|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องเล่าประเทศสารขันธ์ (ตอน 12)
โปรดช่วยกันดูแลคนดี ตั๊กแตน ชลดา กว่าจะมีคนที่ดีดี สักคน ยอมอุทิศตน เพื่อคนส่วนใหญ่ กว่าจะเจอคนที่เราเห็น ว่าเป็นคนใช่ ต้องรอนานเท่าใด จึงได้มา
แต่คนดีก็อยู่กับเรา ไม่นาน โดนแรงเสียดทาน โถมจนพ่ายล้า ใครโง่ไม่เป็น ใครเด่นเกินไป ต้องโดนคนว่า ทำถูกใจช้า ยังด่าทอ
ใช้คนดีเปลือง ฝืดเคืองคำชม โยนเรื่องทับถม ถึงทนก็ท้อ เมื่อทำดียาก ใครอยากจะทำดีต่อ ก่อนที่คนดีจะท้อ จึงร้องขอแรงส่งมา
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหา จนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรีและยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
อยากให้มีคนที่ทำดี มากมาย ยืนหยัดสู้ไหว แรงใจมากมี กว่าจะเจอก็ยากนักหนา ควรรักษาให้ดี ใช้เพชรที่เรามี อย่างรู้ค่า
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำดี
โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรี และยิ่งใหญ่ ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใคร อยากทำความดี
เรื่องเล่าประเทศสารขันธ์ (ตอน 12)
"ตอนนี้ประเทศสารขันธ์ร้อนระอุ นอกจากร้อนเพราะอากาศ ยังร้อนเพราะการเมืองที่เล่นด้วยวิธีสกปรก นับตั้งแต่นายพันทักษิโดโดนยึดอำนาจก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมายเหมือนโดมิโน เพื่อโค่นล้มอำนาจนายพันทักษิโดอย่างเบ็ดเสร็จเพื่อปิดบัญชีไม่ให้กลับคืนอำนาจได้อีก
แผนการสุดท้ายก็คือ การยึดทรัพย์สินของนายพันทักษิโดและครอบครัวเพื่อปิดทางทำมาหากิน ไม่ให้มีเงินกลับมาคืนอำนาจได้อีก เริ่มทำเป็นขบวนการจนถึงศาลเพียงตาสุดท้ายที่อ้าง ก.ม สมัย คมช. (ย่อมาจาก คนมันชั่ว) ซึ่งได้จัดตั้งเป็นคณะ คปค (ย่อมาจากคณะปฏิบัติการควายอยากเป็นคน) ว่าถูกต้อง ซึ่งค้านกับความรู้สึกของประชาชนในประเทศสารขันธ์เป็นอย่างยิ่ง ว่าจะถูกต้องได้อย่างไรในเมื่อคณะไม่ว่า คมช. หรือ คปค. และ คตส. ก็คือคณะที่ได้ซึ่งมาอำนาจจากการทำร้ายจิตใจประชาชนด้วยการยึดประชาธิปไตยด้วยการทำรัฐประหารแบบเผด็จการ ประชาชนส่วนมากไม่ยอมรับเพราะคนพวกนี้ออกมาใช้กำลังข่มเหงความรู้สึกและยัดเยียดความคิดว่าถูกต้อง...ดังนั้นการที่ศาลเพียงตาจะนำเอา คมช. หรือ คปค. มากล่าวอ้างว่าเป็นคณะที่ถูกต้องตาม ก.ม ไม่ได้เพราะไม่ได้รับการแต่งตั้งด้วยพระปรมาภิไธยจากพระมหากษัตริย์ของประเทศ คำกล่าวอ้างของศาลเพียงตาที่บอกว่าถูกต้องจึงมีอันตกไป...แล้วแบบนี้จะยึดทรัพย์ผู้อื่นได้อย่างไร เอาสิทธิ์เอาเสียงจากไหนมาอ้าง...
