Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
เมื่อไม่ได้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยที่ ม.เชียงใหม่แล้ว...... คงถึงเวลาเลิกติสท์แดกเสียที

นับแต่เรียนจบปริญญาโท ผมติสท์แดกมาเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม

ติสท์แดกในที่นี้คือการทำใจตัวเอง ไม่ฟังเสียที่บ้าน ไม่ไขว่คว้าเงินทอง ไม่เข้าสู่ระบบทุนนิยมเป็นลูกจ้างบริํษัทห้างร้านต่าง ๆ ผมทำตามใจตัวเองโดยการมาเป็นอาจารย์พิเศษที่เชียงใหม่ ไม่มีแม้แต่เงินเดือน

งานอาจารย์พิเศษได้เงินเป็นก้อน เทอมแรกผมสอนราชภัฎเชียงใหม่ ได้เงินสองงวดหมื่นนิด ๆ เทอมนี้ผมสอน มช. พึ่งทราบเมื่อกี้ว่าจะได้หมื่นสาม ทว่าเงินเหล่านั้นจะได้เมื่อไหร่ไม่รู้ คณบดียังไม่ได้เซ็นอนุมัติเลย

อาจจะชาติหน้าเหมือนชื่อของผมก็ได้....

ผมรักการเป็นอาจารย์ ผมชอบสอนคนอื่น สมัยเรียนก็ติวรุ่นน้อง ผมมาเรียนปริญญาโทก็เพราะว่าอยากเป็นอาจารย์ แม้เกรดตอนปริญญาตรีผมจะห่วยมาก ได้แค่ 2.76 เคยสัมผัสเกรดมากกว่า 3.0 ก็แค่ครั้งเดียวในชีวิต เกียรตินิยมเป็นเรื่องไกลตัวที่ไม่จำเป็นสำหรับชีวิต แถมยังไม่เป็นที่โดดเด่นทางผลงานเหมือนคนอื่น ๆ ในรุ่นที่ฝีไม้ลายมือเด็ดดวง

ดูเหมือนเป็นตลกร้ายและ paradox เสียเหลือเกิน เพราะบรรดาเพื่อน ๆ ผมหลายคนที่ถูกวางตัวเป็นทายาท ได้เกรดนิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองกลับทำงานตามความฝันโดยการเป็นแอร์โฮสเตส เลิกยุ่งเสียทีกับงานวิชาการ ปล่อยให้คนโง่ ๆ อย่างผมอยากเป็นอาจารย์

เทอมนี้ผมได้รับโอกาสเข้ามาสอนที่คณะการสื่อสารมวลชน คณะที่ผมเรียนจบมาสมัยปริญญาตรี แน่นอนว่าในหมู่เพื่อนฝูงรวมถึงตัวเองย่อมดีใจเป็นแน่แท้ แต่เอาเข้าจริงก็ดูเหมือนเป็นมายาหลอกล่อไปวัน ๆ เพราะคำว่าอาจารย์พิเศษชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ได้ประจำ เงินต่าง ๆ มันก็มาบ้างไม่มาบ้าง

หลายท่านคงสงสัยว่าแล้วปกติเอาอะไรกิน ผมก็บอกและสารภาพตามตรงเลยว่า ขอพ่อขอแม่กินครับ เนื่องด้วยผมเป็นลูกคนเดียวและพ่อแม่ไม่มีภาระหนี้สินอื่น ๆ นอกจากหนี้ิสินในการให้ลูกเกาะกิน เลยไม่มีปัญหาอะไรเท่าไร นอกนั้นก็รับงานฟรีแลนซ์ทั่วไปเกี่ยวกับวิทยุเสียส่วนใหญ่ ซึ่งก็บอกตรง ๆ ว่ามันไม่พอรับประทาน

มาถึงวันนี้หมดภาคการศึกษาแล้ว การประชุมเกรดพึ่งเสร็จสิ้นไป ผมส่งเกรดเรียบร้อยเท่ากับว่าผมสิ้นสุดการเป็นอาจารย์พิเศษที่คณะนี้แล้ว ทางคณะก็ไม่ได้คุยต่อว่าเทอมหน้าอยากสอนไหม ซึ่งผมเองก็เตรียมคำตอบไว้แล้วว่าถ้าให้สอนก็คงไม่ เพราะผมต้องหางานประจำเลี้ยงชีพเสียที

