ซังคนตอแหล
ชาญชัย จัตุรงค์
เพลงคนตอแหล
แบล๊คเฮด
วันนี้ขอเปลี่ยนเพลงสักวัน...สำหรับเพลงโปรดช่วยกันดูแลคนดีจะเปิดในครั้งต่อไปเหมือนเดิมค่ะ...ไม่รู้ทำไมวันนี้อยากเปิดเพลงคนตอแหล กับซังคนตอแหลซึ่งเป็นเวอร์ชั่นจากที่ราบสูง เอาเป็นว่าแล้วแต่เลือกฟังก็แล้วกันนะคะ แปลกทั้ง 2 เพลงค่ะโดยเฉพาะคำว่า "ตอแหล" ได้ใจจริงเล๊ยยยย...
ทุกวันนี้...ประชาชนเริ่มตื่นตัว...และเสาะแสวงหาสังคมที่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่มาจากเสียงส่วนใหญ่และพยายามแสวงหาทางเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาสู่สังคมและตนเองด้วยความเท่าเทียมและเสมอภาค ไม่ชอบการเลือกปฏิบัติ การแบ่งพรรคแบ่งพวกเอาแต่พวกตนเอง การเรียกร้องจึงเกิดเพราะสังคมขาดความยุติธรรมเกิดความเหลื่อมล้ำ อย่างกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ. สมเพียร วีรบุรุษแห่งเทือกเขาบูโด เป็นนายตำรวจที่ทำงานด้วยความเสียสละและกล้าหาญในพื้นที่ภาคใต้มาตลอดกว่า 40 ปี ซึ่งประจานความล้มเหลวและระบบการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ไร้หิริโอตัปปะของผู้บริหารระดับสูง ไร้พรหมวิหารสี่ รวมทั้งผู้มีอำนาจที่แทรกแซงการโยกย้ายแต่งตั้งก็ต้องรับอนิสงค์ครั้งนี้ด้วย ได้ทิ้งคำพูดสุดท้ายว่า "ผมทำงานในภาคใต้มายาวนาน เคยปะทะผู้ร้ายเกือบ 100 ครั้ง บาดเจ็บ 8-9 ครั้ง วิสามัญผู้ร้าย 22 คน คิดว่าผลงานขนาดนี้ เมื่อถึงเวลาจะได้อะไรตอบแทน แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย ที่ใครหลายคนบอกว่าแย่ที่สุดในชีวิต เนื่องจากมีการข้ามอาวุโส และเล่นพรรคเล่นพวกจำนวนมาก" เมื่อหนังสือร้องเรียนของพ.ต.อ.สมเพียรมีค่าเป็นแค่เพียงเศษกระดาษแผ่นหนึ่ง การปูนบำเหน็จให้กับ พ.ต.อ.สมเพียร หรือการแสดงความเสียใจของนายกไม่ใช่คำตอบว่า สังคมนี้ได้รับความเป็นธรรมและชอบธรรมคืนมา คำว่า"เสียใจ" การขึ้นเงินเดือน 7 ขั้น ยศ พล.ต.อ. และเงินก้อนจำนวนหนึ่งให้แก่ครอบครัว เป็นสิ่งที่ตอบแทนให้ท่านคุ่มค่าแล้วหรือในเมื่อท่านไม่มีโอกาสรับรู้และได้สัมผัสอีกเลยและวันนี้ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของด.ต.โสภณ อินทรบวร ที่ต้องสูญเสียผู้นำของครอบครัว ท่านเป็นผู้กล้าและเสียสละให้แก่ประเทศชาติเราอีกคนขอให้ท่านไปสู่สุขคติภพด้วยค่ะ..นี่ไม่ใช่เพราะ...การเลือกปฏิบัติ...การแบ่งพรรคแบ่งพวกเอาแต่พวกตนเอง...ความยุติธรรมไม่มี...หรือเพราะเกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม อย่างที่กล่าวมาแล้วหรือไม่ และจากเหตุการณ์นี้ใครก็ตามที่รับผิดชอบและเกี่ยวข้องได้โปรดอย่าฉวยโอกาสบนวิกฤติในภาคใต้ ตั้งงบความมั่นคง งบฟื้นฟู งบปฏิบัติการลับ และซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อเข้ากระเป๋าตัวเองและพรรคพวก และหลอกประชาชนตาดำๆ ว่าเอาใจใส่กับปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกล่ะ....คงไม่เหมือนกับปลากระป๋อง กับนมเน่าๆ เหมือนข่าวที่ผ่านมาซึ่งเงียบสงบไปเหมือนคลื่นซัดสาดฝั่งแล้วเงียบหาย ใครลืม แต่ จขบ. ไม่ลืมค่ะ...จะจดจำไว้ในดวงจิตถึงการทำงานของ รบ. นี้...
