่งมองหน้ากันอย่างหมดแรง และเจ็บตัว มันเป็นการผจญภัยที่ตื่นเต้นอีกครั้งหนึ่ง

เสียงหมาพันธุ์อสูรสงครามเงียบไปแล้ว แต่มีเสียงรถยนต์วิ่งมาจอดหน้าบ้าน มีเสียงผู้คนพูดคุยกัน แต่ปิลาร์หูอื้อ ไม่วิ่งไปต้อนรับอย่างที่เคยทำ ลูกหมานั่นก็เหมือนกัน นั่งมองหน้าปิลาร์มองด้วยสายตาเหมือนจะถามว่า เจ็บไหม เป็นอะไรมากไหม ประมาณนั้น

พอผ่านเหตุการณ์เคี่ยวเข็ญคับขัน ค่อยรู้สึกถึงสายใยแห่งมิตรภาพ

เสียงฝีเท้าเดินตรงเข้ามา คุณนายกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง

เจ้าหน้ามอมพอเห็นหญิงสาวคนนั้นก็เห่าอย่างดีใจ กระโดดผลุงเข้าไปในอ้อมแขนที่รอรับอยู่ทันที


“มาแอบอยู่ที่นี่เอง ตามหาหลายวันเชียวนะ”

เสียงหวานๆนั่นมีแววดีใจอย่างชัดเจน ทั้งคนทั้งหมาพากันดีใจมีความสุขกันไปหมด ลูกหมาหลงทางตัวนี้ในที่สุดเจ้าของของมันก็ตามเจอจนได้ เสียงคุณนายและแขกผู้มาเยือนพูดคุยกันอะไรปิลาร์ไม่สนใจแล้ว รู้สึกเหมือนตัวเบาโหวงและหล่นลงในหลุมอากาศลึกล้ำราวไม่มีทีสิ้นสุด

อุตส่าห์มีลูกน้องกับเขาทั้งทีก็ช่างเป็นช่วงเวลาที่สั้นเหลือเกิน

เจ้าของลูกหมาอุ้มลูกหมาเดินออกไปยังรถคันงามที่จอดรออยู่ ปิลาร์เดินตามไปอย่างหงอยๆ

ขณะจะขึ้นรถ เจ้าหน้ามอมของปิลาร์ดิ้นเป็นการใหญ่จนเจ้าของต้องวางลงบนพื้น ลูกหมานั้นวิ่งมาหาลูกพี่ของมัน เลียหน้าเลียตาเป็นการใหญ่ เหมือนจะบอกว่า ลูกพี่ครับ... ลูกน้องไปแล้วนะครับ ลูกพี่อยู่ทางนี้ดูแลตัวเองให้ดี ไม่มีเวลาเดินตามลูกพี่อีกแล้ว จำเป็นต้องไปแล้วนะลูกพี่

ถ้าเป็นครั้งก่อนๆปิลาร์ต้องแยกเขี้ยวเข้าใส่ แต่ครั้งนี้ยืนนิ่ง

“ปิลาร์เขาคอยดูแลเจ้าบ๊อกนี่ตลอดมาเลยจ้ะ”

คุณนายมองภาพนั้นแล้วบอกกับแขกผู้มาเยือนอย่างภาคภูมิใจ


ปิลาร์ฟังแล้วอยากร้องไห้ โถ.. ดูแลที่ไหนกัน คอยแกล้งเขาน่ะสิว่า อาหารก็แย่งกิน รู้สึกผิดเหลือเกิน

ทันใดนั้นปิลาร์หันหลังวิ่งเข้าไปในตัวบ้าน แล้วคาบไก่ย่างออกมาชิ้นหนึ่ง คาบมาจากจานของเธอเอง และเป็นชื้นที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีอยู่ในจาน วางตรงหน้าเจ้าบ๊อกแล้วเลียหน้าเลียตาเจ้าบ๊อกเป็นครั้งสุดท้าย เหมือนจะบอกว่า นี่เป็นของฝากชิ้นสุดท้ายของปิลาร์นะ ที่ผ่านมาปิลาร์ขอโทษ ....ไม่ได้จงใจแต่ตั้งใจแกล้งจริงๆ นี่เป็นไก่ชิ้นใหญ่ที่สุดขอมอบให้ก่อนจาก...ให้จากใจแมวๆดวงนี้เต็มที่เลย


เจ้าบ๊อกทำหน้าระห้อย มองหน้าปิลาร์ ตาใสๆดำๆ ของมันเหมือนมีน้ำใสๆคลออยู่ในเบ้าตา สายตาเหมือนจะบอกว่า ลูกน้องคนนี้ไม่เคยโกรธลูกพี่หรอก มีแต่ความรักความชื่นชม ลูกน้องรักลูกพี่ที่สุดในโลกเลย ..ลูกพี่ตัวดีที่หนึ่งของลูกน้องเสมอ

หมาร้องไห้ไม่เป็นนี่ ปิลาร์คิด แล้วทำท่าเหมือนจะบอกว่ารีบไปเร็วๆ รีบไปเร็วๆ ก่อนที่จะร้องไห้ให้เห็น



แต่แมวก็ร้องไห้ไม่เป็นเหมือนกันนี่นา แต่ทำไมถึงอยากร้องไห้ก็ไม่รู้


แต่คนร้องไห้เป็น คุณนายกับแขกผู้มาเยือนกอดคอกันร้องไห้ใหญ่เลย ปิลาร์ทำอะไรผิดไปนี่?