ผมโกรธตัวเองหลายครั้งในความติสท์แดกของตัวเอง ตอนนี้ผมรู้ว่าผมต้องหางานประจำทำ แต่ผมก็ยังติสท์แดกเลือกงาน ใครหลายคนบอกว่าทำไปก่อนสิ แล้วเขามีรับอาจารย์ที่ไหนอย่างไรก็ไปสมัคร หรือไม่ก็ทนทำงานบริษัทเอกชนไปก่อน อย่าติสท์แดกมากนัก

ผมเลือกงาน ผมไม่เกี่ยงอยู่ต่างจังหวัด แต่กรุงเทพฯขอเป็นตัวเลือกสุดท้าย ผมคิดว่าผมได้รู้อะไรจากกรุงเทพฯมาเยอะแล้ว ทว่างานสายสื่อสารมวลชนที่ผมถนัดและอยากทำเกือบทั้งสิ้นอยู่ในกรุงเทพฯทั้งนั้น

ผมรู้สึกถึงความลักลั่นย้อนแย้งราวกับการ์ตูนเรื่องหงสาจอมราชันย์ในตัวเอง

ล่าสุดผมไปสมัครทำงานสื่อเป็น NGO ด้านแรงงานชาิติพันธุ์ โดยดูแลเกี่ยวกับสื่อวิทยุ ทางองค์กรก็ปล่อยให้รอกันไป ไม่ประกาศสักทีว่าใครได้ ผมเองก็กำลังมองหางานอื่น ๆ ที่คิดว่าตัวเองทำได้และทำแล้วมีความสุข ถ้าไม่ทำสื่อก็อาจจะเป็นนักวิจัย ฯลฯ

ผมคงต้องเลิกติสท์แดกเสียที พ่อแม่ผมก็อยากให้มีการมีงานทำประจำเสียที ช่วงนี้ก็เหมือน crisis ในชีวิตนิด ๆ ความเครียดสะสมทีละนิด โทรศัพท์คุยกันทีมีแต่อารมณ์เสีย

เอาเป็นว่าได้งานอะไรเมื่อไหร่ จะบอกกล่าวในคราวต่อ ๆ ไป

ทว่าวันนี้ ขออำลากับการมีคำว่าอาจารย์นำหน้าครับ


Create Date : 04 มีนาคม 2551
Last Update : 4 มีนาคม 2551 15:10:37 น. 28 comments
Counter : 4736 Pageviews.

 
เรื่องงานเนี่ยะ
บางทีโอกาสจะเข้ามาหาเราหรือไม่ก็เป็นเรื่องสำคัญ

สู้ต่อไปนะ ดอง


โดย: grappa IP: 58.9.203.120 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:15:05:50 น.  

 
ขอบคุณครับ พี่แป็ด


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:15:08:10 น.  

 
รักการเป็นอาจารย์ด้วยคน ถึงได้เรียนโท
แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปสอนที่ไหน
ไร้ประสบการณ์ แต่มีฝันลึกๆ
สู้ๆนะคะ พี่น่าจะได้เป็นอาจารย์ต่อนะ
เหมาะดีออก อาจารย์ดอง


โดย: Frappucino IP: 124.157.237.68 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:15:13:07 น.  

 
อยากชื่นชมนะค่ะ ว่า อาจารย์ยังรู้ว่าตัวเอง ชอบอะไร ใฝ่หาในสิ่งที่อยากจะเป็น สักวันคงจะได้เป็นในสิ่งที่อยากจะเป็น อยากจะทำ แต่หนูคิดว่าชีวิตก็เงี้ย ไม่เป็นดั่งใจหวังสักที

ลูกหยียังไม่รู้เลย ว่าอยากเป็นไร ,,,,

ถึงแม้จะก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไปแล้ว แต่อาจารย์ก็จะยังเป็นอาจารย์ในใจลูกหยีเสมอนะค่ะ แม้ว่าอาจารย์จะบ้าบอบางครั้งก็ตาม ฮิฮิ