ว่าแต่ว่าทุกครั้งที่มีการชุมนุมเกิดขึ้น การชุมนุมก็มีส่วนดีเกิดขึ้นเหมือนกันนะ...อย่างการชุมนุมประท้วงคราวนี้ ทำให้ตำรวจที่มาคุมผู้ชุมนุมได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 400 บาท รัฐบาลเกณฑ์ตำรวจมา 20,000 นายคิดดูเอาเองก็แล้วกันว่าทำให้เกิดรายได้เท่าไร...ถ้าหากการชุมนุมยืดเยื้อ ก็ยิ่งเพิ่มรายได้ให้กับตำรวจเป็นทวีคูณ แบบนี้ตำรวจที่มีรายได้จากการเฝ้าม๊อบน่าจะสำนึกในบุญคุณที่ม๊อบทำให้ตำรวจที่มาดูแลการชุมนุมเกิดรายได้นะคะ..555555....
ได้อ่านที่นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ออกมาพูดปาวๆ และกล่าวว่า...คาดว่าสาเหตุที่แกนนำต้องการจบเกมเร็วเนื่องมาจาก
(1.)ถ้าการชุมนุมยืดเยื้อ ผู้ร่วมชุมนุมก็จะหนีและลดน้อยถอยลง ทำให้ขาดพลังในการต่อรอง เพราะขณะนี้มีมวลชนเสื้อแดงส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย กับวิธีการใช้ความรุนแรง และเดิมชุมนุมในลักษณะป่วนเมือง ทำให้ภาพลักษณ์ของคนเสื้อแดงไม่ดี ที่สำคัญ คือ ค่าจ้างรายวันที่ได้มา ได้มาแค่ 3 วัน ซึ่งหมดระยะเวลาจ้างทำงานแล้ว และแกนนำแต่ละสายจึงเดินทางกลับ
(2.)ท่อน้ำเลี้ยงจากนายใหญ่เกิดสะดุดและไหลไม่ต่อเนื่อง โดยจ่ายก้อนใหญ่มาแล้วและมีการอมหักค่าหัวคิว ทำให้นายใหญ่ไม่พอใจเพราะมีการเสนอตัวเลขว่าจะระดมคน 1 ล้านคนแต่มาจริงไม่เกินแสนคน เมื่อเที่ยบกับอัตราส่วนแล้วแค่ 10 เปอร์เซนต์ของที่กล่าวอ้างทำให้นายใหญ่อารมณ์เสียและโทรศัพท์มาด่าแกนนำ โดยขู่จะตัดท่อน้ำเลี้ยงก๊อกสอง ทำให้แกนนำต้องเล่นเกมเร็วเพื่อขอนเลี้ยงก๊อกสอง
(3.)เกิดความขัดแย้งในแกนนำกันเองที่ต่างชิงความเป็นใหญ่ และขอกุมเงินเพื่อนจะจ่ายตามสายต่าง ๆ ทำให้เกิดการแบ่งก๊กแบ่งเหล่าเพื่อที่จะบริหารเงินในแต่ละสายเอง จึงเกิดการสับสนในแนวนโนบายของนายใหญ่ที่จะต่อสู้ เช่น มีการเสนอให้มีการลงสัตยาบรรณจากแกนนำบางคน แต่ก็ถูกปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่ใช่มติของที่ประชุมแกนนำนปช.ขณะที่บางกลุ่มเสนอให้กดดันรัฐบาลให้ยุบสภา หรือให้นายกฯลาออก ขณะที่บางกลุ่มเสนอความเห็นแบบโยนหินถามทาง เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ตอบสนองแนวคิดของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ที่ยืนยันแนวคิดนี้มาตลอด ทั้งหมดจึงเป็นความสับสนในหมู่แกนนำกันเองและสุดท้ายควบคุมการชุมนุมไม่ได้จึงง่ายต่อการสร้างสภานการณ์ใดๆขึ้น โดยบรรดาแกนนำที่แตกคอกันเอง แล้วป้ายสีมาให้รัฐบาล
และเมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 15 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำรัฐบาล
ได้แถลงข่าวที่กองพลทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นกองบัญชาการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ว่า ที่ผ่านมาได้มีการยื่นข้อเรียกร้องให้ยุบสภาภายใน24 ชั่วโมงคือก่อนเที่ยงวันนี้ และทราบว่าผุ้ชุมนุมได้ดินทางมาเพื่อรอฟังคำตอบ จึงได้เชิญหัวหน้าพรรคหรือผู้แทนของพรรคร่วมปรึกษาหารือ เพราะเป็นข้อเรียกร้องทางการเมือง โดยได้คุยกันและมีความเห็นพ้องต้องกันว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันก่อตั้งตามกระบวนการทาทางรัฐสภา ตามวิถีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาจากการเลือกตั้งของส.ส.ส่วนใหญ่ในสภา เช่นเดียว 2 รัฐบาลก่อนหน้านี้ ซึ่งรัฐบาลได้พูดตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งจะบริหารราชการแผ่นดินเพื่อนำบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมาหนึ่งปีกับสามเดือนเดินหน้าทำเช่นนั้น