การปฏิบัติรวมหัวกันยึดทรัพย์เป็นขบวนการแบบรวมหัวกันทำโดยแยกกันทำหน้าที่ด้วยการวางแผนกันมาอย่างดี ดูหน้าศาลเพียงตาแต่ละคนบางคน คุ้นๆ ว่ารวมหัวกันมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ร่วมกันทำคดีให้นายพันทักษิโดเป็นผู้ผิดมาตลอด จนถึงวันนี้นายพันทักษิโด ต้องตกเป็นจำเลยของสังคมด้วยข้อกล่าวหาว่า โกงชาติสารขันธ์ ไปโดยปริยาย แล้วที่กลุ่มก้อนร่วมปล้นแบบฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สินผู้อื่นด้วยการร่วมมือเป็นขบวนการแบบนี้เรียกว่า คนดีหรือ มันเรียกว่า การโกงที่ถูกต้องได้มั๊ย ร่วมมือกันโกงในทรัพย์สินผู้อื่นที่หามาได้ก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเป็นรายได้ที่พอกพูนเนื่องมาจากทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วเกิดออกดอกออกผล สมควรไปยึดไปโกงเค้ามาเป็นของตนและพวกสมควรหรือไม่ และเป็นสิ่งที่น่าแปลกศาลเพียงตาตัดสินแล้วพวกกลุ่มก้อนพวกนี้ยังกระเหี้ยนกระหือรือที่จะเอาเงินที่เหลือของเค้าให้หมด ไร้มนุษย์ธรรมเกินไปไหม สังคมประเทศสารขันธ์ให้สงสัยเป็นยิ่งนัก ไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก คิดแค่คนลงทุนทำการค้าเล็กๆ นี่ล่ะจะทำกิจการอะไรสักอย่างก็ต้องมีเงินลงทุน เมื่อลงทุนแล้วกิจการเจริญขึ้นก็ต้องมีผลกำไรเกิดขึ้น สักวันมีคนใจบาปหยาบช้ามาบอกหรือที่เรียกว่ายัดเยียดข้อหาว่า สิ่งที่ทำเป็นทุจริตโกงเงินตัวเองถึงได้ร่ำรวยเกินเหตุ คนที่อยากได้ของคนอื่นก็ต้องมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ต่อให้ชักแม่น้ำทั้งห้า แต่ความจริงก็รู้กันอยู่ว่านั่นเป็นทรัพย์สินของเจ้าของกิจการเค้า ไม่ต้องไปอ้างเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่จะเอาผิดผู้อื่นเพื่อจะได้ยักย้ายถ่ายเทเงินของเค้าให้มาเป็นของพวกตนหรอก เพราะเงินของเค้าก็คือเงินของเค้า แต่กลุ่มพวกที่คิดจะโกงเค้าจะเอาจึงมีข้ออ้างเหตุผลจะเอานานาเพื่อจะเอาเงินของผู้อื่นให้ได้...เอาเงินเค้าแล้วยังไม่หนำใจยังยัดเยียดข้อหา"โกง" ให้เจ้าของเงินช้ำใจ..นี่โลกเลวร้ายกันแบบนี้แล้วเหรอไง"
ข่าวร้อนข่าวดังของประเทศสารขันธ์ดังไปทั่วโลก...นักข่าวได้ลองไปสัมภาษณ์คนต่างชาติทั้งในและนอกประเทศสารขันธ์ ได้คำตอบว่า...ประเทศสารขันธ์เป็นประเทศที่น่ากลัวในความรู้สึกของนานาประเทศไปซะแล้ว...ไม่มีใครอยากคบหากับคนประเทศสารขันธ์เพราะผู้นำแห่งประเทศของความโกง โกงกันอย่างหน้าด้านๆ แล้วประชาชนตาดำๆ จะน่าคบได้อย่างไร กลายเป็นประเทศที่ไม่มีใครคบอนาคตคงเป็นประเทศปิดตายไม่มีใครกล้าเสี่ยงมาลงทุน เพราะวันดีคืนดีเอาเงินมาลงทุนเกิดผู้นำในประเทศเกิดความอยากได้ เพราะหาเงินไม่เป็นดีแต่สร้างหนี้เอาไปเสวยสุขเฉพาะพวกตน พอถึงวันต้องหาเงินคืนหนี้ที่กู้มา หาไม่ได้ก็เลยโกงคนที่คิดว่ามีให้โกงแบบหน้าด้านๆ โดยหาเหตุว่าเลวอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่ได้เลวก็ต้องเลว ทำเป็นขบวนการอย่างน่ากลัว ทุกประเทศเลยบอยคอตไม่สนใจคบหาเอารั้วลวดหนามล้อมประเทศสารขันธ์ให้เป็นประเทศเดียวที่ตั้งอยู่บนโลกแห่งความโกง...จนกว่าจะเปลี่ยนนิสัยถึงจะพิจารณาใหม่ว่าควรจะให้โอกาสคบต่อไปอีกมั๊ย