นึกถึงอาจารย์วันแรกที่เข้ามาสอนได้เลย รู้สึกได้ว่า อาจารย์ประหม่ามากเลยอ่ะ แต่อยากให้รู้ว่าอาจารย์สอนได้ดีนะค่ะ

ลูกหยีได้ข้อคิดมากมายเลย

ที่สำคัญอาจารย์ไม่เหมือนอาจารย์คนอื่นที่สามารถปรึกษา พูดอะไรก็ได้ เป็นกันเองจิงๆๆๆ นี่แหละที่อาจารย์ไม่เหมือนใคร

จบไปก็คงติสท์แดกเหมือนกานอ่ะแหละ ฮุฮุ

ขอให้โชคดีนะค่ะะะะะะะ



โดย: ลูกหยี สุดสวย IP: 124.157.200.214 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:15:24:34 น.  

 
อยากเป็นอาจารย์เหมือนกันครับ ตอนนี้กำลังเรียนโทอยู่ อิอิ

ตอนนี้ก็ต้องอดทนต่อการ Psycho จากเพือนๆ ที่ำได้เงินเดือนเยอะๆ


โดย: M|B วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:16:31:44 น.  

 
เป็นคนหนึ่งที่อยากเป็นอาจารย์
แต่ตอนนี้ เริ่มจะเรียนไม่ไหวแล้ว

เอาใจช่วยนะคะ งานหาไม่ยากหรอก ถ้าเราคิดจะเลือกทำมันจริงๆ

สำหรับยุ้ยนะ
ตอนแรกคิดว่าอยากเรียนต่อ แต่จบโทให้ได้ก่อนดีกว่า
เพราะเริ่มอยากทำงานเป็นผู้เผ็นคนกับเขาบ้างแล้ว


โดย: YUI_MUNMOO วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:17:11:15 น.  

 
ดองเองเหรอ?

สู้ๆ ละกันอ่ะ...
อย่าได้เพิ่งท้อแท้นะ..

เอาใจช่วย..

;)


โดย: ป่าน IP: 222.123.16.70 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:17:45:30 น.  

 
ครับท่าน...

ท่านจะไปทำไรก็ตามผมรอฟังข่าวอยู่เสมอนะ


ผมเองก็ร่อแร่ แต่จะพยายาม

อยากฝากอะไรไว้นิดนึง
นานมาแล้วก่อนที่จะเรียนจบปอตรี ผมได้ไปคุยกับอาจารย์ประมวลที่เคารพ
อาจารย์ได้พูดสิ่งหนึ่งซึ่งยังคงอยู่ในความทรงจำและระลึกถึงได้จนบัดนี้ อาจารย์บอกว่า
"ตุลอยากเป็นอาจารย์ เป็นเรื่องที่ดีครับ และผมอยากจะบอกตุลว่า ในอนาคตนั้นไม่ว่าตุลจะได้เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งหมายถึงคนที่สอนหนังสือตามพรบ.หรือไม่ก็ตาม นั่นไม่สำคัญเลย ไม่ว่าตุลจะไปทำอาชีพอะไรก็ตาม จะได้เป็นอาจารย์ตามความหมายนั่นหรือไม่ ตุลยังสามารถที่จะเป็นอาจารย์ได้ ขอให้ใช้ชีวิตเป็นการสอนผู้อื่น ให้ความรูให้ประสบการณ์ เป็นอาจาย์ในความหมายที่แท้จริงได้เสมอครับ
ใช้ชีวิตเป็นการสอนครับ"

ฝากไว้ให้อาจารย์ช้างคับ

ด้วยความเคารพ


โดย: พ.หมี IP: 58.9.144.42 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:18:08:34 น.  

 
มหาศิวราตรี ไปเยี่ยมพระศิวะ ดิ่ ที่เทพมณเฑียรอ่ะ

พระศิวะปางหนึ่งในอินเดียใต้ ชื่อว่า พระทักษิณามูรติ ซึ่งคือพระเจ้าในรูปของครู

ขนาดพระเจ้า งานยุ่ง มีไรทำตั้งเยอะ ในฐานะพระเจ้า ยังเป็นครูได้เลย

หางานได้แล้ว ขอเรียนเชิญท่านติสต์แดกต่อนะครับ

อ่อ ผมได้ไปเข้าชมวันสอนของท่านวันแรก เสียดายที่ไม่ได้ไปวันสุดท้าย(ของรอบนี้ อาจมีรอบหน้า) ยังไงอวยพรให้ท่านอาจาร์โชคดี


โดย: พ.หมี IP: 58.9.144.42 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:18:11:51 น.  

