deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
31 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 

เรื่องราว "ความรัก" ที่มาพร้อมกับเรื่องราวประเทศสารขันธ์




ไม่รู้ทำไมเหมือนกันอยู่ๆ ลุกขึ้นมาเขียนเรื่องความรักซะงั้น...แหม..เข้ากับเดือนแห่งความรักพอดิบพอดีซึ่งตัวเองก็ลืมไปว่าพรุ่งนี้ก็เป็นเดือนฤดูเทศกาลแห่งความรักแล้ว...ทันสมัยซะไม่มีเล๊ยคนเรา...555555....ทันสมัยแบบไม่รู้ตัวค่ะ...จากเรื่องราวที่เขียนผ่านมา...ความรักครั้งที่สองเป็นรักที่ดีของตนเองมากๆ ตลอดเวลาที่คบกันมาเกือบ 10 ปี ตนเองออกนอกลู่นอกทางความรักตลอด ไม่ค่อยเห็นค่าความรักครั้งนี้ จนเกิดเรื่องเกิดราวอีกครั้งกับความรักครั้งที่สาม ที่เป็นความรักที่ประทับใจ ทุกวันนี้ยังคิดถึงและนึกถึงตลอดแต่อย่างที่เคยบอกแค่คิดถึงนึกถึงแต่ไม่คิดหวนกลับ ทั้งที่คนๆ นั้นพยายามที่จะติดต่อพูดคุยตลอด...แต่ตัวเองเป็นคนเจ็บและจำให้โอกาสได้เพียงพูดคุยทุกข์สุขกันได้แต่ให้หวนกลับไปคบกันเหมือนเดิมคงไม่ได้...มันเหมือนหมดโอกาส หมดเวลาแล้วหมดเวลาเลย คือ เป็นคนเดินหน้าอย่างเดียวไม่มีถอยกลับ...สำหรับคนที่สองขณะที่เราเดินหน้าอย่างเดียวคนที่สองก็ตามเป็นเงาและยอมรับเราได้ทุกอย่างไม่ว่าเราจะเป็นจะทำอย่างไร ขอแค่เพียงให้มีเราอย่างนี้ตลอดไป (อะไรจะเวอร์ขนาดนั้น)

จนคนที่สี่..ที่ยอมรับเค้าเพราะความสงสารและรักเค้าเพราะเค้ารักเรายอมรับเราในตัวตนที่เราเป็นถึงไม่เข้าใจทั้งหมดแต่เค้าก็เป็นคนดีและเข้ากับคนในครอบครัวได้ แต่ตัวเราเองต่างหากที่ไม่ดีเอง ที่ต้องปล่อยให้เค้าไปเพื่อโอกาสที่ดีของเค้าเพื่อให้เค้าเจอสิ่งที่ดีๆ คนดีๆ ที่เหมาะสมกับเค้ามากกว่าเรา...ทุกวันนี้ยังคุยกันปกติแค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้นแต่ความรู้สึกเหมือนเดิม คือ รักและห่วงใย ถึงจะน้อยลงแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย...นอกจากเรื่องนี้แล้วเพราะคนที่สองที่ดีกับตัวเองเกินเหตุดีจนตัวเองเกรงใจและหยุดทุกอย่างตรงนี้ ไม่อยากทำอะไรให้คนๆ นี้โศกเศร้าเสียใจผิดหวังอีก..

หรืออาจอย่างที่มีคนเขียนจำแนกความรักไว้ในเวปที่นี่ว่า ความรักมีรักแท้และรักเทียม ซึ่งมีคนแบ่งเป็น 4 ชนิด คือ


1. รักใคร่ใฝ่กามา
มีกามารมณ์เป็นตัวนำ เห็นปุ๊บรักปั๊บ เกิดง่ายจบง่าย ไม่ยั่งยืน ไม่ผูกพัน ประเภทกะฟันแล้วทิ้ง เป็นความรักชนิดต่ำสุด มีความทุกข์มากกว่าความสุข และมักเป็นทุกข์อันทนทาน นานนับเดือนนับปีเพราะจะมีความทรงจำเรื่องราวเหล่านี้ที่ยากจะลืมเลยล่ะ


