เพลงนี้ได้ฟังจากบล๊อกคุณย่า //www.bloggang.com/mainblog.php?id=qinglincherry ฟังแล้วชอบมากตรงกับใจ...อีกทั้งบทความที่คุณย่าเขียนกระตุ้นต่อมความรู้สึกมาก เป็นความรู้สึกเศร้า...และเสียใจ เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ที่คนดีๆ คนหนึ่งในความรู้สึกของตัวเองต้องมาพบวิบากกรรมที่เกิดจากอะไรลึกๆ ที่พวกเราไม่รู้ แต่ที่รู้คือ ความอิจฉาริษยา หวังกลั่นแกล้งทำลายให้สิ้นซาก และเข้าใจว่าความรู้สึกของประชาชนส่วนหนึ่งอาจเป็นส่วนใหญ่ของประเทศด้วยซ้ำไปที่รู้สึกแบบนี้...

หน้าบล๊อกนี้เป็นหน้าบล๊อกส่วนตัวของ จขบ. ใข่ไหม ที่สามารถจดจำสิ่งที่ต้องการบันทึกเก็บไว้ได้ใช่ไหม สิ่งที่จะบันทึกต่อไปนี้เป็นความคิดในใจ...ที่ตัวเองอยากระบายเพียงลำพังคนเดียว...ใครห้ามแอบอ่านเด็ดขาด...หึ หึ...

ย้ำเป็นความคิดที่คิดอยู่ในใจนะจ๊ะ...เป็นความคิดส่วนตัวที่อยู่ในความคิด..ของตัวเองคนเดียว...ใครเข้ามาอ่านแล้วเอาไปบอกต่อพูดต่อห้ามคิดและบอกต่อนะคะ แต่ถ้าประเทศนี้มีประชาธิปไตยอย่างที่ใครบางคนว่า และเอาไปคิดและพูดต่อก็จะถือว่า จขบ. ไม่ผิดนะคะ...เพราะบอกแล้วว่า ...แค่คิดในใจ คุยกับตัวเองในใจ...