 
ไม่อยากเป็นอาจารย์ แต่ก็ยังไม่มีงานเป็นหลักแหล่งทำเหมือนกัน ชีวิตหนอชีวิต


โดย: strawberry machine gun วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:18:29:16 น.  

 
เป็นกำลังใจให้ครับผม ขอชื่นชมในการใช้อิสรภาพของพี่ดองครับ อิสรภาพที่จะให้ตัวเองได้เลือกสิ่งที่ตนสนใจมากกว่าการมุ่งหารายได้ในทันที ผมว่าถ้าพี่เลือกหาสตางค์แต่แรก คงน่าเสียดายmomentที่พี่ได้enjoyกับการสอนในช่วงปีที่ผ่านมามากมาย

ขอให้โอกาสที่ดีและเหมาะสมกับพี่ดองเดินทางเข้ามาหาพี่ในเร็ววันครับ ^^b


โดย: Ton IP: 124.120.26.245 วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:22:11:26 น.  

 
เพราะยังไงซะ เงินก็ยังถือเป็นปัจจัยแห่งการดำรงชีวิต

แต่เมื่อไปเจอบรรดาลูกศิษย์ที่เคยสอน
เค้าก็ต้องเรียกเราติดปากว่าอาจารย์อยู่ดีล่ะ



โดย: printcess of the moon วันที่: 4 มีนาคม 2551 เวลา:22:16:39 น.  

 
ทำงานเถอะคุณดอง อาจารย์ของผมที่จ๊าบๆนี่ ทุกคนมีประสบการณ์การทำงานอย่างโชกโชนครับ ผมว่าทำงานประจำอีกสักพัก อย่างคุณนี่อนาคตไกลแน่ๆ อีกหน่อยคุณต้องเป็นครูที่ดีแน่ๆ ตอนนี้ก็เก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนเนอะ เรื่องติสแตกนี่ผมว่ามีบ้างก็ไม่เสียหายอะไรแต่อย่าไปยึดติดกับมันมาก ผมเพิ่งอ่านหนังสือเจอสุภาษิตเขาว่า

men are born soft and supple;
dead, they are stiff and hard.
Plants are born tender and pliant;
dead, they are brittle and dry.

Thus whoever is stiff and inflexible
is a disciple of death
Whoever is soft and yeilding
is a disciple of life.

อืมม.....ทำงาน...คุณพ่อคุณแม่จะได้ภูมิใจครับ



โดย: บ๊วยเค็ม IP: 64.131.129.227 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:9:02:49 น.  

 
^
^
^

ภาษาแบบนี้คุ้น ๆ


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:11:36:14 น.  

 
เคยเกิดอาการ ติสต์ขึ้น เหมือนกันค่ะเลยพอจะเข้าใจความรู้สึกนั้น


โดย: renton_renton วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:18:06:47 น.  

 
กลับมาอ่านอีกรอบ รู้สึกว่ายิ่งอ่านมันยิ่งคล้ายๆ กันเลยนะ ตอนนี้ก็เ้ข้าสู่โหมดมนุษย์เงินเดือน เริ่มสมัครงานอย่างจริงจังแล้วล่ะครับ


โดย: pick IP: 202.41.167.246 วันที่: 5 มีนาคม 2551 เวลา:19:34:16 น.  

 
อาจารย์ดอง...

