"อย่าตัดสินคุณค่าของคน จากรูปลักษณ์ภายนอก"
พักนี้ได้มีโอกาส นั่งคุยกับคนในบ้านที่กำลังจะมีความรัก ด้วยเธอเป็นคนสวย น่ารัก นิสัยดี จึงมีคนมารุมล้อมชอบและรักเธอมากมาย ทุกคนต่างคาดหมายที่จะพิชิตใจเธอ..แต่ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่คนอื่นอยู่ที่เธอเพียงคนเดียวเป็นคนตัดสินใจที่จะเลือกใครเป็นผู้พิชิตหัวใจเธอต่างหาก เธอเล่าอุปนิสัย รูปร่างหน้าตา อาชีพการงาน ฐานะความเป็นอยู่ วิธีจีบของแต่ละคนที่มาจีบเธอ เธอคงแค่อยากเล่าเพราะเธอดูเหมือนตัดสินใจเองได้ คงแค่อยากระบายว่าเวลาที่เธอมีความรักครั้งใดทำไมถึงต้องมีมาพร้อมกันหลายๆคน ที่ทำให้ใจเธอแกว่งไกว ตัดสินใจไม่ถูกว่าคนไหนดีและเหมาะสมกับเธอที่สุด เธอเองก็ไม่อยากเปลืองตัวและเปลืองใจที่สำคัญไม่ต้องการให้ใครมาเจ็บปวดเพราะการเลือกของเธอ..
ข้อคิดสำหรับ จขบ. ที่บอกเธอว่า...ตอนนี้ในเมื่อเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกเราก็ควรจะใช้สิทธิ์นั้นให้คุ้มค่าเมื่อยังมีโอกาส อย่าใจเร็วด่วนได้ตัดสินใจใครสักคนแค่รูปลักษณ์ภายนอก..ใครก็ชอบคนหล่อ คนสวย ผิวขาวสะอาด ทุกคนมักมองดูภายนอกก่อนจะเห็นรูปสุวรรณชั้นใน บางคนแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็ทำให้หัวใจละลายลุ่มหลงหัวปลักหัวปรำไม่สนใจว่าจะเป็นมาอย่างไรมีนิสัยเข้ากันได้หรือดีหรือไม่ไม่สนใจ คบไปแล้วเมื่อพบกับความผิดหวังก็มานั่งเสียใจที่เลือกคนไม่ดีเข้ามาในชีวิต ด้วยคำว่า...รู้งี้เลือก...ดีกว่า
ให้ข้อคิดอีกมากมายสำหรับเธอในการเลือกคนๆ หนึ่งเข้ามาในชีวิตว่า...อย่ามองคนแค่เพียงรูปร่างหน้าตาถ้าอยากได้รักแท้จงมองว่า...
- คนไหนที่เราอยู่ด้วยแล้วรู้สึกว่าเรามีความสุขไม่เคยเบื่อที่มีเขาอยู่ใกล้ ๆ และเมื่อยามที่เขาห่างไกลไม่ได้เห็นหน้า ก็จะรู้สึกเหงา ๆ และคิดถึง - คนไหนที่ทำให้เรารู้สึกว่าอบอุ่น เป็นที่พึ่งให้เรายามที่เราต้องการความช่วยเหลือ คอยดูแลห่วงใยเมื่อเวลาที่เรามีความทุกข์ มีปัญหามารุมเร้าคอยอยู่เคียงข้างเราไม่ทิ้งเราไปไหน - คนไหนที่ยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของเราได้ไม่ว่าเราจะเป็นเช่นไรสัมพันธภาพก็ยังคงดำเนินต่อไป - คนไหนที่ยอมรับในสิ่งที่เราผิดพลาดทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจได้ รู้จักอภัยและให้โอกาสเราเสมอ - คนไหนก็ได้ที่สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่องอย่างเปิดอก โดยไม่ต้องปิดบังความรู้สึก - คนไหนก็ได้ที่เห็นคุณค่าของเรา - คนไหนก็ได้ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเราได้ทุกสถานการณ์
ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการศึกษาซึ่งกันและกัน และเวลาจะเป็นตัวบ่งชี้ในการเลือก ต่อให้ชี้แนะมากมายหากไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ สำหรับคนที่ต้องตัดสินใจก็อย่ารีบร้อน ค่อยๆ คิด ค่อยๆ เลือกและตัดสินใจเพราะโอกาสในการได้เลือกไม่ได้มีมาบ่อยนักนั่นเอง
วันนี้นั่งดูข่าวเห็นสวนดุสิตโพลได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนเมื่อครบ 1 เดือนหลังจากการสลายชุมนุมเมื่อเดือน พ.ค ที่ผ่านมาได้สำรวจพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความคิดเห็นว่า การเมืองในปัจจุบันยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรดีขึ้น และเกิดความไม่แน่ใจว่าการสร้างความปรองดองจะสำเร็จได้ และเห็นว่า ความขัดแย้งนั้นเกิดจาก ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเกิดความเหลื่อมล้ำของสังคม ไม่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน และหลังการสลายการชุมนุมผ่านไป 1 เดือน พบว่า 66.93% เห็นว่าเหมือนเดิม