2. รักหวังวิวาห์มาคู่กัน
เป็นความรักและผูกพัน คือรักกันนานหน่อยจนเกิดความผูกพัน บางคนจนถึงขั้นอยากใช้ชีวิตร่วมกัน มีความรับผิดชอบ ความจริงใจให้กัน ในระยะแรก หรือที่เรียกว่าระยะสร้างภาพ แต่ก็ยังมีเรื่องเซ็กส์กามารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง คือเป็นรักหวังครอบครอง อยากเป็นเจ้าของ บางคนอาจพัฒนาเป็นรักจริงหวังแต่ง รักแบบนี้มีความหึงหวงเข้ามาป่ะปน ยิ่งรักมากหวงมาก จนเกิดเป็นภาวะกดดันความรู้สึกที่รู้สึกเหมือนถูกตีกรอบ จนไร้ความอิสระ ทางร่างกายและจิตใจถ้าวันหนึ่งเกิดรักไม่สมหวังอุณหภูมิความหึงหวงพุ่งปริ๊ดอาจกลายเป็นการทำลายกันจนถึงกลายเป็นรักต้องฆ่าได้ (น่ากลัวจริง)


3. รักปันแบ่งความสุข
เป็นความรัก แบบปรารถนาดี ไม่มีเรื่องเซ็กส์เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือมีก็ น้อยมาก องค์ประกอบ ของความรักแบบนี้ คือ อะไรก็ตามที่ทำแล้วอีกฝ่ายมี ความสุข ก็จะทำสิ่งนั้น สม่ำเสมอ อะไรก็ตามที่ทำแล้วอีกฝ่ายมี ความทุกข์ก็จะหลีกเลี่ยง หากอีกฝ่ายทำให้เราเป็นทุกข์ เสียใจ เจ็บปวดก็จะให้อภัยเสมอ ซึ่งเป็นการให้อภัยที่เกิดขึ้นจากรักที่แท้จริงจนเกิดความเมตตาและสงสารด้วยใจจริง ไม่ว่าคนรักจะเป็นอย่างไรทำอย่างไรก็ยังคงรักไม่เปลี่ยนแปลง แบบเพลงรักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนั่นล่ะ..55555..พวกนี้หากเห็นคนรักมีความสุข ก็สุขด้วย จะไร้ความอิจฉาริษยา จะคอยช่วยเหลือปัดเป่าทุกข์ แบ่งสุขด้วยจิตที่เปี่ยมไปด้วยความรักที่แท้จริง


4. รักยอมทุกข์เพื่อสุขเธอ
เป็นรักอย่างอุทิศ รักด้วย ความเสียสละ เพื่อให้คนที่รักได้สมหวัง และมีความสุข โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน แม้บางครั้งการทำอะไรให้คนที่รักมีความสุขอาจทำให้ตัวเองต้องเกิดความทุกข์ใจ หรือเจ็บปวด เดือดร้อนบ้าง แต่เพื่อคนรักยอมได้ทุกอย่างอะไรแบบนี้...


ความรักของตัวเองเป็นรักชนิดที่ 3 และ 4 เป็นรักที่เค้าไม่เคยคาดหวังอะไรในตัวเรารักและเสียสละ อดทนทุกอย่างไม่ว่าจะแสดงฤทธิ์เดช อย่างไร เมื่อเรามีทุกข์เค้าจะลุกขึ้นมาปัดเป่าทุกข์ให้ เมื่อเรามีความสุขเค้าดีใจกับความสุขสำเร็จสมหวังของเราโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน นอกจากแค่ได้รักคนอย่างเรา...พอแล้วที่เขียนมาไม่ได้ต้องการให้คนที่อ่านแอบอิจฉา หรือหมั่นไส้เพียงแค่อยากบอกว่าทำไมถึงหวนกลับไปรักคนที่สอง เพราะไม่เคยมีใครรักเราได้เท่าเค้าอีกแล้ว...และแค่อยากบอกว่า "จงรักคนที่เค้ารักเราดีกว่าไปรักคนที่เรารักเค้าแต่เค้ารักเราน้อยกว่าที่เรารักเค้า" หาคนแบบนี้ให้ได้เหอะค่ะ