สมัยเรียนความฝันของฉันก็คือ อยากทำนิตยสาร โชคดีที่พอเรียนจบก็มีคนหยิบยื่นโอกาสให้ฉันได้ทำให้ความฝันเป็นจริง

ฉันก็มีความสุขมากกับการทำงานที่ฉันรักและใช้ชีวิตแบบที่ฉันรัก แม้ว่าบริษัทจะจ่ายเงินเดือนพนักงานล่าช้าอยู่เสมอ และสิ้นปีก็ไม่เคยมีใครได้โบนัส เงินเดือนที่ได้มาถึงจะพอกินแต่ก็ไม่พอที่จะเอาไปสานต่อความฝันด้านอื่นๆ ได้เลย ตอนนั้นก็หงุดหงิดตัวเองเหมือนกันว่าจะ ติสท์อยู่ทำไมวะ ไม่ไปหางานที่มันรวยๆ ทำมั่ง

ถึงวันนี้ ฉันก็ยังรักการทำนิตยสาร แต่หลังจากสอบถามพูดคุยกับตัวเองดูแล้วฉันว่ามันถึงเวลาที่ต้องทำความฝันอื่นๆ ให้เป็นจริงเสียที ฉันก็เลยตั้งใจว่า กลับไปเมืองไทยเมื่อไรจะหางานที่มันได้เงินเยอะๆ บ้างแล้วล่ะ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยังเขียนหนังสือต่อไปไม่ได้นี่ใช่ไหม...

ฉันจึงขอให้เธอได้งานที่ถูกใจ ได้เงินพอใช้เร็วๆ นะ สำหรับเรื่องการสอนหนังสือน่ะ ฉันมั่นใจว่าเส้นทางของคนที่มุ่งมั่นอย่างอาจารย์ดองยังไม่สิ้นสุดแค่นี้หรอก

โชคดีจ้า...


โดย: happyteddy IP: 68.199.227.235 วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:9:18:11 น.  

 
อันข้างบนเศร้าจัง
ของคุณหมีนุ่น


วันนี้ศิวราตรีค้าบ

บางทีมีพระเจ้าเป็นเพื่อนก็ดีนะ 555
ขอพรให้อ.ช้างที่รักพบกับความสุข มีเงินพอใช้ในขณะเดียวกันก็คงความติสต์แดกไว้ได้เสมอ


โดย: พ.หมี IP: 58.9.145.20 วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:12:20:56 น.  

 
วันก่อนอีฟก็โทรมาคุยๆให้ฟังเหมือนกัน
ยังไงก็สู้ๆต่อไปเน้อดอง ชีวิตไม่สิ้นดิ้นกันไป ติสต์แดกได้


โดย: getterTu วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:12:42:08 น.  

 
ดอง สู้ๆว่ะ ความฝันท่าเดินไปเรื่อยๆสักวันต้องถึง มึงเดินเขาไปหลายขั้นแล้วสำหรับการเป็นอาจารย์ อย่าพึ่งท้อนะโว้ย
พี่ป็อดบอกว่า "ถ้าชอบทำสิ่งนั้นจริงๆ กัดแล้วจงอย่าปล่อย แล้วมันจาดีขึ้นเอง" สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: พิชิต IP: 58.147.46.46 วันที่: 6 มีนาคม 2551 เวลา:15:54:29 น.  

 
ขอให้โชคดีกับก้าวต่อไปของชีวิตคุณครับ ผมว่าคุณอาจจะได้พบกับประตูเปิดไปสู่ตัวตนที่แท้จริงก็ได้


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:14:21:20 น.  

 
คนทำงานด้านนี้มันก็อดตีสต์แดกไม่ได้หรอกง่ะ...

แต่การเป็นอาจารย์มันเปิดโอกาสให้ตีสต์ไม่ค่อยได้เท่าไร เท่าที่คุณน้องดองได้ไปสอนเซิฟๆ เป็นอาจารย์พิเศษเนี่ย ก็ถือว่าไม่เลวแล้วละ มีกี่คนที่จะมีโอกาสแบบนี้..ได้สอนในสาขาที่ตัวเองถนัด..

ปีนึงที่ผ่านไปก็ถือว่าเป็นประสบการณ์...

ปัญหาก็อย่างที่ดองรู้อยู่แล้ว ครือ..สาขาของพวกเรามันอยู่ใน กทม.ทั้งนั้นแหละ ถ้าหากน้องดองยังคงต่อต้าน กทม.อยู่อย่างนี้ ก็แสดงว่า..สภาวะตีสต์กำเริบยังคงต้องการการเยียวยาอยู่..

