มีกันตลอดไป Amary ห่างกันไกลสุดฟ้า แต่ก็มาได้พบ คนๆ หนึ่งที่ใจตรงกัน ทำให้มีวันนี้ อยากให้เธอได้รู้ เธอคือคนที่แสนดี อยากมีเธอทุกวินาที เธอคือคนที่สำคัญ I'll be with you forever จะรักเธอตลอดไป ไม่ว่าผ่านฝน ร้อนหนาวเท่าไหร่ จะเดินไปด้วยกัน We will be together จะมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น จากวันนี้ไปถึงทุกวัน จะมีกันตลอดไป When you walk into my life. You teach the meaning of what love life. I can't explain the way I feel,cause know you here by my side. My dream and hope there are come true. But know the hope love late without you. Lasting love my heart to you. I'll be with you all my life. I'll be with you forever จะรักเธอตลอดไป ไม่ว่าผ่านฝน ร้อนหนาวเท่าไหร่ จะเดินไปด้วยกัน We will be together จะมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น จากวันนี้ไปถึงทุกวัน จะมีกันตลอดไป ทุกเวลาที่ฉันมีเธอ เหมือนฉันมีทุกสิ่ง เพราะเธอมีความรักแท้จริง ที่ฉันไม่เคย ได้เจอจากใคร I'll be with you forever จะรักเธอตลอดไป ไม่ว่าผ่านฝนร้อนหนาวเท่าไหร่ จะเดินไปด้วยกัน We will be together จะมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น จากวันนี้ไปถึงทุกวัน จะมีกันตลอดไป I'll be with you forever จะรักเธอตลอดไป ไม่ว่าผ่านฝนร้อนหนาวเท่าไหร่ จะเดินไปด้วยกัน We will be together จะมีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น จากวันนี้ไปถึงทุกวัน จะมีกันตลอดไปช่วงนี้ได้คุยกับคนกำลังมีความรัก...ความจริงแล้วความรักเป็นสิ่งที่สวยงามอย่างที่ใครบางคนว่าไว้จริงๆ คนที่กำลังมีความรักมองอะไรก็สวยงาม มีความสุข มองโลกสดใสสวยงามมองอะไรเป็นด้านบวกอย่างเดียว โดยลืมไปว่าโลกใบนี้ยังมีอีกด้านให้เป็นมุมมองเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องร้ายๆ กับตัวเองเป็นมุมมองเพื่อป้องกันตัวเอง เห็นเธอคุยอย่างมีความสุขก็ดีใจแต่ก็ปนความกังวลใจ อะไรจะเกิดรักกันได้รวดเร็วปานกามนิตหนุ่มปานนั้นนี่สมัยผู้คนใช้คอมพิวเตอร์ในการติดต่อกันแม้จะอยู่แสนไกลสักเท่าไรก็ตามแล้วยังมีโทรศัพท์เป็นตัวเชื่อมให้ความรักของคนเราได้รู้จักกันอย่างรวดเร็ว แต่เป็นความรักรวดเร็วที่น่ากลัว ได้แต่เตือนเธอว่าเผื่อใจไว้บ้างเพราะสมัยนี้ผู้หญิงหรือผู้ชายก็พร้อมที่จะเลว พร้อมที่จะหลอกลวงซึ่งกันและกัน อย่ารักใครให้มากกว่าตัวเองก็พอแล้วและดูกันให้เวลาเป็นเครื่องนำทางว่าความรักครั้งนี้เป็นอย่างไร นั่นเพราะไม่อยากให้เธอต้องผิดหวังกับความรักอีกครั้ง ทั้งที่เธอเป็นคนที่พร้อมทุกอย่างไม่ว่าหน้าตา รูปร่าง นิสัย การศึกษา อาชีพ แต่เธอก็มีจุดบอดบางอย่างที่เกิดจากความดื้อดึงเอาแต่ใจของเธอ แค่คนๆ นั้นดีพอและเข้าใจเธอก็เพียงพอแล้ว