อันนี้เป็นข้อคิดสำหรับนักสะสมหัวใจ หรือคนที่ไม่เคยรักใครจริง หรือยังคิดว่ายังไม่ค้นพบรักที่แท้จริง อาจดูความรัก 4 ชนิดเป็นตัวอย่าง มีคนเคยบอกว่า คนที่ไม่เคยรักใครจริงนั้นปลายทางของความรักมักเจอกับความว่างเปล่าเสมอ นั่นเพราะหัวใจที่ขาดความรักที่แท้จริง...แต่ถ้าหากวันใดเกิดความรู้สึกว่าค้นพบรักที่แท้จริงวันนั้นอาจเป็นวันที่สายไปแล้วสำหรับนักสะสมหัวใจ เพราะทุกคนจะพากันหันหลังให้เพราะทุกคนคิดว่าคนๆ นี้ไม่มีหัวใจ คงแค่ล้อเล่นกันมากๆกว่า หรือที่เรียกว่า รักแค่ขำๆ แต่สำหรับคนที่ผิดหวังกับความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็จงร้องไห้ให้เต็มที่กับความรักที่หลอกลวงแต่จงดีใจที่ความรักแบบนี้ได้เดินจากเราไปเสียที ถ้าอยากร้องไห้จงร้องไห้ให้พอ ร้องแล้วปล่อยวางไม่ว่าความรัก ความโกรธ ความเกลียดที่มีต่อกัน ให้คิดถึงสิ่งดีๆ ที่เคยมีกัน ที่คิดสิ่งดีๆ ไม่ใช่เพื่อให้คิดถึงเค้าหรือหวนกลับเพราะยิ่งทำให้เศร้าเสียใจมากยิ่งขึ้น ให้คิดถึงสิ่งดีๆ เพื่อจะได้ไม่เจ็บ ไม่โกรธแค้นหรือเกลียดกันเพราะอย่างน้อยก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ด้วยคบกันมานานพอรู้ใจกันแล้ว ไม่ต้องไปทำอะไรรอให้ธรรมชาติและวันเวลาลงโทษเค้าเองเพราะโลกนี้มีความยุติธรรมเสมอ ธรรมชาติไม่เคยปล่อยให้คน ที่ใช้ชีวิตอย่างผู้แจกจ่ายความทุกข์ เดินลอยนวลอยู่ได้อย่างเป็นสุขเมื่อผลบุญดีๆ หมดลงเขาจะต้องเดินไปตามรอยกรรมที่ได้ทำไว้ เพราะปลายทาง...ของคนที่ไม่รักใครจริง รักแต่ตัวเองมักต้องอยู่กับความว่างเปล่าเหงาเดียวดาย หรือไม่ก็ต้องอยู่กับคนที่ไม่ได้รักกัน แล้วเลือกความรักตัวเองให้เป็นแบบไหนกันเหรอคะ....




ณ ประเทศสารขันธ์ (อีกนั่นแหละ)

เรื่องราวของผู้บัญชการทหารวาสลีน ที่ถูกลูกน้องซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพี่รุ่นน้องจากสถาบันเดียวกันกล้าด่าและขู่อย่างไม่เกรงกลัว จนเดือดร้อนทหารในสังกัดที่รักนายแบบไม่ลืมหูลืมตาเพราะถูกปลุกให้มาเย๊วๆๆ แบบสลึมสลือไม่รู้ตัวและได้ละเมอพูดบอกรักนายว๊อยๆๆ นายดีหรือไม่ดีก็รักนาย...ว่าแล้วก็ควักธงขึ้นมาโบกให้กำลังใจทั้งหมดมีแค่เพียง 1 หยิบมือ จึงทำให้มีคนสงสัยว่า...ลูกน้องคนที่ว่าคงจะกุมความลับอะไรบางอย่างที่ ผู้บัญชาการทหารวาสลีนไม่ต้องการให้ใครรู้ อย่างเรื่องข้อกล่าวหาจากที่นายชอบยึด นามสกุลสนามบินได้ป่าวร้องว่า โกงรถเกาะอำมาตย์..เอ๊ย..รถเกราะ...เรื่องรับเงินนายพันทักษิโดส่งลูกไปเรียนเมืองนอก..ทำให้ประเทศสารขันธ์ต้องเสียดินแดนที่สูงส่วนหนึ่งให้กับประเทศเพื่อนบ้านไป..ซึ่งเรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยและด่าโดยนายชอบยึด สนามบิน (เพราะเกิดมาเพื่อยึดโน่นยึดนี่มาเป็นของตัวเอง ตอนเกิดก็ยึดพ่อยึดแม่คนที่อยากเกิด แย่งเค้ามาเกิดยังไม่พอ พอโตขึ้นก็ชอบยึดสถานที่สำคัญ เช่น ที่ทำการรัฐบาลสารขันธ์ หรือสนามบินของประเทศ...เกี่ยวกับเรื่องนี้เกิดจากลูกน้องที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่น แต่ผู้บัญชาการทหารวาสลีนปฏิเสธว่าไม่เคยรู้จักสนิทสนมด้วยสักหน่อย แค่เคยเรียนด้วยกันจากสถาบันแห่งหนึ่งในระยะเวลาสั้นๆ แล้วมาเจอกันอีกในสถาบันที่ทำให้ได้เป็นผู้บัญชาการเท่านั้นเอง