สิ่งที่คิดในใจกับเหตุการณ์วันนี้ คือ "...คงไปหวังพึ่งความยุติธรรมจากใครไม่ได้แล้วในประเทศนี้...ก่อนหน้านี้..เคยคิดว่า...คงต้องมีฮีโร่สักคณะ หรือสักคนล่ะน่าที่สถิตซึ่งความยุติธรรมกล้าที่จะต่อสู้กับความไม่ยุติธรรมที่กดดันประเทศเราอยู่ กับการบริหารงานประเทศแบบ 2 มาตรฐานที่ตัวเองไม่เคยหยิบยืมคำพูดคำๆ นี้มาจากผู้ใด มันวนเวียนอยู่ในสมองเองโดยอัตโนมัติว่าตอนนี้อะไรๆ ก็ 2 มาตรฐานหมดแต่เผอิญไปตรงความคิดของคนอื่นที่เป็นคนส่วนใหญ่เสียด้วย...จะมีใครในคณะผู้ตัดสินจะเห็นบ้างไหมเห็นถึงความไม่ยุติธรรมที่คนดีๆ คนหนึ่งได้รับ...เหมือนโดนถูกกลั่นแกล้ง บีบคั้นทุกอย่างให้จนมุม จขบ. เองไม่ได้เป็นคนฉลาด เป็นแค่ข้าราชการกระจ๊อกๆ ที่ไม่ได้ใหญ่โต เรียนจบแค่ปริญญาตรีแค่ใบเดียว ไม่ได้จบด๊อกเตอร์ หรือไปร่ำเรียนเมืองนอกเมืองนา พ่อแม่ก็ไม่ได้ตระกูลเด่นดังในสังคม เป็นคนธรรมดาจริงๆ ความคิดก็แค่คนธรรมดาๆ พื้นฐาน แต่เป็นพื้นฐานของความถูกต้อง ที่ไม่ชอบการรังแกใส่ความกันในสังคม ไม่ชอบการปั้นน้ำเป็นตัว ไม่ชอบการวางแผนการล้ำลึกซับซ้อนต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพรรคพวก ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรในการกระทำทั้งหมด ที่ทำให้คนๆ หนึ่งที่เป็นคนไทยแท้ๆ โดยสายเลือด ไม่ได้เป็นเจ๊กเป็นจีนอพยพมา (ที่คิดแบบนี้ไม่ได้กีดกันด้วยคำว่า เจ๊ก จีน เพราะเจ๊ก จีนที่เป็นคนดีๆ ที่หอบเสื่อผืนหมอนใบเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทยจนร่ำรวยและเป็นคนดีมีมากมาย แต่ที่หมายถึง คือ เจ๊ก จีนอพยพที่เข้ามาอาศัยแล้วมาก่อปัญหามากมาย มายุยง ยุแยงมาทำร้ายประเทศจนเศรษฐกิจย่ำแย่อยู่ทุกวันนี้ แต่มีใครเอาผิดเค้าได้มั๊ย..คดีบุกรุกและยึดทำเนียบ คดีปิดสนามบินแห่งชาติที่ทำให้เศรษฐกิจของไทยปี้ป่นจนทุกวันนี้ ซึ่ง จขบ. เห็นว่าเป็นคดีใหญ่พอที่พวกท่านต้องพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ ที่คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศด้วยซ้ำไปอยากเห็นคดีนี้ปิดคดีเสียที มากกว่าคดีที่ท่านทำในวันนี้ และถ้าหากท่านจัดการคดีบุกรุกทำเนียบและปิดสนามบินตัดสินเรียบร้อยแล้ว กับคดีวันนี้ก็จะไม่มีใครออกมาคิดในใจอย่างเรา ความรู้สึกของ จขบ. และคนทั่วไปเหมือนเลือกปฏิบัติ หยิบยกคดีนี้แบบตั้งใจขึ้นมาตัดสิน รู้บ้างมั๊ยว่ากำลังตกเป็นขี้ปากของวงสังคมทั่วไปถ้าจะตามเอาผิดกับคนที่คิดแบบนี้ ด้วยข้อกล่าวหาว่าลบหลู่ความยุติธรรมก็คงต้องเอาคนแบบนี้เกินครึ่งประเทศล่ะ และจากผลที่ท่านทั้งหลายตัดสินแบบวันนี้..เราก็อยากจะเห็นท่านไปรื้อคดีต่างๆ ที่หมกเม็ด กันมานานแสนนานออกมาปัดฝุ่นและตัดสินอย่างเที่ยงธรรม เหมือนที่พูดกันอยู่เสมอว่า....สถิตไว้ซึ่งความยุติธรรม....โดยเฉพาะคดีที่คนบางพวกได้ทำร้ายประเทศไว้ รวมทั้งพรรคบางพรรค ที่สมควรสั่งยุบพรรคมากที่สุดเพราะกระแสการโกงมีทุกรูปแบบ แต่น่าแปลกรอดพ้นมาได้ตลอดเพราะอะไร...จขบ. คิดว่าคนฉลาดๆ อย่างพวกท่านน่าจะรู้ดีกว่า จขบ. ที่เป็นแค่คนธรรมดา...

