ได้มีโอกาสไปทานอาหารเย็นที่ ห้อง Char Restaurant อยู่ชั้น 25 โรงแรม Indigo ย่านวิทยุ โรงแรมสวยมาก ตกแต่งแนวอาร์ตๆแบบสมัยใหม่ แต่มีความอบอุ่นเข้าถึงง่าย แต่งกายแบบ Smart Casual ก็พอ ไม่ต้องถึงขนาดใส่ชุดราตรีมาค่ะเหมาะกับคนสมัยใหม่ดี

เล็กนั่งโต๊ะริมกระจก ได้เห็นวิวเมืองสวยๆ วันที่ไปมีฝนตกเล็กน้อย ก็มีความโรแมนติกไปอีกแบบ ในห้องตกแต่งสวยหรู เป็นส่วนตัว โรแมนติกดีค่ะ 

เริ่มด้วยขนมปังโฮมเมดและเนย 

วันที่ไปเล็กได้เจอ Chef Nikolas Ramirez ของห้องด้วย เฟรนลี่มาก เดินเสิร์ฟและแนะนำเมนูเอง ทุกโต๊ะจะได้ Amuse-bouche หรืออาหารเรียกน้ำย่อยฟรี 3 อย่างจากเชฟ แต่ละวันจะไม่เหมือนกัน ซึ่งอร่อยมากๆ เล็กว่าเชฟเก่งในเรื่องของการผสมผสานวัตถุดิบ ทำได้ลงตัว

ต่อด้วยอาหารจานแรก Crispy Crab Cake (690 baht) เค้กปูกับซอสครีม ตัวเค้กปูเนื้อปูแน่นดีค่ะ ด้านบนเป็นส้มโอรวมๆเข้ากันดี

Black cod from Japan seared tomato sweet with spicy sauce (890 baht) ปลาคอดจากญี่ปุ่นทำมาแบบเนื้อฉ่ำ สดอร่อยมากเลย ตัวน้ำราดมีส่วนผสมของแอปเปิ้ล ซอสถั่วเหลืองและพริกไทย ผักเครื่องเคียงกลิ่นก็มีเอกลักษ์ณ์ 

คอนเซปต์ของห้องนี้คือ Contemporary Grill เสต๊กเนื้อจะเด่นมาก จานนี้ขอบอกว่าเป็นที่สุดของมื้อนี้ Rangers Valley Rib Eye (2,220 baht) ทำมาแบบ Medium rare เชฟบอกว่าเป็นเนื้อที่ดีที่สุดที่เชฟเคยกินมา ซึ่งก็จริง เนื้อวากิวนุ่มมาก หอมอร่อย ซอสมี 2 แบบ ซอสกระเทียมบดกับซอสสเต๊คแบบคลาสิค 

จบด้วยขนมหวาน New York cheesecake ด้านนอกเป็นเมอแรงที่มีส่วนผสมของแก้วมังกร พอเปิดออกมาจะเจอไอศกรีมโฮมเมด ชีสเค้ก และกรานิต้าสีแดง มีส่วนผสมของบีทรูทและแตงโม ตัวชีสเค้กเนื้อแน่นเนียนดี เปรี้ยวๆหวานๆ

ส่วนตัวแล้วประทับใจมื้อนี้มาก สถานที่สวย อาหารอร่อย วัตถุดิบดี เชฟใส่ใจรายละเอียดมาก บริการดี เหมาะกับการมาทานมื้อพิเศษในโอกาสต่างๆ ขอยกให้เป็นร้าน Fine Dining อันดับต้นๆที่ประทับใจเลยค่ะ