คนเราจะผ่านด่านอะไรได้ก็ต้องอาศัยความอดทนและการปรับตัวทั้งนั้น

การทำงานบริษัทเอกชน ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ปัญหาย่อมไม่ต่างกันเท่าไรหรอก และที่เลี่ยงไม่ได้คือ ก็ต้องหัดเล่นการเมืองในบริษัทอยู่ดี

เราพร้อมจะเผชิญหน้ากับมันไหม??..เอาเหอะ..ทางเลือกอาจมีไม่เยอะนัก เพราะสภาวะทางเศรษฐกิจมันจะบีบเราเองแหละ

ไม่ต้องไปตั้งกำแพงไว้สูงนัก อาจจะได้รู้จักอะไรใหม่ๆ ในชีวิตมากขึ้นก็ได้..ใครจะรู้



โดย: พี่หมี (Bkkbear ) วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:1:33:53 น.  

 
เราก็เป็นคนนึงที่ชอบตัดสินใจเลือกอะไรตามอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าเหตุผล

ตั้งแต่เรียนก็อยากทำงานนิตยสารเหมือนกัน แต่ก็ยังเลือกเรียนทีวี เพราะไม่ชอบทำหนังสือพิมพ์ (ดูเหตุผลกู)
จบมา โชคดีได้ทำนิตยสาร รายละเอียดของการใช้ชีวิตก็คงเหมือนของหมอนนุ่น
จนเกิดอารมณ์ติสท์แดกอีกครั้ง อยากกลับมาอยู่บ้าน
ได้มาทำงานกับราชการ ซึ่งต่างกับงานที่เพิ่งลาออกมาลิบลับ
เงินดี แต่ก็ยังไม่มีเก็บ ทำงานเป็นเวลา มีเวลาว่าง แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ใช่ความสุข
ออกจากงานมาเรียน ทั้งที่ยังไม่รู้ว่า จบแล้วไปไหน หรือจะเรียนไปทำไม

จนตอนนี้ ได้มาทำงานนิตยสารอีกครั้ง
รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ลงตัวมาก ที่ได้อยู่เชียงใหม่ และได้ทำงานที่ชอบ

แต่ก็ยังมีความรู้สึกว่ายังมีอะไรที่ไม่พอดีอยู่
อยากมีความมั่นคง แต่ก็ปฏิเสธงานราชการที่จะมีคนฝากฝังให้
เบื่อเรื่องการเมือง แต่ทำงานทุกที่ ก็ต้องเจอเรื่องพวกนี้ตลอด ไม่ว่าจะเอกชน หรือราชการ ไม่ว่าจะองค์กรใหญ่ หรือเล็ก

เลยคิดว่า คงเป็นที่ใจเราเองโหยหาอะไรอยู่เสมอ ซึ่งถ้าไม่นับเรื่องอนาคตที่ยังมองไม่เห็น ก็คงต้องชั่งน้ำหนักเอาล่ะ ว่าเราให้ความสำคัญกับอะไรมากกว่ากัน เพราะไม่มีอะไรที่จะได้ดั่งใจเราไปทุกอย่าง

ถึงตอนนี้จะพอใจมากกับงานที่ทำอยู่ แต่มันก็ยังรู้สึกว่าชีวิตยังต้องการอย่างอื่นอีก
อาจจะเหมือนหมอนนุ่น ที่มีความฝันหลายอย่างที่อยากจะทำ
ก็คงต้องค่อยๆ หาลู่ทางต่อไปล่ะนะ

ดังนั้น ขอให้ดองเจอ 'ทาง' ที่เดินแล้วจะมีความสุขที่สุด
และเป็นทางที่จะพาเราไปถึงจุดหมายที่เราหวังไว้ได้แล้วกัน
สู้ๆ นะดอง (และเราด้วย)


โดย: iammonkey IP: 61.7.168.15 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:10:51:24 น.  

 
หวัดดีดอง


โดย: telefono วันที่: 26 กันยายน 2551 เวลา:17:48:55 น.  

 
เรื่องสนุกดีครับ ผมก็ทำงานมหาวิทยาลัยเอกชนเหมือนกัน แต่เป็นพนักงาน


โดย: jamjuree (nuchock ) วันที่: 15 มิถุนายน 2552 เวลา:19:36:11 น.  

