Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
23 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 
สาวเครือ(อิง)ฟ้า ตอนที่ 4 (จบ)

สาวเครือ(อิง)ฟ้า ตอนที่ 4 (จบ)

โดย GTW

++++++

ฟ้าเดินตามตาวันไปอย่างกล้าๆกลัวๆ ความใหญ่โตโอ่อ่าของร้านอาหารเบื้องหน้าแทบทำให้ฟ้าตัวเล็กลงและหายวับไปกับตา

ณ ตรงนั้น กระจกกรองแสงบานประตูทางเข้าติดอักษรสีทองเชิญชวนลูกค้าในถลาเข้าไปในร้านอย่างไม่คิดชีวิต สู่บรรยากาศเย็นฉ่ำสลัวลางวับแวมโรแมนติก อาหารบนจานขอบทองราคาแพงแสนวิเศษ พนักงานต้อนรับหน้าตาผ่องใสยิ้มแย้ม โน้มน้าวจิตใจให้มาแล้วอยากมาอีก และอีก...

กลางโคมไฟสลัวและเปลวเทียนสั่นไหวเพราะไอแอร์.. มือถูกเกาะกุมจากอุ้งมือแข็งแรง เจ้าของใบหน้าคมเข้มหล่อแรเงาจากแสงฉายนุ่มนวล ก่อนถูกกระซิบแผ่วข้างหูด้วยประโยคสำคัญที่สุด

“ฟ้า....ผมรักคุณ”

แสนหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า อย่างนี้มีหรือที่หัวใจจะไม่เต้นเป็นส่ำ

“อ๊าก......”

ฟ้าร้องสุดเสียง จากฝันหวานกลางวันซึ่งรบเร้าคุกคามความรู้สึกอ่อนไหวใจกระเจิง

ตาวันหันมามองอย่างแปลกใจ ที่เห็นจู่ๆ ฟ้าก็ร้องสุดเสียงทั้งที่กำลังอยู่ถนนถนนมีคนสัญจรมากมาย

“เป็นอะไรไปครับ..”

“เปล่าค่ะ แกล้งร้องซ้อมคอเฉยๆค่ะ”
ฟ้ารีบอธิบาย ใบหน้าม่วงระเรื่อด้วยความอายเขิน ตาวันมองด้วยความรัก หาผู้หญิงแบบนี้ง่ายๆได้ที่ไหน อยู่ดีๆก็ร้องอ๊ากขึ้นมาเฉยๆ แต่นั่นล่ะ คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของเด็กสาวซึ่งสะท้อนมาจากความจริงใจ

ใกล้ถึงทางเข้าตาวันกลับดึงแขนฟ้าเลี้ยวไปทางขวามือ

“อะไรคะ เควิน...เอ้ย ตาวัน” ฟ้าสงสัย

“มาเถอะน่า”

เด็กหนุ่มพูดสั้นๆ ไม่อธิบายอะไรแต่ลากฟ้าไปยังบริเวณข้างร้านอาหาร

ข้างๆริมทางแคบๆมีเพิงสุนัขแหงนเล็กๆ หน้าเพิงมีรถเข็นคันน่ารักจอดอยู่บนทางเท้า บนรถมีตู้กระจกเล็กๆ ในตู้มีเส้นมะละกอ มะนาว พริก เนื้อย่าง แหนม ส้ม แขวนเด่นเป็นสง่า ด้านหลังมีโต๊ะอยู่สามสี่ตัว พอยังมีโต๊ะว่างอยู่บ้าง

“ร้านนี้อร่อยสุดๆเลยครับ”

ตาวันหันมายักคิ้ว ก่อนลากฟ้าไปนั่งโต๊ะตัวหนึ่งซึ่งมีเก้าอี้ขาเกอยู่สามสี่ตัว

ฟ้านั่งอ้าปากค้าง มองเห็นภาพหอเอนเมืองปีซา หอไอเฟล กำแพงเมืองจีน และสิ่งมหัศจรรย์อื่นๆของโลก ค่อยๆพังทะลายลงมาต่อหน้าตา ฝันสลาย......