เกิดจากลูกน้องคนนี้ได้ออกมาด่าคนประจบสอพลอรอบข้าง..เอ๊ย..คนสนิท (สิ) รอบข้างผู้บัญชาการทหารวาสลีน..ว่า...ทำไมไม่ปกป้องเจ้านายตัวเองยอมให้เจ๊ก..เอ๊ย...นายชอบยึด สนามบิน เป็นใครที่ไหนมาด่าว่าเจ้านายปาวๆ อยู่ได้แบบนี้เลี้ยง(พวกประจบสอพลอ)ไปก็เสียข้าวสุก (คงคล้่ายๆ เลี้ยงหมาดีกว่าพวกนี้) มีผลทำให้คนสนิทรอบๆ ตัวผู้บัญชาการวาสลีนเสียว..เอ๊ย..โกรธ..เอาไปฟ้องผู้บัญชาการวาสลีน...แบบนางร้ายหนังไทย ที่กริ๊ดๆๆ ใส่หูว่าโดนลูกน้องผู้นี้ด่าแบบนี้ทนได้ยังไง..(ทีเจ๊กด่าไม่โกรธแฮะ) ลูกน้องผู้นี้จึงถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย และ ลูกน้องผู้นี้ยังได้พูดถึงระเบียบของทหารประเทศสารขันธ์ว่า...ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ผู้บัญชาการวาสลีนซึ่งเคยทำการปฏิวัติมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกใช้บ้านตัวเองและครั้งที่สองใช้บ้านคนอื่น (แบบว่าคราวแรกพวกที่ร่วมมือมาทำสกปรกไว้ที่บ้านผู้บัญชาการวาสลีน ทิ้งถุงยางบ้าง โกเต๊กบ้าง ทิชชูใช้แล้วบ้างเกลื่อนบ้าน ครั้งนี้เลยเข็ดไปจัดที่บ้านคนอื่นดีกว่า อีกอย่างสงสัยว่าจะออกค่าปลูกบ้านให้เลยใช้บ้านคนอื่นได้ง่ายๆ แบบนี้) ตั้งเป็นกองบัญชาการปราบม๊อบถูพื้น เพราะตอนนี้ม๊อบกระจัดกระจายทั่วประเทศสารขันธ์ สร้างความรำคาญใจให้กับเหล่าอำมาตย์แก่ๆ ที่กลัวม๊อบกระจาย และพวกม๊อบจะเอาม๊อบถูพื้นมาโขกหัว เพราะหงอกจนป่านนี้แล้วยังโลภ ยังไม่รู้จักหัดเข้าวัดเข้าวา ปล่อยวางบ้าง และในสองครั้งที่ใช้บ้านเป็นรังบัญชาการ..เอ๊ย..เป็นกองบัญชาการทำให้มีลูกน้องตายเพราะแอบฟังแอบเห็นพฤติกรรมบางอย่างๆ ไม่ได้ตั้งใจ จึงคิดแผนลองเชิงลูกน้องเรียกว่า "แผนผ่านก็อยู่รอด" ด้วยการเอาสบู่วางตรงประตูห้องน้ำให้ลูกน้องที่ตายเหยียบลื่น เพื่อฝึกยุทธวิธีสเก็ตช่วยนาย ถ้าสเก็ตผ่านก็รอด เผอิญลูกน้องคนนี้ยังไม่เคยผ่านการฝึกลมปรานเดินผ่านสบู่ ก็เลยต้องตายด้วยความประมาทเพราะเชื่อใจนายตัวเองโดยปริยาย)....555555...จากเรื่องนี้มีคนตั้งข้อสงสัยอีกว่าทหารที่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแบบนี้ผิดหรือไม่...ถ้าไม่ผิดเพราะอะไรล่ะ...เพราะชื่อหรือเปล่า "วาสลีน" ...