 
หวัดดีค่ะ อ่านดูแล้วก้อจะดูเหมือนคล้ายๆกันน่ะค่ะ ดอง ไม่รู้ว่าเป็นพี่หรือน้อง แต่ขอเป็นเพื่อนแล้วกันอ่ะ
ชีวิตเราก้อคล้ายและเกือบเหมือนดองแหละ ตีสต์แตกเหมือนกันในบางที พอเรียนจอบตรี.ด้วยเกรดอันต่ำต้อยที่เพื่อนๆช่วยดึงและอาจารย์ช่วยเขี่ยวเข็นก้อจบมาอย่างทุลักทุเล จบมาก้อยังบไม่มีงานทำคิดว่า"ต่อจากนี้เราจะทำอะไรต่อไป" คิดไม่ออกก้อเลยลองสอบต่อโทร พระคุณเจ้าดันมาสอบติดอีก ทีนี้คิดว่าเราจะเรียนได้ไหม "เอาว่ะสอบติดแล้วนี่ งานก้อไม่มีทำ เรียนก้อได้ว่ะ" เรียนไปเรียนมาก้อดีน่ะ แต่คิดอีกอย่างว่า "จบไปแล้วจะทำไรต่อดี" เพราะเรียนไม่ตรงสายเลย ตอนเรียนโทก้อหางานจุกๆจิกๆ ได้เงินมาก้อมาซื้อพวกที่จะต้องเรียนเงินขาดก้อเกาะพ่อกะแม่กินเหมือนกัน พอดีมีงานเข้าได้ไปเป็นอาจารย์ในวิทยาลัยรัฐบาลสายอาชีพต่างจังหวัดก้อเลยลองไปเนื่องจากคณะที่เรียนต่อเป็นคณะครุศาสตร์ ซึ่งในตอนเด็กไม่อยากเป็นพวกครูและอาจารย์ที่สุดเนื่องจากกลัวกรรมตามทัน(ทำเค้าไว้เยอะ) แต่เมื่อดวงมันพาไปก้อต้องไปกับมัน ถึงได้รู้ว่าการเป็นอาจารย์ในตอนแรกนั้นมันเงอะงะมากเลย ไม่รู้จะเอาอะไรมาสอนแต่ก้อผ่านไปด้วยดี ทำงานเป็นอาจารย์อัตราจ้างไปปีกว่าๆ ก้อเรียนจบโท จบช้าไปครึ่งปี เนื่องจากไม่รู้จะเอาอะไรมาทำวิทยานิพนธ์ แต่ก้อจบมาได้อย่างดี แต่ทีนี้หล่ะความติสต์แตกอยากออกมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยก้อเกิดขึ้น ก้อเลยลาออกจากที่ทำงานเก่า ซึ่งถามว่าได้อะไรจากตรงนั้นไหม ได้มากเลย แต่ก้อเพราะว่าความที่จะคิดขึ้นไปสอนดีระดับที่สูงกว่าแต่ว่าไม่ทันคิดว่าตัวเองไม่ได้เรียนต่อมาตรงสาย ทีนี้แหละก้อเลยหางานไม่ได้อีก คิดอีกหล่ะทำไงดี
อันดับแรกก้อเลยกลับมาตั้งต้นที่บ้าน (เชียงใหม่) เพื่อคิดว่าจะทำอะไรก้อเลยลองสมัครงานไปเรื่อยๆ เนื่องจากจะเลือกงานแล้วยังเบื่อกับงาน ออฟฟิตอีกทั้งที่ตอนจบตรีมา จบบริหาร สุดท้ายก้อเลยลองสอบเอก ที่ มน. ก้อดันสอบติดอีก ในใจคิดว่า "จะเรียนรอดไหมว่าเอกเนี๊ยะมันยากน่ะโว้ย เอ่าลองดูก้อไม่เสียหาย" ได้เจออาจารย์ใหม่ เพื่อนใหม่ รุ่นพี่ เรียนยังไม่ถึงเดือนตัดสินใจไม่เรียนดีกว่า "ไม่ใช่อะไรน่ะคือ มันไม่ใช่อ่ะ" ก้อกลับมา ที่บ้านอีก เป็นอะไรที่ถอยหลังมา 1 ก้าวเพื่อคิดว่าชีวิตนี้จะไปไหน สุดท้ายทางเดินชีวิตก้อหันเหไปทำงานในมหาวิทยาลัยจนได้ แต่ไม่ได้เป็นอาจารย์อย่างที่คิด แต่ก้อ ok ลองดู มันก้อเกี่ยวข้องกับนักศึกษาเหมือนกัน เค้าก้อเรียกเรา อาจารย์ แต่ไม่ได้สอนเค้าเท่านั้น ทำไปเกือบปีมันก้อไม่ใช่อีก