หายป่วยก็หันมาปั่นงานที่ค้างคาตอนป่วย ก็เลยได้นั่งเงียบๆ เพราะต้องคิดเนื้องานและไม่มีคนมากวนใจชวนคุยเพราะคิดว่า จขบ. ยุ่งกับงานระหว่างที่นั่งเงียบๆ ก็ลอบมองพฤติกรรมเพื่อนร่วมงานทุกคน จากที่เคยเห็นมาแล้วบ้างไม่เคยเห็นบ้างในบางคน ได้เห็นการพรีเซนส์เฟรช การเอาหัวโขนมาสวมใส่ การเอาหน้ากากมาปิดบังใบหน้าและความรู้สึกที่แท้จริงของเพื่อนร่วมทำงาน เกิดความรู้สึกอึดอัดขัดข้องหมองใจในบางเรื่อง ซึ่งเข้าเรื่องเดิมที่ว่าสิ่งที่พวกเค้าทำ เค้าคิด เค้าพูด เป็นสิ่งที่เราไม่ชอบทำ ไม่ชอบคิดแต่เราก็ไม่มีสิทธิไปห้ามหรือขัดขวางไม่ให้เค้าทำได้ อย่างเช่นมีคนมาว่าคนในที่ทำงานเราทุกคนอย่างไม่มีเหตุผลและไม่จริง ว่าเพราะโมโห ว่าเพราะไปขัดอารมณ์เค้าในบางอย่าง ทุกคนในที่ทำงานโกรธและไม่ชอบคนที่ว่า และรวมหัวกันนินทาเรื่องราวของคนๆ นี้ลับหลังแต่พอคนๆ นี้มาทุกคนในห้องก็ยิ้มแย้มแจ่มใสคะๆ ขาๆ พูดจาเอาใจแต่พอคนๆ นี้เดินก้าวออกไปก็สุมหัวกันนินทาว่าเรื่องเดิมๆ อีก...ก็งงในพฤติกรรม สำหรับตัวเองตั้งแต่คนๆ นี้เหยียบย่างเข้ามาให้เห็นเราก็ทำเป็นไม่สนใจเหมือนไม่มีคนๆ นี้อยู่ตรงนั้นไม่ว่าคนที่มาจะเรียกร้องความสนใจเพียงใดก็ตาม เป็นการแสดงออกให้เห็นว่าเค้าไม่มีความหมายกับเราและเราไม่ต้องการจะให้ความสำคัญคนๆ นี้อีก...งง ในการกระทำของเพื่อนร่วมห้อง ปาก จขบ.ก็พูดตามสมองและใจคิดว่า...เก่งจังที่คุยกับเค้าดีๆ จขบ.ทำไม่ได้ ทำใจยอมรับคนๆ นี้ไม่ได้เพราะสิ่งที่เค้าทำกะพวกเราเป็นสิ่งที่ยากจะคิดในแง่ดีได้ และเป็นคนเคารพความคิดตัวเองเมื่อความคิดและใจคิดอย่างไรการกระทำก็ทำอย่างนั้น...เพื่อนร่วมห้องทุกคนอึ้งนิ่งสนิททุกคนแก้ตัวกันพัลวันว่าที่ทำแบบนั้นเพราะไม่อยากให้เค้าเอาคนห้องเราไปว่าอีก..เป็นงั้นไป...สำหรับ จขบ. คิดว่าต่อให้พวกคุณทำดีกับเค้าให้ตาย สำหรับคนๆ นี้ยากที่จะคิดดี ทำดีต่อคนอื่น เพราะสิ่งที่เค้าถนัดคือการลอบทำร้ายคนข้างหลังอย่างที่เค้าทำมาตลอด หรืออย่างที่พูดเสมอว่าเค้าเป็นคนปากหวานก้นเปรี้ยว...ให้บังเอิญไปเจอบทความไขปัญหาของคนทำงานกับท่าน ว.วชิรเมธี อ่านแลัวเกิดความรู้สึกเอามาฝากเพื่อนในบล๊อกสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านน่าจะดีเลยเก็บมาฝากกันค่ะคำถาม: เข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ค่อยได้ เคยลองปรับตัวแล้วก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้น ตอนนี้ไม่มีความสุขเลยคำตอบ: คุณต้องแยกแยะปัญหาให้ชัดเจนก่อนว่า ปัญหามาจากเรื่องงานหรือเรื่องคน แล้วค่อยแก้ทีละเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องคน ก็ต้องเรียนรู้ที่จะกล้าเข้าไปพูด เพื่อขอให้เขาและเราแก้ปัญหาร่วมกัน แต่ถ้าเป็นปัญหาที่เกิดเพราะเรา ก็ต้องกล้าที่จะปรับเปลี่ยนความเคยชินให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร อาตมาคิดว่าไม่มีอะไรเหลือวิสัยสำหรับคนตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงคำถาม: ในที่ทำงานมีกลุ่มชอบเมาท์ แต่เราไม่ใช่คนแบบนั้นคำตอบ: ในทางพุทธ ถ้ามีคนตั้งวงนินทาว่าร้าย มีทางเลือก 2 อย่าง หนึ่ง ให้เดินออกจากตรงนั้นไป สอง นิ่งอย่างอริยะ ฟังเท่านั้น