ข่าวนี้เป็นข่าวที่น่ากลัว...ระดับการโกงกิน ไม่ได้เป็นแค่ในประเทศ แต่ดังไปทั่วโลก ไม่มีใครโทษนายพันทักษิโด มีแต่นานาประเทศสงสารและเห็นใจเหมือนเช่นประชาชนคนตาดำๆ ที่เป็นคนดีมีเมตตาสงสารในสิ่งที่นายพันทักษิโดได้รับบนความไม่ถูกต้อง...จบข่าวรายงานข่าวจากสำนักข่าว SKN (ย่อมาจากสารขันธ์นิว)
หลังจากยึดทรพัย์คนอื่นจนสะใจพอสมควรแล้ว ที่ว่าพอสมควร คือ ตั้งใจจะยึดให้หมด แต่ยังไม่กล้าพอกลัวคำครหา กลัวคนรู้ทาง เลยอำพรางว่ายึดบางส่วน แต่เบื้องหลังได้มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่ากำลังมีความพยายามอย่างมากที่จะหาสาเหตุเอาเงินที่เหลือทั้งหมดไม่คืนให้นายพันทักษิโดสักเงินสารขันธ์เดียว หรืออาจ เพราะกลัวกลุ่มผู้คนที่รักนายพันทักษิโดจะลุกขึ้นมาต่อต้าน เลยต้องลับลวงพรางต่อไป โดยทำทีว่าคืนทรัพย์สินส่วนหนึ่ง แต่มีแผนสองให้หน่วยงานเก็บภาษีของประเทศสารขันธ์เตรียมการเก็บภาษีย้อนหลังโดยอ้างว่าเก็บเงินที่เกิดจากการโอนหุ้นย้อนหลังซึ่งมีนัก ก.ม ที่เป็นระดับอาจารย์ได้กล่าวว่าทำไม่ได้เพราะขัดต่อคำตัดสินของศาลเพียงตา ถ้าปฏิบัติตามศาลเพียงตาก็ไม่สามารถเก็บภาษีได้ (นักข่าวต่างชาติคิด...ผู้นำประเทศสารขันธ์นี่ งก จริงๆ เงินก็ไม่ใช่ของตัวเองๆ หาเงินไม่เป็นดีแต่โกงกินไปวันๆ หาทางอะไรไม่ได้นี่กะจะเอาให้เค้าหมดตัวเลยหรือไง...เลวชาติสารขันธ์จริงๆ...) อืมมม...นักข่าวคนนี้คิดดังไปเปล่าเอ่ย...คิดเบาๆ ก็ได้เดี๋ยวจะโดนเล่นแบบเบ็ดเสร็จแบบขบวนการแบบนายพันทักษิโดแล้วจะหาไม่เตือนนะ...555555....
แล้วก็กลายเป็นโจ๊ก (ตลก) การเมืองไปซะฉิบเมื่อนายแขน กระติกพ่อค้า รมต.คลังของประเทศสารขันธ์ได้ออกมากล่าวว่า คลังของประเทศสารขันธ์เตรียมเปิดคลังรอรับเงินจากคดีนี้ ตอนแรกคิดไว้ว่าต้องยึดหมด แต่ไม่สามารถทำได้เพราะต้องลับลวงพรางไปก่อน ก็เลยต้องเปิดคลังรับส่วนที่ได้ก่อน และเปิดเผยว่าพอเงินเข้าคลังเมื่อไรก็จะเบิกมาใช้ทันทีเพราะมีหนี้ที่ไปกู้ก่อนหน้ารออยู่ นอกจากนั้นมีข่าวภายในแพลมออกมาว่า เงินส่วนหนึ่งจะจัดสรรเข้าพรรคเพื่อเตรียมการไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่คงจะเกิดอีกไม่นานนี้ และมีบางส่วนต้องให้กับคนที่ช่วยเหลือจนได้ผลงานเงินก้อนโตโดยตั้งเป็นรางวัลลับๆ ไว้ก่อนหน้าแล้ว เมื่อได้ส่วนแรกแล้ว ส่วนที่สองก็จะตามมาเพราะกำลังให้หน่วยงานภาษีฟันภาษี และหาคดีอื่นยึดทรัพย์ของนายพันทักษิโดจนหมดตัวต่อไป (นายแขนคิดในใจ...อย่าหวังว่าจะเล็ดลอด...ยากส์ว๊อยนายพัน..พวกเมิงเฉือกมาด่าตรูว่าเป็นตุ๊ด เป็นแต๋วดีนัก เมิงจะได้รู้จักตุ๊ด เกย์อย่างตรูคราวนี้ล่ะ...ฮิ ฮิ)