นอกจากนี้ยังมีนายทหารรุ่นเก่าออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ตนไม่เข้าใจว่าทำไมนายทหารที่สลึมสลือออกมาเย๊วๆๆ ว่ารักนายๆทำไมถึงเพิ่งออกมา ทำไมไม่ออกมาตั้งแต่พรรคพวกนายชอบยึด สนามบิน ที่เป็นทหารคนหนึ่งในกองทัพประเทศสารขันธ์ที่ขึ้นเวทีแล้วออกมาด่าผู้บัญชาการวาสลีนพร้อมกับนายชอบยึด สนามบินซึ่งเป็นแค่พลเรือนที่ไม่ได้เกิดในประเทศสารขันธ์เป็นแค่เพียงเจ๊กอพยพมา ทำไมทีอย่างนี้ไม่ออกมาปกป้องนายบ้าง การออกมาแบบนี้เป็นการสร้าง 2 มาตรฐานใช่หรือไม่และมีแต่ทำให้กองทัพแตกแยกมากยิ่งขึ้น ว่าคนอื่นไม่อยู่ในระเบียบวินัยแล้วที่ไปปลุกให้เค้าตื่นมาเย๊วๆๆ นี่ไม่ผิดวินัยหรือ...ตนเลยสงสัยว่าอิเหนาจะมาเกิด คือ ว่าแต่เค้าอิเหนาเป็นเองอะไรแบบนี้"

ในเวลาเดียวกันลูกน้องผู้นี้ได้เตือนไปยังคณะศาลเพียงตา ป.ป.ช (ย่อมาจากปดประชาชน) และ คตส. (ย่อมาจาก ควาย เต่า สุนัข) เกี่ยวกับเรื่องยึดทรัพย์นายพันทักษิโด ให้ระวังตัวจะมีคนลอบฆ่าโดยพวกไม่หวังดีพวกยุแยงตะแคงรั่ว พวกที่ไม่หวังดีกับคนอื่นจะทำให้เข้าใจผิดกัน หรือเรียกพวกนี้ว่าพวก "หมาลอบกัด"

จากกรณีข้างต้น..นายแสนทุเรศ เทือกเขา ซึ่งทำหน้าที่เป็นรองนายกประเทศสารขันธ์และอยู่เบื้องหลังเรื่องราวร้ายๆ หลายๆ เรื่อง ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ...ลูกน้อง ที่มาแสดงความคิดเห็นคนนั้น ไม่ใช่ผู้วิเศษ จะมารู้ดีเรื่องที่ตนกำลังจะทำ...เอ๊ย..เรื่องที่มีบางคนกำลังจะทำได้อย่างไร ใครบังอาจเขียนบทให้ (เพราะบททั้งหมดอยู่ที่ตนหมดแล้ว...55555....)...และคิดว่าลูกน้องคนนี้เป็นอันตราย (ต่อข้าพเจ้าและพรรคพวก)ยิ่งขนาดยัดเยียดข้อหาซ่อนอาวุธ โดยไปตรวจค้นบ้านตอนมันไม่อยู่ (จะได้เอาอาวุธไปซุกได้ง่ายๆ ไม่งั้นมันรู้ทัน) ดู๊ดูมันเสือกรอดได้ไง" ว่าแล้วนายแสนทุเรศ ก็แสดงอาการหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจด้วยการเกาก้น 1 ที พร้อมปล่อยตดไป 1 ครั้งเพื่อระบายลมเสียให้ทุกคนที่สัมภาษณ์ได้ดมเพื่อคลายความหงุดหงิดในใจ...