คดีวันนี้ ถ้าคิดในแง่ดี...ก็ดีนะที่ไม่ยึดหมด อย่างน้อยยังพอมีเหลือบ้าง แต่เมื่อคิดต่อ (เพราะเป็นคนช่างคิด) เอ..ทำไมไม่ยึดหมด...อ่อ..ถ้าขืนยึดหมด...ก็คงโดนข้อหา 2 มาตรฐานอีก ก็เลยยึดพอสวยงาม แต่ไหงมีการเก็บภาษีค่าโอนหุ้นอีกเป็นพันล้าน เอาคืนมาได้ สามพันล้านกว่าหักพันล้าน เหลือประมาณสองพันล้าน แล้วจะหาเหตุอะไรอีกไหมหนอกับเงินส่วนที่เหลือ...คิดมาถึงตรงนี้น้ำตาไหลเกิดความสงสารทันทีทันใด...ที่น้ำตาไหลเพราะตัวเองเป็นคนดีไม่ชอบซ้ำเติมใครแม้คนๆ นั้นจะเลวร้ายเพียงใดก็ตาม ถ้าหากคนเลวร้ายต้องตกทุกข์ได้ยากก็สงสาร แต่นี่ท่านเป็นคนดีที่ประชาชนระดับรากหญ้า และเกือบทุกระดับต้องการจะไม่น้ำตาไหล สงสารท่านได้อย่างไร ร้องไห้ให้กับความรู้สึกไม่ยุติธรรมในสังคมหลายๆ อย่างที่เรื่องราววันนี้ทำให้นึกเสียใจและร้องไห้ได้ เค้าบอกว่าคนดีอย่าคิดอะไรเข้าข้างตัวเอง ต้องหัดคิดแทนคนอื่นบ้าง...ก็เลยร้องไห้เพราะไปคิดว่า ถ้าหากกรณีนี้เกิดกับตัวเอง ความรู้สึกตัวเองคงแย่ ยิ่งถ้าหากเป็นเงินที่เราหามาได้ด้วยตัวเอง ด้วยความคิด สติ ปัญญาที่ชาญฉลาดของตัวเองที่รู้จักทำมาหากินด้วยลำแข้งของตัวเอง...แต่วันหนึ่งมีใครไม่รู้มายัดเยียดข้อหาว่าโกงกิน...เศร้ามั๊ยล่ะ...มันเหมือนการถูกปล้น เป็นการถูกปล้นแบบถูก ก.ม ก็ว่าได้....ฉะนั้นหากมีใครบางคนมาว่าคนที่เศร้า เสียใจเพราะการตัดสินครั้งนี้ แสดงว่าคนๆ นั้นเป็นคนจิตใจอำมหิตผิดมนุษย์ได้มั๊ย..ไม่มีความเมตตากรุณาเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก คนซ้ำเติมคนอื่นนี่ยังนับว่าเป็นคนดีได้มั๊ยเอ่ย...ลองคิดดูเองนะคะ....การพิพากษายึดทรัพย์ถึงจะแค่ส่วนหนึ่ง(แต่ก็เป็นส่วนใหญ่) โดยความรู้สึกของ จขบ.ว่าใช้คำสั่งของคมช.มาเป็นกฏหมายตัดสิน ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ว่า คมช. คือคณะที่แต่งตั้งโดยใช้อาวุธ และกองกำลังด้วยการทำรัฐประหารปี พ.ศ 2549 จำกันได้ไหม ถือว่าเป็นการปล้นระบอบประชาธิปไตยไปจากคนไทย...รัฐบาลนายกทักษิณมาจากการเลือกตั้งที่ประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศเลือกท่านเข้ามาอย่างถล่มทลายและก็ได้เป็นนายกติดต่อกันมาอีกสมัย ถ้าไม่มีรัฐประหารก็คิดว่าท่านต้องได้เป็นอีก คิดถึงข้อนี้บ้างมั๊ยว่า คมช. เข้ามาด้วยการปล้นแล้วฉีก ก.ม รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ทิ้งด้วยการไม่รู้เท่าทันของประชาชน (รู้ไม่เท่าทันคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการล้มล้างรัฐบาลนายกทักษิณด้วยเหตุผลส่วนตัว)ที่ลงมติด้วยการทำประชาพิจารณ์เรื่อง ก.ม 2 ฉบับนี้ว่าจะใช้ฉบับไหน จขบ. ตอนที่ลงมติประชาพิจารณ์ก็สับสนไม่รู้ว่าฉบับไหนดีหรือไม่ดี มีก.ม 2 ฉบับอยู่ในมือให้อ่านตามที่เขตแจก ก็อ่านแล้วไม่เข้าใจด้วยเรียนวิชา ก.ม มาน้อย จึงไปสอบถาม พูดคุยกับผู้รู้ที่เป็นนัก ก.ม ด้วยไม่รู้เท่าทันลืมคิดถึงคนที่พูดคุยว่าเป็นพวกไหน ด้วยใจที่ซื่อบริสุทธิ์อยากเห็นประชาธิปไตยเต็มใบคิดว่า อันใหม่น่าจะดีกว่าเพราะอะไรที่ใหม่วิวัฒนาการน่าจะดีกว่า แต่เอามาใช้กับรัฐธรรมนูญไม่ได้ ให้นึกเสียใจอยู่จนทุกวันนี้ที่เป็นหนึ่งเสียงที่เลือกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 กับเค้าอีกคน เป็นสิ่งผิดพลาดของตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัยจริงๆ...และการตัดสินที่นำคำสั่ง"คมช."มาอ้างเป็นบรรทัดฐาน....ตัดสินพิพากษายึดทรัพย์ในวันนี้ยุติธรรมหรือไม่...ก็น่าจะได้รับคำตอบจากสิ่งที่คิดข้างต้น...น่าอายจริงๆ...(อายความคิดตัวเองที่ดั๊นคิดแบบนี้ คิดแบบเหมือนรู้เท่าทัน)" จบความคิด 1 เรื่อง