แต่ตอนที่ได้ไปทำงานก้อจะลองสอบเรียนค่อ ก้อเลยไปสอบที่พระจอมเกล้าดูก้อติด ทีนั้ดีใจมากเพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่อยากจะเข้าอยู่แล้ว ก้อเลยเรียนด้วย ทำงานด้วย แต่อย่างที่บอกน่ะ เหนื่อยมาก เลยขอทำเอกสารศึกษาต่อนอกเวลาราชการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือทาง ม. ไม่อนุมัติ เสียใจมาก ก้อเลยขโมยเรียน แต่สุดท้ายก้อรู้ว่าเราไม่ได้ชอบทางนี้เลย เราชอบการสอนมากว่า ก้อเลยตัดสินใจลาออก เพื่อมาเรียนโดยเฉพาะ ผลแห่งการตั้งใจทำให้เกรดเทอมแรกที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยออกมาไม่ค่อยเท่าไหร่นัก ก้อเลยคิดว่าเทอมที่สองต้องทำให้ดีกว่านี้ ก้อเป็นไปตามเช่นนั้น เกรดออกมาได้มากว่าที่คิดไว้ และเวลาที่รอคอยก้อตาม งานที่รอคอยมาเป็นระยะเวลา เกือบครึ่งปี การที่ ม.เอกชนที่มาเปิดศูนย์ใหม่ที่ ลำพูน ได้เรียกตัวสอบ สิ่งที่ได้ คือได้เป็นทั้ง อ.พิเศษ และ อ.ประจำ ก้อโอน่ะ และแล้วคนที่ทุกคนคิดว่าจะไม่ได้มาถึงขั้นนี้ คนที่ทุกคนดูถูกว่าจะเรียนไม่จบ ก้อกลับมาใช้คำนำหน้าที่พวกลูกศิษย์เรียกว่า อาจารย์ และก้อเป็นอาจารย์จนตอนนี้ลูกศิษย์มีลูก
ดวงชะตา ฟ้าลิขิต สิ่งที่เกียจที่สุดก้อคือสิ่งที่ทำให้เรามีทุกวันนี้จนคิดว่า ณ ตอนนี้คือสิ่งที่เราชอบที่สุด อยากบอกดอนว่า ณ ตอนนี้เราก้อติสต์แตกบางครั้งเหมือนกัน และเหลืออีกแค่เอื้อมมือเดียวเท่านั้นสิ่งที่เราใฝ่ฝันว่าจะได้มันมาก้อจะเป็นจริง กับคำว่า อ.ดร. ที่คนที่อายุแค่ 26 จะได้ใช้

สิ่งที่เราวางแผนไว้มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด แต่ถ้าฝันแล้วถ้าจะทำให้มันเป็นความจริงก้อต้องลงมือกระทำ ผลจะเป็นเช่นไรนั้นก้ออยู่ที่มือของเราและโชคชะตาจะนำไปน่ะจ๊ะ


โดย: แพร IP: 118.172.102.216 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:56:25 น.  

 
ผมคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากเป็นอาจารย์ แต่การที่เราไม่ค่อยรู้จักใครทำให้ความฝันมองไม่ค่อยเห็นทางเดินต่อเลย ใครมีข่าวไร ช่วยแนะนำบ้างน่ะครับ mak_sky@hotmail.com
อยู่ลำพูนครับ


โดย: mak IP: 118.174.109.128 วันที่: 14 กันยายน 2555 เวลา:10:44:13 น.  

 
Incredible points. Solid arguments. Keep up the good work.
mulberry outlet //www.tnsi.com/pinterests.aspx


โดย: mulberry outlet IP: 94.23.252.21 วันที่: 13 สิงหาคม 2557 เวลา:0:09:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.