เพราะนักการเมืองเป็นไม้เบื่อไม้เมา และมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ตามมาด้วยเรื่องไม่ยอมกัน และเล่นเกมการเมืองกันอยู่ ขณะที่ ร้อยละ 10.26 เห็นว่า ดีขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา เป็นบทเรียนสำคัญ ส่วนเรื่องแผนปรองดอง พบว่า ประชาชนร้อยละ 34.48 ไม่แน่ใจในแผน เพราะกลัวเป็นเพียงกระแสระยะสั้นที่รัฐบาลใช้สร้างกระแสนิยม รองลงมา 25.86% เห็นว่า น่าจะสมหวัง เพราะจากกระแสข่าวที่เห็นว่า ทุกฝ่ายต้องการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น ขณะที่ 3.45% มองว่า สมหวังแน่นอน เพราะเชื่อว่า คนไทยทุกคนอยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข...ปัญหาและอุปสรรคต่อการปรองดอง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ เห็นว่ามาจากการแตกแยกทางความคิด มองคนละมุม ความไม่จริงใจ และความเหลื่อมล้ำ ตามลำดับ ซึ่งบุคคลที่ประชาชนเห็นว่า จะช่วยให้ปรองดองสำเร็จ คือ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล 41.33% รองลงมา คือ นักการเมือง 35.61% และคนไทยทุกคน 13.27%
เป็นไงล่ะ...55555....เอามาให้อ่านกันเฉยๆ ค่ะ โดยส่วนตัว จขบ.แล้วคิดว่าแผนปรองดองนี้ปรองดองเพื่อใคร เพื่ออะไรหลังจากที่คนตายมากมายเพิ่งคิดแผนปรองดองได้เหรอ และขณะที่คิดแผนปรองดองประกาศปาวๆ ไปทุกเมื่อเชื่อวันแต่อีกส่วนหนึ่งกลับไม่ยอมให้เค้าประกันตัว มีการยัดเยียดข้อหาต่างๆ นานา แถมยังไล่ล่าคนที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศไม่หยุดไม่หย่อนในเมื่อ หัวหน้า รบ.นี้เป็นคู่กรณีเสียเองแบบนี้ยังมีหน้าที่จะมาเสนอแผนปรองดอง โดยให้ฝ่ายที่สูญเสียยอมปรองดองซึ่งก่อนหน้าไม่คิดจะปรองดองโดยไม่ต้องให้เกิดการสูญเสียก่อนหน้านี้ที่พอทำได้ก่อนก็ไม่คิดจะทำ...ตอนนี้มาเรียกร้องให้ปรองดองบนกองซากศพ..บนความเจ็บปวด..จะได้รับการปรองดองเหรอคะ ต่อให้ตั้งคณะกรรมการอะไรมากมายขึ้นมาและบอกว่าทุกคนที่แต่งตั้งเป็นคนกลาง แต่ในสายตาของคนที่สูญเสียเห็นว่าไม่มีความเป็นกลางเพราะคนที่แต่งตั้งคนที่ว่าเป็นกลางยังไม่เป็นกลางเองแบบนี้จะมีประโยชน์อะไรคะ...
อยากหาความปรองดอง แต่ใจของคนที่อยากปรองดองลึกๆ ยังไม่มีความคิดจะปรองดอง แล้วคำว่าปรองดองจะมีประโยชน์อะไร ก็เป็นแค่เพียงลมปากที่ปล่อยออกมาให้เหม็นขี้ฟันเล่นว่าป่ะคะ...555555....
ตอนนี้สิ่งที่ผู้คนต้องการมากที่สุดก็คือ ความสุข เพิ่มความสงบไปอีกตัวก็ได้ แต่ความสุขที่ว่าจะไปหาได้จากไหนกันดีหนอ จขบ.ให้ข้อคิดและกันค่ะ....ความสุขไม่ต้องไปหาที่ไหนให้ยุ่งยาก เพราะความสุขที่ติดตามเฝ้าหานั้นไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเราเลย...มันอยู่ใกล้ตัวพวกเราทุกคนที่จะแสวงหาความสุขมาได้ ก็คือ อยู่ที่ใจเราเองทุกคน เพราะทุกข์หรือสุขอยู่ที่ใจ...ใครอยากให้สุขก็คิดว่าสุขก็จะสุข ใครคิดจะทุกข์ก็จะทุกข์อย่างที่คิด..ก็เลือกเอานะคะว่าจะเลือกทุกข์หรือสุข...
ไผ่แดง ศิลปิน : เทียรี่ เมฆวัฒนา
ไผ่เป็นลำเป็นกลุ่มเป็นกอ ไผ่จะล้อเล่นลม ไปตามทาง ที่เหมาะสม ไปตามทิศทางลม ไผ่ต่างพันธุ์ต่างเผ่าต่างกอ ไผ่ก็ยังต่างสี ดังผู้คนในสังคมเรานี่ ใยจะไม่ต่างกัน
คนละทาง คนละอย่าง คนละอุดมการณ์ แต่ก็มีจุดหมายเดียวกัน เป็นเรื่องราว ของชาวไผ่แดง บ้างก็รู้กันอยู่แก่ใจ บ้างก็ฝันกันไป แต่จงจำไว้ก่อนจะสาย อย่าให้ใคร มาสนตะพาย
คนละทาง คนละอย่าง คนละอุดมการณ์ แต่ก็มีจุดหมายเดียวกัน เป็นเรื่องราว ของชาวไผ่แดง บ้างก็รู้กันอยู่แก่ใจ บ้างก็ฝันกันไป แต่จงจำไว้ก่อนจะสาย อย่าให้ใคร มาสนตะพาย
แต่จงจำไว้ก่อนจะสาย อย่าให้ใครมาสนตะพาย
|
ช่วงนี้คอมใกล้จะไปหาช่าง
อีกแล้วค่ะ..เลยจะไปไหนที
ลำบากมากเลย..แต่ใจมาหาเสมออิอิ