เมื่อนายกแห่งประเทศสารขันธ์ได้เห็นรองนายกออกข่าวได้เกิดความอิจฉา (อิจฉาอีกแล้วนายกคนนี้ทำไมขี้อิจฉานักวุ๊ย..)ก็เลยให้สัมภาษณ์เกทับบ้าง (ระยะหลังไม่ค่อยกินเส้นกันกับรองนายก ความคิดเห็นไม่ค่อยลงรอยกันเพราะนายกหันไปเชื่อ คน 2 หงอกมากกว่า) ว่า "ตอนนี้ ต่างประเทศและนอกโลกไม่มีใครสนใจประเทศสารขันธ์ ตั้งแต่ตนเป็นนายก" (ฮิ ฮิ..เค้าเมินหน้ากันหมด จนต้องเดินทางตระเวณไปโน่นไปนี้่ให้เปลืองงบเล่นไปประเทศโน้นประเทศนี้ อ้างไปเพื่อทำให้ประเทศดีขึ้น ความจริงเปล่าอยากเดินทางไปเพื่อให้ดูว่างานล้นมือสลับกับการขึ้นโพเดี้ยมยกยอปอปั้นพรรคพวกตัวเองและการทำงานของรัฐบาลตัวเองไปวันๆ เท่านั้น นายกประเทศสารขันธ์กล่าวต่อไปว่า "ผู้นำประเทศอื่นๆ ไม่ได้แสดงความเป็นห่วง หรือถามถึงการเมืองในประเทศสารขันธ์ จะมีเพียงสื่อมวลชนต่างประเทศที่ให้ความสนใจเกี่ยวกับต้มยำ ผัดสารขันธ์ ที่ลือดังไปไกลว่าอร่อย ถ้าจะสนใจก็คงสนใจผลกระทบเกี่ยวกับการเมืองนิดหน่อย แค่ถามข่าวคราวการปฏิวัติ รัฐประหาร อะไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งตนได้โกหกให้ประเทศต่างเข้าใจว่าไม่มีอะไร ตนสามารถปกครองให้ทุกคนสงบจิตสงบใจ ไม่มีม๊อบ ไม่มีอะไรทั้งนั้นประชาชนประเทศสารขันธ์ก็อยู่กันดีมีกินมีใช้ มีฐานะดีกันทุกคน ประชาชนใส่ทองกันคนละบาทสองบาท แม้แต่ขอทานยังใส่ทองตั้งสิบบาทเป็นการอวดว่าประเทศพัฒนาและดีขึ้นตั้งแต่ตนเองเข้ารับตำแหน่งนายกประเทศสารขันธ์" พูดจบผู้สื่อข่าวเห็นกระเดือกนายกกระดิกเสียงดังเอื๊อกๆ พร้อมถอนหายใจ และพูดต่อไปว่า "เกี่ยวกับคำถามเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศสารขันธ์นั้น ปัญหาความขัดแย้งไม่มี๊ ไม่มีเพราะตนเองยังคงรักษาสองมาตรฐานอย่างเหนียวแน่น ยึดจนตัวเองตายไปข้างนั่นล่ะ เพราะรัฐบาลของตนได้บริหารจัดการไม่ให้เกิดความขัดแย้งกระทบกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจด้วยการมีข่าวกรองจากคนประจบสอพลอรอบข้าง จากผู้ใหญ่หลายคนซึ่งในจำนวนนั้น มี 2 หงอก คือ หงอกหมาแหงน กับหงอกไม่ได้ใช้การเป็นผู้ชี้นำทางตลอด ด้วยตนเป็นนายกแค่ในนามส่วนการบริหารจัดการมีคนเขียนแปะบทไว้ให้ตามห้องน้ำทั่วไป ตอนนี้ตนเหนื่อยมากที่ต้องตระเวณไปห้องน้ำโน้นทีนี้ทีไม่รู้ว่าผู้เฒ่าหงอกทั้งหลายจะไปแปะไว้ที่ไหน ขอให้ประชาชนประเทศสารขันธ์เห็นใจในการทำงานที่ต้องขึ้นอยู่กับสองผู้เฒ่าด้วยเถิด" ว่าแล้วทำตาปริบๆ ที่คิดว่าหล่อที่สุดใส่นักข่าวทั้งสาวไม่สาว แต๋วไม่แต๋ว ส่งหมดจนได้เวลาต้องไปพักรักษาตัวเนื่องจากทำตาปริบๆ เกินเหตุ การสัมภาษณ์ข่าวในครั้งนี้เลยต้องจบโดยปริยาย...