ตาวันหันไปสั่งคนขายหญิงวัยกลางคนซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการตำส้มตำอยู่อย่างตั้งใจ

“น้าครับ ขอส้มตำปลาร้า 1 จาน ข้าวเหนียว 2 กระติ๊บ ไก่ย่าง 2 ไม้ น้ำเปล่า 2 แก้ว”

“รอแป๊บหนึ่งนะ”

คนขายบอกอย่างคุ้นเคย

“ปลาร้าอย่าลืมใส่หนอนด้วยนะครับ”

ฟ้าแทบตกเก้าอี้ มองหน้าตาวันเหมือนมองคนบ้า แต่ตาวันกลับยิ้มพลางอธิบายว่า

“ปลาร้าที่ปลอดภัยต้องมีหนอนนะครับ มันเป็นอินดิเคเตอร์ บ่งบอกว่าปลาร้านั้นไร้สารพิษหรือยาฆ่าแมลง ทำนองเดียวกับผักไร้สารซึ่งต้องมีร่องรอยของการกัดแทะจากแมลงบ้างล่ะครับ และสำคัญคือหนอนจากปลาร้ายังเพิ่มโปรตีนให้แก่ส้มตำตามหลักโภชนาการอีกด้วย”

“ไม่ขำเลยนะคะ” ฟ้าพูดเสียงเครียด ควักผ้าเช็ดหน้าสีม่วงซับเหงื่อ

ลมร้อน ลมรัก ร้อนเพียงใดเพียงใจสดชื่นลมร้อนก็โรยรา

ไม่นานส้มตำปูปลาร้าและอุปกรณ์เสริมต่างๆ มาวางตรงหน้า ฟ้ายิ้มกระดากๆ ก่อนหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเส้นส้มตำเหมือนคนกำลังทานก๋วยเตี๋ยว

“อ้ะๆๆไม่นะครับ” ตาวันซึ่งเฝ้ามองอยู่ทุกอริยาบทร้องห้าม “การจะรับรู้ถึงศาสตร์และศิลป์แห่งการกินส้มตำต้องใช้มือครับ ดูนี่....”

ว่าพลางตาวันก็ใช้มือหยิบข้าวเหนียวมาปั้นอย่างคล่องแคล่ว เป็นก้อนกลมประมาณเท่านิ้วโป้ง ก่อนฉกไปยังส้มตำวูบหนึ่ง ส้มตำติดขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์แล้วตาวันก็ส่งเข้าปากเคี้ยวอย่างแซบหลายเคี้ยวพลางพูดพลาง

“การกินส้มตำขั้นสูงสุดต้องอย่างนี้ครับ ไม่ใช้ตะเกียบหรือซ่อม ต้องใช้มือเท่านั้น ลองดูสิครับ”

เอาก็เอาฟะ...ฟ้าคิดในใจ เอื้อมมือไปหยิบข้าวเหนียวพยายามปั้นเป็นก้อนกลมแต่มันติดมือเหนอะหนะไปหมด

“ล้างมือก่อนสิครับ” ตาวันแนะ ฟ้าฝืนยิ้มแห้งแล้งก่อนเอื้อมมือไปหยิบกระปุกน้ำเทราดฝ่ามือขวา

“นั่นล่ะครับ เคล็ดลับในการกินส้มตำให้อร่อย ส้มตำนี่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าทึ่งมากนะครับ รวมถึงปลาร้าด้วย ราคาไม่แพง อร่อย แซ่บหลายเด้อสิบอกให่.....”

แสนสงสารฟ้าผู้ไม่เคยชินกับส้มตำเฮทำท่าจะร้องไห้

“เอาล่ะค่ะ คุณมีอะไรจะบอกก็บอกมา”

บอกรักในร้านส้มตำก็ไม่เลว ฟ้าทำใจได้ แม้ไม่มีแสงเทียนและไอเย็นในบรรยากาศโรแมนติก

ตะวันฉีกเนื้อไก่ย่างเข้าปากเคี้ยวเนิ่นนานก้มหน้ามองจานส้มตำ การที่ผุ้ชายคนหนึ่งจะสารภาพความในใจออกมาให้นางอันเป็นที่รักฟังบางครั้งมันยากเย็นแสนเข็ญ บางคนจวบจนตายก็ไม่เคยแสดงความในใจออกมา

ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยจริงใจคำว่ารักหลุดออกมาง่ายดาย ง่ายดายจนแทบไร้คุณค่า กับคนที่รักจริงๆ มันยากพอสมควร เพราะมันสะท้อนมาจากอารมณ์อ่อนไหวภายใน

“พูดสิคะ”
........
พูดสิ พูดซิ”
........
ฟ้าฟิวส์ขาด จับคอตะวันบีบและเขย่าไปมาแบบเดียวกับหนังโฆษณาชิ้นหนึ่ง

“จะพูดหรือไม่พูด หา....”

“พูดแล้วครับ โอ้ย...” ตาวันร้องเสียงหลง พอฟ้าปล่อยมือก็ไอแค๊กๆๆสำลักส้มตำ

ลมร้อนพัดหวน ฝุ่นละอองโปรยปรายกระจายตัดกับรถบางคันวิ่งผ่านมาดูไปงดงามโรแมนติกราวในฝัน ยามนั้นไอเสียและก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากรถบางคันกลับหอมหวานรัญจวนใจ

ตะวันเกาะกุมมือของฟ้า ส่งความอบอุ่นมั่นคงมาตามมือนั้น มองตาจริงจังจริงใจ

“ฟ้าครับ “

“ขา”

“ผมมีเรื่องจะบอกคุณ”

“ค่ะ”

“มันเป็นประโยคสำคัญที่สุดซึ่งในชีวิตนี้ผมไม่เคยเอ่ยกับหญิงใด”

“คะ”

“จากหัวใจของชายคนหนึ่งซึ่งซื่อและจริงใจ”

“คะ..”

“ฟ้าตรับ”

“......”

“ผม..”

หัวใจของฟ้าเตลิดเปิดเปิงโบยบินสู้ก้อนเมฆรูปหัวใจม่วงใสบนฟ้าคราม ใบหน้าฉีดผ่าวไปด้วยเลือดสาวจนหน้าม่วงซ่าน โลกทั้งโลกเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะความรู้สึกเหมือนกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านไปมาจนร่างสั่นสะท้าน

“ผม”

“ขา”

จะเป็นประโยคหวานขนาดไหนนะ หวานจนต้องจดจำลิขิตเขียนลงในสมุดบันทึกสีม่วงสดใจประทับไว้กันลืมเลือน ซาบซึ้งจนต้องหลั่งน้ำตาหรือเช่นไร จะไพเราะขนาดไหน ฟ้านึกไม่ออกจริงๆ

....

“ผมยืมเงินคุณสามหมื่นได้ไหมครับ”

………….

เปรี้ยง...!!!!

ฟ้าผ่าครืนลงมาต้นไม้ใกล้ๆแถวนั้นขาดกระเด็น ทั้งที่ไม่มีลมฝนแม้แต่น้อย ลมพัดอื้ออึงจนฟ้าหน้ามืด หากหูยังแว่วเสียงทุ่มนุ่มกังวานของตะวันต่อไป

“อย่างที่คุณทราบล่ะครับ รถยนต์ของผมพังพินาศ ถ้าจะซ่อมก็หลายหมื่น พ่อแม่ผมก็ปฏิเสธจะช่วยเหลือ มองไปทางไหนก็สิ้นหวัง เหลือแต่คุณคนเดียวซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจของผม รับรองผมจะหาเงินมาคืนคุณอย่างรวดเร็วภายในเวลายี่สิบปีเท่านั้นครับ อ้อ..วันนี้คุณจ่ายค่าอาหารด้วยนะครับ ”
“อะไรนะคะ...”