โนคอมเม้นต์สถานเดียว เพราะการที่เราไปร่วมวงไพบูลย์กับเขาก็เหมือนกับว่าเราเป็นคนเลวพอๆ กับเขานั่นเองคำถาม: ระหว่างทำงานได้เงินเดือนเยอะๆ แต่ไม่มีความสุขจากการทำงานเลย กับได้เงินเดือนน้อยๆ แต่มีความสุขมาก เราควรเลือกอย่างไหนดีคำตอบ: ควรเลือกที่จะมีชีวิตที่มีความสุข เพราะชีวิตที่ถูกใช้ไปอย่างมีความทุกข์หรือความสุข ก็ไม่อาจเรียกชีวิตคืนได้ทั้งสิ้น ฉะนั้นในเมื่อวันเวลาที่ถูกใช้ไปเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้อีกแล้ว ทำไมคุณไม่เลือกที่จะมีชีวิตที่มีความสุขล่ะ คำถาม: การทำงานอาจเกิดการขัดแข้งขัดขากัน ถ้าเราทำบ้างจะเป็นบาปไหมคำตอบ: ถ้าเราทำ เราก็บาป หรือถ้าเราถูกกระทำ คนที่ทำเราก็บาป ทางที่ถูกต้องคือต้องยอมรับว่าโลกนี้มีคนเก่งอยู่มากมาย ใครก็ตามที่ทำงานกับเรา หากเขามีศักยภาพเป็นแม่ทัพก็ต้องให้เขาเป็น กีดกั้นเขาไว้ก็เป็นการแสดงออกว่าสุขภาพจิตของเรายังอยู่ในวิวัฒนาการขั้น ต่ำมาก เราต้องยอมรับที่จะจัดวางที่อยู่ที่ยืนให้คนอื่นด้วย ยิ่งมีคนเก่งในองค์กรมากๆ ยิ่งสะท้อนว่าองค์กรของเรามีประสิทธิภาพจริงๆคำถาม: ข้าราชการเกษียณที่อายุ 60 ปี ในทางธรรมะ อายุการทำงานของคนเราควรหยุดที่ประมาณเท่าไรคำตอบ: เราควรจะยุติงานรูทีนทั้งหลายเมื่อรู้สึกว่าชีวิตเสียสมดุล ในโลกนี้มีคนจำนวนมากที่ทำงานแล้วงานได้ผล แต่คนไม่เป็นสุข งานสัมฤทธิ์แต่ชีวิตไม่รื่นรมย์ นั่นเป็นเพราะเขาไม่มองหาสมดุลในการดำรงชีวิตกับการทำงาน ทางออกก็คือ จะต้องแสวงหาทางสายกลางระหว่างการทำงานกับการดำรงชีวิตให้เจอ ซึ่งมีสูตรง่ายๆ คือ การทำงานให้ประสานกับคุณภาพของชีวิต นั่นคือผลสัมฤทธิ์ของทางสายกลาง ถ้าคุณแสวงหาทางสายกลางพบแล้ว คุณจะทำงานไปจนแก่จนเฒ่าก็ได้คำถาม: ธรรมะข้อไหนที่เหมาะกับคนทำงานมากที่สุดคำตอบ: หลักอิทธิบาทสี่ของพระพุทธองค์น่าจะเหมาะที่สุด หนึ่ง มีใจรัก สอง พากเพียรทำ คือขอให้ทำงานด้วยความขยันขันแข็ง ต่อเนื่องงานก็จะประสบความสำเร็จได้ สาม จดจำจ่อจิต คือขอให้ทุ่มเทและอุทิศตน และสี่ วินิจวิจัย คือถ้าเราทำงานด้วยความคิดสร้างสรรค์งานของเราก็จะมหัศจรรย์เสมอคำถาม: สังคมในที่ทำงานมักมีการสังสรรค์เพื่อให้เกิดการเข้าสังคม แต่เราไม่ชอบเข้าสังคมด้วยวิธีนี้คำตอบ: ถ้าจะดื่มก็ต้องดื่มด้วยความรู้สึกตัว แล้วจะมองเห็นความพอดีอยู่ตรงนั้น แต่ถ้าดื่มแล้วไม่รู้ว่ากำลังดื่ม ดื่มจนสนุกสนานแล้วก็เลยเถิด ปัญหาก็จะตามมาทันที พระอาจารย์เชื่อว่าคำว่า พอ จะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อเราตระหนักรู้ หรือมีอีกวิธีหนึ่งคือ อยู่ตรงนั้น แต่เราแสวงทางออกได้ เช่น คุณดื่มสุรานะ แต่ผมขอเป็นน้ำผลไม้ก็แล้วกัน อันนี้ก็ไม่เสียเพื่อน ไม่เสียสุขภาพภูมิปัญญาไทยโบราณ
ผมอ่านเม้นท์พี่แล้วก็รู้สึกว่าแปลกดีครับ
ที่เล่นบล้อกแล้วมีอาการง่วงเหงาหาวนอน
คือตอนนี้ผมยังรู้สึกคึกคักมากครับที่จะอัพบล้อก 555
อันนี้สงสัยเป็นอาการของคนติดบล็อกครับ 555
ทุกวันนี้เลยต้องตื่นตั้งแต่ตี 5
เพื่อมาอัพบล้อกนี่ล่ะครับพี่ 555