โจ๊กการเมืองเรื่องที่สอง ได้มี ปปช. (ย่อมาจากคณะปกปิดประชาชน) บางคนได้ออกมากล่าวว่า จะนำคำตัดสินของศาลเพียงตามาพิจารณาขยายผลเพื่อหาเรื่องต่อไป..เอ๊ยเพื่อทำเป็นคดีต่อไป...เนื่องจากได้รับคำสั่งจากเบื้องบน (บนไหนไม่ได้ยืนยัน) ให้จัดการเรื่องนายพันแบบไม่ให้ได้ผุดได้เกิด..(นักข่าวคิด...เออ..พวกเอ็งเลวชาติจริงๆ เนอะ หัดมีเมตตาธรรมบ้าง คิดบ้างสิวะถ้าเกิดกับพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ลูกเมียเอ็งบ้างเอ็งจะทำยังไงไม่กลัวกรรมตามพวกเอ็งทันเหรอไง)...นักข่าวถามต่อว่า การพิจารณาคดีครั้งนี้จะถือเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาคดีอื่นในลักษณะเดียวกันนี้ได้หรือไม่ ปปช. คนดังกล่าวกล่าวว่า...แหะๆ อันนี้กระผมก็ตอบไม่ได้ ต้องดูเป็นเรื่องๆ ไป แล้วแต่เบื้องบนจะสั่งการลงมา เค้าสั่งมายังไงพวกกระผมก็ทำตามสั่งครับ..ทุกคนคงเข้าใจพวกกระผมนะครับ...
สำหรับเรื่องนี้ก่อนหน้าจะมีการตัดสิน นายกประเทศสารขันธ์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่า หลังจากวันนี้ประเทศสารขันธ์ไม่น่าจะมีอะไรนะเพราะอีกขั้วคงไม่มีปัญญาเอาเงินที่ไหนมาต่อสู้พวกเรา เพราะเรากะจะยึดหมด" นักข่าวฟังแล้วคิดตามเงียบๆว่า "เออ...เมิงพูดอีกก็ถูกอีกล่ะเพราะเมิงวางแผนมาตลอดอยู่แล้วนี่ พูดร้อยครั้งก็ถูกร้อยครั้งล่ะ ช่างพรรณนาโวหาร ปั้นคำออกมาซะเหลือเกิน เมื่อไรเมิงจะเลิกเป็นคนนิสัยแบบนี้ซะทีฟระ" แต่หูก็ฟังนายกประเทศสารขันธ์พล่ามต่อไป จับใจความได้ว่า ...ไม่น่าจะมีอะไรแล้วต่อจากนี้เพราะเราได้ขูดรีดโกงจนแบบนี้จะเหลืออะไรมาต่อกรกับรัฐบาลประเทศสารขันธ์อีกล่ะ...นักข่าวคิดตาม(อีกแล้ว) " เออ...แล้วที่ว่าไม่มีอะไรประเทศจะเหมือนเดิมไหม ความรู้สึกคนจะแตกแยกอีกไหม ต่อไปจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่าเนี่ย" เหมือนรู้เท่าทันความคิดนักข่าว เพราะนายกประเทศสารขันธ์คนนี้อยู่ในอาการหวาดระแวงตลอดเวลาแม้จะเป็นความคิดคนอื่นก็ตาม เลยปล่อยความฉลาดบนความโง่พูดโพล่งออกมาแบบรู้เท่าทันความคิดนักข่าวว่า "ทุกอย่างบอกว่า จบก็จบสิ เตรียมการมาทุกอย่างมานานแล้วมันก็ต้องสำเร็จสิเห็นมั๊ยเป็นไปตามที่วางแผนไว้ทุกอย่างล่ะ...555555" นักข่าวแอบคิดต่อโดยพยายามใช้คลื่นรบกวนไม่ให้ความคิดส่งผ่านไปถึงนายกประเทศสารขันธ์ได้ว่า "ที่ว่าประเทศจะเหมือนเดิมได้ไงหว่าไม่แน่ใจเลยสักนิด ดูสิผู้คนออกมาเย๊วๆๆ แบ่งสีแบ่งพวก มีทั้งพวกโกงหน้าด้าน พวกต่อต้านการโกงทุกรูปแบบ พวกต่อต้านความอยุติธรรม เยอะแยะพวกไปหมด..เป็นไปได้ยังไงในเมื่อไม่ถูกต้องมาแต่แรก...เฮ้อ...กลุ้มว๊อย..ต้องลุ้นอีกนานเท่าไรฟระเนี่ย"
จากกรณีนี้มีผู้สันทัดกรณีออกมาให้ความเห็นว่า "เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังสั่งการให้ยึดทรัพย์นายพันทั้งหมด ดูจากการที่ศาลเพียงตาตัดสิน ที่ยึดถือ ก.ม ฉบับคณะก่อการยึดประชาธิปไตยเป็นหลักในการพิจารณาเป็นสิ่งไม่ถูกต้องทำให้สังคมประเทศสารขันธ์ถูกมองว่าเป็นผลมาจากการก่อการยึดประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการขัดหลักความยุติธรรม เป็นการทำลายล้างบุคคลเพียงคนเดียวไม่ให้กลับมาเล่นการเมืองได้อีก และทำให้มองว่ามีสองมาตรฐานมากยิ่งขึ้น และจากเหตุการณ์นี้จะมีผู้คนมากมายออกมาต่อสู้เพื่อขอประชาธิปไตยฉบับเต็มใบคืน และจะเป็นการต่อสู้ว่าด้วยสันติวิธีหรือไม่สันติก็ตามก็น่ากลัวหมด...