“แหม..ผมชวนคุณมาทานข้าวเที่ยง แต่ไม่ได้บอกว่าจะเลี้ยงคุณนี่”

นานแสนนาน

ฟ้ารู้สึกตัวเย็นเฉียบ สายตาเหม่อมองไปไกลแสนไกล นั่นน่ะหรือประโยคสำคัญซึ่งฟ้าเอียงหูรอคอย

ฟ้าเบื้องบนไม่สวยอีกต่อไป นกร้องไม่เพราะอีกแล้ว ลมรักเปลี่ยนเป็นลมร้อน เลือดลมภายในเริ่มเดือดพล่านแทบจะกลายเป็นธิดากระบี่ม่วงหวาน

“ได้เลยค่ะ”

ฟ้ายิ้มโหด ค่อยๆลุกขึ้นดึงมีดทำครัวซึ่งพกติดตัวออกมาอย่างช้าๆ พร้อมกับปืนพกและระเบิดขวด

“แต่ก่อนอื่นขอเอาเลือดหัวคุณออกมาก่อนนะคะ”

“เจี๊ยก......”

ตาวันร้องเสียงหลง กระโดดตัวลอยก่อนวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตออกมาหน้าร้านโดย มีจานส้มตำ มีดบินไร้เงาเฉียดกกหูไปอย่างหวุดหวิด อารามตกใจทำให้เขาจับรถจักรยานได้ก็แบกวิ่งหนีสุดฝีเท้า(ทำนองเดียวกับคนไฟไหม้บ้านตกใจแล้วแบกโอ่งน้ำวิ่งหนีไฟนั่นล่ะ)

ฟ้าลืมร้อนลืมอาย วิ่งตามมาติดๆ ระเบิดขวดในมือปาไล่หลังไป

ตูม....!!!!

ถ้าเป็นคนอื่นคงหยอดน้ำข้าวต้มไปแล้ว แต่นี่เป็นพระเอกจึงบาดเจ็บเล็กน้อยแค่เลือดท่วมตัวเท่านั้น แต่หยุดตาวันไม่ได้ คนหนีตายมีจะมีพลังผิดมนุษย์มนา

เที่ยงวัน... ถนนสายวัยรุ่นมีภาพน่ารักยิ่ง หนุ่มแบกจักรยานหนี สาวควงมีดไล่ โดยมีแม่ค้าควงสากเป็นกังหัน อีกมือถือครก ไล่หลังประทบท้ายตามทวงค่าอาหาร เป็นภาพที่สวยงาม ประทับใจ เสียนี่กระไร

++++

นั่นไม่ใช่จุดจบของความรักคู่นี้

เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

++++

จบตอน




Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2548 9:49:37 น. 4 comments
Counter : 406 Pageviews.

 
จำได้ว่าเผลออ่านตอนจบไว้เมื่อเช้า
เลยต้องรีบกลับมาอ่านตอนแรกอย่างเร่งด่วน

เป็นการ์ตูนโรแมนติกคอมเมดี้ที่น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ

จะนอนหรือยังหนอ
หวังว่าคืนนี้จะหลับฝันดีนะคะ
จะได้ไม่ต้องตื่นสายอีก อิอิ
มาราตรีสวัสดิ์ค่ะ
กว่าจะซ่อมเครื่องย้ายมวลสารได้นะนี่




โดย: พรายทราย วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:21:54:24 น.  

 
ฮ่ะๆๆ

กำลังคิดเครื่องย้อนเวลาไปหาใครบางคน ฮ่ะๆๆ

^___^...


โดย: GTW วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:21:59:46 น.  

 
ตอนตั้งค่าสูตร...
อย่าลืมทดเลขเหลื่อมเวลานะจาน
เดี๋ยวย้อนไปย้อนมา สั้นจิเดียวอีกแหะ แหะ
เนี่ยะ มาบอกจากอนาคตเลยน้า...

จริง ๆ ... จานคิดมั้ยคะว่า
หลับตา ทำสมาธิ...
หลับตา แล้วฝัน...
เป็นการเดินทางผ่านกาลเวลาโดยไม่ต้องใช้เครื่องจักร สมองกลเลยน้า
สมองของเราเองนี่ละวิเศษสุดแล้ว...
ก็แค่คิด...




โดย: พรายทราย วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:0:13:31 น.  

 
ใช่ครับ
เป็นการเดินทางโดยใช้จิตไงล่ะครับ
แบบนี้ท่องทั่วจักรวาลเลย


โดย: GTW วันที่: 4 มีนาคม 2548 เวลา:13:53:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Psycho G
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add Psycho G's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.