…..



.....



รถคันนั้นวิ่งออกไปแล้ว เจ้าหน้ามอมชะเง้อมองลูกพี่มาจากกระจกหลัง นั่นเป็นภาพสุดท้ายของลูกน้องที่ปิลาร์เห็น วิ่งตามไปส่งจนถึงปากซอย จนรถลับสายตาไปกับความวุ่นวายสับสนของท้องถนน จะไปอยู่แห่งหนตำบลใดก็ไม่รู้ ใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ไม่รู้ เจ้าลูกหมาหน้ามอม ลูกน้องที่น่ารักซึ่งจากไปตามชะตากรรมของความเป็นลูกหมา

ต่อไปนี้เจ้าลูกหมาจะได้กินดีอยู่ดีมีความสุข ลูกหมาตัวนั้นจะต้องเติบโตเป็นหมาเต็มตัวที่แข็งแรง อาจหาญ เป็นหมาที่ดีในอนาคตอย่างแน่นอน


ปิลาร์วิ่งกลับมาบ้าน ปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้าน มองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นวิ่งหายลับไปและยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน

สายลมหนาวพัดผ่านมาเป็นครั้งแรกแห่งปี เศษใบไม้ร่วง หลุดลอยไปตามลม และสายลมหนาวของปีนี้ช่างเยือกเย็นและอ้างว้างกระไรปานนั้น และทุกวันที่มีสายลมแห่งความหนาวเย็น แมวปิลาร์จะขึ้นมานอนบนหลังคา และคิดถึงเจ้าลูกหมาหน้ามอม

ลูกหมาลูกน้องตัวเดียวและตัวแรกของแมวปิลาร์





+++++++



จบตอน




 

Create Date : 12 เมษายน 2548
12 comments
Last Update : 12 เมษายน 2548 9:13:05 น.
Counter : 590 Pageviews.

 

ฮุๆ
แมวบ้า ตอนนี้ควรสงสารหรือหมั่นไส้มันดีเนี่ย

 

โดย: วีบีไอโอ (vbio ) 12 เมษายน 2548 9:41:23 น.  

 

ยูโทเปียของปิลาร์

 

โดย: Miran 12 เมษายน 2548 19:44:36 น.  

 

Hello...

How are you?

I'm not home today..

Where are you going on song kran day?

 

โดย: yadegari 12 เมษายน 2548 22:13:23 น.  

 

ปิลาร์แมวขี้อิจฉา แมวพี่ใหญ่
อ่านไปตอนแรกก็หมั่นไส้
หลัง ๆ น่าสงสาร หงือ หงือ

อยากเป็นพี่ใหญ่ก็ต้องอยู่อย่างโดดเดียว
ฮือ ฮือ

 

โดย: พรายทราย มะได้ล็อก IP: 61.90.55.95 12 เมษายน 2548 22:25:56 น.  

 

เข้ามาหวัดดีปีใหม่

แวะสาดน้ำแมวบ้าด้วย
ฮุฮุ

 

โดย: vbio 13 เมษายน 2548 14:56:47 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ไทยค๊า

 

โดย: yadegari 13 เมษายน 2548 18:07:42 น.  

 

สวัสดีทุกท่าน

ตอนนี้ผมเที่ยวสงกรานต์อยู่บ้านนอกครับ
อิอิ สนุกมากๆๆ

 

โดย: GTW (GTW ) 13 เมษายน 2548 21:39:15 น.  

 

อย่าลืมของฝากนะคะอาจารย์ ตั้งหน้าตั้งตาต่อเติมเต็มที่

 

โดย: Miran 13 เมษายน 2548 21:41:17 น.  

 

^ - ^ สวัสดีครับ แอบแวะมาเจอบล็อก
ของอาจารย์ เลยมาฝากตัว
ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ
อาจารย์ตามอ่านเรื่องผมหลายหนแล้ว
( เขียน เซน วีรบุรุษสุดขอบฟ้า กับ
พลิกคดีปริศนา .. ล่าทรชน )

นิยายของอาจารย์น่าอ่านเหมือนกัน
ว่างๆ จะมาติดตามนะครับ

 

โดย: C o jz N (C o jz N ) 14 เมษายน 2548 5:00:17 น.  

 

สวัสดีค่ะ มีความสุขมากๆๆวันสงกรานต์นะคะ เที่ยวเผื่อด้วยนะคะ

 

โดย: แม่มดน้อย23 14 เมษายน 2548 8:05:52 น.  

 


แวะมาอ่านค่ะ

ยังอ่านไม่จบ...แปะไว้ก่อนนะคะ

ขออนุญาตไปอาบน้ำคลายร้อนก่อนนะคะ

 

โดย: Big Spender 14 เมษายน 2548 18:44:27 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ไทย
แวะมาทักทายค่ะ

 

โดย: Redkiller1980 14 เมษายน 2548 20:12:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Psycho G
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add Psycho G's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.