นั่งสงบสติอารมณ์ ปล่อยใจ ปล่อยสมองให้ว่างเปล่า...รู้สึกหนักสมองสำหรับความคิดข้างบนเหลือเกิน รู้สึกอ่อนล้า อ่อนแรง...น้ำตาไหล...สงสารใครคนนั้นเหลือเกิน...อยากส่งกำลังใจ แรงใจไปให้ อย่าท้อนะคะ..สู้ๆ จขบ. รู้ว่าท่านเจ็บแค่ไหน...จขบ. จะสอนลูกหลานในอนาคตตามที่ท่านบอก..ให้พวกเราสอนลูกสอนหลานให้เติบโตในสังคมประชาธิปไตยให้มีประชาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยที่เต็มใบด้วยค่ะ คือ มีความยุติธรรม และมีความเสมอภาค...จขบ. ขอเน้นเองอีกครั้งว่า "มีความยุติธรรม" อย่าเลือกปฏิบัติเช่นสังคมไทยทุกวันนี้...เป็นกำลังใจให้ท่านค่ะ...และอยากเอาโคลงบทสุดท้ายของ"ศรีปราชญ์"กวีเอกของไทยในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่ท่านพูดถึงมาแปะไว้อ่านเองค่ะ...หึ หึ...

ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์ หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมล้าง ดาบนั้น คืนสนอง

กรรมใดใครก่อกรรมนั้นระวังจะคืนสนองเข้าสักวันนะพวกที่ทำ อย่าย่ามใจลำพองใจไป อีกไม่ช้าไม่นานจะโดนแบบนี้บ้างและอาจจะหนักกว่าด้วยซ้ำไปเพราะเวลากรรมเวรมันสนองใครสักคนมักสนองแบบทวีคูณเสมอ..เพราะเมื่ออาศัยอะไรไม่ได้อีกแล้ว ก็คงต้องเล่นคุณไสย คำสาปแช่งนี่ล่ะน่าจะเหมาะดี ใครไม่กลัวไม่เป็นไร เพราะบางคนไม่รู้จักคำว่า "กรรมเวร" เพราะเป็นพวกนอกรีต แต่ไม่ว่าจะศาสนาอะไรเค้าก็สอนให้เป็นคนดี สิ่งที่ทำอยู่คงรู้ว่าดีหรือไม่ โตๆ กันแล้วคงไม่ต้องให้เด็กอย่าง จขบ. มานั่งสอนนะคะ...รู้ไปถึงไหนอายเค้าไปถึงนั่นที่ให้เด็กเมื่อวานซืนมาสอนมาบอกให้ได้อายค่ะ...วันนี้ไม่มีประเทศสารขันธ์ เพราะคนเขียนหมดอารมณ์ แต่ไม่เลิกเขียนค่ะ คนเขียนจะมาลุยต่อเมื่ออารมณ์พร้อมนะคะ...มีความสุขกับสถานการณ์แบบนี้ทุกคนค่ะ...