"ข้อเรียกร้องของกลุ่มผุ้ชุมนุมที่บอกจะให้ยุบสภาก่อนเที่ยงเพื่อนำไปสู่การยุติการเคลื่อนไหว ทุกคนก็เห็นพ้องกันว่าเป็นสิ่งไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า ผมหรือรัฐบาลจะไม่รับฟังข้อคิดเห็นของประชาชนรวมทั้งผู้ชุมนุม เป้าหมายของเราไม่ได้เกี่ยวข้องการอยู่ในตำแหน่งหรือสภานะรัฐบาล เป้าหมายเราเหมือนพี่น้องทั่วประเทศ คืออยากเห็นประเทศเดินหน้าไปได้ ประคับประคองระบบความถูกต้อง เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
การปราศรัยของผู้ชุมนุมมีการหยิบยกประเด็นและมุมมองที่พาดพิงไปไกลมากกว่าตนและรัฐบาลด้วย ถ้าการเลือกตั้งเป็นประโยชน์กับประเทศ จะต้องเห็นพ้องในกติกาและเพื่อความสงบอย่างแท้จริง คงไม่สามารถมีคำตอบได้ก่อนเที่ยง นอกจากนี้ รัฐบาลต้องฟังเสียงประชาชนที่ไม่ได้มาชุมนุมด้วย
ในแง่การบริหารสถานการณ์ รัฐบาลเคารพสิทธิ์ประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหว โดยใช้กฎหมายพิเศษเพื่อให้บ้านเมืองเรียบร้อยและไม่มีความคิดริเริ่มในใช้ความรุนแรงหรือพูดถึงการสลายการชุมนุม
ไม่มีความพยายามสร้างเงื่อนไขขัดแย้งเพิ่ม แต่หากฟังการปราศรัยบนเวทีของผู้ชมุนุมตั้งแต่เย็นเมื่อวานต่อเนื่องถึงเช้าวันนี้ มีความน่าเป็นห่วงตรงมีการใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อให้เกิดความรู้สึกอารมณ์รุนแรง เช่น กรณีคลิปเสียงสั่งสลายการชุมนุมเมื่อเหตุการณ์เดือนเมษายน
ซึ่งมีการพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเป็นการตัดต่อ และเรื่องการรับราชการทหารของตน ซึ่งมีการดำเนินคดีอยู่ ตนยืนยันในข้อเท็จจริง พร้อมให้ศาลพิสูจน์
และอีกหลายเรื่องเพื่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ชุมนุมกับรัฐบาล >"กังวลที่มีแกนนำหรือบุคคลบางกลุ่มสร้างอารมณ์ขัดแย้งสูงอาจนำไปสู่การปะทะหรือยั่วยุให้เกิดการปะทะ เมื่อไม่เข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญหรือทำผิดกฎหมาย ก็ได้มีการซักซ้อมและยืนยันกับผู้ปฏิบัติการให้ทำหน้าที่บนพื้นฐานความอดทนอดกลั้นที่สุด รวมทั้งสื่อสารทำความเข้าใจและให้การปฏิบัติงานทุกอย่างอยู่บนรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้พี่น้องเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจนไม่มีการกระทำแอบซ่อน"
ย้ำอีกครั้งรัฐบาลนี้ไม่มีประโยชน์เลยที่จะทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย มีแต่จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินยากขึ้น ขอให้ประชาชนสบายใจว่าความรุนแรงจะไม่มีวันเกิดจากภาครัฐ ซึ่งทำตามกฎหมายเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย
หลังจากนี้จะพารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจการจราจรรอบกรุงเทพฯ หลังกลุ่มเสื้อแดงเคลื่อนขบวนมายังกองพลทหารรอบที่ 11..ขอบันทึกไว้ค่ะ...5555555...
วันนี้เอาผลไม้สีแดงมาฝาก...แบบถูกแพงขอแดงไว้ก่อน...555555....
สำหรับเรื่องการเมือง .. อ่านไปก็ไม่รู้ว่าอะไรเรืองจริง
อะไรเรื่องเท็จ ได้แต่ฟังแล้วก็ฟัง ... ยอมรับว่า
ตอนนี้เจอใครพูดเท็จแล้ว "ซัง"จิตจริงๆ ค่ะ
ขอบคุณนะค่ะสำหรับกำลังใจที่ส่งให้กันตลอดเวลา
ตอนนี้ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไร เรายอมรับเลยค่ะว่ามันหนักหนา
แต่ว่าสุดท้ายก็มีแต่ตัวเองเท่านั้นล่ะค่ะที่จะช่วย
ตัวเองได้ดี ... ยอมรับกับความจริง สู้ยืดหน้าเผชิญมันไป
ดีกว่าการยื้อยุดค่ะเพราะมันคงไม่ได้ผลดี ..
คนจริงต้องสู้ ... กระทิงแดงสักขวดช่วยได้จริงๆค่ะ
เพราะวันนี้กาแฟ 2 แก้วยักษ์เหมือนจะเอาไม่อยู่เลยเชียว