ใครอยากอ่านต่อยกมือขึ้นค่ะ...แหะๆๆ...คนเขียนเค้าต้องการกำลังใจ ต้องการรู้เรทติ้งการอ่านว่าอยู่ในความสนใจของคนอ่านหรือไม่ เพราะต้องใช้พลังในการเขียนมากๆ เพราะเป็นเรื่องราวของคนปัญญาอ่อนมาทำงานให้ประเทศสารขันธ์ อย่าลืมช่วยยกมือหรือออกความเห็นเรื่องนี้ด้วยน๊าา....5555555....














เพลง ความหมาย..ปลายทาง
ว่าน AF5


ผ่านเวลามากี่นาน เก็บอาการเวลาปวดใจ
กี่ครั้งที่ไม่มีใคร บ่อยครั้งที่คิดถึงเธอ
จากกันไปไม่คืนกลับมา หมดเวลาเธอคงหมดใจ
หมดแล้วในความห่วงใย ไม่เหลืออะไรจากนี้

คำว่ารัก เก็บไว้ไม่เคยบอกไป ว่ารักเธอ
ไม่มีใจ เผื่อไว้ให้ใครจากเธอ เพียงแค่เท่านั้น..

ในวันนี้ที่ต้องไกลเธอ อยากให้รู้ว่าไม่มีใคร
ได้ยินเสียงของฉันอยู่ไหม ได้ยินไหมว่าคิดถึงเธอ
คำว่ารักที่พูดออกไป อาจจะไกลเกินไป ไม่รู้ถึงเธอ
อาจเป็นคำที่พูดจากใจ แต่เป็นลมไม่มีความหมาย..ปลายทาง

อาจเป็นลมเบาๆผ่านเธอ ไม่มีแรงบันดาลจิตใจ
ไม่รู้ว่าพูดอะไร ไม่รู้ว่าใครยังรอ
อาจเป็นเสียงไม่มีความหมาย อาจมีใครที่ใกล้กว่านี้
อาจพบเจอวันที่ดี อาจพร้อมจะลืมความหลัง

คำว่ารัก เก็บไว้ไม่เคยบอกไป ว่ารักเธอ
ไม่มีใจ เผื่อไว้ให้ใครจากเธอ เพียงแค่เท่านั้น..

ในวันนี้ที่ต้องไกลเธอ อยากให้รู้ว่าไม่มีใคร
ได้ยินเสียงของฉันอยู่ไหม ได้ยินไหมว่าคิดถึงเธอ
คำว่ารักที่พูดออกไป อาจจะไกลเกินไปไม่รู้ถึงเธอ
อาจเป็นคำที่พูดจากใจ แต่เป็นลมไม่มีความหมาย..ปลายทาง

บอกกับเธอว่ารักหมดใจ แต่มันคงไม่มีความหมาย..ปลายทาง







 

Create Date : 31 มกราคม 2553
14 comments
Last Update : 31 มกราคม 2553 17:25:41 น.
Counter : 595 Pageviews.

 



สวัสดีจ้า..คุณภัทร

อ่านแล้วสรุปว่า
ขำ แต่ เจ็บ..
น่าเบื่อมาก ขวัญใจแม่ยกของเมืองสารขันธ์แลนด์ เจ้าของสโลแกนด์ "99 วัน กู้ทันที-หนี้ทั่วไทย"...
...

 

โดย: I_sabai 31 มกราคม 2553 18:04:16 น.  

 

เอาอีก! เอาอีก! เอาอีก! แม่ยกมาเองค่ะ มาเชียร์ให้เขียนไปเรื่อยๆจนกว่าคนพวกนี้จะหายตัวไปจากสารขันธ์ของเราค่ะ ฮิฮิ

 

โดย: ดอยสะเก็ด 31 มกราคม 2553 18:12:03 น.  

 

อ่านแล้วมีความรู้สึกว่า..
ความรักของคุณภัทรกะลังสุกงอม อ่ะป่าวน๊า อิอิ

ชูจั๊กแร้ด้วยค่ะ
แสบ ๆ คัน ๆ

จากบล๊อก..เปนความรู้ใหม่ค่ะ ขอบคุณนะคะ จะลองชิมดู



 

โดย: อิ่ม_Aim 31 มกราคม 2553 19:01:10 น.  