ลองนั่งทบทวนนึกถึงภาพที่นายกประเทศสารขันธ์ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อไม่นานมานี้ ที่มีสายตาแข็งกร้าว และบอกนักนักข่าวว่าจะไม่มีการประณีประนอมและเจรจาถ้าหากไม่ทำตาม ก.ม...เพิ่งคิดได้ว่า...อ่อ...มันเป็นแบบนี้นี่เอง รู้ล่วงหน้าว่าสามารถยึดทรัพย์เค้าได้ด้วยแผนลับ ลวง พราง แบบนี้นี่เองจึงไม่ยอมเจรจาประณีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น แล้วที่ใครบอกว่าไม่มีใครรู้คำตัดสินของศาลเพียงตาอันไหนจริง อันไหนเท็จ"
นักข่าวได้ไปสัมภาษณ์ประชาชนที่เดินผ่านไปผ่านมาคนหนึ่งให้ความเห็นว่า "ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้...ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงของพันธมาร การยึดอำนาจของทหาร การเปลี่ยนขั้วทางการเมือง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การยัดเยียดคดีอาญา และคดียึดทรัพย์นายพันในครั้งนี้ คิดว่าเป็นแผนการของอมาตย์ที่เตรียมไว้ทำลายล้างนายพันอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้กลับมามีอำนาจได้อีก แต่มันยังไม่จบแค่นี้หรอกเพราะยิ่งทำลายล้างเขามากเท่าไรคนก็รักเขามากขึ้นเท่านั้น ด้วยความอยุติธรรมที่พวกอมาตย์ตัวแม่สร้างขึ้นมาในสังคม ได้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนที่เห็นทั่วไปไม่ว่าคนในประเทศสารขันธ์ หรือทั่วโลก และ เมื่อวันใดที่ฟ้าเปลี่ยนสี วันนั้นแหละจะรู้ว่านรกมีจริง" นักข่าวถามต่อว่า "จะตั้งกะทะใส่น้ำร้อนเตรียมไว้เหรอคะ" ประชาชนคนนั้นตอบว่า "ยิ่งกว่าน้ำร้อนเลยล่ะ...555555...ความยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิดแน่นอนครับ..ต่อไปนี้ไม่ต้องคิดถึงเรื่องสมานฉันท์กันแล้ว เพราะไม่สามารถจะทำได้อีกต่อไปหลังจากการตัดสินวันนี้" นักข่าวได้แต่คิด "เย็นไว้โยมๆๆ ไม่นานโลกก็จะแตกแล้ววันนี้เกิดสึนามิที่ชิลีอีกแล้ว"....ทุกอย่างเงียบสงบ...แต่เหมือนสึนามินั่นล่ะข่าวว่ากำลังเคลื่อนตัวมาเอเซียพรุ่งนี้เช้า.....5555555....จบข่าว...
|
Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
25 comments |
Last Update : 1 มีนาคม 2553 14:06:15 น. |
Counter : 557 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: อิ่ม_Aim 28 กุมภาพันธ์ 2553 9:49:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: I_sabai 28 กุมภาพันธ์ 2553 16:50:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: .ใบไม้ (benjarong9 ) 1 มีนาคม 2553 13:23:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 1 มีนาคม 2553 20:03:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 2 มีนาคม 2553 9:01:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชิโยจัง 2 มีนาคม 2553 10:59:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: blog pu 2 มีนาคม 2553 16:43:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: blog pu 3 มีนาคม 2553 7:20:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 3 มีนาคม 2553 11:12:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|