 

บทความดี...เพลงเพราะครับ

 

โดย: **mp5** 31 มกราคม 2553 20:09:18 น.  

 


พรุ่งนี้ก็จะ up blog เดือนแห่งความรักเหมือนกัน
งั้นวันนี้ส่งแต่ความรักล่วงหน้ามาก่อน



 

โดย: เริงฤดีนะ 31 มกราคม 2553 23:17:52 น.  

 

อรุณสวัสดีคร่าน้องสาวที่น่ารัก..และสวัสดีวันแรกของเดือนแห่งความรัก....แวะมาฟังเพลงโดนๆๆ แล้วพี่แตนจะกลับมาอ่านเรื่องราวตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: phaclam 1 กุมภาพันธ์ 2553 6:34:32 น.  

 

 

โดย: เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง 1 กุมภาพันธ์ 2553 7:15:04 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักกันวันจันทร์จ้า อ่านแล้วค่ะคุณภัทร
ขออภัยมากมาย ไม่ได้มาทักกันเสียหลายวัน

 

โดย: หอมกร 1 กุมภาพันธ์ 2553 10:42:32 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ

 

โดย: ชิโยจัง 1 กุมภาพันธ์ 2553 12:01:40 น.  

 

มาชวนคนที่มีความรัก ความแค้น(รัดถะบานหน้าทน)สุมใจ

ไปตามติดชีวิตผู้ชายขายขนมกันต่อจ้ะ

 

โดย: นักล่าน้ำตก 1 กุมภาพันธ์ 2553 12:18:44 น.  

 

ก๊อกๆ

 

โดย: ต้นอ้อท้าลม 1 กุมภาพันธ์ 2553 18:47:25 น.  

 

เฮ้อ สำเร็จอีกบ้าน กว่าจะเม้นได้แต่ละบ้าน บ้านละไม่ต่ำกว่าสี่รอบ อ๊ากกกกก

เริ่มต้นด้วย รัก อินเลิฟ จนน้องน้อยตาใส หัวใจอิ่มเอมไปด้วยสายใยรักของคุณพี่ และรักคุณพี่ตามไปด้วย(รักแบบไม่มีเหตุผล ฮิ้วว)...

แต่


กร๊ากกกกก

ฮ่าๆ ... อิผู้บัญชาการวาสลีนเนี่ย ต้นอ้อเรียกอีกชื่อว่า อำหมาด วาสลีน อ่านไปขำไป เวทนา สมเพช ในสุนัขหมู่พวกนี้ จะอาไร๊ นี่ก็ใกล้วันพี่น้องเค้ารวมตัวกันแล้ว นี่คงดิ้นกันพราดๆ หาเรื่องปิดสนามหลวง ว่าจะปรับปรุงอะไรห่าเหวนั่น อุ้ย หยาบคาย

ที่ใหนได้ ก็หาเรื่องแกล้ง ไม่ให้พี่น้องเค้าเข้าไปรวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรม เชอะ กลัวที่หนาย

เอาอีกๆ ต่อไปหลายๆภาค อ่านแล้วมันส์ปาก เอ้ย มันส์ในอารมณ์ นี่น้องก็นั่งดู พีเพิ้ลชาแนล ทั้งวัน หนัง ละคร ไม่ได้ดู มาอ่านนิยายพี่สาวเอานี่แหละ อิอิอิ

คิดถึงนะคร๊าบบบ จ๊วบบบบ

 

โดย: ต้นอ้อท้าลม 1 กุมภาพันธ์ 2553 18:48:51 น.  

 

ปล. น้องก็เป็นประเภท รักในแบบข้อ 3-4 นะคะพี่สาว แอร๊ยยย อ่อนใหว คิดเหมือนกัน ในเรื่อง รักคนที่เขา รักเราดีที่สุด... อันนี้ ป๊อก ไม่ได้บอกค่า กร๊ากกกก

 

โดย: ต้นอ้อท้าลม 1 กุมภาพันธ์ 2553 18:51:28 น.  

 

 

โดย: ญามี่ 2 กุมภาพันธ์ 2553 0:07:45 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.